Share

๑๙ พระรองผู้แสนดี

Penulis: วอลจู
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-15 23:03:02

หลังจากได้ยินถ้อยคำนั้น เฟิ่งจิงหรงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองบุรุษตรงหน้า นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเบิกกว้าง กระพริบปริบๆ แก้มทั้งสองข้างพองอูมเต็มไปด้วยขนม มองแล้วคล้ายกระต่ายน้อยที่น่าชวนให้เอ็นดู

“เคี้ยวให้หมดแล้วกลืนลงท้องก่อนแล้วค่อยพูด”

จ้าวอวี้หมิงเอ่ยเสียงทุ้ม เมื่อเห็นสตรีตรงหน้าทำท่าจะอ้าปากพูด ทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยขนม

เฟิ่งจิงหรงกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเคี้ยวต่ออย่างตั้งใจ ริมฝีปากขยับพึมพำ ขนมแทบจะล้นออกจากปาก แต่ก็พยายามกลืนลงไปทีละคำอย่างเชื่องช้า ราวกับจงใจยืดเวลาให้อีกฝ่ายได้เห็นท่าทางน่ารักของนาง

มุมปากหนาของจ้าวอวี้หมิงคลี่ยกขึ้นเล็กน้อย สายตาคมทอดมองด้วยแววเอ็นดูอย่างอดยิ้มไม่ได้ “กลืนให้หมดแล้วค่อยพูด” เขาย้ำอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและแฝงความอ่อนโยน

“สามีที่ดี…คุณชายหมายความว่า ยินดีจะเป็นสามีของข้าใช่หรือไม่” เฟิ่งจิงหรงเอ่ยถาม แววตาฉายความคาดหวังชัดเจน

หัวใจดวงน้อยเต้นแรงราวกับกระต่ายน้อยที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นตัว นางเม้มริมฝีปากแน่น สายตาจับจ้องริมฝีปากหนาของเขาอย่างรอคอย มือเล็กยกขึ้นแตะแก้มตัวเองเบาๆ คล้ายจะย้ำกับใจว่าไม่ได้ฝันไป

นางตามเกี้ยวบ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
mailชัชชญา สุ่มแสง
กำของคนอ่าน..
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๕ พระรองผู้นี้เป็นของข้า

    บรรยากาศภายในห้องโถงอาหารเงียบกริบลงชั่วขณะเมื่อคำถามของนายท่านเฟิ่งหลุดออกมา สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองไปยังคุณชายจ้าวด้วยความคาดหวัง…ไม่เว้นแม้แต่เฟิ่งจิงหรงนางลอบเหล่หางตามองบุรุษข้างกาย หาได้หันไปสบตาเขาโดยตรง ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนจะหันไปมองบิดาราวกับห้ามปราม“ท่านพ่อ” น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น พลางถอนหายใจหนักอึ้งออกมาเฮือกหนึ่ง นางหาได้ต้องการบีบบังคับให้จ้าวอวี้หมิงต้องรู้สึกกดดัน อึดอัดหรือลำบากใจอันใด“กินข้าวกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะเย็นชืดแล้วไม่อร่อยได้”เฟิ่งฮูหยินเข้าใจได้ว่าบุตรสาวคงรู้สึกลำบากใจใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะปรายไปมองบุรุษหนุ่มตรงหน้า “นายท่านเฟิ่งเพียงแค่หยอกล้อเท่านั้น คุณชายจ้าวอย่าได้กังวลไปเจ้าค่ะ”พอสิ้นคำ จ้าวอวี้หมิงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าเคร่งขรึมฉายแววครุ่นคิดอย่างชัดเจน มุมปากหนาผุดรอยยิ้มจางๆ น้ำเสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบก่อนจะยกตะเกียบคีบอาหารวางลงชามให้สตรีข้างกายราวกับเป็นสิ่งที่ควรทำ หาใช่เรื่องแปลก“คุณหนูเฟิ่งงดงามไม่น้อย ข้าว่าบุรุษใดที่เห็นแล้วก็ต้องหันกลับมามองทั้งสิ้น”ถ้อยคำเรียบง่ายกลับหนักแน่นดั่งหินผา ดังก้องสะท้อนอยู่ในห้องโถงร

