เนื่องจากนาราไม่มีเงินติดตัวสักบาท เธอเลยขอให้สิงหราชออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน นาราตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่ปลูกทุเรียนอย่างเดียว แต่จะปลุกพืชอื่นๆด้วย อย่างเช่น มะละกอ กล้วย เมล่อน ไม้ผลพวกนี้โตเร็ว เพียงหนึ่งปีก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
“เป็นยังไงบ้างคะพี่กร” เนื่องจากยังไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ นาราจึงขอตัววิกรมาช่วยด้วย ซึ่งเขาก็ตอบรับเป็นอย่างดี นาราดีใจมากๆที่มีคนเก่งมาร่วมงานแบบนี้
“น้องนาค” วิกรเงยหน้าจากการดูดินขึ้นมามองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนยิ้มให้ใกล้ๆ เพียงนารายิ้มออกมาทุกอย่างในไร่ก็ดูสดใสทันควัน เขาไม่แปลกใจเลยที่คนบางคนจะหลงเธอเป็นบ้าเป็นหลัง
“ดินดีมากครับ กรดด่างของดินอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 กำลังดีเลย” เขาทำการวัดค่ามาแล้วดินอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน พืชที่ดูแลยากและรากเน่าง่าย จะว่าไปเขายังทึ่งในตัวนาราอยู่เหมือนกัน ขณะที่สิงหราชไม่แตะพืชดูแลยากชนิดนี้ เพราะอื่นๆก็มากมายพอแล้ว แต่นารากลับอยากทำ
“ขอบคุณพี่กรมากนะคะที่มาช่วยนาค” เธอยื่นชาเย็นให้ วิกรรับไปพร้อมกับบอกเบาๆ
“ไม่เป็นไร พี่เต็มใจช่วย สำหรับน้องนาค พี่ยินดีทั้งนั้น” ยินดีทั้งที่เขาไม่สมหวังก็ตาม
“แต่พี่แปลกใจจริงๆที่ไอ้สิงยอมให้ที่ดินน้องนาคทำกินแบบนี้ แต่ก่อนมันไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเลย พี่น้องสักคนก็ไม่ให้ บอกว่าถ้าคนพวกนั้นไม่รู้จักการเกษตรดีพอจะทำให้ดินมันเสีย น้องนาคไปขออีท่าไหน มันถึงยอม”
“อีท่าไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง” เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ที่เดินเข้ามากอดคอนารา คนตัวเล็กรีบผลักเขาออก
“ร้อน”
“อยู่นิ่งๆ” ไหล่หนากดบนไหล่เล็กเบาๆ ดูท่าสิงหราชคงไม่ยอมปล่อยเธอไปแล้ว ร้อนขนาดนี้ยังกอด
“ทำๆไปมึงอ่ะ ถามไรเยอะแยะ” พูดกับคนในอ้อมแขนเสร็จก็เอ่ยกับวิศวกรรมเกษตรหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความยียวน อย่างวางมาด
“หวงก้าง” วิกรเอ่ยพลางส่ายหัวเบาๆ ไม่ว่ากี่ครั้งสิงหราชมักทำแบบนี้กับเขาเสมอ เห็นมาจนชินแล้ว
“มึงพูดอะไร กูได้ยินนะ” หน้าหนาแล้วยังหูตึงอีก วิกรละยอม ตาคมมองไปที่นารากับไอ้คนข้างๆอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้น
“รำคาญไปก็ได้” วิกรเดินหนีไปแล้ว ปล่อยให้นาราทำหน้าหงุดหงิดคนที่กำลังเกาะไหล่เธอ วันนี้เธอจะถามความรู้จากวิกรสักหน่อย ทว่าพังหมดเลย เพราะนายหัวเอาแต่ใจนี่!
“ทำไมไม่ขึ้นไปกินข้าว” สิงหราชไม่สนใจหน้าตาเง้างอด เป็นปลาทูหน้างอคอหักของคนตัวเล็ก เขาเชยปลายคางมนให้หันมามองกัน
“ก็ฉันยังไม่หิว” เสียงเอ่ยติดรำคาญ ก็ไม่ให้รำคาญได้ไง ก็เล่นไปที่ไหน เขาเล่นตามไปด้วย มีเธอก็เหมือนมีเขาที่นั่น ทุกวันนี้คนยกมือไหว้เธอหมดแล้ว คิดว่าเธอเป็นเขากระมัง
“อยากดูเขาไถกำจัดวัชพืชก่อน” แต่ช่างเถอะ ใช่ว่าจะโกรธอะไรนัก
“ขยันจริงรึเปล่า” มือใหญ่ยังคลึงปลายคางเล็ก แววตาคมคายฉายแววอ่อนโยนออกมา เขาไม่คิดว่านาราจะขะมักเขม้นขนาดนี้ หญิงสาวตื่นตั้งแต่ตีห้าทุกวันเพื่อเข้าไร่
“ก็จริงสิ ฉันจริงจังมากนะ” เธอตั้งใจมากจริงๆ อยากให้ทุกอย่างออกมาดี ถึงจะแย่ทีหลังแต่เธอจะไม่เสียใจเพราะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจแล้ว หยาดเหงื่อแต่ละเม็ดที่เสียไปจะได้คุ้มค่า
“งั้นต้องให้รางวัลเด็กดีสักหน่อยแล้ว” สิงหราชยิ้มพราย ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้
“คุณ! คนงานยังอยู่นะ” นารายันใบหน้าหล่อเหลาออก รีบมองไปที่คนงานที่กำลังไถดินอยู่
“มันไถดินอยู่ไม่เห็นหรอก” คนตัวใหญ่ยังไม่ยอม ขยับหน้าเข้าไปรุกรานริมฝีปากอวบอิ่มจนได้
“อื้อ คนบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย” นาราตีไหล่หนาแรงๆหลังจากเขาผละออก ริมฝีปากสีชมพูยังมีความมันวาวจากการจุมพิตเมื่อครู่ แล้วเธอต้องครางในลำคออีกครั้ง เมื่อเขาโน้มลงมาจูบใหม่
“อื้อ”
มือใหญ่ที่ตอนนี้เหงื่อซึมเล็กน้อยด้วยอากาศร้อนลูบไล้ไปทั่วส่วนเว้าสวนโค้งของคนตัวบาง ไม่สนใจอากาศระอุในยามบ่ายเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากอุ้มเธอเข้าห้องตอนนี้
“โอ๊ย ยัยแม่มด!” ทว่าเคลิ้มฝันได้ไม่นาน ก็ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี เมื่อนารากระทืบเท้าลงกับเท้าของเขา ผลักออก เดินสะบัดหน้าออกไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สิงหราชอดหัวเราะไม่ได้ เขาไม่ได้ตามเธอไป แต่เดินเข้าไปหาคนไถดิน และเพียงคนงานที่อยู่บนรถแทกเตอร์เห็นนายหัวใหญ่ก็หยุดรถทันที
“ไถดีๆละมึง เอาให้เรียบ หญ้าจะได้ไม่เกิดเร็ว” นายหัวของธรภูมิสั่งอย่างดุดัน ต่างจากอาการขี้เล่นเมื่อครู่ คนงานหนุ่มก้มหัวรับคำ ทำงานอย่างดี
“ครับนาย”
“อืม” นายหัวสิงหราชเดินออกไป ด้วยใจเบิกบานที่ได้แกล้งใครบางคน เขาคงเสียสติไปแล้ว เสียสติที่ต้องทำให้เธอคนนั้นด่าทุกวัน แทนที่จะโกรธ กลับชอบใจอย่างไม่มีเบื่อ
แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ
“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม
"หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้
"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให
“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ
นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั