Share

บทที่ 6

สีหน้าของเจียงป๋อเหนียนดูไม่ได้ สองมือกำหมัดแน่น

กำลังทหารครึ่งหนึ่งของแคว้นตงหลิงอยู่ในมือของหรงซี

เขาไม่กล้าจะผิดใจกับหรงซี

ท่าทีของหรงซีในตอนนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะช่วยหลิ่วซู่แม่ลูก เขาไม่อาจเอาอนาคตของตัวเองไปเสี่ยงได้

หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเจียงป๋อเหนียนก็กัดฟันยอมรับ "ใช่ นางหลิ่วเป็นภรรยาเอกของข้าน้อยเองขอรับ"

"อ๋องซี ข้าน้อยแก่แล้วสายตาไม่ดี ไม่ได้พบฮูหยินมาหลายปี หน้าตาฮูหยินก็เปลี่ยนไป ก็เลยจำไม่ได้ในตอนแรก อีกทั้งยังเคยได้รับจดหมายบอกว่าฮูหยินกับลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้เกิดเรื่องเข้าใจผิดในวันนี้ได้"

หรงซีมองไปที่เจียงหวานหว่าน "แม่นางเจียง ใต้เท้าเจียงบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด เจ้าคิดว่ายังไง"

เจียงป๋อเหนียนมองไปทางหลิ่วซู่ สายตาเหมือนมีความหมาย "ซู่เหนียง พวกลูกๆ ต่างก็คิดถึงเจ้ามาก เจ้ากลับมาได้ พวกเขาจะต้องดีใจกันมากแน่"

เขากำลังเตือนหลิ่วซู่ว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ให้คิดถึงอนาคตของพวกลูกชายด้วย

เจียงหวานหว่านมองไปที่เจียงป๋อเหนียนอย่างดูถูก รังแกคนอ่อนแอหวาดกลัวคนแข็งแกร่ง

หลิ่วซู่ยังคงกัดริมฝีปากล่างอยู่อย่างนั้น ส่ายหน้าให้กับเจียงหวานหว่านช้าๆ

เจียงหวานหว่านเข้าใจความหมายของนางได้ในทันที มองไปที่เจียงป๋อเหนียนก่อนจะยิ้มเย็น "ท่านอ๋อง ท่านพ่อรักและเคารพท่านแม่ขนาดนี้ คิดว่าคงจะไม่ได้ตั้งใจหรอกเพคะ"

นางเน้นคำว่า "รักและเคารพ" หนักมาก

หรงซีกระแอมเบาๆ หนึ่งที "หากว่าเป็นการเข้าใจผิด เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไร แต่ถ้าหากว่าใต้เท้าเจียงรู้กฎหมายแต่ยังจงใจกระทำผิด ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!"

เจียงป๋อเหนียนยิ้มรับ

กลืนน้ำลายลงอึกหนึ่ง ลูกสาวบ้านนอกถึงกับสามารถให้ท่านอ๋องออกหน้าช่วยนางได้

เกรงว่าลูกสาวคนนี้จะไม่ธรรมดาแล้ว

สายตาหรงซีมีแววชื่นชมเจียงหวานหว่านอยู่น้อยๆ

หญิงสาวคนนี้รู้จักยืมใช้อำนาจ

ไม่เป็นไร ขอเพียงนางมีของที่ตัวเขาอยากได้ จะยืมอำนาจสักหน่อยก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าหากว่าหลอกลวง เขาจะทำให้นางหายไปจากเมืองหลวงเอง

หรงซีหมุนตัวกลับ จับอานม้าแล้วกระโดดขึ้นไป

เมื่อนั่งบนหลังม้าได้แล้ว หรงซีก็เหลือบมองไปที่เจียงหวานหว่านทีหนึ่ง

เจียงหวานหว่านย่อตัวเล็กน้อย "หม่อมฉันขอบพระทัยท่านอ๋อง เมื่อหม่อมฉันลงหลักปักฐานเรียบร้อย จะไปตามหาท่านอ๋องนะเพคะ"

