Share

บทที่ 16

Author: ชวินเป่ยอี๋
ตามกฎของต้าเย่ หากชำระหนี้ก่อนเวลาจื่อจะถือว่าอยู่ในเวลาที่กำหนด

หลิวโหย่วไฉทำอะไร? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็น

แต่ประตูบ้านพัง ดวงตาของหลี่ซื่อหานเต็มไปด้วยน้ำตา มือเล็ก ๆ ถึงกับบวมแดง

กรรไกรและมีดทำครัวอที่อยู่ในมือลูกสมุน และพี่น้องตระกูลเดียวกันที่ถือไม้พลองอย่างโกรธจัด

ก็บอกเขาแล้วว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้น!

"ท่านพี่!"

ใช้โอกาสตอนที่ลูกสมุนกำลังตะลึง หลี่ซื่อหานรีบออกมาจากห้อง และโผลตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหวังหยวน พลางร้องไห้เสียงดัง

“ไม่ต้องกลัว ข้ากลับมาแล้ว!”

หวังหยวนลูบผมยาวของหลี่ซื่อหานเบา ๆ เพื่อปลอบโยน เขายกมือที่บวมแดงขึ้นมา "ยังเจ็บอยู่ไหม?"

"...ไม่เจ็บแล้วเจ้าค่ะ!"

ด้วยความเจ็บปวด หลี่ซื่อหานฝืนยิ้มบนใบหน้า และเมื่อเห็นชาวบ้านมองมา นางก็รีบซ่อนตัวข้างหลังหวัง หยวนทันที ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นแดงระเรื่อ

ในสายตาของทุกคน นางโผเข้าสู่อ้อมแขนของสามี และพูดคำที่อบอุ่น

อายจนแทบบ้า!

คนกลุ่มนั้นไม่สนใจเรื่องนี้ แต่กลับมองไปที่เสื้อคลุมผ้าไหมของหวังหยวน เสื้อผ้าใหม่ของต้าหู่ และซื่อไห่ที่เดินตามมา

ในชนบทมีไม่กี่คนที่นุ่งผ้าป่านและผ้าฝ้าย แต่สามคนนี้กลับนุ่งผ้าไหม นี่พวกเขาร่ำรวยแล้วหรือ

หลิวโหย่วไฉมองอย่างเหยียดหยาม "ใส่ชุดนั้นแล้วช่างดูเหมือนสุนัขเสียจริง แล้วยังมีอารมณ์มาเกี้ยวพาราสีกันอีก เงินสี่สิบกว้านของข้ามีคืนหรือรึยัง!"

ผ้าไหม จี้หยก และถุงหอมราคาเกือบสิบกว้าน

ถึงแม้จะมีถึงสองพันกว้านอย่างเขา ก็ยังลังเลที่จะสวมใส่มัน

มีเพียงเขตที่มีอำนาจเท่านั้น ที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเสื้อผ้าพวกนี้

หวังปี่จงมองดูด้วยสาตาเย็นชา ไม่มีสิ่งกีดขวางใด พวกเขาทั้งสามนั้นพร่างพราวเกินไป

หวังชิงซานก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้นว่า "หวังหยวน พวกเราทุกคนรวมเงินกันได้สิบสองกว้าน หากเจ้าสามารถหามาเพิ่มได้อีกยี่สิบแปดกว้าน เจ้าก็จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้!"

หวังหานซานได้ไหว้วานเขาไว้เมื่อคืน ให้เขาช่วยหยิบยืมและรวบรวมเงินจากชาวบ้านไว้ หากยอดขายปลาของไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลานั้นอาจจำเป็นต้องใช้มัน

"ข้าซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคน!"

หวังหยวนมองไปที่หลิวโหย่วไฉและพูดอย่างเย็นชา "เงินน่ะข้ามี เอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน และข้อสัญญาล่ะ!"

"เอาเงินออกมาก่อน...อ๊ะ!"

ก่อนที่หลิวโหย่วไฉจะพูดจบ ตึก ตึก ตึก ตึก แท่งเงินสี่แท่งกลิ้งลงไปที่เท้าของเขา

สิบตำลึงสำหรับหนึ่งแท่ง สี่สิบตำลึงสำหรับสี่แท่ง รวมทั้งหมดสี่สิบกว้าน!

หลี่ซื่อหานน้ำตาไหล เซียงกงหาเงินสี่สิบกว้านมาได้แล้ว เขาสามารถชำระหนี้ได้จริง ๆ!

ชาวบ้านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน

หากพี่น้องตระกูลเดียวกันกลายเป็นทาสของผู้อื่น พวกเขาก็คงจะถูกหัวเราะเยาะเอาได้

หวังปี่จงรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า "หวังหยวน ปลาหนึ่งตู้ขายได้ไม่ถึงสี่สิบกว้าน และครอบครัวของซื่อหานก็ไม่มีทางให้เจ้ายืมเงินแน่นอน แล้วเงินเหล่านี้มาจากไหนกัน?"

หวังหยวนตอบเสียงเย็น "เงินมาจากไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่านรึ?"

เมื่อครู่เพิ่งได้ยินที่ประตูว่า หัวหน้าตระกูลผู้นี้นอกจากไม่ช่วยพูดแล้วยังถ่วงขาหลังอีก

หวังปี่จงถูกตอกกลับจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง

“นี่ไม่ใช่เงิน แต่เป็นตะกั่วล้วน นี่เป็นเงินปลอม!”

หลิวโหย่วไฉหยิบแท่งเงินขึ้นมา เหล่ตาของเขาและมอบมันให้หวังปี่จง "ใช่ไหม หัวหน้าหวัง!"

"ของปลอมใช่หรือไม่?"

หวังปี่จงชำเลืองมองที่เงินและไม่ตอบ "ข้าคนนี้ไม่ค่อยใช้เงินมากนัก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันเงินจริงหรือปลอม หัวหน้าหลิวพวกท่านดูเอาเถิด!"

เงินเป็นของจริง เขาเห็นว่าหลิวโหย่วไฉมีแผน แต่เขาไม่อยากเอาน้ำโคลนนี้ด้วย

หากพูดช่วยหวังหยวน และทำให้หลิวโหย่วไฉขุ่นเคือง

หากช่วยหลิวโหย่วไฉกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ คนในมากมายในตระกูลจะมองและต่อว่าเขา

ชาวบ้านต่างผงะ!

ในหมู่บ้านทำการค้าขายน้อย และส่วนใหญ่มักใช้เหรียญทองแดงเสียมากกว่า ชาวบ้านไม่เคยเห็นเงินมาก่อน!

ต้าหู่และซื่อไห่กัดฟัน!

สุนัขจิ้งจอกเฒ่าเจ้าของบ้านนี้ตาบอด เงินจริงแท้ ๆ แต่กลับบอกว่าเป็นเงินปลอม

หลี่ซื่อหานพูดขึ้นอย่างชาญฉลาด "แซ่หลิว อย่าสับสนระหว่างขาวดำ ท่านรู้ว่าเงินนั้นจริงหรือเท็จ เพียงแต่จะเล่นเล่ห์ ทำให้สามีของข้าใช้หนี้ไม่ได้ และยึดทุกอย่างของสามีข้า พวกเราไม่หลงกลท่านหรอกนะรีบเอาเอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน และข้อสัญญาออกมาซะ มิฉะนั้นเราจะฟ้องท่านที่ว่าการอำเภอแน่!"

ครู่เดียวชาวบ้านก็เข้าใจได้ทันที

ไม่น่าแปลกใจที่หลายคน เมื่อขอยืมเงินจากเจ้าของบ้าน พอระดมเงินได้เพียงพอแล้ว แต่กลับไม่สามารถรับที่ดินคืนได้

แท้จริงแล้ว แม้ว่าจะมีเงินเพียงพอ เจ้าของบ้านไม่ยอมให้จ่ายคืน เพียงเพราะจะทำให้เราผิดสัญญา

ต้าหู่และซื่อไห่โกรธจนอยากตีคน

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายุ่งแค่ไหนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ เพื่อที่จะหาเงินสี่สิบกว้าน

เงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ แต่หลิวโหย่วไฉกลับเล่นเล่ห์

“เงินเป็นของปลอม ถ้าไม่ยอมรับ งั้นพวกเราก็ไปที่ว่าการอำเภอ ให้ผู้พิพากษาตัดสินกันเลย!”

ลิวโย่วไฉไม่กลัวเลยสักนิด

ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว หากจะไปที่ว่าการอำเภอก็คงต้องพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ก็จะถือว่าผิดสัญญา

ในเวลานั้นใครจะไปที่ว่าการอำเภอกับเจ้ากัน!

“เจ้า !”

