เฟ่ยชุ่ยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดนางตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของตนเมื่อครู่ค่อนข้างจะอุกอาจไม่ว่าฉินจวิ้นเลี่ยจะเหลืออดแค่ไหน ไม่ว่าจะสมควรตายแค่ไหน ก็มิใช่คราวที่นางในฐานะสาวใช้ที่จะสอนบทเรียนให้เขาพระชายาจำได้ว่านางขุ่นเคืองใจกับการตายของอวิ๋นเซียง จึงยอมให้เฟ่ยชุ่ยทุบตีคนแต่นางไม่สามารถก้าวล่วงได้อีก
ไป๋โค้วฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่เด็ก พละกำลังค่อนข้างเยอะ ในเริ่มแรกเฟ่ยชุ่ยจึงเป็นฝ่ายด้อยกว่า“เฟ่ยชุ่ย หลับตาลงแล้วคิดว่าข้าเป็นสองคู่หูชั่วร้ายที่รังแกเจ้าสิ” ครั้นเห็นว่าเฟ่ยชุ่ยกำลังจะพ่ายแพ้ ไป๋โค้วจึงพูดขึ้นเฟ่ยชุ่ยหลับตาลงจริง ๆฉากที่ชุ่ยเหมยและชุ่ยจวี๋แย่งชิงสร้อยคอของนาง ภาพเหตุการณ์ที่ทำลา
ในเวลานี้ณ ห้องนอนสวนจินซิ่วฉินจวิ้นเลี่ยนั่งอย่างระมัดระวังตัวอยู่ตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เหมือนเด็กที่กำลังรอคำติติงว่าทำอะไรผิดไปฉินเหยี่ยนเย่ว์รินชาหนึ่งแก้วแล้วยื่นส่งให้เขา“พี่หญิง ข้าทำเอง ข้าทำเองก็ได้” ฉินจวิ้นเลี่ยรีบรับมาฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูสภาพใบหน้าช้ำและบวมของเขา
ทว่า เดิมทีนิสัยของฉินจวิ้นเลี่ยนั้นมิได้เลวร้าย และเขาไม่เคยทำอะไรกับเจ้าของร่างเดิมเลย กลับกัน เขาเคยหยุดหมิ่นอวี้ที่ทุบตีเจ้าของร่างเดิมด้วยซ้ำนางเองก็ไม่อยากดุด่าว่ากล่าวรุนแรงกับเขามากเกินไป“เจ้ากลับไปเรือนของตัวเองเสีย ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าออกมา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “แล้วก็อย่าไปฟังเร
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้ากำลังฝันอยู่ ข้าต้องฝันอยู่แน่ ๆ ” ฉินจวิ้นเลี่ยบิดตัวเองอย่างแรงกำลังมือของเขาแข็งแกร่งมากจนมือที่บิดอยู่บนร่างกายทำให้เจ็บความเจ็บปวดเรียกให้เขากลับมาสู่ความเป็นจริงภาพเบื้องหน้าเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ได้กำลังฝันอยู่เรื่องที่พี่หญิงใหญ่บอกเขา เป็นความจริงในเวลานี้เอง ท
เรียวคิ้วของฉินจวิ้นเลี่ยขมวดเข้าหากันแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ามือกำแน่นเข้าหากัน และใบหน้าที่ดูยังเยาว์วัยซีดเผือด “เจ้าจะเกลียดข้าก็ดี โทษข้าก็ช่าง ข้าเข้าใจทั้งสิ้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น “ข้าจะไม่ขอให้เจ้ายกโทษให้ เพราะข้าไม่ผิด และไม่ต้องการการให้อภัยจากเจ้า ฉินปี้เย่ว์คิดหาทางฆ่าตัวตาย นี่คือส
ตงฟางหลีเข้าใจความหมายของนางทว่า เมื่อนึกถึงความสับสนถูกผิดของหมิ่นอวี้ การโจมตีใส่ร้ายคนอย่างชั่วช้าของฉินปี้เย่ว์ รวมถึงฉินเสวี่ยเย่ว์ที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย หัวใจของเขาก็จมดิ่งลงไปมากทีเดียวเขาทนที่คนอื่นทำร้ายนางไม่ไหว“ไม่ต้องห่วงหม่อมฉันหรอกเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยตอบพลางยิ้มเล็กน้อย “จวิ้นเลี่
สีหน้าของไป๋โค้วเปลี่ยนเป็นขมขื่นอีกครั้ง “พระชายาช่วยข้าด้วย”“แค่ทำความสะอาดตำหนักหมิงอวี้พอ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องของพวกเจ้ากำลังอารมณ์ไม่ดี เจ้ารีบไปล้างเนื้อล้างตัวเถอะ”ไป๋โค้วไม่เต็มใจอย่างมาก แต่ไม่กล้ากวนโมโหท่านอ๋องที่สีหน้าดำมืดอีก จึงเพียงเบะปากแล้วถอยออกไป“เจ้าตามใจพว
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู