Share

บทที่ 4

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าซือเย่เจ๋วเป็นแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญจากราชวงศ์ของประเทศS และยังเป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ของประเทศSอีกด้วย ซึ่งเขาต้องเคยเห็นเหรียญที่ระลึกของราชวงศ์ของประเทศSอยู่แล้ว

ต่อให้เธอจะเอามันออกมาได้ ก็คงต้องถูกจับได้ว่าเป็นของปลอมอย่างแน่นอน!

เจียงเซิงเยาะเย้ย "ของล้ำค่าขนาดนั้น ฉันจะเอาออกมาให้เธอดูง่ายๆได้ยังไง?"

ความหมายของประโยคก็คือ เธอไม่คู่ควรนั่นเอง!

เจียงเวยตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ แต่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า "แกไม่กล้าใช่ไหมล่ะ?"

"เย่เจ๋ว คุณเห็นไหมว่าเธอกำลังโกหกอยู่ เธอรู้แก่ใจดีว่าราชวงศ์เคยรับเชิญคุณ และคุณก็รู้จักเหรียญที่ระลึกนั่น เพราะงั้นเธอจึงไม่กล้าเอามันออกมาไงล่ะคะ"

เธอมีทีท่าอีกอย่างเมื่ออยู่ต่อหน้าซือเย่เจ๋ว

ซือเย่เจ๋วกระตุกมุมปากอย่างเย็นชา "ผมเป็นคนจ่ายเงินหนึ่งพันล้านเอง เป็นความตั้งใจของผมเองที่จะเชิญดีไซเนอร์โซรามา หากคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณคือโซรา เรื่องของวันนี้ผมจะไม่เอาเรื่อง"

"แต่หากไม่ได้" ซือเย่เจ๋วโน้มตัวเข้าหาเธอ แล้วพูดคำต่อคำว่า "คุณจะไม่สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อีก"

ขณะที่เขาเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมจางๆบนตัวของเขาก็ทำให้เจียงเซิงตัวแข็งทื่อ

กลิ่นหอมอ่อนๆของกุชชี่ชาย!

ทำไมเขาถึงได้ใช้น้ำหอมแบบเดียวกับที่ชายคนนั้นใช้ในคืนนั้นเมื่อหกปีก่อน?

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อย ซือเย่เจ๋วก็ยืดตัวขึ้น ไม่เปิดโอกาสให้เธออีกต่อไป"ในเมื่อคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ออกไปเองซะ อย่าให้ผมต้องตามคนมาลากคุณออกไป"

เจียงเวยหัวเราะเยาะอย่างมีชัย

เจียงเซิงนะเจียงเซิง ตั้งหกปีแล้ว ทำไมถึงกลับมารนหาที่ตายด้วยนะ?

จู่ๆเจียงเซิงก็เงยหน้าขึ้น ยิ้มอย่างสดใส "คุณผู้ชาย คุณแน่ใจนะ?"

ซือเย่เจ๋วเหล่ตามองเธอโดยไม่พูดอะไร

"คุณผู้ชาย ถ้าฉันสามารถพิสูจน์ตัวตนของฉันได้ แล้วที่คุณเจียงตบฉันเมื่อกี้ จะทำยังไง?"

สีหน้าของเจียงเวยเปลี่ยนไปอีกครั้ง เธอมองไปที่ซือเย่เจ๋วอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นผู้หญิงของซือเย่เจ๋ว แต่ซือเย่เจ๋วก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

หากไม่ใช่เมื่อหกปีก่อน เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างรอบคอบ และเปิดห้องด้วยบัตรประจำตัวของเธอเอง เขาก็อาจจะสงสัยในตัวเธอไปแล้วก็ได้

"เย่เจ๋ว..."

"ผมจะให้เธอขอโทษ" ซือเย่เจ๋วพูดอย่างใจเย็น

มือของเจียงเซิงที่ควานหาในกระเป๋าชะงัก เงยหน้าขึ้น "ฉันถูกตบ แค่ให้เธอขอโทษงั้นเหรอ?"

ดวงตาของซือเย่เจ๋วมืดลง "แล้วคุณจะเอายังไง"

เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นมามองอย่างดูแคลน "คนโบราณให้ความสำคัญกับการตอบแทนกลับไปมาก เพราะงั้นฉันต้องตบหน้าเธอคืนกลับไปบ้างถึงจะสมเหตุสมผลใช่ไหมล่ะคะ?"

