จวนเฉินหลี่หมิง เขามักจะชอบไปนั่งเล่นที่เรือนเล็กที่เคยเป็นของเพ่ยอิง เขามักจะเหม่อมองและเห็นไปว่าในเรือนเล็กนั้นมีร่างของนางเดินไปมาทำกิจวัตรประจำวันอยู่ บางครั้งก็เห็นบ่าวของนางเดินไปมาในนั้นอยู่ไหวเมื่อมองจากที่ไกล ๆ หรือไม่ เขามองมาก็มักจะเห็นเพ่ยอิงนั่งอยู่ที่ชิงช้าและไกวมันเล่นช้าๆ บางครั้งเห็นนางรดน้ำต้นไม้หรือถอนหญ้าหน้าเรือนของนาง บางครั้งเขานอนหลับก็ฝันไปว่านางทำอาหารและขนมมาให้เขารับประทานเช่นที่นางเคยทำ ในฝันนั้นเขารับมันเอาไว้อย่างเต็มใจ โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนและหอมแก้มนางอย่างรักใคร่ เขาพานางไปนั่งที่โต๊ะกลมในห้องโถงกลางของเรือนเขา แล้วชิมอาหารหรือขนมของนางอย่างเอร็ดอร่อย นางหยิบมันป้อนให้เขา ทั้งสองนั่งหยอกเย้ากัน พลอดรักกันอย่างมีความสุข บางครั้งเขาก็ฝันถึงวันที่เขาบรรเลงเพลงรักกับนางอย่างเร่าร้อน รุนแรง ในฝันนั้นเขามีความสุขมากเหลือเกิด เมื่อจบเพลงรักนั้นเขาโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนแกร่งของเขาแล้วผล็อยหลับไปด้วยกัน เขายิ้มมุมปากอย่างมีความสุขเหลือเกิน หากเขาไปทำงานในตอนเช้านางจะมาส่งเขาขึ้นรถม้าและนางมักจะห่ออาหารหรือขนมที่นางทำเองส่งให้เขาเพื่อนำไปกินที่ทำงาน แล
ท่านแม่ทัพตงเหวินเดินเป็นเสือติดจั่นที่หน้าเรือนตัวเอง สลับกับพ่อตาท่านเสนาบดีจง ผลัดกันเดินสลับไปมาจนกระทั่งท่านแม่ทัพตงฮั่วกับฮูหยินใหญ่ทนไม่ไหว “โอ้ย จะเดินไปมาทำไมกันข้าเวียนหัวจะตายแล้ว ใช่ใช่เอายามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ข้าไม่ไหวแล้ว ”ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว เพราะเฝ้ามองทั้งสองคนเดินสวนสนามกันไปมาได้สักพักใหญ่แล้ว เสียงกรีดร้องเจ็บปวดของเพ่ยอิงดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้ทั้งหมดขะเง้อคอมองเข้าไปในห้องแม้จะไม่มีใครเห็นอะไรก็ตาม ก็ยังจะชะเง้อกันเป็นระยะถ้าได้ยินเสียงอะไรดังขึ้น สักพักแม่นมลู่วิ่งออกมารายงานใกล้แล้วเจ้าค่ะ อีกสักครู่ก็น่าจะได้เห็นคุณหนูตัวน้อยๆแล้ว ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันดีใจสุดๆ จากนั้นแม่นมลู่ก็กลับเข้าไปในเรือนอีกครั้ง เสียงกรีดร้องของเพ่ยอิงดังขึ้นกว่าเดิมจนทุกคนตะลึง จากนั้นก็มีเสียงทารกร้องแว่วๆออกมา ทุกคนพากันโห่ร้องขึ้นมาแม้แต่บ่าวไพร่ก็ร่วมขบวนนี้ด้วย จากนั้นแม่นมลู่ก็ออกมาอีกครั้ง “ ได้คุณหนูแฝดเจ้าค่ะ ชายหนึ่ง หญิงหนึ่งคน ”สิ้นเสียงแม่นมลู่ เสียงโห่ร้องดีใจประสานกันอีกครั้ง หน้าท่านแม่ทัพตงเหวินบานยิ่งกว่าจานเชิง ส่วนพ่อตาเสนาบดีจงก็บานแข่งกัน พากันวิ่งแ
