เขาปฏิเสธการหมั้นกับเธอเพราะไม่ชอบถูกบังคับ ทั้งที่เธอแอบชอบเขามานาน เมื่อได้มาทำงานด้วยกันเธอจึงยั่วให้เขาหลงรักเพราะอยากจะเอาชนะ แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเอาชนะกันได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่
View Moreณ บ้านเอกเรืองกิจไพศาล
ภายในห้องของบ้านหลังใหญ่ สมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยคุณดิลกชายวัย 53 ปี คุณกัลยาวัย 53 ปีผู้เป็นภรรยาและทิวัตถ์ในวัย 29 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของบ้าน ทั้งสาวคนกำลังนั่งดูทีวีและพูดคุยกันตามปกติ ซึ่งลูกชายจะแวะมาทานอาหารเย็นที่บ้านและอยู่คุยกับบุพการีทั้งสองในทุกเย็นวันอาทิตย์
“เรื่องเลขาของเราว่ายังไง เมื่อไหร่จะหาได้สักที” คุณดิลกถามลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขาใช้เลขาคนเดียวกับบิดาเนื่องจากเลขาคนก่อนของตนเองนั้นลาออกเพื่อไปแต่งงาน
“ผมว่าไม่ต้องหาหรอกครับพ่อ คุณอรก็ทำงานดีอยู่แล้ว” เขาพอใจที่ได้ทำงานร่วมกับอรดีเลขาของผู้เป็นบิดาที่ทำงานมานานหลายปี
“พ่อรู้ว่าคุณอรทำงานดี แต่ตอนนี้งานเธอหนักมากนะ พ่อกลัวว่าเธอจะทนไม่ไหวแล้วลาออกขึ้นมาเราสองคนจะแย่เอา พ่อว่าวัตถ์หาเลขาคนใหม่เถอะ”
“แม่เห็นด้วยกันพ่อนะ ถ้าเราขี้เกียจจะหาให้แม่หาให้ไหม”
“นั่นสิพ่อก็เห็นด้วยนะ ลูกสาวรุ่นน้องของพ่อเพิ่งเรียนจบกลับมาพอดีเลย พ่อว่าเธอน่าจะช่วยงานลูกได้เยอะนะ ได้ยินมาว่าเธอพูดได้หลายภาษาเลย”
“พ่อครับ คนเรียนจบจากต่างประเทศและพูดได้หลายภาษาแบบนั้นเขาไม่สนใจงานเลขาหรอกครับ ผมให้ผมหาเองดีกว่า”
“พ่อได้ยินเราพูดจะหาเองมาเกือบสองเดือนแล้วนะ”
“ครั้งนี้ผมจะหาเองจริงๆครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะให้ฝ่ายบุคคลประกาศรับสมัครเลย”
“อย่าเสียเวลาเลย แม่ว่าพรุ่งนี้ให้หนูแพรไปเริ่มงานเลยดีกว่า”
“ใครนะครับแม่”
“หนูแพรลูกสาวอาทรงภพกับอาดรุณีไง วัตถ์จำไม่ได้เหรอ ตอนเด็กๆ ก็เคยเจอกัน”
“นั่นสิ พ่อว่าได้คนกันเองมาเป็นเลขาก็ดีเหมือนกันนะ หนูแพรน่าจะช่วยงานลูกได้เยอะเลยทีเดียว”
ทิวัตถ์นึกถึงภาพในอดีตแล้วส่ายศีรษะ เพราะคนที่จะมาเป็นเลขาของเขานั้นจะต้องสวยในระดับหนึ่งไม่ใช่เด็กกะโปโลผอมแห้งที่เขารู้จัก
“แม่ครับ ผมว่าผมหาเองดีกว่า”
“แต่มันจะช้าไปนะ”
“ไม่ช้าหรอกครับมา ผมว่าจะให้คนแรกที่มาส่งใบสมัครเลยดีไหมครับ” ทิวัตถ์รู้ดีว่า
“วัตถ์ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้หนูแพรไปเป็นเลขาใช่ไหม”