ผู้คนโดยรอบต่างก็ไม่กล้าส่งเสียงใดๆออกมา

กระทั่งต่างก็เกิดความสงสัยว่า ในเมื่อผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะพูดแบบนี้กับท่านซือได้ หรือว่าเธอจะเป็น...

เมื่อเห็นทีท่าเย่อหยิ่งของเธอ ซือเย่เจ๋วก็เม้มริมฝีปากบางของเขา

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกในเมืองหลวงที่กล้าพูดกับเขาแบบนี้

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมาว่า "นี่คุณ อย่าได้คืบจะเอาศอกนะ"

"ถ้าอย่างนั้น คุณควรหาดีไซเนอร์คนอื่นดีกว่านะคะ ฉันไม่ชอบทำอะไรที่ขาดทุน"

เจียงเซิงวางเหรียญที่ระลึกไว้ตรงหน้าเขา "ในเมื่อคุณเคยเห็นเหรียญที่ระลึกของราชสำนัก งั้นคุณก็ดูให้เต็มๆตา"

เธอเก็บเหรียญที่ระลึกกลับเข้ากระเป๋า แล้วเดินจากไป

เจียงเวยก้มศีรษะลง กัดฟันด้วยความเกลียดชัง เป็นไปได้ยังไง นังนั่นจะเป็น...

ซือเย่เจ๋วได้ซื้อตัวดีไซเนอร์โซรามาจากลักชัวรี่ในชื่อของเขาเอง ถ้าเขาไม่ได้เอ่ยราคาหนึ่งพันล้านออกมา ตัวเธอเองก็คงไม่สามารถจ่ายได้

ไม่คาดคิดเลยว่า คนคนนั้นกลับเป็นเจียงเซิงไปได้!

และการที่เธอได้ปฏิบัติต่อเจียงเซิงแบบนั้นในวันนี้ ก็เท่ากับเธอตบหน้าซือเย่เจ๋วใช่หรือไม่?

"เย่เจ๋ว ฉัน…"

เจียงเวยยื่นมือออกไปจับเขา แต่กลับถูกเขาสะบัดหนี เขาหันหลังกลับและมองเจียงเวยอย่างเฉยเมย "คุณแก้ไขปัญหาเอาเองก็แล้วกันนะ"

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

ซือเย่เจ๋วเดินออกจากอาคาร บอดี้การ์ดชุดดำที่ยืนอยู่ข้างรถโรลส์-รอยซ์ก็เปิดประตูให้เขา

หลังจากที่เขาขึ้นรถแล้ว เขาก็พูดกับชายที่นั่งข้างๆคนขับว่า "ภายในสองวัน ผมต้องการทราบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับดีไซเนอร์โซรา"

วิลล่าริมทะเล

"เหอะ เจียงเวยคนนี้ น่ารังเกียจจริงๆ!"

เจียงหนวนหนวนกอดตุ๊กตาเอาไว้แล้วโน้มตัวเข้าไปหาเจียงเฉินเฉินพร้อมกับเจียงเหยียนเหยียนเพื่อจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยที่พวกเขามองผู้หญิงคนนั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้ารังเกียจ "เธอขี้เหร่จังเลย"

เจียงเหยียนเหยียนหันไปมองน้องชายและน้องสาว "ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายมามี้ของเรา เราปล่อยเธอไปไม่ได้"

เจียงหนวนหนวนเท้าคาง "แต่เราจะจัดการกับเธอยังไงดีล่ะ?"

ต้องหาวิธีปิดบังมามี้เอาไว้

เจียงเหยียนเหยียนคิดหนัก จากนั้นก็ดีดนิ้วแล้วพูดว่า "แม่บุญธรรมบอกว่าเธอจับเศรษฐีไว้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ งั้นเราก็เริ่มที่ตัวเศรษฐีข้างกายเธอเป็นอย่างแรกก็แล้วกัน!"

"แม่บุญธรรมบอกว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ?" เจียงหนวนหนวนเงยหน้าขึ้นอย่างครุ่นคิด

"ซือเย่เจ๋ว!" เจียงเฉินเฉินพิมพ์ชื่อบนแป้นพิมพ์ ในไม่ช้าข้อมูลเพจก็ปรากฏออกมา

เมื่อเจียงเฉินเฉินคลิกไปที่โปรไฟล์ของซือเย่เจ๋ว วินาทีที่พวกเขาได้เห็นรูปถ่ายของซือเย่เจ๋ว เด็กทั้งสามก็ตกตะลึงเป็นเวลานาน

"ทำไมผู้ชายคนนี้ถึง...หน้าตาคล้ายกับพวกเราได้ขนาดนี้?"

