“สวัสดีครับน้องกิ่ง” วัชระเอ่ยขึ้นทักว่าคู่หมั้นคู่หมายของตัวเอง อย่างเสียไม่ได้ แม้ใจจะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก แต่เป็นการพูดตกลงของพวกผู้ใหญ่ที่อยากให้สองครอบครัวเกี่ยวดองกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ฝืนใจเขาที่สุด
ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าชีวิตคู่ระหว่างเขากับเธอจะไปกันรอด เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็ไม่เห็นหนทางออกสำหรับเรื่องนี้ สำหรับเขาแล้วผู้หญิงที่เขาอยากให้มาเป็นภรรยามีแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากผู้หญิงธรรมดาที่ชื่อม่านไหม
“กิ่งกำลังว่าจะไปหาพี่วัชรที่บ้านอยู่พอดีเลยค่ะ แล้วนั่นอะไรคะ ใช่ของฝากจากยุโรปของกิ่งรึเปล่า” หญิงสาวถามเสียงใสก่อนจะหันไปจ้องเขม็ง บุคคลที่สามที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมไสหัวไปให้พ้นๆ
“แล้วนี่แกมายืนเซ่ออะไรอยู่แถวนี้อีไหม!งานการไม่มีทำรึไง!”
“ไม่พูดแบบนั้นสิครับน้องกิ่ง ที่จริงแล้วพี่เป็นคนเรียกไหมเอาไว้เอง มันไม่ใช่ความผิดของเขาหรอกนะครับ พอดีว่าคุณแม่พี่ท่านฝากของมาให้ไหมครับ ตอบแทนคำขอบคุณที่เขาไปสอนพิเศษให้ยัยน้องที่บ้านครั้งก่อน” แม้เหตุผลของว่าที่คู่หมั้นจะน่าฟังสักแค่ไหน แต่กิ่งกมลก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดีที่แม่ของเขามีของฝากมาให้นังม่านไหม ในขณะที่เธอไม่เคยแม้แต่จะได้อะไรจากท่านเลยสักครั้ง
“มันไปสอนพิเศษยัยน้อง ก็ได้เงินเป็นการตอบแทนไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่พี่วัชรกับคุณป้าจะต้องเอาของฝากจากยุโรปมาให้มันถึงที่เลย!” กิ่งกมลให้เหตุผลอย่างสมน้ำสมเนื้อ ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่าคู่หมายของตัวเองรู้สึกอย่างไรกับอีขี้ข้าตรงหน้า เพราะรู้เธอถึงได้เกลียดมันจนอยากจะไล่มันออกไปให้พ้นๆ
“อย่าคิดแบบนั้นสิครับ พี่กับคุณแม่แค่เห็นว่าผลการเรียนของยัยน้องดีขึ้นมากจากเทอมก่อน เราสองคนเลยอยากขอบคุณไหมเขาก็เท่านั้น ว่าแต่แล้วนี่คุณป้าล่ะครับอยู่ไหน น้องกิ่งพาพี่ไปหาท่านหน่อยได้ไหมครับ” เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นวัชระจึงจำต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินตามแรงฉุดของคู่หมายเข้าไปในบ้าน แต่ก็ไม่ลืมหันมามองอีกคนอย่างรู้สึกผิด ที่เกือบทำให้เธอเดือดร้อนเพราะการกระทำสิ้นคิดของตัวเอง โดยภาพทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของธีรเดชตลอดเวลา เขาเฝ้ารอจนร่างบอบบางเดินเข้ามาใกล้ถึงได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“อีกไม่นานไอ้วัชรกับน้องฉันจะแต่งงานกัน ฉันหวังว่าเธอคงไม่คิดทำเรื่องโง่ๆ ด้วยงานจับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว!” เพราะถ้าขืนหล่อนคิดทำ เขานี่แหละที่จะทำเป็นคนจัดการหล่อนขั้นเด็ดขาดเอง
น้องสาวบุญธรรมที่พ่อกับแม่ของเขารับมาเลี้ยงเป็นลูกทันทีที่ผู้เป็นป้ากับลุงแท้ๆ ประสบอุบัติเหตุก่อนที่จะเสียชีวิตไปทั้งคู่ กิ่งกมลรักไอ้วัชรเพื่อนสนิทของเขามาก จะเรียกว่ารักแรกพบก็ไม่ผิด และแม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่น้องแท้ๆ คลานตามกันออกมาแต่เขาก็รักเธอมาก และจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายความสุขของน้องสาวไปได้!