เมื่อท่านแม่ทัพตงเหวินและฮูหยินน้อยมาถึงห้องโถงกลาง พบว่าทุกคนนั่งรออยู่บนเก้าอี้มุกรอบๆหลายๆคน มีทั้งท่านแม่ทัพตงฮั่วและฮูหยินใหญ่ ข้างมีบิดามารดาของฟางถิงถิงซึ่งเป็นญาติผู้น้องของฮูหยินเหม่ยเซียง ถัดมาเป็นบิดามารดาของรองแม่ทัพซีห้าวเมื่อเดินไปถึงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ทั้งสองสามีภรรยาก็นั่งลงข้างกัน ทั้งสองมองที่บนพื้นตรงหน้าของท่านแม่ทัพใหญ่กับฮูหยินมี รองแม่ทัพซีห้าว และฟางถิงถิงนั่งอยู่ข้างกัน “ เมื่อมาครบกันแล้ว เรื่องราวเป็นอย่างไร เจ้าลองเล่ามา ใครจะพูดก่อน ” เสียงท่านแม่ทัพใหญ่ดังขึ้นวันนี้เสียงค่อนข้างจะเกรี้ยวกราดผิดจากทุกวันเพ่ยอิงมองไปที่คู่ที่นั่งอยู่ข้างล่าง แม่ทัพซีห้าวเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนว่าเขามาเยี่ยมท่านแม่ทัพตงเหวินแล้วเข้าไปในห้องหนังสือที่ปกติเขาเข้าไปพบปะกันที่นั่นเป็นประจำ วันนี้เข้าไปไม่พบท่านแม่ทัพ แต่มีถ้วยน้ำแกงวางอยู่เขารู้สึกระหายก็เลยยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย จากนั้นเขารู้สึกร้อนรุ่มเกิดอารมณ์กำหนัดอย่างรุนแรงเขาเป็นทหารที่เคยฝึกเกี่ยวกับเรื่องพิษมาก่อนจึงรู้ว่าใช่อาการของยาปลุกกำหนัดแต่มันเป็นชนิดรุนแรงมาต้องใช้ยาแก้ทันทีหรือไม่ก็ต้องเสพสมกับสตรีในทันทีเช่นกันไม่อ
เพ่ยเอ๋อลงจากรถม้าหน้าจวนแม่ทัพพร้อมใช่ใช่ บ่าวหน้าจวนดูลุกลี้ลุกลนชอบกล ชักช้าเหมือนถ่วงเวลา จากนั้นรีบไปเรียนฮูหยินใหญ่ว่าฮูหยินน้อยมาแล้ว ใช่ใช่เห็นความผิดปกติของบ่าวหน้าจวนสังหรณ์ใจว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน "ฮูหยินน้อยรีบเข้าไปหาท่านแม่ทัพในจวนเถิดเจ้าค่ะ ใช้ใช่สังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องกับท่านแม่ทัพ ไปเจ้าค่ะ"ใช่ใช่ รีบฉุดมือฮูหยินน้อยวิ่งไปโดยเร็ว เมื่อไปถึงหน้าเรือนที่พำนักกับสามี เมื่อแม่ทัพตงได้ยินเสียงเมียก็รีบส่งเสียงเรียก" เพ่ยเอ๋อรีบเข้ามาช่วยพี่เร็วๆ" เพ่ยอิงตรงเข้าไปหลังฉากกั้นที่มีถังอาบน้ำขนาดใหญ่ที่แช่ได้ครั้งละสามคน เห็นแม่ทัพตงเหวินถอดเสื้อผ้าแช่ตัวอยู่ ใบหน้าขึ้นสีแดงแปลกๆดวงตาแดงก่ำ จึงรีบตรงไปหา “ท่านพี่เป็นอะไร” แม่ทัพตงร้องเสียงดัง “ถอดเสื้อผ้าเจ้าเดียวนี้ แล้วรีบลงมาในอ่างพี่ถูกยาปลุกกำหนัดเร็วๆเข้า” เพ่ยเอ๋อรีบถอดเสื้อจนหมดก้าวลงไปในอ่างทันทีพร้อมขึ้นคร่อมสามี แม่ทัพตงประกบจูบเมียรัก ไล้เลียผลอิงเถาสีแดงเล็กน้อย ก่อนค่อยๆขยับลำกายแกร่งเข้าสอดใส่จนสุดลำกาย แล้วขยับโยกช้าๆ เพ่ยอิงยกสะโพกกระแทกลงมาจนร่องอวบกลืนกินท่อนแกร่งของสามีจนมิดลำกาย ยกสะโพกขึ้นลงข
