“อย่ามาโวยวายใส่ผมนะคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงสติไม่ดีที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาแต่กรี๊ดๆ ใส่กันแบบนี้ มันน่ารำคาญรู้ไหม” ‘ผู้หญิงสติไม่ดี?’ คนถูกตำหนิอ้าปากเหวอชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบอยากจะกระโดดถีบเจ้าบ่าวในคืนเข้าหอเสียเหลือเกิน ‘เย็นไว้วาทๆ’ ได้แต่ท่องสามคำนี้ไว้ในใจ แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโตขึ้นเมื่อเจ้าบ่าวของตนเดินตรงดิ่งเข้ามาหา
“เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร”
“ก็คุณช้าผมจะถอดให้เอง” วธุกาถูกดันตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงขณะที่เขาจับโน่นพลิกนี่หาบางอย่างอยู่ ไม่ช้าซิปที่ฝังอยู่ด้านหลังชุดก็ปรากฏให้เขาได้รูดลงอย่างง่ายดาย
“อย่าดิ้นสิ” เสียงดุไม่ได้ทำให้เจ้าสาวที่กำลังดิ้นหนีไปมาหยุดได้ หนักเข้าเจ้าบ่าวก็เอาเนกไทที่รูดทิ้งเมื่อครู่มามัดมือของหญิงสาวเอาไว้
“คุณวิเนตย์นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอยังไง มามัดฉันทำไม!”
“ใครใช้ให้คุณดิ้น”
“โธ่...คุณวิเนตย์อย่ามัดฉันสิ แล้วก็อย่าถอดด้วย อะ...อ๊าย!” ไม่ทันแล้วชุดเจ้าสาวถูกถอดออกจากปลายเท้าและหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงผ้าลูกไม้ชิ้นน้อยแสนบางเบา แค่เหลือบตาขึ้นมองเขาวธุกาก็หัวใจเต้น ตึก! ตัก! เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยให้ใครได้เห็นสัดส่วนเต็มสองตาเหมือนในตอนนี้เลย
“ก็โอนะ”
“ฮะ!”
“ผมว่ารูปร่างของคุณค่อนข้างโอเคเลย สำหรับคนที่อายุอานามปาเข้าไปสามสิบห้าปีแล้วอย่างคุณ” เขาพูดแล้วก็มองต่อเหมือนอยากจะกระชากเจ้าผ้ากีดกั้นสายตาออกเร็วๆ
“คุณวิเนตย์” วธุกาเรียกชื่อเจ้าบ่าวด้วยน้ำเสียงลากยาว
“อะไร” เสียงขานรับคล้ายหงุดหงิดที่ตัวเองจะต้องละสายตาจากความงามตรงหน้าขึ้นมองคนเรียก วธุกาหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความรู้สึกอันหลากหลายที่มันประดังประเดเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
“นี่คืนเข้าหอนะคุณรู้ใช่ไหม” แทบจะกัดฟันถามเขา
“ก็ใช่” ดูเหมือนเจ้าบ่าวจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด เจ้าสาวคนงามเลยฉุนจัดที่ได้ยิน
“แล้วคุณมาทำบ้าๆ แบบนี้กับเจ้าสาวได้ยังไง เอาเนกไทมามัดฉันทำไมบ้าหรือเปล่า! ฉันแต่งงานกับคุณฉันก็พร้อมจะขึ้นเขียง เอ๊ย! เตียงกับคุณอยู่แล้ว แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้เลย!” ตะโกนใส่หน้าแล้วก็มาหอบหายใจเหนื่อยเสียเอง แต่แทนที่วิเนตย์จะสำนึกในสิ่งที่ทำลงไป เขากลับหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจ
“ผมพอใจมีอะไรไหม”
“คุณมันบ้า ฉันจะฟ้องทุกคนให้หมดทุกเรื่องเลยว่าคุณทำบ้าๆ อะไรกับฉันบ้างในคืนเข้าหอ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” พูดไปเท้าก็พยายามจะถีบเขาออกด้วยแต่ก็ไม่เป็นผลเอาเสียเลย
“จริงเหรอคุณวาท ผมว่าคุณไม่กล้าฟ้องหรอกยิ่งหมดทุกเรื่องด้วยนะ เอาหัวเป็นประกันว่าไม่กล้าแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้”
