“แหม่ๆๆๆ”
เสียงหนาแต่ทว่าถูกดัดให้เล็กแหลมคล้ายเสียงผู้หญิงมากที่สุดเอ่ยทักทายยัยคนสวยของเขาด้วยความเป็นกันเองในเช้าวันจันทร์แบบนี้
เพราะคนอย่างกล้าหาญนั้นรู้ดีกว่าใครว่าวันหยุดที่ผ่านมาเลขาสาวสวยกับเจ้านายของเขาไปไหนต่อไหนกันมา
แม้มีวันหยุดเพียงวันเดียวสำหรับคนบ้างานอย่างเจ้านายของเขา แต่เขาก็มั่นใจว่าเจ้านายกับหญิงสาวน่าจะใช้สอยวันหยุดกันได้อย่างเต็มที่ ดูได้จากใบหน้าที่อิ่มไปด้วยความสุขของคนทั้งคู่
“เป็นอะไรแต่เช้าล่ะ เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ”
พราวลลิลตอบกลับเสียงแข็งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ว่าเธอเสียอาการกับการไปเที่ยวเพื่อเป็นการขอโทษมากแค่ไหน จนเกือบกลับมาทำงานไม่ไหวกันเลยทีเดียว
“อืม เจ็บๆคอด้วย”
“ถ้างั้นช่วงบ่ายลางานไหม ควรกลับไปพักผ่อน”
และคนตัวแสบอย่างเธอก็หาทางไล่คนที่รู้ทันเธอทุกเรื่องอย่างกล้าหาญให้กลับบ้านไปก่อน รอเธอพร้อมกว่านี้แล้วค่อยให้เขากลับมาทำงาน
“แหม่ๆๆ”
เสียงเอ่ยแซวยังคงดังเป็นระยะๆเมื่อมีคำถามเป็นล้านอยากจะถามฝ่ายหญิงที่ได้ไปเดทกับเจ้านายของเขามา
ด้วยตั้งแต่เขามาทำงานเป็นลูกน้องของนนท์ธิวรรธน์ยังไม่เคยเห็นเจ้านายคนนี้ไปเดทกับใครมาก่อน เธอนับเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้
อยากจะรู้นักว่าเจ้านายของเขาจะสร้างความประทับใจอะไรให้กับหญิงสาวบ้าง หรือว่าเอาแต่ทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนตอนทำงาน
“เป็นอะไรอีกล่ะ”
“ฉันจะไม่ลางานไปไหนทั้งนั้น ฉันอยากอยู่เป็นก้างขวางคอคนแถวนี้”
“ก็ไม่ได้มีอะไรซะหน่อยๆ”
พราวลลิลไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมามากนักด้วยกลัวว่าตัวเองจะเสียอาการจนกู่ไม่กลับอีก เดี๋ยววันนี้ทั้งวันอาจจะต้องนั่งเขินอายจนทำงานทำการอะไรไม่ได้
“เดินยิ้มกันมาแต่ไกลแบบเนี้ยนะ ไม่มีอะไร กะเทยเฒ่าอย่างฉันไม่เชื่อจ๊ะ”
สายตาของกะเทยเฒ่าไม่มีพลาดแน่นอน ด้วยเห็นรอยยิ้มมันเปื้อนไปบนใบหน้าของคนทั้งสองที่เดินมาทำงานพร้อมกันชัดเต็มสองตา แล้วมันจะไม่มีอะไรในกอไผ่ได้ยังไงกันล่ะ
“ใครเดินยิ้มมา ไม่มีหรอก”
เสียงหวานปฏิเสธคอเป็นเอ็นทั้งที่เธอก็แอบเดินยิ้มอย่างอายๆเขามานั่นแหละถูกแล้ว
“เหรออออ”
“ทำงานไปเลย หนูจะไป”
เริ่มชักจะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานไม่ได้แล้ว พราวลลิลก็หาเรื่องจะไปจากโต๊ะทำงานสักพัก หลบเลี่ยงไม่ให้ถูกซักถาม
“ไปไหนจ๊ะ เช้านี้บอสไม่รับกาแฟนะ”
กล้าหาญเอ่ยเรียกรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่จะหาเรื่องหลบหน้าเขา ด้วยเมื่อตะกี้ก่อนที่เจ้านายของเขาจะเข้าห้องไปทำงานก็ได้บอกเอาไว้แล้วว่าเช้านี้ไม่รับกาแฟ แล้วยัยคนสวยจะเดินไปไหนมิทราบ
“ก็เอาน้ำเปล่าไปให้เขาไง ไม่กินน้ำเหรอเดี๋ยวก็คอแห้งตายหรอก”
“รีบไปรีบมานะ นั้นห้องเจ้านายไม่ควรอยู่นาน มันไม่เหมาะสม”
“รู้แล้วๆ”
“รอสอนงานต่อนะ”
“จ้า”
ร่างเล็กรีบเดินกึ่งวิ่งไปเสิร์ฟน้ำให้กับคนตัวโตในทันทีเมื่อมีโอกาสได้หลบหน้ากล้าหาญกะเทยยอดนักซักถามสักพัก
ขืนให้เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานต่อมีหวังต้องเล่าอะไรหมดเปลือกแน่ๆ คงไม่เหลือแล้วความลับที่ไปเที่ยวกันมาเมื่อวานนี้
“ใครจะคอแห้งตายงั้นเหรอ หวังว่าคงไม่ใช่ฉันนะ”
ทันทีที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก เจ้าของห้องทำงานก็เงยหน้ามองหญิงสาวที่เดินเข้ามาไม่วางสายตา
และทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง เขาก็เอ่ยถามเธอถึงเรื่องที่เธอพูดเป็นข้ออ้างก่อนหน้าที่จะเดินเข้ามาภายในห้องของเขา
“ใครพูดแบบนั้นกันเหรอ”
พราวลลิลแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถ้าขืนเธอยอมรับเขาต้องหาว่าเธอแช่งชักหักกระดูกเขาแน่ๆ และนั้นอาจหมายถึงการมีปัญหาตามมาอีกมากมาย เธอควรเลี่ยงที่จะไม่ยอมรับเสียดีกว่า
“ก็คนแถวนี้”
เขารู้ดีว่าเธอนั้นพูดว่าอะไร เพราะก่อนหน้านี้เขาเดินคุยโทรศัพท์ไปมาอยู่ภายในห้องและเดินไปแถวหน้าประตูห้องเข้าพอดี
“นิสัยไม่ค่อยดีเลยเนาะ”
หญิงสาวยิ้มแห้งๆตอบไปเมื่อถูกรู้ทัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงไม่ยอมรับอยู่ดี ปากแข็งแล้วก็ต้องปากแข็งให้ถึงที่สุด เอาไว้เขาไล่เธอจนมุมมากกว่านี้ก่อนค่อยขอโทษก็แล้วกัน
“ถ้าอยากจะเข้ามาในนี้ก็เดินเข้ามาได้เลย ที่นี่ก็ห้องทำงานเหมือนกันไม่ใช่เขตหวงห้ามอะไร ไม่ต้องหาเหตุผลหรอก”
นนท์ธิวรรธน์ที่รักความเป็นส่วนตัวมากที่สุดถึงกับมีห้องทำงานใหญ่โตเพื่อให้นั่งทำงานได้อย่างสงบๆไม่ให้ใครเข้ามารบกวนเป็นอันขาด เอ่ยอนุญาตเป็นพิเศษให้กับหญิงสาวตรงหน้า เมื่อเขานั้นรู้สึกไว้ใจเธอมากกว่าคนอื่นๆ และอีกอย่างก็นึกอยากให้เธอมีพื้นที่ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในบริษัทที่มีคนวุ่นวายเดินไปเดินมาเต็มไปหมดแบบนี้
“อืม ขอบคุณค่ะ”
ใบหน้าหวานๆถึงกับเห่อร้อนขึ้นมาจนต้องรีบหันหลังให้เขาแล้วยกมือขึ้นทาบไปบนหน้านั้นอย่างเบาๆ เมื่อเขามอบสิทธิพิเศษให้เธอเหนือกว่าใครๆในบริษัทนี้ เพราะขนาดผู้ช่วยส่วนตัวของเขาอย่างกล้าหาญจะเข้าห้องนี้ได้ยังต้องได้รับอนุญาตจากเขาทุกครั้งไป แต่กับเธอเข้ากลับบอกให้เดินเข้ามาได้เลย
ให้ตายเหอะเขาจะทำให้เธอเสียอาการไปถึงไหน ไม่รู้จักหยุดพักกันบ้างเลยหรือไงกันนะ
“จะออกไปแล้วเหรอ”
เขาเห็นเธอยืนนิ่งมาสักพักก็เอ่ยถาม ด้วยเห็นเธออยากเข้ามาภายในนี้แล้วทำไมถึงจะรีบออกไป
“อีเจ้ เอ๊ย คุณกล้ารอสอนงานอยู่นะคะ ยังมีอะไรอีกหลายเรื่องให้ต้องเรียนรู้”
พอจะขืนสติกลับมาได้ก็รีบเอามือลงแล้วก็หันไปพูดคุยกับเขาปกติ เธอมีงานต้องทำต่อจริงๆเพราะที่บริษัทนี้เธอคือเลขาเขาจะมามัวเล่นไปวันๆไม่ได้ ต้องตั้งใจทำงานแม้จะถูกแซวจนต้องหนีก็ตาม
“นั่งพักก่อนก็ได้ ไว้หายเหนื่อยเมื่อไหร่ก็ค่อยเดินออกไป”
เขานึกอยากให้เธออยู่ในห้องทำงานของเขาจนกว่าเธอจะพอใจ ก็เลยหาเรื่องพูดออกไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี จะให้ชวนเธอตรงๆก็ไม่กล้าพูด
“หายเหนื่อยเหรอ?”
“อืม”
“ฉันออกไปดีกว่า”
พราวลลิลพอจะเข้าใจในคำพูดของเขาดี แต่เธอก็ไม่กล้าอยู่ในห้องของเขานานนักเพียงแค่หลบหน้ากล้าหาญมาตั้งหลักเท่านั้น เพราะกลัวว่าถ้าอยู่นานเกินไปเวลาออกไปคงโดนแซวหนักกว่าเดิม
แล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป โดยไม่ได้เก็บถาดเสิร์ฟน้ำออกไป เมื่อค่อนข้างรีบร้อยด้วยกลัวเจ้าของห้องจะพูดอะไรที่ทำให้เธอต้องเขินจนตัวบิดออกมาอีก
“หึๆ”
เสียงหนาหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อคนตัวเล็กเดินออกไปจากห้องทำงานแล้ว นึกขำขันตัวเองนักที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป ไปหาว่าหญิงสาวเขาเหนื่อยทั้งที่เดินมาแค่ไม่กี่ก้าว
อันที่จริงเขาควรกล้าที่จะพูดกับเธอไปตรงๆคงดีกว่านี้ เธออาจจะให้โอกาสนั่งกับเขาสักพักก็เป็นได้
เขาคงต้องหาโอกาสใหม่จะได้มีเพื่อนพูดคุยเวลาเซ็นเอกสารที่มันกองท่วมหัวทุกวันไปด้วยจะได้ไม่เบื่อ
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้