“ไหมไม่เคยคิดจะแย่งคุณวัชรมาจากคุณกิ่งค่ะ” ม่านไหมย้ำถึงสิ่งที่เธอได้เคยบอกกับเขาไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยฟังกัน
ไม่มีใครฟัง
ทุกคนต่างเชื่อในสิ่งที่คิด
จากนั้นก็พากันตัดสินเธอด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยอคติ ซึ่งเธอชินเสียแล้วกับเรื่อง ไม่คิดจะแก้ตัวอะไรต่อเพราะคงไม่มีใครยอมเชื่อ
“ก็ขอให้มันจริง เพราะฉันจะไม่มีวันยอมให้งานแต่งของสองคนนั้นต้องพังลงด้วยน้ำมือของคนอย่างเธอ จำไว้!” หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในครั้งนี้ เธอทำได้แค่รอจนเขาเป็นฝ่ายเดินหายไปถึงได้ออกเดินไปยังท้ายไร่ สถานที่ที่เหมาะสมกับเธอทุกประการ
กว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ประจำเดือนของเธอขาดไป มันทำให้ความกลัวเริ่มเกาะกุมภายในหัวใจหนักมากขึ้นทุกวันจนกระทั่งวันนี้ วันที่เธอเริ่มมีอาการหน้ามืดเวียนหัวในช่วงเช้า ทุกสิ่งที่เหมือนจะพุ่งเป้าไปในทิศทางเดียวกันทำให้ม่านไหมตัดสินใจไปซื้อบางสิ่งมาจากร้านขายยา บางสิ่งที่มันทำให้เธอแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้เห็นผลชัดๆ
สองขีด...
ที่ตรวจครรภ์ในมือบอกมาแบบนั้น มันทำให้ทุกอย่างรอบกายคล้ายจะดับวูบไปเสียดื้อๆ จนร่างบางเซไปด้านหลัง หากไม่มีกำแพงห้องน้ำกั้นอยู่ คาดว่าเธอคงได้หมดเรี่ยวแรงล้มไปกองที่พื้น
เธอท้อง!
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และมันพาลทำให้คิดถึงเรื่องที่ลืมไปสนิท!
คืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน และถัดมาอีกวันเธอก็ไข้ขึ้นนอนซมอยู่ที่ห้อง เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอลืมเรื่องยาคุมฉุกเฉินไปเสียสนิท
เพื่อนๆ ของเขาทยอยกลับไปกันหมดแล้ว หากแต่จานชามที่ต้องล้างกลับทำให้ม่านไหมต้องอยู่ต่อเพื่อจัดการกับพวกมันให้เรียบร้อย จนเมื่อทุกอย่างเสร็จหญิงสาวจึงลุกขึ้นเตรียมตัวกลับบ้าน “ใจคอเธอจะอ่อยผู้ชายทุกคนที่เจอเลยรึไงห๊ะ!” แต่คำถามที่จู่ๆ ก็มาพร้อมแรงกระชากทำให้เธอตกใจจนเกือบส่งเสียงร้อง โชคดีที่เธอหยุดตัวเองเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคนทั้งบ้านคงได้แตกตื่น “คุณเดช! ไหมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ” หญิงสาวพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เขาหรือจะเชื่อ “ฉันเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเท่านั้น ผู้หญิงอย่างเธอมันดีอะไรดีนักหนาวะ ใครต่อใครถึงได้พากันหลงรักนัก!” คำถามนั้นเหมือนกับว่าเขาตั้งใจจะถามตัวเองมากกว่า และหนนี้ไม่ถามเปล่า เขายังใช้สายตามองสำรวจคนตรงหน้าขึ้นลองไปพร้อมกัน ก็แค่หน้าตาน่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย หุ่นสวย ขาเรียว ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน ถ้าให้เทียบกับแฟนของเขายัยนี่ยังถือว่าธรรมดามาก แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกบางทีหล่อนอาจมีดีกว่าที่ตาเห็นก็ได้ ใครจะรู้! “มะ...ไหมล้างจานเสร็จแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” เห็นชัดว่าป่วยการจะอธิบาย ม่านไห