“อ๊าย!” วธุกากรีดเสียงอย่างตกใจเมื่อชั้นในตัวน้อยลอยละลิ่วจากอกไปกองอยู่บนพื้น ตามด้วยอีกตัวที่อยู่ด้านล่าง กลายเป็นว่าตอนนี้เธอกำลังเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา
“จะแหกปากร้องทำไมคุณวาท ผมเจ้าบ่าวของคุณเองนะ เดี๋ยวใครเขาก็หาว่าผมกำลังทารุณกรรมคุณอยู่หรอก” ชายหนุ่มใช้สายตาตำหนิเจ้าสาวประหนึ่งได้ทำเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
“ก็ฉันตกใจนี่นา ปล่อยมัดก่อนสิคุณวิเนตย์แบบนี้มันเหมือนถูกข่มขืนยังไงไม่รู้”
“คนบ้าที่ไหนมันจะข่มขืนเจ้าสาวตัวเอง คุณก็ช่างคิดมาได้ไร้สาระ”
‘ก็คนบ้าๆ อย่างคุณนี่แหละ’ หากพูดได้คงตะโกนใส่หน้าเขาไปแล้ว แปลกประหลาดจริงๆ ผู้ชายคนนี้ แย่ไปกว่านั้นกำลังจะเป็นสามีของเธออีกต่างหาก
“แก้มัดฉันนะคุณวิเนตย์ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก” หนักเข้าก็ต้องอ้อนวอนขอดูบ้าง วิเนตย์ทำท่าคิดเพียงชั่วครู่ก่อนจะยกไหล่ขึ้นทั้งสองข้าง
“ก็ได้ๆ แต่ห้ามดิ้นอีกนะ ยังไงคืนนี้คุณก็ต้องเป็นเมียผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ผมไม่ได้บังคับอย่างแน่นอนเพราะคุณต้องสมยอมอย่างเต็มใจ” เขาพูดมือก็แกะเนกไทออกจากมือของวธุกาไปด้วย
“ฉันไม่ดิ้นหรอก พลาดท่าแต่งงานด้วยแล้วนี่” ท้ายประโยคพูดเบาๆ
“ได้ยินนะ”
“ก็จริงไหมล่ะ”
“คุณห้ามมีปัญหาอีกนะ ผมแก้มัดให้แล้ว” วิเนตย์พูดพร้อมหย่อนเนกไทของตนเองลงสู่พื้นห้อง คนได้รับอิสรภาพรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกาย มองดูเจ้าบ่าวของตนเองซึ่งกำลังถอดเสื้อผ้าออกจากตัวอย่างเร่งรีบ ไม่ช้าก็เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ วธุกาเม้มปากนิดๆ แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง เธอไม่ใช่สาวน้อยแรกรุ่นที่จะต้องยกมือขึ้นปิดตาเอาไว้เพียงเพราะเห็นผู้ชายแก้ผ้าอยู่ตรงหน้า ใช่! ท่าทางไม่เป็นแบบนั้นแต่หัวใจที่อยู่ข้างในนี่สิ ตึก! ตัก! ตึก! ตัก!
“คุณวิเนตย์เดี๋ยวก่อนค่ะ” คนที่กำลังจะก้าวขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของเจ้าสาวถึงกับชะงัก พร้อมกับสายตาที่เอาเรื่องแบบสุดๆ
“หวังว่าคุณคงจะไม่เปลี่ยนใจกลางอากาศแบบนี้นะ” มีข่มขวัญวธุกาไว้ล่วงหน้า
“ไม่ใช่ค่ะ แต่ขอฉันทำใจแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ”
“ไม่ได้! ถ้าให้คุณทำใจแล้วเมื่อไหร่ผมจะได้นอนสักทีล่ะ เจ้าสาวท่ามากอยู่ได้ เรื่องอย่างว่าก็ขอให้เก่งมากท่าพอตัวก็แล้วกัน”
“อะไรกันฉันไม่...อุ๊บ!” ยังไม่ทันจะได้บอกว่า ไม่เคย เขาก็ฉกจูบวูบเข้าหาอย่างรวดเร็ว ลิ้นสากดุนดันเข้ามาภายในโพรงปากนุ่มอย่างถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ วธุกาบอกไม่ถูกว่าจูบแรกในชีวิตเป็นอย่างไร มีทั้งนุ่มนวลและดุดันราวกับกำลังจะถ่ายทอดลมหายใจระหว่างกัน ผ้าห่มที่ห่อตัวก็ถูกเขาดึงออกอย่างช้าๆ ใจต่อต้านแต่มือกลับวางนิ่งเฉย เพราะเขาคือเจ้าบ่าวมีสิทธิ์จะครอบครองร่างกายนี้อย่างถูกต้อง
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