เขารู้จักตอบแทนบุญคุณ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบเช่นกัน“เกินไปไหนอะไร หรือชีวิตท่านมีค่าน้อยกว่าหมื่นห้าพันตำลึงทอง รู้งี้ปล่อยให้ท่านนอนตายอยู่ในตรอกนั่นเสียก็ดีหรอก”เสี่ยวเยี่ยนเท้าสะเอว ชูคอเถียงเขาอย่างไม่ลดละบุรุษหนุ่มยิ้มเย็น แล้วเอ่ยอย่างผู้เหนือกว่าว่า“งั้นเจ้าก็คงต้องหักค่าตอบแทนออกอีกหมื่นพันตำลึงทอง โทษฐานที่เจ้าเตะข้าจนสลบไปอีกรอบ แถมยังเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มเป็นเท่าตัว”คำพูดนั้นทำให้เสี่ยวเยี่ยนถึงกับตาโต อ้าปากค้าง – อย่าบอกนะว่า เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้หมดแล้ว ! -ชางเฮ่าเห็นนางนิ่งไปเช่นนั้นก็ไม่รอช้าที่จะย้ำอีกว่า“ข้าไม่จับเจ้าส่งให้ทางการโทษฐานที่เล่นการพนัน ก็ถือว่าเมตตาเจ้าแล้ว”“ว่าไงนะ” เสี่ยวเยี่ยนอุทานเสียงหลง ตาโต เขารู้ได้อย่างไรว่านางเล่นการพนัน “ใคร ! ใครเล่นการพนัน ! อย่ามาสาดโคลนใส่ข้า” นางเชิดหน้าขึ้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมรับว่าแอบเข้าบ่อนเถื่อน“ไม่ได้ใส่ร้าย ข้าจะจับเจ้าไปตอนนี้พร้อมกับหลักฐานก็ย่อมได้”บุรุษหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มขึ้น พร้อมกับพยักพเยิดให้นางดูหลักฐานที่ตนสะเพร่าทิ้งไว้ให้เขาเห็น“อั๊ยหยา.... เต่าเอ๊ย !”เสี่ยวเยี่ยนรีบวิ
ชางเฮ่าขมวดคิ้ว ในใจพลันมีคำถาม - ออกแรงมากไป ทำให้เลือดทะลักออกจมูกได้ด้วยรึ –เสี่ยวเยี่ยนรีบเอ่ยประโยคถัดไปไม่ปล่อยให้เขาได้คิดนาน เพราะเกรงว่าเขาจะจับได้ว่านางโกหก“เอาเป็นว่า เจ้าจดจำไว้ว่า ข้าทุ่มเทแรงกายแรงเงินมากแค่ไหน ถึงได้แย่งชีวิตเจ้ามาจากยมบาลได้ พอเจ้าหายดีแล้วก็ต้องตอบแทนข้าเยอะ ๆ หน่อยก็แล้วกัน”“เรื่องนั้น ไม่ต้องห่วง ข้ารู้คุณคน ต้องตอบแทนเจ้าแน่”“ดีมาก งั้นเจ้าก็นอนพักก่อน หมอสั่งว่า ภายใน 3 ชั่วยามหลังจากที่กินยาถอนพิษแล้วห้ามเคลื่อนไหวร่างกายเด็ดขาด”ชางเฮ่าพยักหน้า แล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย แม้ว่าหมอจะไม่สั่ง แต่ร่างกายก็หมดเรี่ยวแรงเกินกว่าที่จะลุกขึ้นได้ในตอนนี้ ไม่นานนักเขาก็หลับไปอีกหนเมื่อจัดการกับบุรุษหมื่นตำลึงทองบนเตียงเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเยี่ยนก็ไปต้มยาให้มารดา จากนั้น ก็จัดการเตรียมทำตุ๋นไก่เป็นอาหารเย็น ท่ามกลางม่านราตรีที่ยังโรยตัวปกคลุมไปทั่วแผ่นฟ้า แสงจันทร์ทอแสงลงเบื้องล่างส่องให้เห็นรถม้าคันหนึ่ง แล่นผ่านตรอกแคบ ๆ แล้วหยุดลงที่ประตูด้านหลังของ ‘หอเฟิ่งหยวน’ สถานเริงรมย์อันดับหนึ่งของเมืองหลวงเมื่อม่านประตูรถม้าถูกตวัดขึ้น สตรีที่สวมชุดคลุม