“เปล่าครับมา แม่ก็รู้ว่าเลขาของผมต้องทำงานหนักมาก แถมบางครั้งก็ต้องออกต่างจังหวัดหรือไปคุยงานถึงต่างประเทศ ผมกลัวว่าหนูแพรของแม่จะเหนื่อย ผมเกรงใจอาภพครับถ้าต้องให้ลูกสาวมาทำงานกับผม”
“แม่จะยอมวัตถ์ครั้งหนึ่งละกันนะ พรุ่งนี้ให้ฝ่ายบุคคลประกาศรับสมัครเลยแล้วกัน”
“ครับแม่ ผมจะให้เขาประกาศในเพจสมัครงาน เพจหลักของบริษัทและจะติดประกาศที่หน้าบริษัทด้วย ถ้าใครมาถึงก่อนแล้วมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดผมก็จะรับเข้าทำงานเลย”
“แล้วคุณสมบัติที่ว่านี่ต้องสวยด้วยไหม”
“พ่อไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกครับ ถึงเลขาที่ได้จะสวยแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ใช่สมภารที่จะกินไก่วัดนะครับ”
“แล้วถ้าไก่ตัวใหม่ที่จะรับเข้าทำงานเกิดอยากจะเป็นอาหารของสมภารล่ะ” คุณกัลยาถามลูกชาย
“ผมไม่สนใจหรอกครับ ผมมีเรนนี่อยู่แล้ว”
“แม่ว่ามันไม่เสียหายอะไรนะ ถ้าไก่ที่เราพูดถึงนั้นสวยและรู้จักทำงาน ไม่เหมือนแม่เรนนี่อะไรนั้น มีข่าวไม่เว้นแต่ละวัน”
“มันก็แค่ข่าวครับแม่ เรนนี่ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก”
“มันก็ต้องมีความจริงอยู่บ้างนั่นแหละ เพราะถ้าไม่จริงป่านนี้เธอคงฟ้องคนที่ปล่อยข่าวไปหมดแล้ว”
“เรนนี่บอกผมว่าเธอไม่อยากมีเรื่องครับ เดี๋ยวคนก็ลืมกันไปเอง”
“ไม่อยากมีเรื่องหรือกลัวว่าเรื่องที่ปิดไว้จะถูกขุดขึ้นมากันแน่” คุณกัลยาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะเรนนี่ที่พูดถึงนั้นเป็นนางแบบที่มักจะมีข่าวฉาวและข่าวล่าสุดที่ได้ยินก็คือเรนนี่เป็นเมียน้อยของเสี่ยคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการบันเทิงเนื่องจากเธออยากจะขยับจากนางแบบไปเล่นละครกับเขาบ้างหญิง
“เราคุยกันเรื่องเลขาอยู่นะครับมา แล้วนี่วนมาเรื่องเรนนี่ได้ยังไงล่ะ”
“เอาล่ะ พ่อว่าเราคุยเรื่องนี้กันจบแล้ว ถ้าภายในสามวันนี้วัตถ์ยังหาเลขาที่ถูกใจไม่ได้ พ่อและแม่จะบอกอาทรงภพว่าให้หนูแพรมาเริ่มงานได้ทันที”
“ผมว่าคงไม่ต้องหรอกครับพ่อ” ทิวัตถ์พูดอย่างมั่นใจนาทีนี้เขาขอใครก็ได้ที่มีคุณสมบัติพอจะเป็นเลขาของเพราะถ้าให้ลูกสาวของคุณอาทรงภพมาทำงานด้วยเขาก็กลัวว่ามารดาและบิดาจะคิดวางแผนทำอะไรไปมากกว่านี้
ชายหนุ่มรู้ดีว่าบิดามารดาเคยพูดถึงลูกสาวของเพื่อนๆ ว่าอยากจะได้มาเป็นสะใภ้แต่เขาก็พยายามเลี่ยงมาตลอดเพราะแต่ละคนนั้นสวยไม่เท่าครึ่งของนางแบบสาวอย่างเรนนี่
“ถ้าวัตถ์มั่นใจแบบนั้นแม่ก็ขออวยพรให้ได้เลขาที่ถูกใจนะ”
“ขอบคุณครับแม่ คืนนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะ”