หลี่ซื่อหานสำลักลมหายใจออกมา

เมื่อเห็นคนขี้โกงนี้ หวังหยวนก็ระงับความโกรธและหรี่ตาลง "ถ้าเจ้าไม่รับเงิน งั้นเจ้าต้องการอะไร"

"เหรียญทองแดง!"

หลิวโหย่วไฉเงยหน้าขึ้น "นำเหรียญทองแดงมาสี่สิบกว้าน แล้วข้าจะให้เจ้าชำระหนี้ในวันนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะชำระหนี้ไม่ได้ และหากว่าผิดสัญญา บ้าน ทุ่งนา และภรรยาทั้งหมดจะเป็นของข้า รวมถึงเจ้าที่ต้องมาเป็นทาสของข้าด้วย!"

หวังปี่จงส่ายหัว!

ด้วยสายสัมพันธ์และอุปนิสัยของหวังหยวน มันยากมากที่จะได้เงินมาได้สี่สิบกว้าน

จะไปหาเงินสี่สิบกว้านนี้มาจากที่ไหน!

ในไม่ช้ามันก็มืดลงแล้ว และมันก็สายเกินไปแล้วที่จะนำเงินไปแลกเหรียญทองแดงในเมือง

คนเดียวในหมู่บ้านที่สามารถหาเหรียญทองแดงได้สี่สิบเหรียญกว้านก็คือ หวังปี่จง!

ถ้าหวังหยวนขอร้องเขา เขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ มิเช่นนั้นจะทำให้หลิวโหย่วไฉขุ่นเคือง

การเตะต้นเอื้องนั้นก็จะดุเดือด!

“นี่เจ้ากำลังรังแกคนไม่ใช่รึ!”

เมื่อเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของหลิวโหย่วไฉ ชาวบ้านต่างก็โกรธและขุ่นเขือง!

“ต้องการเหรียญทองแดงใช่หรือไม่”

หวังหยวนกัดฟัน "เอ้อหู่ เอาเหรียญทองแดงสี่สิบกว้านขนเข้ามา"

เมื่อผ่านเข้าเมือง เขาได้ให้หวังหานซานไปแลกเหรียญทองแดงหนึ่งร้อยกว้านไว้ เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายหมู่บ้าน

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของชาวบ้าน

“คนแซ่หลิว นี่คือทองแดงสี่สิบกว้าน มันหนักไปหน่อยนะ รับไปสิ!”

เอ้อหู่เดินเข้ามาในลานพร้อมกับถุงเหรียญทองแดงด้วยความโกรธ และโยนมันใส่แขนของหลิวโหย่วไฉ

ถ้าพ่อของเขาไม่หยุดเขาเอาไว้ เขาคงพุ่งเข้าไปต่อยแซ่หลิวคนนี้แล้ว!

รังแกคนอื่นเกินไป!

เหรียญทองแดงสี่กรัม หนึ่งพันเหรียญเท่ากับหนึ่งกว้านสี่กิโลกรัม สี่สิบกว้านคือหนึ่งร้อยหกสิบกิโลกรัม!

ปึก!

หลิวโหย่วไฉถูกทับและตะโกนขึ้น "สารเลว มืนงงอะไร รีบพยุงข้าขึ้นสิวะ!" ลูกสมุนทั้งสี่รีบย้ายทองแดงออกไปอย่างรวดเร็ว และพยุงหลิวโหย่วไฉขึ้นมา

นับเหรียญทองแดงในถุงได้สี่สิบกว้านพอดี!

หวังปี่จงตกตะลึง!

เหรียญเงินสี่สิบตำลึง เหรียญทองแดงสี่สิบกว้าน บวกกับเสื้อผ้าของคนสามคน อย่างต่ำก็หนึ่งร้อยกว้านแล้ว

หลี่ซื่อหานรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าพี่ชายของนางจะช่วยเหลือ แต่เขาก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น สามีของนางไปทำอะไรมาถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้

หลิวโหย่วไฉนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนับเงินสี่สิบกว้านจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด

หวังหยวนยกมือขึ้น "เอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงิน และสัญญา!"

