Share

บทที่ 21

Author: ถานฉี
ถ้าตอบกลับคำพูดของอีกฝ่าย คุณจะตกลงไปในวงจรที่ถามคำตอบคำ

เธอไม่ควรที่จะตอบคำถามเขา

โหลวฉางเยว่เปิดหัวเรื่อง “มีประธานซิ่วจัดการ นายน้อยซูและประธานจินคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันขอตัวก่อน”

ท่าทางของเธอนิ่งมากราวกับกำลังปฏิบัติกับคนที่ไม่คุ้นเคย

เหวินเหยียนโจวมองเธอด้วยสายตาไร้ความปรานี หลังจากที่เธอพึ่งก้าวเท้ากลับไปสองเก้านั้นจึงเอ่ยปากไปว่า “เรื่องมันก็ผ่านไปสัปดาห์หนึ่งแล้ว ยังไม่หายอีกเหรอ?”

โหลวฉางเยว่ผงะและรู้แจ้งทันที เขาคงคิดว่าวันนั้นที่เธออยู่ในโรงพยาบาลแล้วโดนกล่าวหา ถึงได้โมโหแล้วระบายอารมณ์ออกาแบบนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็จะเย็นลงเอง

อันที่จริงภายหลังเธอได้ มองย้อนกลับไป ฉันยังรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองวู่วามจนเกินไป ระบายความคับข้องใจทั้งหมดที่เธอได้รับจากเขาในคราวเดียว ในสายตาของเขา คงเป็นเหมือนตัวตลก

โหลวฉางเยว่ไม่รู้จะพูดอะไร เธอลาออกแล้ว พูดได้เลยว่าพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว เธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสังเกตุอารมณ์ของเขาเหมือนอย่างเมื่อก่อน

เธอไม่หันกลับไป แต่เดินหน้าต่อไป

เหวินเหยียนโจวมองดูแผ่นหลังของเธอที่เดินโซเซ การแสดงออกที่เหมือนเดิมแต่ดูเหมือนจะเย็นชามากขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน ซิ่วอวี้ก็ออกมาจากสถานีตำรวจพร้อมกับซูหยุนและจินอี้เฟย เดินมาพร้อมกับพูดสั่งสอน

“อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วยังมาถึงสถานีตำรวจด้วยข้อหาชกต่อยอีกด้วย พวกนายเป็นเด็กมัธยมหรืออย่างไร? ฉันว่าพวกนายติดหนี้บุญคุณฉันแล้วล่ะ!”

จินอี้เฟยร้องขอความเมตตา “พี่ซิ่วอวี้ครับ วันนี้ขอบคุณพี่นะ เรื่องนี้อย่าให้พ่อรู้เด็ดขาดเลยนะ ไม่อย่างงั้นขาของผมจะถูกตัดท่อนแน่ๆ”

“ไม่อยากให้พี่บอกก็ได้ แต่หลังจากนี้จะคิดอะไรก็ให้รอบคอบด้วย ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักกัน ต่างเป็นคนที่โตมาด้วยกันทั้งนั้น ถึงกับต้องลงมือกันเลยเหรอ?”

ซิ่วอวี้เป็นคนที่พื้นฐานดี นิสัยก็ดี ความสามารถก็เยอะ ซึ่งเป็นคนที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะสั่งสอนในตอนนี้

“เข้าใจแล้ว ๆ” จินอี้เฟยมองไปรอบๆ หาโหลวฉางเยว่ไม่เจอและไม่กล้าถาม เขาเกาหัวแล้วค่อยๆ เดินนำไปก่อน

ซูหยุนวิ่งลงบันไดแล้วถามเหวินเหยียนโจวอย่างตรงไปตรงมาว่า “พี่โจว ฉางเยว่ล่ะ? เธอไปแล้วเหรอ? ผมจะพูดขอบคุณต่อหน้าเธอสักหน่อย โชคดีที่เธอเรียกพวกพี่มาหา ไม่อย่างงั้นเรื่องนี้คงยุ่งจนถึงหูของคุณพ่อแน่ แถมจะถูกตัดบัตรผมอีกด้วย!”