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๔ ความรักค่อยๆ งอก

    หลายวันผ่านไป หลังงานมงคลใหญ่ระหว่างสกุลเซียวและสกุลไป๋เสร็จสิ้น ทว่าเสียงซุบซิบนินทาก็ยังไม่ยอมจางหาย ข่าวคราวต่างเล่าลือกันไม่หยุด ว่าเจ้าบ่าวหรือคุณชายเซียวหาได้ชืนมื่นหรือมีสีหน้ายินดีไม่ แววตากลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมยามได้เห็นอดีตคนรักอย่างคุณหนูเฟิ่งมาร่วมงาน แถมยังเผลอทอดสายตามองด้วยความอาลัยอาวรณ์ ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายถอนหมั้นเสียเองส่วนคุณหนูไป๋ผู้เป็นเจ้าสาว แม้ใบหน้าจะถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมผืนบาง แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับขุ่นมัวและหม่นหมอง หาได้เบิกบานแต่อย่างใดเฟิ่งจิงหรงหาได้ใส่ใจคำพูดเหล่านั้นนัก หากคนร้อยคนเอ่ยปากก็เป็นร้อยความหมาย นางไม่อยากเก็บมาใส่ใจว่าเซียวจิ้นอวิ๋นจะยังคงเหลือเยื่อใยหรือไม่…?หรือคุณหนูไป๋จะทุกข์ใจเพียงใด…?เพราะนับจากวันที่นางเอ่ยปากหยอกล้อชักชวนบุรุษผู้นั้นให้มาเยือนจวนเล่นๆ ก็ไม่เคยคาดคิดว่าหลังจากนั้น จ้าวอวี้หมิงจะเริ่มแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง พร้อมข้ออ้างที่ชวนให้หัวเราะอยู่ร่ำไป“ข้าผ่านมาทางนี้พอดี…ในรถม้ามีขนมติดมาจึงนำมาฝาก”หรือไม่ก็ “วันนี้ฝนตกหนักยิ่งนัก ข้าเลยแวะมาดูว่าหลังคาเรือนคุณหนูเฟิ่งรั่วหรือไม่”เฟิ่งจิงหรงถึงกับหัวเราะร่อออกมาจนเ

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๓ บทสรุปของพระนาง

    ยามเช้าของวันงานแต่ง แม้ว่าบรรยากาศจะอบอวลไปด้วยความเป็นมงคล ทั้งจวนสกุลไป๋และสกุลเซียวต่างเต็มไปด้วยความรื่นเริงยินดี หากแต่ภายใต้ความครึกครื้นนั้นกลับเจือปนด้วยความหม่นหมองของคู่บ่าวสาวไป๋หว่านชิงสวมชุดเจ้าสาวสีแดงฉาน ใบหน้างดงามถูกคลุมด้วยผ้าผืนบางรอคอยให้เจ้าบ่าวเป็นผู้เปิดในคืนเข้าหอ นางกล่าวลามารดาอยู่เพียงสองสามประโยค ก่อนจะขึ้นเกี้ยวรถม้า โดยมีสาวใช้คอยประคองอย่างระมัดระวังอยู่ไม่ห่างว่ากันตามตรงแล้ว ความรู้สึกในยามนี้ของเจ้าสาวควรเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี ทว่าในห้วงความคิดลึกๆ ของไป๋หว่านชิงกลับเต็มไปด้วยความขุ่นมัว ภาพของสตรีผู้นั้นยังคงฉายชัดในความทรงจำ และทุกครั้งที่นึกถึง แววตาของจ้าวอวี้หมิงที่ทอดมองสตรีผู้นั้นก็มักแวบขึ้นมาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียงฆ้องกลองและขบวนแห่เจ้าสาวดังขึ้นเอิกเกริกผู้คนมากมายต่างออกมายืนเบียดเสียดสองข้างทางเพื่อรอชมงานด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะเดิมทีแล้วงานแต่งครั้งนี้ผู้ที่ควรได้เป็นเจ้าสาวคือคุณหนูเฟิ่งหากแต่ชะตากลับพลิกผัน กลายเป็นคุณหนูไป๋ซึ่งเป็นเพียงบุตรสาวตระกูลพ่อค้า กลับได้วาสนาดีแต่งเข้าสกุลขุนนางใหญ่โตขบวนเกี้ยวเคลื่อนไปยังจุดหม

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๒ การกระทำอ่อนโยน

    บรรยากาศยามบ่ายคล้อยภายในจวนสกุลเฟิ่งเงียบสงัด มีสายลมเอื่อยเฉื่อยพัดผ่านสวนดอกเหมย กลีบดอกสีแดงสดโปรยปรายร่วงลงบนพื้นหินที่ชื้นเย็น เฟิ่งจิงหรงเพิ่งกลับถึงจวนได้ไม่นานก็พาลอารมณ์เสีย จนเหล่าสาวใช้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา นางกระทืบเท้าเดินกลับเรือนด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งฉายประกายแข็งกร้าว ทั้งตลอดทางน้ำเสียงหวานยังบ่นพึมพำไม่หยุดด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่ออกจากสกุลจ้าวจนถึงจวน“หึ! สกุลจ้าวหรือจะอดอยากถึงเพียงนั้น ขนมหวานพรรค์นั้นใช่ว่าจะหาซื้อไม่ได้ เพียงแต่ข้าอยากเจอหน้าเขาต่างหาก หาใช่อยากกินสิ่งใดเสียเมื่อไร!” นางบ่นพลางผลักบานประตูเรือนเสียงดัง กระแทกกำแพงจนเหล่าสาวใช้พากันก้มหน้าก้มตาเงียบกริบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงทว่าไม่นานเสียงฝีเท้าเร่งรีบก็ดังขึ้น สาวใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาด้วยความเหน็ดเหนื่อย หอบหายใจแรงพลางรายงานเสียงตะกุกตะกัก “คุณหนูเจ้าคะ! คุณชายจ้าว…มาขอพบเจ้าค่ะ!”เฟิ่งจิงหรงสะดุ้งเล็กน้อย สีหน้าบึ้งตึงคลายลงชั่วขณะ ก่อนเชิดหน้าขึ้น ปั้นสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ ราวกับไม่สนใจใยดีทว่าภายในใจกลับลอบยิ้ม เกรงว่าตอนนี้นางคงมีน้ำหนักไม่น้อยในใจบุรุษผู้นั้น เ

