แชร์

งานเลี้ยง

ผู้เขียน: ปลาเก๋าผัดฉ่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 12:21:01

            “ฉันจะเข้าไปในเมืองนะ พอดีมีกินเลี้ยงนิดหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ทำนาราที่กำลังนั่งอยู่โต๊ะกลางบ้าน บวกลบค่าอุปกรณ์ในการทำสวนที่เธอเป็นคนเริ่มเงยหน้าขึ้นมา ตอนนี้น่าจะหกโมงเย็นแล้ว เธอเพิ่งเห็นสิงหราชเป็นครั้งแรกของวัน

            “อืม ไปสิค่ะ” เอ่ยเสียงเบา ก้มลงมองเอกสารในมือต่อ ทำไม่สนใจคนตัวสูง จนสิงหราชต้องเดินมาใกล้

            “เป็นอะไร” ชายหนุ่มถาม มองคนตัวเล็กที่ใบหน้าเรียบนิ่งอย่างผิดปกติ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องบ่นเขาแล้ว

            “เปล่านี่ เหนื่อยนิดหน่อยน่ะค่ะ เลยเพลีย” นาราตอบแบบไม่ใส่ใจ เธอพยายามไม่สนใจเรื่อยๆ ทั้งๆที่ใจอยากถาม อยากให้เขาอธิบายสักหน่อยว่าไปไหนยังไง แต่คนอย่างสิงหราชคงไม่บอกอะไรกันหรอก

            “ใช้งานคนให้เป็นสิ อะไรงานหนักไม่เหมาะกับผู้หญิงก็อย่าทำเอง คนงานมีเยอะแยะ” เห็นมั้ย เขาไม่รู้อะไรเลย

            “อืม ค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้า เธอไม่แม้หันไปมองคนตัวใหญ่ ส่วนนายหัวของไร่ คิดว่าหญิงสาวคงจะเหนื่อย เพราะเพิ่งไปสวนมา จึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำ แต่งตัวไปงานในค่ำคืนนี้ 

            งานที่สิงหราชมาเป็นงานไม่ใหญ่ มีแค่คนในแวดวงเดียวกันเท่านั้นที่ถูกเชิญ ส่วนมากเป็นคนที่เขารู้จักอยู่แล้ว โดยงานครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่สวน ‘พิทักษ์’ ฟาร์มขนาดใหญ่อันเป็นสถานที่โด่งดังของจังหวัดนั่นเอง เวลานี้สนามหญ้าที่เคยโล่งเตียนจึงเต็มไปด้วยเก้าอี้สีแดง ซุ้มดอกไม้อยู่โดยรอบ แสงไฟสาดสว่างทั่วบริเวณ มีเวทีเล็กๆตรงกลาง วันนี้สิงหราชมากับวิกร เพื่อนวิศวกรรมเกษตรของเขา ซึ่งมันแยกไปไหนแล้วก็ไม่รู้

            “สวัสดีครับ นายหัว” เดินเข้ามาอ่อร่านายหัวเจ้าของที่ดินเกือบห้าพันไร้สาดส่องไปทั่ว ทุกคนต่างเดินมาที่สิงหราช มาโนชเจ้าของฟาร์มพิทักษ์แห่งนี้กล่าวกับชายหนุ่มเป็นคนแรก

            “สวัสดีครับคุณลุงโนช” เจ้าของไร่ธรภูมิยกมือขึ้นไหว้คนแก่กว่า

            “นายหัวนี่หล่อขึ้นทุกปีเลยนะครับ” เห็นทีไรมีแต่หล่อขึ้นๆ เขาคิดว่าสิงหราชดูคมคายขึ้นด้วย สมมาดนายหัวคุมลูกน้องเป็นพันคนจริงๆ

            “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” ชายหนุ่มปฏิเสธ เขาทำงานแต่ในไร่ เอาอะไรมาหล่อ

            “นายหัวสวัสดีครับ”                                   

            “นายหัวหล่อมากเลยครับ”

            “ไงหลาน สบายดีมั้ย” ไม่มีเพียงแค่มาโนชเท่านั้นที่กล่าวชม คนอื่นก็เข้ามาพร้อมกัน สารทุกสุดดิบกันด้วย งานไม่ได้จัดมานาน ทำให้อดคิดถึงความหลังไม่ได้

            เจ้าของไร่หรือนายหัวต่างๆ กล่าวทักทายกัน ก่อนจะแยกไปนั่งตามโต๊ะตัวเอง เพราะอาหารจะเริ่มแล้ว ตอนนี้เองที่สิงหราชเห็นวิกรโผล่หัวมา