ฟางถิงถิงอึ้งงันไป "หลานจะขอให้ท่านป้าช่วยหลานเรื่องหนึ่งจะได้หรือไม่เจ้าคะ " ฮูหยินใหญ่เงยหน้ามองหลานสาว "จะให้ป้าช่วยอะไร " ถิงถิงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูของท่านป้า เมื่อได้ฟังเรื่องราวจบลงแล้วนั้น นางเอามือทาบอก ทำหน้าตกใจกึ่งประหลาดใจในแผนการณ์ของถิงถิง" เจ้าจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้จริงหรือ หากว่ามีอะไรผิดพลาดเจ้าจะอับอายมากนะ จะแต่งให้ใครอื่นอีกจะได้หรือ " ถิงถิง จับมือท่านป้าอ้อนวอนน้ำตาคลอ หลานรักปักใจเพียงท่านพี่มามาเนิ่นนานแล้ว แม้หลานจะรู้ว่าท่านพี่ไม่มีใจให้หลาน แต่หลานไม่มีวิธีการใดอีกที่หลานจะสมหวังกับท่านพี่ จึงต้องทำเช่นนี้ ขอท่านป้าได้โปรดเห็นใจหลานด้วยเจ้าค่ะ" ฮูหยินใหผ่นิ่งงันไปครู่ใหญ่ มองใบหน้านองน้ำตาอย่างเห็นใจ " เอาละป้าจะช่วยเจ้าอีกครั้งหนึ่ง หากสำเร็จเจ้าก็จะสมหวัง ตงเหวินคงต้องรับผิดชอบเจ้า ป้าก็คิดว่าหากจะทำทางอื่นคงไม่สำเร็จเพราะตงเหวินไม่ยินยอมรับใครมาเป็นเมียรองอย่างแน่นอนๆ ถิงถิงเช็ดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กๆ"เจ้าค่ะ" หลายวันผ่านไป วันนั้นเพ่ยอิงกลับจวนไปเยี่ยมท่านเสนาบดีจง เมื่อฮูหยินใหญ่และถิงถิงเห็นเป็นโอกาสที่เฝ้ารอกันมาหลายๆวัน อีกทั้งท่านแม่ทัพตงฮั
สายๆวัยต่อมา ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นหลังทั้งหมดทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว "ข้าจะให้ถิงถิงแต่งเข้ามาเป็นเมียรองอีกคน เจ้าจะว่าอย่างไร " พลางหันไปที่ท่านแม่ทัพตงเหวิน เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา เขานิ่งงันไปชั่วขณะ หันไปมองหน้าของเมียรักเห็นนางนิ่งเงียบไป เขาใจไม่ค่อยดีกลัวนางจะน้อยใจ จึงหันไปบอกท่านแม่ว่า"ข้าไม่ได้รักชอบถิงถิงในเชิงชู้สาว เห็นนางมาตั้งแต่เด็กคิดกับนางเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น " ฮูหยินใหญ่อึ้งไปครู่หนึ่งกับคำตอบของบุตรชาย " แล้วเพ่ยเอ๋อจะว่าอย่างไร ถ้าแม่จะให้ถิงถิงมาเป็นเมียรอง " เพ่ยอิงเงยหน้าขึ้นมองแม่สามีในใจนางเจ็บแปลบเล็กๆ พลางตอบว่า" เรื่องอย่างนี้แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ หากท่านพี่ต้องการมีเมียรอง หรืออนุเพิ่มข้าคงจะไม่สามารถขัดท่านพี่ได้" เพ่ยอิงตอบไปตามตรงแม้นางจะไม่อยากให้สามีมีภรรยาและอนุหลายคน กังวลว่าจะมีเรื่องวุ่นวายในครอบครัว เช่นท่านพ่อของนางที่รักเดียวใจเดียวไม่คิดจะแต่งงานใหม่ มีเพียงหญิงอุ่นเตียงที่ไม่ค่อยสร้างความวุ่ยวายในจวนเลยเท่านั้น“ลูกไม่อยากมีเมียหลายคนขอรับ ลูกรักเพ่ยเอ๋อมากไม่อยากให้นางเสียใจ หรือทุกข์ใจอันใด ลูกจะยังไม่รับใครมาเป็นเมียรองหรือนุ