“เยี่ยนเยี่ยน.... เจ้าไปไหนมา.... แล้วพาผู้ใดกลับมาด้วย”ห้องไม่ได้กว้างมากนัก จึงทำให้นางเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกฝั่งได้ชัดเจน“ข้าออกไปรับจ้างขนของที่ตลาดมาเจ้าค่ะท่านแม่ แล้วบังเอิญพบเขาถูกทำร้ายกลางถนนจึงพากลับมารักษาที่บ้าน”เสี่ยวเยี่ยนตอบมารดาโดนไม่ต้องคิด พูดโกหกออกมาราวกับกินข้าวก็มิปาน นางปิดบังทั้งเรื่องที่ตนเข้าบ่อน ปลอมตัวเป็นบุรุษ รวมถึงเรื่องค่ารักษามารดา เพื่อไม่ให้นางเป็นกังวล“เช่นนั้นรึ... เยี่ยนเยี่ยนของแม่มีจิตใจเมตตานัก ต่อไปเจ้าจะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน”เสียงของมารดาทั้งอบอุ่น และอ่อนโยน นางคิดว่าตอนที่มารดาของนางเป็นดรุณีแรกแย้ม คงจะต้องงดงามทั้งกายและใจยากจะหาสตรีใดเปรียบแน่ ๆ“เพราะท่านแม่สั่งสอนข้าอย่างไรละเจ้าค่ะ ท่านพักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวข้าจะออกไปซื้อยามาต้มให้ท่านเพิ่ม วันนี้แม่ค้าที่ตลาดใจดีให้เงินข้าเพิ่มหลายอีแปะเชียว เดี๋ยวข้าจะซื้อไก่มาตุ๋นให้ท่านทานนะเจ้าคะ”เสี่ยวเยี่ยนเอ่ยกับมารดา ขณะที่ประคองนางนอนลงบนเตียงไม่นานนักมารดาของนางก็หลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลียหมอบอกว่าโรคที่นางเป็นนั้น เกิดจากการสูญเสียพลังชีวิตในการคลอดบุตรมากเกินไป ทำ
เสียงฝีเท้าองครักษ์เสื้อแพรสองนายวิ่งย่ำผ่านหน้านางไป แล้วก็พลันหยุดชะงัก“เอ๋... เจ้าหนุ่มผีพนันน้อยมันหายไปไหน”องครักษ์เสื้อแพรนายหนึ่งเอ่ยกับเพื่อนตัวอ้วนที่วิ่งมาด้วยกัน“นั่นสิ เห็นหลังแวบ ๆ”องครักษ์เสื้อแพรตัวอ้วนตอบ เกาหัวแคร่ก ๆ แล้วสายตาก็ปะทะเข้ากับดรุณีน้อยบนพื้นที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาจึงเอ่ยถามว่า“แม่นาง... เจ้าเห็นหนุ่มผีพนันวิ่งมาทางนี้หรือไม่”“ฮือ ๆ ขะ.. ข้าไม่รู้... ข้ากำลังโศกเศร้าที่บิดาข้าเสียชีวิต ไม่มีกะจิตกะใจมองผู้ใด ฮือ ๆ”เสี่ยวเยี่ยนบีบหน้าตาไหลพราก เบ้ปากร้องไห้สะอึกสะอื้น ในใจกลับแสยะยิ้มว่า - หนุ่มผีพนันมีที่ไหน มีแต่ข้านี่แหละ สตรีจอมลวงอันดับหนึ่ง ! - องครักษ์เสื้อแพรตัวอ้วนหันมองหน้าเพื่อนตัวผอมคล้ายกับกำลังหารือ คนตัวผอมจึงนั่งลง“บิดาเจ้า เป็นอะไรตาย”เขาเอื้อมมือหมายจะจับเสื้อคลุมเปิดดูร่างนั้นด้วยความสงสัย แต่กลับถูกเสียงกรีดร้องของนางยับยั้งไว้“อย่า ! พวกท่านห้ามเปิดผ้าคลุมเด็ดขาด”“ทำไมจะเปิดไม่ได้”องครักษ์เสื้อแพรร่างผอมขมวดคิ้วถาม“นั่นสิ ทำไมเปิดไม่ได้ หรือเจ้าซ่อนผู้ใดไว้”องครักษ์เสื้อแพรตัวอ้วนเสริม“เปิดก็เปิดสิ ถ้าพวกท่านไม่ก