            “นึกว่าไปตกส้วมที่ไหนซะแล้ว” มันเล่นเดินเข้ามาตอนจะกินเลี้ยงเลย ไม่มาตอนปิดงานไปเลยล่ะ

            “ส้วมเหี้ยไร กูไปคุยกับเพื่อนมา” วิกรส่ายหัว สิงหราชนี่ปากจัดเสมอต้นเสมอปลาย หนำซ้ำยังไม่สนใจใครด้วย นั่งยกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างทำหน้าดุสุดจนคนกลัว ทว่าสาวกลับชอบมันจัง ดูจากสาวน้อยสาวใหญ่ที่มากับพ่อและแม่ แอบชำเลืองมองสิงหราชกันเป็นแถว มีมองเขาบ้าง แต่ไม่สู้มัน

            “หาสาวละสิไม่ว่า” เจ้าของไร่ธรภูมิถอนหายใจ แต่ช่างเถอะ เขากับมันไม่ใช่พ่อลูกที่จะต้องทำตัวติดกัน มีขาก็เดินไป เขาไม่สนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้อยากกลับบ้านว่ะ น่าเบื่อ!

            “คิดถึงสาวในไร่มากกว่าว่ะ โดยเฉพาะน้องนาค คิดถึ๊ง คิดถึง” ความเบื่อหน่ายกลายเป็นความกรุ่นโกรธที่เรียกสติสิงหราชโดนพลัน

            “ว่าไงนะ...” เอ่ยถามเสียงทุ้มเย็น พลันปลุกให้วิกรขนลุก

            “...”

            “ไอ้กร มึงอยากตายก่อนกลับไร่ใช่มั้ย”

            “ล้อเล่นน้า ว่าแต่ใครเป็นคนจัดงานว่ะคุณปราณเหรอ” วิศรกรรมเกษตรเปลี่ยนเรื่อง เขากลัวหัวขาดซะก่อน

            “อืม คงงั้นมั้ง” สิงหราชตอบส่งๆ ตายังมองวิกรไม่วางตา

            “แหม ของชอบมึงนี่” อดหยอกเย้าสิงหราชไม่ได้ ถึงเขาจะกลัวมัน แต่เราก็เป็นเพื่อนกัน ต่อให้เกร็งใจแค่ไหน คำว่าเพื่อนก็ทำให้ทุกอย่างสบายๆอยู่ดี

            “ไอ้สัส เลิกพูด รำคาญ” แต่ดูท่าคงมีคนไม่สบายแล้ว เขาไง แต่ช่างเถอะ เขาอยากดูปฏิกิริยาของมัน อยากพิสูจน์ว่าจะเป็นอย่างที่คิดมั้ย

            “คอยดูเถอะ เดี๋ยวเขาก็เข้ามาทักมึง คุณสิงคะ คุณสิงขา”

            “หุบปาก”

            “ฮ่า ฮ่า มึงคอยดู” วิกรหัวเราะ

            “คุณสวัสดีค่ะ” เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย เพราะหลังจากวิกรพูดเสร็จเพียงชั่วอึดใจ หญิงสาวอวบอัดในชุดราตรีสีแดงผ่าอกก็เดินเข้ามา ความสวยของปราณนารีทำวิกรตาค้าง

            “อุ้ย คุณกรก็มาด้วยเหรอคะ สวัสดีค่ะ” ปราณนารียกมือไหว้วิกร เธอรู้จักชายหนุ่มเป็นอย่างดี แต่ละคนสำคัญในไร่ของสิงหราชเธอต้องรู้จักอยู่แล้ว

            “สวัสดีครับคุณปราณ คุณปราณสวยจังนะครับวันนี้” วิกรอดชมไม่ได้ ความจริงปราณนารีเป็นหญิงสาวที่สวยมาก เขารู้มาว่าพวกข้าราชการในจังหวัดจีบเธอตรึม ทว่าดูเหมือนเธอจะมาหลงเสน่ห์นายหัวดิบเถื่อนอย่างสิงหราชไม่ลืมหูลืมตา วิกรละเสียดายจริงๆ

            ปราณนารีปิดปากหัวเราะทำท่าผู้ดี “ขอบคุณค่ะ คุณกรก็หล่อเหมือนกันนะคะ ไม่ทราบว่าปราณพอจะนั่งโต๊ะด้วยได้มั้ย”

            “เชิญนั่งเลยครับคุณปราณ” มือใหญ่ผายมือให้นั่งลง ถึงนายหัวที่เป็นคนจ่ายเงินเดือนเขาจะถลึงตาใส่ก็เถอะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ลุกลาม

    แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ไฟ

    “มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   หนี

    "หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตามหาหัวใจ

    "นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ใจร้าย?

    “พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   การจากลา

    นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status