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครได้ทันคาดคิดส่งผลให้ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน เดือดร้อนผู้เป็นป้าที่ต้องประคับประคองร่างของหลานสาวที่น่าสงสาร เข้ามากอดปลอบ “ตัดอกตัดใจเสียเถอะลูกไหม พ่อแม่เราเขาไปดีแล้ว จากนี้ไปไหมก็อยู่กับป้าเสียที่นี่เถอะนะ ป้าจะดูแลไหมเอง” ม่านไหมวัยแปดขวบได้แต่พยักหน้ารับอยู่ในอกของผู้เป็นป้า ผู้ซึ่งเปรียบได้กับญาติคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ และแม้จะเป็นแค่เด็ก อย่างไรเสียก็ต้องพามาแนะนำให้เจ้านายได้รู้จักเสียหน่อย “นี่รึหลานสาวที่ว่า” คุณวิมลกล่าวขึ้นเมื่อหนึ่งในลูกจ้างจูงมือหลานสาวเข้ามาขอพบ เรื่องที่ได้รับรู้ทำให้รู้สึกเวทนาในโชคชะตาของเด็กคนนี้อยู่มากทีเดียว “ใช่ค่ะ รีบกราบคุณท่านเร็วๆ เข้าสิลูกไหม” เด็กน้อยทำตามคำสั่งของผู้เป็นป้าในทันทีและไม่ลืมที่จะก้มหน้านิ่งอย่างคนเจียมตัว “เอาล่ะๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรนักหรอกนะ ในเมื่อไม่มีที่ไปก็อยู่ช่วยป้าเธอที่นี่ก็แล้วกัน ไหนขยับเข้ามาใกล้ๆ ให้ฉันดูหน้าชัดๆ หน่อยสิ” หนนี้เด็กสาวมีท่าทีลังเลอยู่ครู่ จนเมื่อผู้เป็นป้าพยักหน้าให้นั่นเองถึงได้กลับขยับเข้า
หลังจากขับรถไปส่งหลานสาวสุดที่รักที่โรงเรียนแทนพี่ชายกิ่งกมลก็ไม่ลืมแวะมาที่วัด เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญที่เธอไม่เคยลืม ทุกปีของวันนี้เธอจะมาที่นี่เพื่อทำบุญให้ลูกที่จากไป อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น และก็เป็นแบบนั้นอยู่พักใหญ่ก่อนทุกอย่างจะหายไปเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนเข้า “พี่วัชร” จะเรียกว่าโชคร้ายก็คงได้เมื่อเขาเองก็เห็นเธอเช่นกัน “เดี๋ยวก่อนกิ่ง!” วินาทีที่หมุนตัวเตรียมจะเดินหนีเธอก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยเสียงที่มาพร้อมแรงฉุดเบาๆ ที่ต้นแขนของอดีตสามีตัวเอง “กิ่งมาทำบุญให้ลูกเหรอ” เห็นชัดว่าเขาเองก็คงมาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกัน นั่นจึงทำให้เธอตอบรับกลับไปอย่างไม่คิดปกปิด “ค่ะ” “พอจะมีเวลาไปหาที่เงียบๆ คุยกันหน่อยไหม พี่มีเรื่องอยากคุยกับกิ่ง”แม้ใจอยากปฏิเสธเขาแค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอยอมเดินตามแรงฉุดน้อยๆ นั่นมาถึงศาลาท่าน้ำข้างวัดเข้าจนได้ “กิ่งเป็นยังไงบ้าง” “กิ่งสบายดีค่ะ พี่วัชรล่ะคะ” “ก็เรื่อยๆ” เธอไม่ได้ถามต่อถึงคำว่า ‘เรื่อยๆ’ ของเขาว่าดีหรือไม่ด
วันแรกของการไปโรงเรียนในชั้นอนุบาลของเด็กหญิงธีรนาถค่อนข้างเป็นไปอย่างทุลักทุเลพอสมควรเมื่อผู้เป็นพ่อ อา และย่าพร้อมใจกันไม่ยอมให้ดวงใจของบ้านเข้าห้อง เดือดร้อนครูประจำชั้นที่ต้องเดินออกมาตามครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสำเร็จ “หนูจำที่พ่อบอกได้ไหมคะผักบุ้ง ห้ามคุยหรือไปเล่นกับเด็กผู้ชายเด็ดขาด ถ้ามีใครแกล้งก็ให้รีบไปบอกคุณครูทันที และที่สำคัญ...ถ้าหนูคิดถึงพ่อ ก็บอกให้ครูโทรไปที่เบอร์นี้ พ่อจะรีบมารับ” “ค่ะคุณพ่อ” เด็กน้อยในชุดนักเรียนน่ารักตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้มสดใส พร้อมกันนั้นยังหันไปหาผู้เป็นย่ากับอาที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อไม่ให้ทั้งสองน้อยใจ ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องเรียนในที่สุด ภาพคนสี่คนที่เบียดเสียดกันอยู่ในเสาต้นเดียวกันเพื่อแอบดูเด็กน้อยนั้น ก่อให้เกิดรอยยิ้มจากใครต่อใครที่บังเอิญผ่านมาเห็น หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียนเสร็จ พ่อของลูกก็มีสภาพอย่างที่คิดไว้นั้นคือนั่งหงอยอยู่ที่บันไดบ้านราวกับจะรอการกลับมาของลูกสาวสุดที่รักอยู่ตรงนั้น เดือดร้อนม่านไหมที่ต้องเดินเข้าไปดูอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่อยากเห็น
ปวีณ์นุชไม่ได้ยอมแพ้ต่อสิ่งที่ได้รู้ เธอแค่กลับไปตั้งหลักก่อนจะกลับมาหาอดีตคนรักอีกครั้งพร้อมกับความมั่นใจว่าเขายังรักกันอยู่ และที่เขาต้องรับผิดชอบสองแม่ลูกนั่นเพราะว่าเขาไม่มีทางเลือก“นุชยังรักเดชนะคะ! แล้วนุชก็ไม่เชื่อด้วยว่าคุณจะหมดรักนุชแล้วจริงๆ” เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปเอาความมั่นอกมั่นใจแบบนี้มาจากไหน และก็ไม่ได้สนใจจะถามเพราะไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญอะไร“ผมก็ไม่ได้ขอให้คุณมาเชื่อ คุณอยากจะเชื่อแบบไหนก็ตามใจคุณ แต่จะให้ผมกลับไปรักผู้หญิงที่ทิ้งผมไปเอาฝรั่งผมไม่ทำ!” เป็นอีกครั้งที่ธีรเดชเลือกที่จะตอบตรงๆ ยอมรับว่าเขารำคาญและอยากที่จะจบเรื่องบ้าๆ นี่ให้ไวที่สุดก่อนที่ปัญหาใหญ่จะตามมา“เดช!”“อันที่จริงผมนึกไม่ออกเลยว่าหลงรักอะไรในตัวคุณมาตั้งหลายปี! ขอบคุณนะครับที่ทิ้งกันไป เพราะมันทำให้ผมได้เจอกับผู้หญิงที่ผมรักจริงๆ เสียที!” ต่อให้ม่านไหมจะมีแค่ตัว เขาก็ยังรู้สึกรักเธออยู่ดี อดีตที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าไม่ควรมองคนแต่ภายนอก เพราะบางคนก็ไม่ได้น่ารักเหมือนกับหน้าตาเสมอไป“นังไหมน่ะเหรอคะ! มันมีดีกว่านุชตรงไหน นุชสวยกว่า รวยกว่า ดีกว่าทุกด้าน!” หากเทียบกันอย่างที่เธอว่าก็คงเป็นตามน
ตกเย็น“มะ...เมื่อกี้เธอว่าไงนะ ขออีกที ชัดๆ”“ไหมว่าไหมจะยกผักบุ้งของคุณเดช แล้วไปจากที่นี่ค่ะ” ม่านไหมเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยคำพูดเดิมๆ ก่อนจะลอบมองท่าทีของอีกคนไปด้วย เธอทำทุกอย่างตามแผลการที่กิ่งกมลวางไว้ไม่ให้ขาดตอน“วันนี้ไปล้มหัวกระแทกที่ไหนมารึเปล่า!” เขาถามก่อนจะเดินตรงเข้ามาสำรวจร่างกายกันด้วยการจับเธอพลิกไปมาราวกับจะหาร่องรอยจากบาดแผล แต่ยิ่งไม่พบก็ยิ่งหงุดหงิดกับความคิดอีกฝ่าย“ไหมสติดีทุกอย่างค่ะ”“คนสติดีที่ไหนจะมีความคิดทิ้งลูกทิ้งผัว! เป็นอะไรของเธอ!”“คุณเดชไม่ดีใจเหรอคะที่จะได้อยู่กับลูกอย่างที่ต้องการ แถมยังจะไม่ต้องมีไหมเป็นตัวถ่วงในชีวิตด้วย” บทที่ท่องจำมาตลอดทั้งวันถูกเอ่ยกลับออกไป ก่อนที่ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง“ฉันเคยพูดเหรอว่าเธอเป็นตัวถ่วง!”“กะ...ก็ไม่เคย”“แล้วเธอไปเอาความคิดบ้าๆ แบบนี้มาจากไหน!” ไม่มีทางที่จู่ๆ จะเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาเองได้ ต้องมีใครพูดอะไรสักอย่างแน่“ก็แล้วจะให้ไหมอยู่ในฐานะอะไรคะ” ในเมื่อเป็นเขาเองที่ไม่ให้ความชัดเจนกับเธอเลยสักอย่าง แล้วจะให้เธอเชื่อมั่นอะไรได้ความจริงแล้ว..มันไม่ใช่ความผิดของเธอด้วยซ้ำที่จะรู้ส