“ดึกแล้วนะลูกไม่ค้างกับแม่เหรอ”
“ผมว่าจะไปหาอะไรดื่มสักหน่อย”
“เมาแล้วก็อย่าขับรถนะลูก” ผู้เป็นมารดาเตือนด้วยความเป็นห่วง
“ครับแม่ ผมไม่ดื่มจนเมาหรอกครับ แค่อยากไปเจอเพื่อนๆ เท่านั้นเอง ไปก่อนนะครับ พ่อ แม่”
พอลูกชายคนเดียวออกไปจากแล้วคุณดิลกก็ถอนหายใจเพราะเรื่องที่เขาหวังนั้นมันกลับถูกลูกชายตัวดีปฏิเสธ
“แล้วแบบนี้เรากับบ้านนั้นจะได้เกี่ยวดองกันไหม น่าเสียดายนะ พี่อยากได้หนูแพรมาเป็นสะใภ้จริงๆ”
“น้องก็อยากได้ค่ะ ถ้าตาวัตถ์ได้เลขาแล้ว เราก็ให้หนูแพรไปทำงานตำแหน่งผู้ช่วยได้นี่คะ”
“แล้วลูกเราจะยอมเหรอกัลยา”
“ถ้าเราพูดแล้วเขาไม่ยอม ก็ต้องให้คุณทรงภพมาพูดเอง ลูกเราคงไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่หรอก”
“นั่นสิคะ พี่ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย แบบนี้ค่อยได้ลุ้นหน่อย หนูแพรทั้งสวยทั้งเก่งแบบนั้นถ้าหลุดมือไปพี่เสียดายแย่เลย
วันนี้ก็ครบสิบวันแล้วที่แพรรดากลับมาอยู่ที่บ้านและมันก็ตรงกับวันหยุดภีมวัชช์เลยชวนภัทรานิษฐ์มาค้างที่บ้านตั้งแต่เมื่อวานเพราะอยากให้น้องสาวได้มีเพื่อนคุยบ้าง“เราจะไปไหนกันเหรอพัด ทำไมพัดต้องให้แพรใส่ชุดนี้ด้วยล่ะ” แพรรดามองชุดกระโปรงสีหวานที่ดูเรียบร้อยขัดกับตัวเธออย่างมาก“พัดอยากไปไหว้พระ”“อ๋อ แล้วก็ไม่บอกกันตั้งแต่แรก ว่าแต่ชุดนี้แพงน่าดูเลยนะ ขอถามหน่อยว่าใครจ่าย”“ที่ถามนี่ไม่รู้นิสัยพัดเหรอ เรื่องอะไรพัดจะยอมซื้อของแพงๆ ละ”“นั่นสินะ พี่ภีมเป็นคนจ่ายใช่ไหม” เพราะภัทรานิษฐ์เป็นคนประหยัดมากเสื้อผ้าราคาแพงแบบนี้ไม่มีทางที่เพื่อนจะยอมซื้อ“อือ เขาเป็นคนจ่าย”“พี่ชายแพรนี่ก็น่ารักดีนะ แต่ชุดนี้สวยถูกใจแพรมากเลยนะ”“พัดก็ว่าสวยนะเหมาะกับแพรมากแล้วถ้าจะให้ดีกว่านี้พัดว่าแพรแต่งหน้าสักหน่อยดีไหม”“ต้องแต่งด้วยเหรอเราแค่ไปวัดเองนะ”“ก็ชุดสวยแล้วหน้าก็ต้องเป๊ะสิ”ช่วยแต่งให้หน่อยสิ แต่อย่าเข้มมากนะ พัดแต่งหน้าเก่งกว่าแพรเยอะเลย แพรอยากให้พัดย้ายมาอยู่ที่นี่จังแพรจะได้ไม่เหงา”“แล้วพัดจะมาหาแพรบ่อยๆ”“สัญญาแล้วนะ”“ก็ก็ถ้าพี่ภีมไปรับนะ เพราะให้พัดมาเองพัดขี้เกียจขับรถ”“พี่ภีมเต็มใจไปรับ
เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ทิวัตถ์มาทำงานโดยไม่มีเลขาหน้าห้องต้องเดือดร้อนคุณอรดีอีกอย่างเคย เพราะครั้งนี้เขายืนยันแล้วว่าจะไม่หาเลขาคนใหม่ เพราะยังรอให้แพรรดากลับมาทำงานด้วยทุกครั้งที่ประตูห้องทำงานเปิดออกเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมองด้วยความเคยชิน แต่พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่แพรดาใบหน้าก็กลับมานิ่งอย่างเดิมพอไม่มีแพรรดาเขาก็รู้สึกเหมือนชีวิตไร้สีสัน มันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง เพราะสองเดือนมานี้เขามีแพรรดาข้างกายตลอดเวลา เขาไม่กลับไปนอนที่คอนโดมิเนียมของคนเองอย่างเคยเพราะไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็เอาแต่คิดถึงแพรรดาจนนอนไม่หลับบ้านของมารดาจึงเป็นที่แห่งเดียวที่ทำให้เขาผ่อนคลาย“แม่ว่าวัตถ์ดูเครียดไปนะ หาเวลาพักหน่อยไหม”“ผมยังไหวครับแม่รอพักทีเดียวดีกว่า”“แล้วได้ติดต่อน้องไปบ้างไหม น้องว่ายังไงบ้าง”“ผมว่าโทรไปน้องแพรก็คงไม่รับโทรศัพท์ผมเหรอครับแม่ อย่างโทรให้เสียเวลาเลย”“ไม่คุยกันแล้วจะเข้าใจกันไหมล่ะ ป่านนี้น้องอาจจะกำลังรอให้วัตถ์โทรไปหาก็ได้นะ”“แม่คุยกับอาณีมาใช่ไหม”“ใช่ อาณีบอกแม่ว่าน้องเอาแต่ซึมไม่สดใสเหมือนก่อน แม่อยากให้วัตถ์โทรไปหาน้องบ้างไปคุยกันให้รู้เรื่อง”“แพรดื้อครับแม่ผมไ
แพรรดานอนมองเพดานห้องหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในสายของอีกวันโดยที่ข้างกายว่างเปล่า ทิวัตถ์คงไปจากเธอแล้วอย่างที่เธอต้องการ หญิงสาวรู้สึกถึงชัยชนะของตัวเองที่ทำทุกอย่างได้ตามแผน ทำให้เขาหลงรักแล้วปฏิเสธเขาอย่างที่ไร้เยื่อใย แต่ชัยชนะนั้นก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุดหญิงสาวยืนมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงชัยชนะ แต่รอยยิ้มนั้นกลับเปื้อนไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ ยิ่งเห็นร่องรอยที่เขาฝากไว้ก็ยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นไปอีกเวลาที่ได้ใกล้ชิดเขาไม่ถึงสองเดือนแต่มันกลับเต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนหวาน ท่านรองที่ดูเย็นชาของเธอนั้นกลายเป็นชายอีกคนที่ช่างอ้อนและเร่าร้อนอย่างที่สุดเวลาที่ด้วยกันอยู่บนเตียง แพรรดาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนเธอถึงจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้หลังจากอาบน้ำและทานอาหารแช่แข็งที่ซื้อมาเมื่อวานแล้วแพรรดาก็เก็บกวาดห้องอีกครั้ง เธอคิดว่าจากนี้จะปล่อยที่นี่ให้คนอื่นเช่าเพราะตัวเองคงจะกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวและคงไม่กลับมาทำงานที่กรุงเทพอีกแล้วหญิงสาวโทรไปบอกบิดามารดาว่าขอเวลาเก็บของและขอไปเจอเพื่อนอีกหนึ่งวันก่อนจะกลับไปที่บ้านในวันพรุ่งนี้จากนั้นก็โทรนัดเพื่อนๆ ออกมาฉ
“อ่า..ของเมียแน่นจังอย่าเพิ่งตอดแรงนะ พี่จะทนไม่ไหวเอา”“แพรก็จะทนไม่ไหว มันเสียว อื้อออ...”แพรรดาผวาขึ้นมากอดเขาแน่นเมื่อเขาดันความใหญ่ยาวเข้าไปในตัวเธอทีเดียวจนสุดโคน“โอ้วว..แพรจ๋า ทั้งแน่นทั้งตอดกะจะฆ่ากันหรือไง”ทิวัตถ์กัดฟันกรอดเพราะโพรงอ่อนนุ่มตอดรัดอย่างแรงจนต้องรีบถอนตัวออกแล้วขยับเข้าไปใหม่ เขาโน้มตัวเข้าหาประกบจูบบดเบียดแลกลิ้นเป็นพัลวัน มือนวดคลึงเต้าอวบบีบขยี้ปลายยอดจนเธอเสียวไปถึงท้องน้อยสะโพกขยับเข้าออกไปตามแรงปรารถนา แพรรดาปล่อยกายปล่อยใจให้เป็นไปตามความรู้สึกส่วนลึก ร่างกายตอบสนองเขาไปตามสัญชาตญาณไม่ว่าเขาจะจับจูงไปทิศทางไหนหญิงสาวก็พร้อมจะตามเขาไปทุกที่ ทุกจังหวะที่ท่อนเอ็นร้อนครูดกับโพรงอ่อนนุ่มนั้นร้อนแรงจนหญิงสาวครางแทบไม่เป็นภาษา “สะเสียว พี่วัตถ์แพรเสียว ดูดแรงๆ นะคะ” หญิงสาวเสียวซ่านกับปากร้อนที่กำลังดูดกินยอดอก ยิ่งเขาดูดแรงเธอก็ยิ่งตอดรัดทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งตัว แรงบีบเพิ่มขึ้นอย่างไม่ปรานี สะโพกก็ยังคงทำงานอย่างไม่มีพัก“แพรจะไม่ไหว”“คนเก่งของพี่ ให้พี่แรงอีกใช่ไหม”เขาถามอย่างรู้ใจ พอเห็นใบหน้าหวานที่แดงก่ำพยักขึ้นลง
แพรรดาเดินกลับมาอย่างไม่เร็วนักเพราะดื่มไปค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับเมาจนเดินกลับห้องของตัวเองไม่ถูก หญิงสาวกดรหัสเปิดยังไม่ทันได้ปิดลงมือของใครบางคนก็ดึงประตูแล้วแทรกตัวเขามาในห้องโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ระวัง พอกันหลับไปมองก็ต้องตกใจ ใบหน้าสวยโกรธขึ้นมาทันที“คุณวัตถ์”“เมื่อวานยังเรียกพี่วัตถ์อยู่เลยทำไมวันนี้เรียกคุณวัตถ์ล่ะ”“ฉันจะเรียกยังไงมันก็เรื่องของฉัน”“ผัวเมียที่ไหนเขาพูดกันแบบนี้นะ” เขาเดินเข้ามาใกล้แพรรดาถอยหนีจนแผ่นหลังชนกับผนังห้อง“อย่ามาพูดแบบนี้ในห้องฉันนะ และก็กลับออกไปได้แล้วก่อนที่ฉันจะตะโกนให้คนมาช่วย” แพรรดาขู่เพราะเห็นท่าทางของเขาแล้วมันไม่น่าไว้ใจเลย“เรื่องผัวเมียมีใครที่ไหนเขาอยากจะยุ่งล่ะ พี่ว่าเรามาคุยกันดีๆ นะ”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ”“ถ้าไม่อยากจะคุยงั้นเปลี่ยนมาเป็นครางแทนดีไหมล่ะ” เขาก้าวเขามาประชิดตัวสองมือกับเธอไว้ ใบหน้าหล่อก้มลงต่ำจนแพรรดารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รดแก้ม“อย่านะคุณวัถต์” แพรรดาเอามือดันใบหน้าของเขาไว้ แต่แทนที่เขาจะสะทกสะท้านเขากลับดึงมือนั้นขึ้นจูบไปที่นิ้วพลางส่งสายตามองราวกับกำลังจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