หลิวโหย่วไฉยังคงเล่นแง่ "เหรียญทองแดงนี้ทรุดโทรมมากเกินไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ข้าไม่รับมัน หากเจ้าต้องการชำระหนี้เจ้าจงเอาทองคำมา"

ทอง นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้ ครอบครัวของเขายังไม่มีแม้แต่ทองคำ

ถึงแม้ว่าคนเสเพลคนนี้จะสามารถหาเหรียญเงินและทองแดงมาได้ แต่เขาจะไม่มีวันหาทองคำมาได้แน่นอน

ครั้งนี้จะต้องทำให้เขาอับจนหาทาง!

หวังปี่จงพยักหน้า

ทองนั้นไม่ต้องพูดถึงหวังหยวน แม้แต่เขาซึ่งตุลาการ ก็ไม่มีสักทองชิ้นในบ้าน

สิ่งนี้ทำให้สิ่งต่าง ๆ ยุ่งยาก ชาวบ้านที่เห็นต่างก็โกรธเป็นอย่างมาก

เอ้อหู่ทนไม่ได้อีกต่อไป "แซ่หลิว ให้เงินแล้วบอกว่าเป็นของปลอม ให้เงินทองแดงก็บอกว่ามันทรุดโทรม ตอนนี้กลับต้องการทอง ดูเหมือนเจ้ากำลังหาแต่ข้ออ้างนะ ไม่อยากให้พี่หยวนใช้หนี้ ต้องการครอบครองทรัพย์สินของครอบครัวเขา กล้ารังแกพี่หยวนแบบนี้ ข้าจะฆ่าแกไอ้สารเลว”

"ฆ่ามัน!"

ชาวบ้านโห่ร้องในใจ

แต่หลิวโหย่วไฉเหลือบมองเอ้อหู่อย่างเหยียดหยาม "ข้าคือหลี่เจิ้งแห่งราชสำนัก ขึ้นทะเบียนเป็นข้าราชการในกรม หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า เจ้าถูกตั้งข้อหาและต้องถูกเนรเทศ!"

“ถูกตั้งข้อหาและต้องถูกเนรเทศข้าก็ยอม!”

ใบหน้าและหูของเอ้อหู่แดงก่ำ เขากำหมัดแน่นเตรียมจะลงมือ แต่ถูกหวังหยวนรั้งเอาไว้

ชาวบ้านยอมทิ้งไม้

แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ใช่งานที่ยิ่งใหญ่นัก แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว ยังไงก็คือคนของทางการ

หากประชาชนธรรมดาทุบตีเจ้าหน้าที่ นั่นคือความผิดทางอาญาของต้าเย่

เมื่อเห็นว่าทุกคนตกตะลึง หลิวโหย่วไฉจึงพูดอย่างมีชัยชนะ "ไอ้คนเสเพล ดวงอาทิตย์กำลังจะตกในไม่ช้า หากเจ้าไม่สามารถนำทองคำมาได้ ก็ถือว่าเจ้านั้นผิดสัญญา"

หวังปี่จงส่ายหัว

หวังหยวนต้องใช้ความพยายามอย่างมากเท่าใดในการหาเหรียญเงินและทองแดง! วันนี้เขาโชคไม่ดีถึงที่สุด ไม่ว่ายังไงก็คงพลิกผันสถานการณ์ไม่ได้แล้ว!

"เจ้าต้องการเอาทองมากดดันข้าหรือ? รูปร่างอัปลักษณ์อย่างเจ้า ช่างฝันหวานเสียจริง"

หวังหยวนโยนมันลงบนพื้นอย่างง่ายดาย!

เมื่อมองไปที่สิ่งของบนพื้น ชาวบ้านและหวังปี่จงก็เบิกตากว้าง!

“ข้าเพียงแค่อยากจะทำให้เจ้ากดดัน หากเจ้าหาทองมาไม่ได้ ไร่นาและบ้านของเจ้าทั้งหมดก็จะเป็นของข้า รวมทั้งภรรยาสุดสวยของเจ้าด้วย”

หลิวโหย่วไฉเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่แม้แต่จะเหลือบมองพื้น

ลูกสมุนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "นาย นายท่านดูที่เท้าของท่านสิ!"

“ดูอะไรกัน? เจ้าคิดว่าสิ่งที่มันโยนลงมาจะเป็นทองจริง ๆ งั้นรึ!”

หลิวโหย่วไฉเย้ยหยันอย่างเหยียดหยาม

เขาชำเลืองมองจากหางตาก่อนจะเบิกตากว้างทันที เขาก้มลงดูใกล้ ๆ และใบหน้าที่แก่ชราของเขานั้นดูน่าเกลียดขึ้นมากมาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status