เจียงป๋อเหนียนค้อมตัว ยกฝ่ามือขึ้นคำนับ ก้มหัว

"น้อมส่งท่านอ๋อง ท่านอ๋องกลับดีๆ"

แส้ม้าลงกระทบ ม้าก็วิ่งทะยานออกไป ชั่วครู่ก็ไม่เห็นเงาร่างของหรงซีแล้ว

เจียงป๋อเหนียนยังคงค้อมตัวอยู่อย่างนั้น เจียงหวานหว่านพูดเหน็บแนมว่า

"ท่านพ่อ เขาไปแล้ว ยังแสดงทำเป็นนอบน้อมให้ใครดูหรือเจ้าคะ"

เจียงป๋อเหนียนหน้าเขียว ไม่มีลูกคนไหนในบ้าน กล้าพูดจาแบบนี้กับเขามาก่อน

"ไร้การอบรมขนาดนี้ แม่ของเจ้าเลี้ยงดูเจ้ามายังไงกัน"

ดวงตาของเจียงหวานหว่านส่อแววไม่พอใจ จึงเหน็บแนมไปอีกครั้ง

"ท่านอาจารย์กล่าวไว้ว่า เลี้ยงดูแต่ไม่อบรมเป็นความผิดของบิดา มีความผิดของมารดาที่ไหนกัน"

เจียงป๋อเหนียนไม่อยากให้คนนอกเห็นเรื่องขายหน้าอีก สะบัดแขนเสื้อ เดินกลับเข้าจวนไปทันที

ทุกก้าวที่เดินเจียงป๋อเหนียนก็ลงแรงที่ส้นเท้าอย่างหนัก เพื่อจะระบายความโกรธในใจ

เฉาหยูเฟิ่งและเจียงจิ่นหนิงถูกหามเข้าจวน หาหมอมารักษา

โจวฝูพ่อบ้านตระกูลเจียงเดินนำหลิ่วซู่แม่ลูกเข้าจวน ให้แม่นมหวังผู้ดูแลจวนจัดสรรที่อยู่ให้กับหลิ่วซู่แม่ลูก

ได้เห็นเจียงป๋อเหนียนคับข้องใจแบบนั้น เจียงหวานหว่านรู้สึกสะใจและพอใจมาก นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

ดวงตาของเจียงหวานหว่านปรากฎร่องรอยแห่งการเยาะเย้ย แย่งครอบครัวของคนอื่น สมควรใช้คืนได้แล้ว

หลังจากเข้าจวนไป เหมือนกับชาติที่แล้ว หลิ่วซู่และเจียงหวานหว่านถูกจัดสรรให้ไปอยู่เรือนเหมย

สือหลิ่วผลักประตูเรือนออก ทั้งเรือนมีแต่กลิ่นเก่าและเน่าเสีย ต้นไม้แห้งตาย หญ้ารกชัฏ

สือหลิ่วหยิบไม้กวาดขึ้นมา ก่อนอื่นเก็บกวาดหยากไย่ทิ้งไปก่อน ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าเข้าไปกันแน่

แม่นมหวังให้แม่เฒ่างานหยาบที่อายุมากแล้วสองคนมาช่วยหลิ่วซู่แม่ลูกจัดของ

แม่เฒ่างานหยาบ อายุมาก ไม่คล่องแคล่ว ทำงานไปสักพัก ก็ยังไม่เห็นจะได้งานสักอย่าง

สือหลิ่วทนดูไม่ไหว ถกแขนเสื้อขึ้น เริ่มเก็บกวาดเอง

เก็บกวาดไปสักพัก ในที่สุดก็เข้าอยู่ได้แล้ว

สือหลิ่วทิ้งตัวนั่งลงไปบนเก้าอี้ ท้องส่งเสียงร้องโครกครากออกมา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status