ถึงแม้วันนี้จะไม่ต้องออกไปทำงานแต่เช้าแพรรดาก็ตื่นตามเวลาปกติเพราะความเคยชิน หญิงสาวเริ่มเก็บของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า เพราะคิดจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน “เฮ้อ” แพรรดาถอนหายใจเพราะยิ่งจัดของใจก็ยิ่งว้าวุ่นขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่คิดว่าวันที่จะต้องลาออกจากงานและกลับไปช่วยงานที่บ้านจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ถ้าเมื่อคืนไม่คุยกับพี่ชายจนเพลินความลับที่เก็บไว้ก็น่าจะยังคงเป็นความลับอยู่ แต่ในเมื่อทิวัตถ์รู้ความจริงแล้วแพรรดาก็คงไม่กล้าไปทำงานกับเขาอีก เรื่องระหว่างเธอกับเขามันเกิดขึ้นเร็วและก็จบเร็วจนน่าใจหาย แพรรดายอมรับว่ายังรักเขาอยู่และความรักก็มากขึ้นเมื่อได้ใกล้ชิด มันคงต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เธอจะเลิกรักเขาได้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเธอกับเขาไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เธอดีใจที่เขาบอกว่าอยากจะหมั้นแต่ถ้าเธอยอมก็เท่ากับว่าแผนการที่เธอวางไว้มันก็จะพังไม่เป็นท่าแล้วคนชอบเอาชนะอย่างเธอก็ไม่มีทางยอม แพรรดายอมเจ็บดีกว่าจะหมั้นกับเขาเพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับเธอเป็นคนแพ้หญิงสาวนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงหลังจากจัดของได้แค่เพียงนิด เพราะพี่ชายบอกเธอว
งานแต่งงานของปรีญาดามีแขกมาร่วมงานมากจนแพรรดาคิดไม่ถึงและหนึ่งในนั้นก็มีพี่ชายของรวมอยู่ด้วย ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับอาฟเตอร์ปาร์ตี้นั้นหญิงสาวก็เลยมีโอกาสออกมาคุยกับพี่ชายตามลำพัง “พี่ไม่คิดว่าแพรจะมางานนี้ด้วย” “แพรเป็นเลขาพี่วัตถ์นี่ค่ะก็ต้องมาด้วยอยู่แล้วไม่เห็นแปลกอะไรเลย” “แต่เขาไม่ได้มาในนามบริษัทนะ ระหว่างแพรกับเขามีอะไรที่พี่ไม่รู้หรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ พี่ภีมอย่าคิดมากเลย” “แต่พี่เห็นสายตาไอ้วัตถ์ที่มองแพรแล้วพี่พอจะดูออกนะ พี่ว่าตอนนี้เพื่อนของพี่คงไม่คิดกับแพรแค่เลขาแล้ว” “ก็ดีสิคะ” “ในเมื่อเขาเองก็คิดกับแพรเกินเลขาแล้ว พี่ว่าแพรก็ควรบอกความจริงกับเขาได้แล้ว” “ขอเวลาอีกนิดได้ไหม” “แพรรจะรออะไรอีก บอกความจริงเขาไปเถอะ มันไม่สนุกหรอกนะถ้าเราคนที่เรารู้สึกดีๆ ด้วยมาหลอก” “แพรไม่เคยหลอกนะคะพี่ภีม ในใบสมัครงานแพรก็เขียนความจริงทุกอย่าง ทั้งชื่อทั้งนามสกุลรวมถึงที่อยู่ที่บ้าน พี่วัตถ์ไม่สังเกตเองแล้วจะมาว่าแพรหลอกได้ยังไง” “พี่ถามหน่อยสิ แพรต้องตอบพี่ตรงๆ
ทิวัตถ์ใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดคราบขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนออกจากกุหลาบงามจนสะอาดก่อนจะช่วยเธอสวมชุดให้กลับไปเป็นอย่างเดิม “คุณคงไม่มีแรงขับรถแน่ๆ ให้ผมไปส่งนะ” เขาพูดขณะเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กแล้วหยิบน้ำดื่มมาเปิดฝาแล้วส่งให้กับแพรรดา “ส่งที่คอนโดของรดานะคะ” พูดจบแพรรดาก็รับน้ำมาดื่มด้วยความกระหาย “พรุ่งนี้วันเสาร์นะครับที่รัก ไปค้างด้วยกันนะ ยังไม่อิ่มเลยอยากกลับไปกินต่อ” “กินจุเกินไปแล้วนะคะ เมื่อกี้ก็กินไปตั้งสองรอบยังไม่พออีกเหรอ” หญิงสาวมองค้อน เพราะยังเหนื่อยไม่หายกับบทรักที่เขามอบให้เมื่อครู่ “แค่สองรอบเองครับ เมียผมกินอร่อยผมก็อยากกินเยอะๆ ได้ไหมล่ะ” “ไม่รู้สิคะ” แพรรดาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะไหวไหมถ้าเขาจะจับเธอกินอีก เพราะตอนนี้หญิงสาวก็ทรงตัวแทบไม่อยู่ “ไม่รู้แสดงว่าต้องลอง เอาละ ไปที่รถเถอะ เดินไหวไหม” “ไหวค่ะ” แพรรดาเดินตามเขามาที่รถด้วยความสบายใจเพราะเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในบริษัทแล้ว “ขอนอนพักได้ไหม ถึงแล้วปลุกรดาด้วยนะคะ” “ได้สิ” เขาดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดแล้วปรับ
“ลองเสนอมาสิคะ”“ถ้าคุณไม่ให้ผมไปที่โรงแรม แล้วมีที่อื่นให้ผมไปไหมล่ะ”“ท่านรองอยากไปไหนล่ะคะ”“เลิกงานแล้วนะ”“คุณวัตถ์อยากไปไหนล่ะคะ” หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนาม“อยากไปสวรรค์ ได้ไหมล่ะ พาไปได้หรือเปล่า”“ในห้องทำงานเหรอคะ” แพรรดาถามอย่างไม่แน่ใจ“ใช่สิ ถ้าผมหมดแรงอยู่ในห้องนี้ผมก็คงไปไหนไม่ได้ รดาคิดว่าทำให้ผมหมดแรงได้ไหม”“รดาไม่รู้ว่าคุณจะหมดแรงหรือเปล่าเอาเป็นว่ารดาจะทำคุณไปถึงสวรรค์อย่างที่อยากไปเลยล่ะคะ”เพราะกลัวเสียเขาให้กับคนอื่นแพรรดาเลยยอมทำตามคำขอของเขา มันดูกล้าบ้าบิ่นมากที่มีอะไรกันในห้องทำงานแต่เวลานี้ทุกคนก็กลับบ้านไปหมดแล้วแพรรดาถอดเสื้อตัวนอกของตนเอง แล้วคุกเข่าตรงหน้าท่านรองประธานหนุ่มสองมือลูบคลำความเป็นชายที่ซ่อนอยู่ในกางเกงผ้าเนื้อดีจนมันค่อยตื่นตัวขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่าตัวเขากำลังมองลงมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ“อื้ม....รดา”เขาครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อแพรรดาใช้ใบหน้าซุกไซร้อยู่นอกกางเกง เพียงแค่นี้ความเสียวก็แล่นพล่านไปทั่วกาย“ผมถอดให้นะ รดาจะได้กินถนัด”ถ้าหากจะรอให้เธอเป็นคนถอดเขาคงแทบคลั่ง ชายหนุ่มรีบจัด
Comments