เหวินเหยียนโจวไม่ตอบกลับ เขาไม่แยแสใด ๆ แถมบ่นต่อว่า “ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าโรงพักและไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจ ให้มันได้แบบนี้สิ! "

เขากระตือรือร้นที่จะตอบกลับอย่างทันทีว่า “คืนนี้พวกเราไปสนุกแถวร้านเหล้าของพี่ลู่กันหน่อยนะ ไปขจัดความชั่วร้ายออกกัน!”

ซิ่วอวี้ตบท้ายทอยของเขา “พึ่งจะออกมาจากสถานีตำรวจก็จะหาเรื่องไปที่ร้านเหล้าอีกงั้นเหรอ แกนี่มันไม่จำคำสอนเอาซะเลย ไสหัวกลับไปสำนึกผิดที่บ้าน!”

ซูหยุนรับฟังคำพูดของซิ่วอวี้ กลับไปด้วยความเชื่อฟัง

ซิ่วอวี้เดินมาหยุดตรงหน้าของเหวินเหยียนโจวแล้วถามไปว่า “นายไปขอให้เลขาโหลวกลับมาทำงานที่บริษัทหรือยัง?”

เหวินเหยียนโจวเดินตรงไปที่รถ “ขายังไม่หายเจ็บ ให้เธอพักผ่อนสัก2-3วัน”

หัวใจของซิ่วอวี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนที่สามารถได้ยินคำพูดของเขา ไม่ได้ปวดใจที่โหลวฉางเยว่เจ็บขาจนไปทำงานไม่ไหว แต่มั่นใจว่าหากอาการบาดเจ็บของโหลวฉางเยว่ดีขึ้นก็จะกลับมาทำงานเอง

เขากุมโหลวฉางเยว่อยู่หมัดเสมอ ซิ่วอวี้จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้วจริงๆ

ซูหยุนเป็นคนที่ซื่อสัตย์ได้เพียงไม่กี่วัน ให้เขาสำนึกผิด เขาจะสำนึกผิดได้เพียงสามวัน หลังจากนั้นสามวันก็จะเรียกทุกคนไปยังเวสเทิร์นพาเลซ

ถ้าให้เรียกอย่างน่าฟังก็คือการต้อนรับการกลับมา จริงๆ แล้วเขาเพิ่งพบข้อแก้ตัวที่จะให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อสนุกสนานจริง ๆ แล้วเขาไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของการต้อนรับการกลับมาด้วยซ้ำ

ในตอนที่กำลังเพลิดเพลิน เขายังโทรหาโหลวฉางเยว่อีกด้วย

“ฉางเยว่ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่เวสเทิร์นพาเลซ คุณมาจอยด้วยกันนะ! พวกเรามาเพราะวันนั้นที่ผมถูกส่งตัวไปสถานีตำรวจ หากวันนั้นไม่ได้คุณ ผมคงออกมาไม่ได้หรอก! คุณเป็นฮีโร่ งานนี้จะขาดคุณไปไม่ได้!”

โหลวฉางเยว่ไม่ต้องคิดก็รู้ว่งานงของเขามีคนอยู่เบื้องหลัง

เหวินเหยียนโจวอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่คนรู้จักของเขาทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่ เธอไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับแวดวงที่เกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธอย่างแน่นอน

“นายน้อยซู ขอโทษนะคะ มีญาติมาที่บ้านของฉันและฉันต้องต้อนรับ ออกไปข้างนอกไม่ได้ค่ะ แถมวันนั้นฉันเพียงแค่โทรหาประธานซิ่วเท่านั้น คนที่ลงแรงกายแรงใจคือประธานซิ่วค่ะ ถ้าคุณจะขอบคุณ ไปขอบคุณประธานซิ่วนะคะ”

“ไม่ครับ เดี๋ยวก่อน” ซูหยุนเดินออกไปคุยด้านนอกพร้อมปิดหูข้างหนึ่งเอาไว้ “คุณอยู่ที่บ้านจริงๆ เหรอครับ? ทำไมผมถึงคุ้นกับเพลงที่คุณอยู่ในตอนนี้กันล่ะ?”

โหลวฉางเยว่ไม่พูดพร่ำทำเพลง “ถ้านายน้อยซูไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอวางสายนะคะ”

“เดี๋ยวก่อน ๆ!”

ซูหยุนเดินมาถึงประตูเวสเทิร์นพาเลซ หลังจากนั้นก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย สายตาเป็นประกายขึ้นมาทันที จากนั้นเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาแล้วจับแขนของเธอโดยตรง

“ฉางเยว่!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 418

    พอแม่โหลวก็ได้ยินเสียงพ่อโหลวกลับมา จากนั้นเธอก็นำอาหารจานสุดท้ายมาเสิร์ฟที่โต๊ะ“งั้นก็มากินข้าวกันเถอะ วันนี้เย่ว่เยว่พาเหยียนโจวกลับมาด้วย เธอไม่ได้บอกเราล่วงหน้า พวกเราเลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เลยมีแค่อาหารทำเองที่บ้าน ไม่รู้ว่าเหยียนโจวจะทานได้หรือเปล่า? ”เหวินเหยียนโจวลุกขึ้นยืน เหลือบมองใบหน้าซีดเซียวของพ่อโหลว และกระซิบเบา ๆ “เป็นผมที่ไม่ได้บอกเย่ว่เยว่ล่วงหน้าว่าผมจะอยู่ต่อ เธอถึงไม่ได้บอกกับทุกคน ไม่โทษเธอหรอกครับ”แม่ยายมองดูลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น แม่โหลวไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มานานแล้ว มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอแสร้งดุออกไป “เหยียนโจว เธอก็อย่าให้ท้ายเยว่เยว่มากเกินไปสิ”แต่หลังจากที่พูดจบ เขาก็ปกป้องเธอ “แต่เยว่เยว่ของเราเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุด ต่อให้ตามใจก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”มุมปากของโหลวฉางเยว่โค้งงอขึ้นทุกคนมานั่งที่โต๊ะด้วยกัน แม่โหลวตักซุปเสิร์ฟให้เหวินเหยียนโจวก่อน จากนั้นจึงใช้ตะเกียบคีบผักใส่ในชามของเขา“เหยียนโจว ลองซุปปลาหน่อไม้เหลืองฤดูหนาวดูสิ หน่อไม้นั่นปลูกเองเชียวนะ ปลาก็เป็นของเพื่อนบ้านที่ไปจับมาจากทะเล”“แล้วก็ยังมีหมูเปรี้ยวหวานสั

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 417

    จนถึงตอนนี้โหลวฉางเยว่ก็ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับเขาอย่างถ่องแท้ เธอเหลือบมองเขา และอดไม่ได้ที่จะเริ่มคิดผู้ชายน่ะนะ ไม่ได้ “ไร้เดียงสา” ขนาดนั้น โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเหวินเหยียนโจว ผู้หญิงสนใจเขาหรือเปล่า เขาก็สามารถมองออกได้ง่าย ๆเหวินเหยียนโจวรู้อยู่แล้วว่าไป๋โหยวชอบเขา แล้วเขาก็ยังตกลงที่จะให้เธอมาอยู่เคียงข้างเขาอีก นั่นก็เป็นเหมือนคำตอบรับโดยปริยายว่าเขายอมรับความรู้สึกของเธอแล้วไม่ใช่หรือไง?พอมาคิดรวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าปีที่แล้ว ก็มีความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเธอขึ้นมา เขาเย็นชาใส่เธอตลอด ดังนั้นที่เขาเก็บไป๋โหยวไว้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าอยากจะทำให้เธอโกรธ แต่วางแผนที่จะทำให้ “เปลี่ยนใจ” ด้วยสินะ?โหลวฉางเยว่พูดด้วยความรำคาญ “แม่ของคุณชอบไป๋โหยวมากเลยเหรอคะ? เธอยังอยากให้คุณแต่งงานกับไป๋โหยวด้วยใช่ไหม? เนี่ยเหลียนอี้เคยบอกฉันว่าท่านประธานใหญ่เหวินยอมรับไป๋โหยวแล้วด้วย แต่เพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ปฏิเสธกะทันหัน เป็นเพราะว่าท่านประธานใหญ่เหวินรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับแม่ของคุณรึเปล่าคะ? ”แม้ว่าโหลวฉางเยว่จะไม่ค่อยรู้เรื่องคร

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 416

    ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว แต่พ่อโหลวก็ยังไม่กลับมา พี่เลี้ยงจึงออกไปตามหาเขาเดิมทีโหลวฉางเยว่ต้องการช่วยแม่โหลววางจานและตะเกียบ แต่แม่โหลวก็ให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนเหวินเหยียนโจว เพราะเธอกลัวว่าลูกเขยคนจะอึดอัดถ้าต้องนั่งอยู่คนเดียว......จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? ต่อให้ฟ้าจะถล่ม ประธานเหวินก็ยังคงมั่นคงไม่ขยับเขยื้อนอยู่ดีแต่ยังไงโหลวฉางเยว่ยังคงเดินไปหาเขาเหวินเหยียนโจวอยู่บนโซฟาสำหรับสองคน เดิมทีเธอต้องการนั่งบนโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้าง ๆ แต่ประธานเหวินดึงเธอเข้ามานั่งกับเขาเขากระซิบข้างหูเธอ “คุณพูดอะไรกับแม่ของคุณบ้าง? ”หูของโหลวฉางเยว่ไวต่อความรู้สึกมาก เธอก็กระตุกตัวหลบอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ไม่ได้พูดอะไรหนิคะ”“ไม่พูดงั้นเหรอ แล้ววทำไมท่าทีที่เธอมีต่อผมถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้? ” เหวินเหยียนโจวบีบนิ้วของเธอ “คุณคิดว่าผมดูไม่ออกเหรอ? เมื่อกี้เธอไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ แล้วผมมีอะไรที่ทำให้แม่ยายไม่พอใจเหรอ? ”ความมั่นใจของประธานเหวินก็มาจากสภาพที่เหนือกว่าของเขา แต่ตราบใดที่พ่อแม่ไม่ขายลูกกิน สิ่งแรกที่พวกเขาจะพิจารณาเมื่อลูกจะแต่งงานก็คืออุปนิสัยของอีกฝ่ายการแสดงออกของโหลวฉางเยว่ยังคง

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 415

    แม่โหลวไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าเหวินเหยียนโจวจะตอบด้วยท่าทีนอบน้อม แต่เธอก็มองออก ด้วยลักษณะท่าทางและนิสัยของเหวินเหยียนโจว คงไม่ใช่แค่มี “เงินเล็กน้อย” ถึงสามารถเลี้ยงเขามาได้แน่ ๆ “งั้นก็ดีมาก ดีแล้วล่ะ พวกลูกคบกันมาสามปี สิ่งที่ควรจะเรียนรู้ก็น่าจะเรียนรู้กันมาหมดแล้ว แม่เองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถามอีกแล้วล่ะ”เหวินเหยียนโจวไม่ชอบพูดอ้อมค้อม จู่ ๆ เขาก็จับมือโหลวฉางเยว่ “เมื่อกี้ผมเพิ่งขอเยว่เยว่แต่งงานครับ และเธอก็ตอบตกลงแล้วด้วย”โหลวฉางเยว่มองไปที่แม่ของโหลวโดยไม่รู้ตัวใบหน้าของแม่โหลวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่ได้มีความสุขมากนัก เธอฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะเร่งรีบขนาดนี้ได้ยังไง พวกเรายังไม่ได้รู้จักเธอมากขนาดนั้นเลย เราเองก็ไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอด้วย อย่างน้อยก็ควรจะหาเวลา ให้พวกเราทั้งสองตระกูลได้พูดคุยกันและปรึกษาหารือกันหน่อย”เหวินเหยียนโจวหยิบถ้วยชาขึ้นมา แต่เขาแค่เอามันมาใกล้จมูกแล้วดมกลิ่น เขาไม่ได้ดื่มมัน จากนั้นก็วางมันกลับไปที่เดิม สีหน้าเขาดูไม่ใส่ใจโหลวฉางเยว่รู้จักเขาดี เขารู้สึกว่าชาราคาถูกเกินไป เกินกว่าที่เขาจะเอาเข้าปากได้ และคำพูดเหล่า

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 414

    ระยะทางจากห้างสรรพสินค้าถึงบ้าน ก็ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที โหลวฉางเยว่ก็ครุ่นคิดว่าจะพูดอะไรดีอยู่ในใจ จะบอกพ่อโหลวแม่โหลวยังไงดี เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกำลังจะแต่งงาน?จะให้อธิบายยังไง ว่าลูกสาวของพวกเขา ตอนเพิ่งออกจากบ้านก็เป็นแค่คนโสด แต่ผ่านไปได้แค่ครึ่งชั่วโมง กลับบ้านมาก็กลายเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานอย่างงั้นเหรอ?เธอคิดไม่ตกเลยจริง ๆ เลยได้แต่พาเหวินเหยียนโจวเดินไปรอบ ๆ ตรอกเท่านั้น จนกระทั่งประธานเหวินเริ่มหมดความอดทน เขาคว้าหลังคอของเธอแล้วลากกลับบ้าน“ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่ว่า ‘แม้ลูกสะใภ้จะขี้เหร่ แต่ก็จำเป็นจะต้องเจอหน้าพ่อแม่สามีอยู่ดี’ ผมคงไม่ได้ไร้ความสามารถถึงขั้นทำให้คุณอายจนไม่กล้าพาผมไปเจอหน้าพวกท่านหรอกมั้ง? ”โหลวฉางเยว่คิดว่าเขามีความสามารถมากเกินไปต่างหาก เธอถึงไม่รู้ว่าจะบอกพ่อแม่ของเธอยังไงดีคิ้วของเหวินเหยียนโจวขยายออก และยกขึ้นเล็กน้อย แล้วเขาก็พูดด้วยหางเสียงว่า “หืม” โหลวฉางเยว่ทำได้แค่กัดฟัน แล้วพาเขาเข้าไปพ่อโหลวออกไปตั้งแต่เช้า ตอนนี้ยังไม่กลับมาแม่โหลวเพิ่งเห็นว่าเธอพาเพื่อนกลับบ้านมาด้วย แถมยังเป็นเพื่อนผู้ชายอีกต่างหาก รู้สึกประหลาดใจและตกใจม

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 413

    ผนังซีเมนต์สีเทาที่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจัดเสื้อผ้าตัวเองอยู่ โหลวฉางเยว่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอย่างอื่น “......ฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะคะ คุณเลิกคิดเองเออเองได้แล้วค่ะ”เหวินเหยียนโจวก็ยังคงจัดการวางแผนเองอยู่ “ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าบ้านจริง ๆ คงดูไม่ดีถ้าเข้าไปมือเปล่า คุณช่วยพาผมไปที่ห้างสรรพสินค้าในตำบลของคุณหน่อยสิ แล้วคุณก็ช่วยเลือกของขวัญที่เหมาะกับพ่อแม่ของคุณด้วย”“......”“เด็กดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับพ่อแม่คุณ คุณต้องช่วยผมด้วยนะ”“......”โหลวฉางเยว่ลูบแหวน เธอไม่รู้ว่าเธอตัวชาเพราะการที่เขาเรียกเธอว่าเด็กดี หรือเป็นเพราะสับสนกับท่าทางที่เขายอมก้มหัวให้กันแน่ เธอค่อนข้างสับสนอย่างมาก แต่เธอก็ยังพาเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าอยู่ดีโชคดีที่ชุมชนนี้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เลยยังพอจะมีห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์อยู่บ้างแต่ก่อนที่จะเข้าประตู เหวินเหยียนโจวก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง เขามองไปที่ชื่อผู้โทร ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่ผ่อนคลายเหมือนตอนที่เผชิญหน้ากับเธอเมื่อกี้โหลวฉางเยว่มองไปที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status