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๑ ยื้อแย่งขนมหวาน

    เฟิ่งจิงหรงสบเข้าตากับไป๋หว่านชิง บรรยากาศในจวนพลันหนักอึ้งจนเหล่าสาวใช้ต่างรู้สึกกระอักกระอ่วนชวนให้อึดอัดอยากวิ่งหนีออกไปเสียให้พ้นจากตรงนี้ หากแต่ก็ไม่ผู้ใดกล้าแม้แต่ขยับตัวเพราะเหตุการณ์ตรงหน้านี้ หาใช่เพียงการยื้อแย่งขนมหวานเท่านั้น แต่ขนมหวานชิ้นนั้นกลับมีความหมายประหนึ่งแทนตัวคุณชายจ้าว มีหรือผู้ใดจะไม่รู้ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษกับสตรีนั้น ยากนักที่จะเป็นเพียงสหายโดยไร้ความหมายอื่นปะปน เหล่าสาวใช้ ได้แต่ยืนนิ่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าตาปริบๆ ลุ้นระทึกว่าผู้เป็นนายจะตัดสินใจเช่นไร จะขับไล่คุณหนูไป๋ออกไปแล้วรั้งคุณหนูเฟิ่งให้อยู่ร่วมดื่มน้ำชากินขนม พูดคุยอย่างเช่นทุกวัน หรือจะเลือกให้คุณหนูเฟิ่งกลับไปก่อน แล้วเก็บคุณหนูไป๋ไว้ข้างกายดังเช่นที่ผ่านมา เฟิ่งจิงหรงยกมือกอดอก ริมฝีปากคลี่เหยียดยกยิ้มเย้ยหยัน กล่าวว่า “อือ! เช่นนั้นข้าจะจำเอาไว้ ว่าต่อให้เป็นเพียงขนมชิ้นเล็กๆ คุณหนูไป๋ก็ไม่มีน้ำใจแบ่งปันให้ผู้ใดเลย!” ไฉนนางจะไม่เข้าใจว่าคำพูดนี้ของไป๋หว่านชิงแท้จริงแล้วกำลังสื่อถึงสิ่งใดอยู่ หากเปรียบจ้าวอวี้หมิงเป็นขนม ยามนี้นางกำลังหยิบเอาเข้าปากอยู่แล้ว หากคิดจะมาแย่ง เกรงว

  • นางร้ายผู้นี้ขอทวงคืนพระรอง   ๒๐ ความอดทนขาดสะบั้น

    เสียงกรีดร้องเล็กแหลมบาดหูของไป๋หว่านชิงปะทุออกมาพร้อมโทสะที่สุมอยู่ในอกมานานหลายวัน ร่างบางสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด นัยน์ตาเมล็ดซิ่งแดงก่ำราวกับมีเพลิงไฟกำลังลุกโชน เพียงเพราะแค่ได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่ก็คล้ายกับว่ามีผู้จุดเชื้อเพลิงลงในกองไฟโทสะให้ลุกท่วมทันทีหมายความว่าอย่างไรกัน!?ที่ให้ต้มน้ำชาร้อน เตรียมขนมไว้เช่นนั้นก็เพื่อเฟิ่งจิงหรงงั้นหรือ!?สตรีผู้นั้นแวะเวียนมาที่นี่ลับหลังโดยที่นางไม่รู้ และไม่มีผู้ใดเอ่ยปากบอกแม้แต่น้อยอย่างงั้นหรือ!ไป๋หว่านชิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อหากแต่ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด นางกัดฟันกรอด แค่นถ้อยคำลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงหวานที่สั่นเครือเจือด้วยความน้อยใจ ขุ่นเคืองและประชดประชัน “นึกไม่ถึงว่าคุณชายจ้าวและคุณหนูเฟิ่งจะสนิทสนมถึงขั้นไปมาหาสู่กันเช่นนี้นะเจ้าคะ”ริมฝีปากนางคลี่ยกยิ้มเย็นเยียบ ความอดทนที่ยังเหลืออยู่ได้ขาดสะบั้นลงสิ้น ไม่อาจเสแสร้งปั้นหน้ายิ้มเข้าใจอีกต่อไปยามนี้ต่อให้จ้าวอวี้หมิงจะคิดอย่างไร นางก็ไม่ใส่ใจอีกแล้ว ขอเพียงได้ระบายโทสะที่อัดแน่นอยู่ในอกออกมาก่อนเช่นนั้น...เกรงว่าคงได้กระอักเลือดออกมาแทน!ใบหน้าคนงามบิดเบี

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status