เจียงเหยียนเหยียนรู้สึกประหลาดใจมาก และจ้องไปที่รูปถ่ายนั้นเป็นเวลานาน

มามี้ของพวกเขาไม่เคยเล่าเรื่องแด้ดดี้ให้พวกเขาฟังเลย เป็นไปได้ไหมที่ผู้ชายคนนี้...

จะใช่แด้ดดี้ของพวกเขาหรือเปล่า?

เจียงเฉินเฉินพึมพำพร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์ "ถ้าเขาเป็นแด้ดดี้ของเราจริงๆ ก็ง่ายขึ้นเยอะ"

เจียงเหยียนเหยียนสับสน "แต่เราจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ได้ยังไง?"

"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่ๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่หนูเอง แบรนด์เสื้อผ้าเด็กในเครือTG กรุปกำลังมองหาพรีเซนเตอร์อยู่ หนูออกโรงต้องได้แน่นอน!"

เจียงหนวนหนวนตบหน้าอก เธอเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใสที่สุดในบรรดาเด็กน้อยทั้งสาม เพราะงั้นให้เธอออกโรงต้องไม่พลาดแน่ๆ

"เด็กๆ แม่กลับมาแล้ว!"

เมื่อได้ยินเสียงของมามี้ เด็กน้อยทั้งสามก็ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

"มามี้! มามี้มาแล้ว!"

เด็กน้อยสามคนออกมาจากห้องทีละคน แล้วกระโดดเข้ามาหาเธอ

เมื่อเห็นพวกเขารอเธออยู่ที่บ้านอย่างว่าง่าย เธอก็คุกเข่าลงด้วยรอยยิ้ม"พวกหนูไม่ได้สร้างปัญหาให้แม่บุญธรรมของพวกหนูใช่มั้ย?"

"มามี้ครับ มามี้คิดว่าเราจะรังแกแม่บุญธรรมของเราอย่างนั้นเหรอครับ?" เจียงเฉินเฉินถามพร้อมกับเอียงหัว

เจียงหนวนหนวนพยักหน้า "นั่นนะสิคะ เราจะรังแกแม่บุญธรรมได้ยังไง แม่บุญธรรมกำลังออกไปซื้อเค้กให้พวกเราอยู่นะคะ!"

เจียงเซิงยิ้มอย่างขมขื่น เด็กสามคนนี้เธอคลอดออกมาเอง เธอจะไม่รู้ได้ยังไง?

ในบรรดาเด็กสามคนนี้ คนที่ซุกซนที่สุดคือคนที่สองเฉินเฉิน ปากร้ายและอารมณ์ร้ายของเขาไม่ได้สืบทอดมาจากเธออย่างแน่นอน คนโตเหยียนเหยียนนั้นค่อนข้างสุขุมและอบอุ่น แน่นอนว่าเขาจะคอยปกป้องน้องชายและน้องสาวอยู่เสมอ

ส่วนคนสุดท้องหนวนหนวน เป็นคนขี้เล่นเจ้าแผนการจนพาพี่ๆพลอยเสียไปด้วย

"มามี้ สีหน้ามามี้ดูแย่มากเลยนะครับ ถูกรังแกมาหรือเปล่า?" เจียงเหยียนเหยียนผู้ช่างสังเกตได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติกับเจียงเซิงได้อย่างรวดเร็ว

เจียงเซิงหยุดชะงัก ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายที่เธอพบในวันนี้ถึงทําให้เธอรู้สึกคุ้นเคยมาก โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาของเขาและกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่เป็นเอกลักษณ์ของชายคนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว

"มามี้ครับ มามี้มีอะไรปิดบังพวกเราอยู่หรือเปล่า!"

เมื่อเห็นว่าเจียงเหยียนเหยียนสังเกตเห็น เธอก็ยิ้มๆและลุกขึ้นยืน "เด็กๆอย่ากังวลเรื่องของผู้ใหญ่เลย มามี้จะทำอะไรมาให้กินนะ"

ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปในห้องครัว จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

หลังจากดูหมายเลขโทรศัพท์แล้ว เธอก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก เป็นเจียงเวยตามที่คิดเอาไว้จริงๆด้วย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status