สิเน่หาองค์หญิงร้อยเล่ห์นางคือจอมลวงผู้คน แม้แต่หัวใจอันแข็งแกร่งประดุจภูผาขององครักษ์เสื้อแพรเช่นเขา ยังถูกนางล่อลวง !* *** ** *** ณ บ่อนการพนันแห่งหนึ่งเมืองหลวงเจริญรุ่งเรืองด้วยการค้า และสงบสุขมานับร้อยปี ใครเลยจะคิดว่ามีบ่อนการพนันเถื่อนซุกตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ห่างจากถนนใหญ่ไม่กี่ลี้เท่านั้น ภายในบ่อน มีเสียงแซ่เซ็งไปหมด ควันยาม้วนลอยคละคลุ้งขึ้นทั่วทั้งห้อง ผู้คนต่างนั่งล้อมวงกันเป็นกลุ่ม ๆ‘เสี่ยวเยี่ยน’ มักจะปลอมเป็นบุรุษเข้าไปนั่งในวงไพ่ราชินี เพราะการเล่นไพ่ราชินีนั้นนอกจากจะเล่นง่ายแล้วยังโกงง่ายอีกด้วย“อ้าว... ใครจะเอาเพิ่ม ใครเอาเพิ่ม”เจ้ามือกวาดสายตารอบวง หลังจากแจกไพ่ให้กับลูกขาคนละสองใบครบแล้ว เขาจะต้องถามเป็นครั้งสุดท้ายว่า มีใครจากขอใบพิเศษเพิ่มหรือไม่เนื่องจาก กติกาการเล่นไพ่ราชินีมีอยู่ว่า ตัวเลขบนไพ่ที่ถือในมือของแต่ละคนให้นำบวกกัน ใครได้แต้มมากที่สุด คนนั้นจะเป็นผู้ชนะได้เงินรางวัลเพิ่มเป็นสองเท่าของเงินที่ลงพนันเอาไว้ ส่วนเงินจากลูกขาทั้งหมดจะเป็นของเจ้ามือซึ่งเป็นลูกจ้างของบ่อนการพนัน ด้วยเหตุนี้บ่อนพนันเถื่อนจึงอยู่ได้ และแอบลักลอบเปิดบ่อย ๆนักพนันแต่
ณ ห้องนอนของแม่ทัพเจียงเฉินการถูกลงทัณฑ์โบยถึงห้าร้อยไม้ หากเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว แม้กระทั่ง ผู้ที่ร่างกายแข็งแกร่งดุจหินผาอย่างแม่ทัพเจียงเฉินยังสลบไปถึงสองวันสองคืน แม้ฟื้นขึ้นมาในวันที่สามก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงนอนได้เขาลืมตาจ้องมองเพดานห้อง รู้สึกเจ็บระบมไปทั้งร่างกาย โจ๊กร้อน ๆ ในถ้วยที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงกำลังส่งกลิ่นโชยหอมกรุ่น บ่าวรับใช้คงจะนำเข้ามา เมื่อพบว่าเขายังไม่ตื่น จึงได้วางเอาไว้ที่นี่“อื้อ....”เขาส่งเสียงครางออกมาเมื่อพยายามจะลุกขึ้น สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งเขาพยายามจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่หัวเตียง แต่เพราะแผลบนหลังมีมาก ความตึงของบาดแผลทำให้เคลื่อนไหวลำบาก“ท่านแม่ทัพ”ใครบางคนถลันเข้ามาพยุงเขาให้ลุกขึ้นนั่ง อีกทั้ง ยังช่วยหยิบแก้วน้ำป้อนถึงปากเขาเจียงเฉินรีบผินหน้าไปมอง แล้วพบว่าเป็นสตรีที่อยู่ในห้วงความฝันของเขาตลอดเวลา“เหยียนชิง”ชื่อของนางหลุดออกมาจากริมฝีปากซีดผะแผ่ว“ใช่ ข้าเอง”องค์หญิงเหยียนชิงตอบกับพลางส่งยิ้มสว่างไสวให้กับเขาเจียงเฉินพลันได้สติกลับคืนมา เขาขืนตัวออกห่างจากนาง“ขออภัยที่กระหม่อมมิอาจลุกขึ้นถวายความเคารพต่