วินาทีนั้นเองที่สิงหราชจับคนตัวเล็กมานั่งตัก เขานั่งลงบนโขดหิน กอดหญิงสาวไว้ ร่างบางไม่รู้ตัวอะไรเลย มัวแต่ดูดาว
“ไม่น่าล่ะ ถึงได้สวยขนาดนี้” มันสวยมากจริงๆ ได้เห็นทุกวันแบบนี้คงดี
“ทำไมคุณไม่เคยพามาที่นี่เลยคะ” หญิงสาวถามต่อ เพราะเธอไม่เคยมาที่นี่ ถ้าให้เดาตรงนี้คงเป็นส่วนหนึ่งของไร่แน่ๆ
“ไม่ได้เปิดให้ใครเข้า” สิงหราชตอบ เขาไม่เคยให้ใครมา มีเพียงเขาและครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าตรงนี้มีอยู่และมันก็สวยกว่าที่ไหนๆในอำเภอ
“แล้วทำไม ให้ฉันมา” ไม่ให้ใครมาแล้วให้เธอมาทำไม หรือว่า นาราตาโต
“นี่คุณจะจับฉันลงหน้าผาใช่มั้ย คนใจร้ายปล่อยนะ” มือน้อยทุบลงที่ไหล่แกร่ง เธอใจหล่นหายวูบเพราะอยู่ๆก็ถูกอุ้มเดินตรงหน้าไปยังหน้าผ่าจริงๆ ร่างเล็กไหวสั่น ก่อนจะกรีดร้องออกมาเมื่อเขาทำท่าโยนเธอลงด้วยความเร็วสูง
คนตัวเล็กกู่ร้องในลำคอ “นี่คุณ ทำจริงๆเหรอ”
“ฮื้อ กลัวปล่อย” ไม่ไหวแล้วเธอต้องเป็นลมแน่ๆ
นาราหลับตาปี๋ ความกลัวแผ่ซ่านเต็มหัวใจ ก่อนมันค่อยๆหายไปเมื่อนายใหญ่รวบเธอเข้าไปกอด ใจดวงน้อยเต้นช้าลง เท้าของหญิงสาวแตะพื้น พร้อมกับริมฝีปากที่ถูกรุกรานอย่างหนัก
“อื้อ แฮ่ก” รู้สึกวาบหวามในช่องท้อง ยิ่งในยามมือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ความเสียวซ่านยิ่งถูกปะทุขึ้นมา ค่ำคืนนี้เธอใส่เสื้อเชิ้ตของสิงหราชเพียงตัวเดียว เป็นการเปิดทางอย่างง่ายดายให้คนใจร้ายสำรวจราวกับคว้านหาสมบัติ
นาราราวกับหยุดลมหายใจ เมื่อมือหนาเคล้นคลึงเข้าที่เนื้อก้นนิ่มของเธอ หญิงสาวครางในลำคอ ทว่าออกมาเพียงเสียงอึกอื้อ เพราะถูกคนตัวใหญ่ครอบครองริมฝีปากไว้เสีย
“อ๊ะ” เสียวแปลบตรงหน้า เมื่อสิงหราชซุกไซ้ลงมาตรงนั้น แขนแข็งแกร่งของเขาประคองคนตัวเล็กไว้ กลัวเป็นลมไปเสียก่อน ก่อนที่จะอุ้มนาราขึ้น ให้นั่งตักเขาที่นั่งบนโขดหินอีกที
“อ่ะ อื้อ” นาราส่งเสียงในลำคอเมื่อหน้าอกถูกเคล้นและลำคอถูกดูดเม้มจากด้านหลัง แก้มก้นบดกลึงกับต้นขาแกร่ง ตรงผิวส่วนนั้นร้อนวูบราวกับเปลวเพลิง
“หนูสวย”
เวลาบนเตียงนั้นสิงหราชมักเอ่ยคำหวานเสมอ ริมฝีปากชายหนุ่มลากไล้ไปทั่ว ไปตรงไหนก็ร้อนๆหนาวๆตรงนั้น
“ถอดหน่อยนะ” มือใหญ่ร้อนผะผ่าวเกี่ยวกางเกงชั้นในตัวจิ๋วออกไป เขาไม่รู้สึกรังเกียจเลยที่น้ำขุ่นใสเปรอะเปียกกางเกงราคาหลายพันของเขา กลับรู้สึกชอบใจเสียมากกว่า
“อ๊า อื้อ” ร่างของนาราถูกจับให้โยกคลึงกับความนูนเด่นที่พองขยายเต็มกางเกง ในยามนี้ร่างกายของเธอแทบเปลือยเปล่า เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมเพียงครึ่งทาง สาบเสื้อแหวกออกตกลงมาที่ไหล่ ไม่รวมไปถึงชายเสื้อถูกเลิกขึ้นจนถึงเอว เผยให้เห็นเนินสาวที่นูนเด่นในความมืดมิด
มือใหญ่จับเธอโยกคลึงไปแบบนั้น หญิงสาวก็โยกตัวขึ้นเพื่อสัมผัสตัวตนของชายหนุ่มทางร่องรักได้ถนัด ตอนนี้สิงหราชทำเธอเป็นสาวร่านเซ็กไปแล้ว เธอพึ่งรู้ตัวว่าตนเองเร่าร้อนได้ขนาดนี้เหมือนกัน
“จะเสร็จแล้วเหรอ เดี๋ยวสิ”
ในตอนที่กำลังถึงฝั่งฝันนั้น มือหนากลับจับเอวบางค้างไว้ ก่อนยกลงมาวางหน้าขาเบาๆ นาราขัดใจ เธอยังคงความรู้สึกต้องการอย่างเต็มเปี่ยม
“อื้อ” คนตัวเล็กที่กำลังหายใจรวยรินอยู่ๆถูกจับจูบไม่รู้กี่ครั้ง สิงหราชตรึงคางเธอแน่น บดบี้ริมฝีปากลงมาด้วยความเร่าร้อน
“อยากได้อะไร” สะโพกนาราโยกคลึงกับตัวตนคับใหญ่ ความเสียวแปลบแล่นพล่านไปทั่วบริเวณกลางกาย
เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว
นาราพลิกตัวลงไปนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม เธอปลดเข็มขัดของสิงหราชออกมา ก่อนดึงกางเกงจนมันร่นลงมาอยู่ที่ข้อขา
มือเล็กลูบคลำความใหญ่โตภายใต้เนื้อผ้าชั้นดี ก่อนจะถอดกางเกงเขาออก เปลี่ยนเป็นปากที่ครอบทับท่อนเนื้อแทน
“อ๊า” สิงหราชเกร็งตัว พรูลมหายใจเข้า ความเสียวซ่านแล่นไปถึงขั้วหัวใจ ผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ทำไมเขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะทำให้หลายครั้ง ทว่าความสั่นไหวในอกนั้นกลับไม่จางหายไปสักที และเขารู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร
“แค่ก” นาราสำลักเล็กน้อยเมื่อท้ายทอยถูกมือใหญ่จับให้รับกับตัวตนเขามากขึ้น ความใหญ่โตครูดกับคอหอยแต่คนตัวเล็กใจสู้ กระทั่งสุดท้ายสิงหราชทนไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำขุ่นใสเข้ามาในโพรงปากทุกหยาดหยด
“ฮื้อ” ปากน้อยถูกจับเข้าไปจูบอีกครั้ง โดนจับให้นั่งลงบนตักแกร่ง ใบหน้าสวยเอียงคอแลบลิ้นเลียสลับกับลิ้นร้าย ขณะที่ช่องทางด้านล่างถูกเอ็นเนื้อแทรกเข้ามา
“อ๊ะ!”
ร่างกายสั่นไหวไปด้านหน้าด้วยความเกร็ง หญิงสาวหลับตาลงเมื่อสะโพกสอบทำหน้าที่ขยับเข้าออกอย่างไม่เป็นจังหวะ ความหนักหน่วงและเสียวซ่านปั่นป่วนช่องท้องราวกับกำลังจะตาย
เกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ สิงหราชลูบคลำไปทั่วตัวคนตัวเล็ก ขาเรียวทั้งสองข้าง เอวคอดกำลังดี ทรวงอกเปลือยเปล่า ลำคอระหง
ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้าใส่รุนแรง ริมฝีปากก็ดอมดมเอาความหอมกรุ่นเข้าปากไปด้วย นับวันยิ่งรู้สึกหลงใหลคนตัวน้อย
“เสร็จพร้อมกันนะ” เสียงทุ้มใหญ่กระซิบข้างใบหู สวนทุ้งสะโพกขึ้นมา นาราเบ้หน้าด้วยความเสียว เธอระบายมันออกมาด้วยการจิกเล็บลงบนแขนคนตัวใหญ่
“อ๊า/ อ๊า”
ในที่สุดทั้งสองก็สุขสมออกมาพร้อมกัน
“คนบ้า คนลามก หน้าผายังไม่เว้น” ใบหน้าสวยซบลงกับอกแกร่ง หญิงสาวนั่งอยู่บนตักเขา ตอนนี้เธอไม่มีแรงเลย เหนื่อยไปหมด ทำไมสิงหราชถึงได้แรงดีขนาดนี้
“เธอก็ยั่วฉันด้วยไม่ใช่เหรอ ใครปลดกางเกง?” ชายหนุ่มกระซิบใบหูขาว อดไม่ได้เลยขบเสียทีหนึ่ง นาราสะดุ้งเฮือก แต่ไม่ได้ผลักเขาออก ปากน้อยบ่นงึมงำ
“แล้วใครให้จูบก่อนละ นี่คนนะ ไม่ใช่หุ่นยนต์จะได้ไม่รู้สึกอะไรน่ะ” ยิ่งในตอนที่ถูกเขาสัมผัสร่างกาย เธอเหมือนโดนปลุกปั่นเป็นพิเศษ สิงหราชรู้ดีว่าจะต้องทำยังไงให้เธอต้องการเขา เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน
“แล้วรู้สึกอะไร” เขายังเย้าแหย่ ริมฝีปากใกล้ชิดใบหน้าสวยไม่ห่าง
“อะไร” ชอบถามอะไรก็ไม่รู้
“ฉันถามว่ารู้สึกอะไร”
“คนบ้าไม่คุยด้วยแล้ว” คนตัวเล็กผละออก เธอรีบติดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเอง แล้วทันใดนั้นเธอก็ต้องกรีดร้องเมื่อถูกเขาอุ้มขึ้นไปบนอ้อมแขนอีกครั้ง
“มาอุ้มทำไมเนี่ย” นาราเบิกตากว้างเพราะร่างกายเหมือนเล่นรถไฟเหาะ สิงหราชแกล้งเธอเหมือนจะโยนลงหน้าผาให้ได้ ทำให้เธอทั้งด่าและไล่ตีเขากระทั่งมาถึงบ้าน
แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ
“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม
"หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้
"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให
“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ
นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั