بيت / รักโบราณ / นางกลับมาเพื่อร่ำรวย / บทที่ 6 ไปเดินตลาดด้วยกันครั้งแรก

مشاركة

บทที่ 6 ไปเดินตลาดด้วยกันครั้งแรก

last update آخر تحديث: 2025-08-20 21:36:49

ณ คฤหาสน์ลอยฟ้าของนายพลเคิร์ฟ เขตอาณาจักรกลาง | ปี xxxxx จักรวรรดิที่ 7

งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้คือความหรูหราที่แม้แต่ผู้ทรงอิทพลคนอื่นๆ ในดาวศูนย์กลางยังต้องเหลียวมอง

กลางท้องฟ้าประดิษฐ์เหนือแกนพลังงานหลักของเมืองหลวง มีโดมลอยฟ้าขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่ในห้วงอากาศ มองจากภายนอกมันคือกลีบดอกกุหลาบโลหะที่บานสะพรั่งเหนือท้องฟ้ายามกลางคืน มองจากภายในมันคือสวรรค์จำลองที่เต็มไปด้วยความประณีตในทุกอณู

พื้นทางเดินของแต่ละห้องเป็นผลึกตัดจากควอตซ์เขียวมรกตที่ขุดได้จากดาวชั้นใน บรรดาโต๊ะจัดเลี้ยงประดับด้วยดอกไม้จริงจากระบบดาวไร้ชื่อซึ่งมีแค่สองฤดูในรอบศตวรรษ

และเหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือการที่บรรดาพนักงานบริการทุกคน ล้วนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ ไม่ใช่อวาตาร์ แต่คือคนที่นายพลเคิร์ฟจ้างมาด้วยค่าจ้างระดับวีไอพี เพียงเพื่อแสดงความใส่ใจต่อแขกคนสำคัญเพียงคนเดียวอย่างหลี่โต๋วเปา

แม้ไม่อยากมานัก แต่เพราะคำกล่าวที่ว่าเขาจะเข้าไปเยี่ยม หลี่โต๋วเปาจึงต้องมาด้วยตนเอง ยามนี้ยานส่วนตัวของเขาลดระดับลงอย่างเงียบงัน ไม่มีเสียงคำราม ไม่มีแสงสว่างเกินจำเป็น

เมื่อทุกอย่างคงที่ ชายหนุ่มในชุดสูทพลังงานสีดำสุดหรูก็เดินลงมาพร้อมเงาสะท้อนบนพื้นควอตซ์

เส้นพลังงานสีทองอ่อนบนชุดวาบวับตามจังหวะการก้าวเดิน แม้ดูเรียบง่าย แต่ออร่าบางอย่างบนตัวก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับใครหน้าไหนในที่นี้

ผู้คนรอบข้างต่างหันมองด้วยสายตาเก็บอารมณ์ บ้างแอบกระซิบ บ้างทำเพียงยืนนิ่ง เพราะนั่นคืออดีตจอมพลผู้ไม่เคยแพ้ในสงครามระหว่างดวงดาว และตอนนี้เขาคือเจ้าของเครือข่ายสตรีมไร้กล้อง รวมถึงธุรกิจพลังงานควอนตัม และอวาตาร์ชีวภาพที่ล้ำยุคที่สุด

หลี่โต๋วเปาไม่ได้พูด ใบหน้าหล่อเหลาแทบจะไม่มีรอยยิ้ม และไม่แสดงความสนใจต่อสิ่งใดในงาน

เมื่อก้าวเข้าสู่โดมกลางงานเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกของยุคดาวอัลเทียก็ดังขึ้นขับกล่อมพอให้บรรยากาศไม่เงียบเกินไป บรรดาโต๊ะจัดเลี้ยงต่างประดับด้วยดอกไม้ และอาหารจากดินแดนที่ห่างไกล แต่หลี่โต๋วเปากลับทำเพียงเดินผ่านพวกมันไปโดยไม่แม้แต่จะปลายสายตากลับไปมอง

เขามีเพียงความนิ่งเรียบ และความเย็นเยียบเช่นเคย

“ยินดีต้อนรับ ท่านหลี่”

เสียงของนายพลเคิร์ฟดังขึ้นจากมุมหนึ่ง ทำให้หลี่โต๋วเปารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ว่าในที่สุดเขาก็ไม่ต้องเสียเวลามากมายในการเดินหาเป้าหมายซึ่งก็คือคนคนนี้

เคิร์ฟ ฟอน เทียร์ แม่ทัพผู้ช่ำชองแห่งแนวชายแดน ตอนนี้แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มพิธีการอย่างที่สุด ซ้ำยังประดับยศด้วยผลึกดาวเทียม ฝีเท้าของชายวัยกลางคนแน่วแน่เช่นนายทหาร แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี

“ผมหวังว่างานคืนนี้จะพอทำให้ท่านผ่อนคลายได้บ้าง”

หลี่โต๋วเปามองเขานิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเล็กน้อย

“ผมตั้งใจจัดทุกอย่างด้วยมนุษย์จริง เพราะรู้ว่าท่านหลี่น่ะเคารพชีวิต” นายพลเคิร์ฟพูดเสียงนุ่ม พร้อมยื่นไวน์ผลึกแสนหายากให้ “ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีมันขาดแคลน แต่เพราะอยากให้ท่านรู้ว่า ผมตั้งใจจัดงานนี้เพื่อท่านมากแค่ไหน ฮ่าๆๆ”

หลี่โต๋วเปารับแก้วไวน์มาถือไว้ แต่ไม่ได้จิบ

“เป็นงานเลี้ยงที่ดีมากทีเดียวครับ เพียงแต่คืนนี้ยังมีใครอีก” หลี่โต๋วเปาถามเรียบๆ

“ถึงจะมีแต่คืนนี้คงไม่มีใครสำคัญเท่าท่านหลี่อีกแล้วล่ะ” นายพลเคิร์ฟหัวเราะเบาๆ ก่อนผายมือไปยังเวทีด้านใน “แต่แน่นอน ผมคงเสียมารยาทหากไม่แนะนำบุตรสาวคนโตอย่างไอรีนให้ท่านได้รู้จัก”

ประตูโปร่งใสเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดสีเงินล้ำยุค เธอยืนอย่างมั่นคง ท่วงท่าไม่อ่อนน้อมเกินงาม และไม่หยิ่งผยองจนเกินรับไม่ไหว แววตาฉลาดนั้นทอดมองตรงมาที่หลี่โต๋วเปา เป็นแววตาอย่างคนที่เรียนรู้ว่าตนเองจะไม่มีวันคาดหวังความรักหรือความสงสารจากใคร

ร่างงามเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ก่อนจะหยุดเท้าอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกัน แล้วโน้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อทักทาย

“ฉันชื่อไอรีน ยินดีที่ได้พบตัวจริงของท่านจอมพลหลี่ค่ะ”

หลี่โต๋วเปามองฝ่ายตรงข้ามเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบรับสั้นๆ

“ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน”

“ฉันได้ยินเรื่องของคุณมามากมาย เกียรติยศด้านสงคราม เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และความฉลาดล้ำของคุณ มันน่าสนใจและน่าทึ่งมากค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ไม่มีบทสนทนาหวานซึ้ง

ไม่มีประกายตาระยิบระยับของคนที่ต้องการศึกษาฝ่ายตรงข้าม

เพราะภายในจิตใจของหลี่โต๋วเปาในยามนี้ มีเพียงภาพของใครคนหนึ่งที่คงกำลังก้มถอนหญ้าอยู่ในนาข้าว หรือไม่ก็กำลังขึ้นเขา เข้าป่าไปเก็บผักล่าสัตว์ เด็กหญิงเพียงคนเดียวที่เคยยื่นแกงเห็ดให้แมวอย่างเขาด้วยมือเรียวสวย และรอยยิ้มพิมพ์ใจ

เรื่องความงามของสตรี ไม่มีใครสามารถเทียบฉินอี้หนิงได้เลยสักคน…

ท่ามกลางแสงไฟเรืองรองของจักรวรรดิ หลี่โต๋วเปากำลังยืนอยู่กลางงานเลี้ยงที่หรูหราที่สุดในจักรวาล

ทว่าหัวใจของเขา…กลับยังคงล่องลอยไปยังโลกใบเดิมของมวลมนุษยชาติ โลกสีฟ้าที่มีเพียงเสียงลม ต้นไม้ ดอกไม้ เสียงไก่ขัน และเด็กหญิงที่ชื่อฉินอี้หนิง

เขาทั้งหิวและอยากกลับไปกินข้าวฝีมือเด็กคนนั้นเหลือเกิน

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 21 ทวงคืนภรรยาที่ถูกพรากไป (จบบริบูรณ์)

    กลับมาที่สถานการณ์ในปัจจุบัน…สิ้นเสียงเหี้ยมกับประโยคไร้มารยาทนั้น เมื่อหลี่หยางหนิงอันหันไปสบสายตากับอีกฝ่าย สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ใช่เพียงใบหน้าที่ดูคล้ายเขาราวกับแกะ แต่เป็นโทสะและความเหี้ยมเกรียมในแบบที่เขารู้จักดี“เจ้ากล้ามาก ที่มาแตะต้องภรรยา และแตะต้องลูกของข้า” เสียงของหลี่โต๋วเปานิ่งงัน แต่ทุ้มต่ำจนเหมือนจะสามารถสะเทือนผนังหินของตำหนักได้อย่างง่ายดายหลี่หยางหนิงอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้ากำลังจะสั่งให้หมอหลวงเอาเด็กในท้องนางออกพอดี แต่เพราะต้องพักฟื้นร่างกายนาน เลยคิดว่าจะพาขึ้นเตียงทั้งที่ยังท้อง คงให้อารมณ์แปลกใหม่ไม่น้อย” ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจงใจยั่วโมโหฝ่ายนั้น “เช่นนั้นเจ้าคงคิดจะฆ่าข้าสินะ?”ชายหนุ่มในชุดซอมซ่อสีเทาไม่ตอบ มือข้างหนึ่งยกขึ้นช้าๆ ดวงตาของเขาเรืองแสงวาบสีฟ้าอความารีนแผ่วเบา คล้ายกระจกจักรวาลที่สามารถสะท้อนแรงโน้มถ่วงให้ย้อนคืนได้ฉับพลันที่อากาศรอบตัวเริ่มสั่นสะเทือน แรงกดดันไร้รูปประหนึ่งกำปั้นพลังจิตกระแทกเข้าที่กลางอกของจักรพรรดิหนุ่มหลี่หยางหนิงอัน จนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นป้องกันอันตรายที่มองไม่เห็น“อย่าคิดว่าต่อจากนี้เจ้ายังจะสามารถอยู่หายใจได้อีก…”

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 20 ไม่ให้อดีตซ้ำรอยเดิม

    หนึ่งเดือนกับอีกสามสัปดาห์ที่หลี่โต๋วเปายังไม่กลับมา ฉินอี้หนิงนั่งจิบชากุหลาบอยู่ที่ชายเรือนสกุลฉิน ลมยามบ่ายพัดกรูจากทิศตะวันออก พาเอาใบไผ่ที่ลู่ลมอยู่บนเนินเตี้ยหล่นเกลื่อนทั่วลานทว่าเสียงกีบม้านับสิบและฝีเท้าเกราะเหล็กที่ดังกึกก้องยิ่งกว่าเสียงพายุ กลับทำให้หมู่บ้านฮุ่ยฟางที่เคยเงียบงัน เกิดความสนันหวั่นไหวราวกับมีเงามรณะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมทั่วผืนดินรถม้าขนาดใหญ่สลักลายมังกรดำขอบทอง เคลื่อนมาหยุดลงบริเวณหน้าบ้านสกุลฉิน ก่อนที่บรรดาทหารสวมเกราะดำประทับตราจักรพรรดิหลี่จะวิ่งเข้ามารายล้อมรอบบ้านเอาไว้ ตามมาด้วยเสียงแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่งตวาดดังแทรกเสียงใบไม้ปลิว“เรามารับตัวหรันฝูหรง สตรีอายุสิบเก้าหนาวที่ซ่อนตัวในหมู่บ้านแห่งนี้!”ท่านตาฉินที่กำลังสานกระด้งไม้ไผ่รีบก้าวออกมาจากเรือน ร่างชราภาพฝืนฝ่าแนวทหารเข้ามาขวาง“ขออภัยด้วย ที่นี่ไม่มีใครชื่อเช่นนั้นหรอกขอรับ ข้าไม่รู้จัก! ส่วนสตรีที่อายุสิบเก้า ที่นี่ก็มีเพียงบ้านสกุลหลาน สกุลซ่ง สกุลกั๋ว และหลานสาวของข้า…นางชื่อฉินอี้หนิง”แม่ทัพผู้นั้นกระตุกยิ้มมุมปาก พร้อมทั้งจ้องมองฉินอี้หนิงอย่างเย้ยหยัน“เช่นนั้นข้าก็มาถูกแล้วล่ะ เพราะนามเ

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 19 ความวุ่นวายในยุคจักรวรรดิอวกาศ

    ยุคจักรวรรดิอวกาศ ภายในสถานีวิจัยหลักของตระกูลหลี่ ชั้นบัญชาการพลังงานควอนตัม ความวุ่นวายกำลังเกิดขึ้นเมื่อคนที่หายตัวไปกลับเข้ามาสั่งงานจนกองพะเนิน“โธ่เอ๋ย…ครั้งแรกผมก็นึกว่าท่านประธานหลี่ของเราหลุดเข้าไปอยู่ในปฏิกรณ์ชีวภาพจนแยกโมเลกุลไม่ออกเสียแล้ว ที่แท้…ก็แค่ติดภรรยาเท่านั้น”ร่างสูงของหลี่โต๋วเปายืนพิงกรอบประตู มือซุกกระเป๋าเสื้อโค้ตสีเทาเรียบทว่าหรูหรา ไม่มีคำเถียงใด มีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่เจือแววอ่อนโยนบางอย่าง…คล้ายไม่คิดปฏิเสธความจริงข้อนั้น“ก็แค่ใช้เวลาให้คุ้มกับชีวิตบ้าง คุณต้องลองไปปลูกฟักทองดูสักครั้งสิ แล้วจะเข้าใจว่าทุกเช้าในทุ่งหมอกนั้นมีค่ามากกว่างานวิจัยที่เขียนมาพันปีเสียอีก”หลี่เฮ้าถงกลอกตาเล็กน้อยขณะมองหลายชายเพียงคนเดียว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ“อา…ฟักทองยังไม่เท่าไร แต่ถ้าประธานหลี่ของเราหายหน้าไปอีกสามเดือน ผมอาจจะกลับเข้าไปลักพาตัวภรรยาของท่านมาขังไว้ที่นี่แทน แล้วให้ท่านประธานเข้าออกห้องทดลองตลอดยี่สิบชั่วโมงเสียเลย”“แบบนั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะ” หลี่โต๋วเปาพึมพำ พร้อมกับหยิบซาลาเปาไส้เห็ดหอมออกมาจากถุงเล็กๆ ในมือ ก่อนจะยื่นให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รีบร้อน “ข

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 18 ข้อเสนอปลอมๆ จากขุนนางสวี่

    หลังเกี่ยวและตากข้าวจนเสร็จสรรพ ครอบครัวสกุลฉินก็เว้นช่วงเวลาสำหรับหยุดพักผ่อน ด้วยเพราะร่างกายที่ชราภาพของท่านตาท่านยาย พอทำงานไร่นานานเข้าจึงปวดเมื่อยมากกว่าปกติส่วนหลี่โต๋วเปาและฉินอี้หนิงก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการดูแลสวนผัก ขึ้นเขาไปล่าสัตว์มาขาย และใช้เวลาร่วมกันในฐานะสามีภรรยาทว่าวันนี้ แขกผู้มาเยือนกลับเป็นอดีตขุนนางผู้ต้องสูญเสียบ้านให้หลี่โต๋วเปาอย่างสวี่อี้เจิน“คารวะผู้อาวุโส”เสียงทุ้มของหลี่โต๋วเปาเอ่ยช้าๆ ดวงตาเรียวคมสังเกตท่วงท่าการเดินของฝ่ายตรงข้าม รู้สึกคุ้นเคยนัก ทว่านี่ไม่ใช่ท่าทีของผู้อาวุโสสวี่อี้เจินที่เขาเคยประลองหมากล้อมด้วยอย่างแน่นอน“เจ้าน่ะใช้ชีวิตได้ดี กลายเป็นผู้เยาว์ที่สร้างครอบครัวอบอุ่นจริงเชียว” ชายชรามองสำรวจทั่วทุกมุมบ้านราวกับไม่เคยเห็น ก่อนที่สายตาจะพลันมาหยุดลงที่ร่างบอบบางของฉินอี้หนิงซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นสาวงามเต็มตัวไปเสียแล้ว “โอ้~ นี่คือฉินอี้หนิงคนนั้นรึ…” ชายชรายิ้มอย่างสดใสพลางมองสำรวจใบหน้างามอย่างชื่นชม“เชิญผู้อาวุโสสวี่นั่งพักก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะไปเอาชาอวิ๋นอู้ [1] ที่ได้จากภูเขาหลูซานมาให้” เสียงหวานกล่าวอย่างอ่อนโยน ขณะเดินหายเข้าไป

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 17 ฤดูเกี่ยวข้าว

    วันเวลาผ่านเลยไปจากวันกลายเป็นหนึ่งเดือน ยามนี้สายลมปลายเดือนเปลี่ยนผิวทุ่งนาหน้าบ้านให้กลายเป็นสีทองอร่าม ลำต้นข้าวโน้มลงตามแรงน้ำหนักของรวงเมล็ดที่สุกงอม ท่ามกลางแสงอาทิตย์อุ่นอ่อนในยามเช้า เสียงเคียวเกี่ยวข้าวเสียดสีเบาๆ สะท้อนชัดอยู่กลางนาหลี่โต๋วเปาค้อมตัวใช้เคียวไม้ด้ามสั้นในมือเกี่ยวรวงข้าวอย่างระมัดระวัง ท่วงท่าของเขาแม้ยังไม่คล่องแคล้วนัก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ มือทั้งสองที่แกร่งอยู่แล้วบัดนี้ยิ่งแกร่งขึ้นซึ่งเป็นผลจากการจับจอบ ขุดหลุม และหาบน้ำทุกวัน จนรอยด้านปรากฏชัดที่ฝ่ามือ“เจ้าหนุ่มจากเมืองหลวง เจ้าน่ะก้าวหน้ากว่าที่ข้าเคยคิดไว้มากจริงๆ”เสียงของท่านตาดังมาจากอีกฟากของแปลงข้าว ใต้หมวกฟางเก่าคร่ำ ดวงตาของชายชรายังสะท้อนความชื่นชมไม่เสื่อมคลายหลี่โต๋วเปาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มย้อนนึกถึงตอนที่เขาอยู่ในตำแหน่งจอมพล ถ้าตอนนี้อยู่ในยุคจักรวรรดิ เขาคงสามารถสั่งคนให้ขุดหลุมปลูกข้าวได้เป็นพันหลุม แต่เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ยากที่สุด คือการเกี่ยวข้าวแค่เพียงมัดเดียว“ฮ่าๆๆ เจ้ารู้วิธีปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เช่นนั้นก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งของชีวิต” ท่านต

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 16 หนึ่งยามในคืนวสันต์ มีค่าดั่งพันทอง

    หลังผ่านพ้นค่ำคืนของการร่วมหอ ร่างงามก็ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกแกร่งไม่ไปไหน หลี่โต๋วเปาไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะกว่าเขาจะเสร็จกิจแต่ละรอบก็ใช้เวลานานเสียจนตัวเขาเริ่มนอนไม่หลับ ได้แต่กอดฉินอี้หนิงไว้ ขณะมองใบหน้าขาวนวลในยามนิทราบนโต๊ะข้างเตียงมีกะละมังไม้ใส่น้ำอุ่นที่เริ่มจะเย็นชืด พร้อมด้วยผ้าขาวที่ถูกใช้แล้ววางพาดอยู่ แน่นอนว่าเป็นหลี่โต๋วเปาที่นำมันมาเพื่อเช็ดผิวกายให้ภรรยาตัวน้อย อาจเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยตนเองมานานหลายปี เจ้าของเหลวสีขาวขุ่นเหล่านั้น จึงมีมากเสียจนอาจทำให้ฉินอี้หนิงนอนหลับแบบไม่สบายตัวนัก ซึ่งในฐานะผู้กระทำ เขาจึงต้องทำความสะอาดให้นางทุกครั้งแพขนตาหนาที่เริ่มขยับน้อยๆ ทำให้หลี่โต๋วเปาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตบนเปลือกตาของนาง ไล่เรื่อยลงไปจนถึงหน้าอกนุ่มที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบฉินอี้หนิงที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมา เผลอทำหน้าอิดออดน้อยๆ เมื่อส่วนล่างของนางมันทั้งบวมและเจ็บระบมอย่างที่ไม่เคยเป็น ค่ำคืนเข้าหอนี้ผ่านไปอย่างยากลำบากจริงๆ ยิ่งเมื่อผู้เป็นสามีไม่ยอมจบดังที่ควรเป็นใต้ผ้าห่มมีบางอย่างขยับอยู่ เคลื่อนจากหน้าอกสู่ส่วนล่างอย่างเชื่องช้า ทว่าทุกการสัมผัสล้วนเต็มไป

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status