Mag-log inมาร์คัสขึ้นมานั่งบนรถหรูโดยมีอันนานั่งอยู่ข้างกายเสียงเงียบอึมครึมมันทำให้รู้สึกอึดอัดไปหมดอันนาพยายามตั้งสติเธอไม่รู้จะพูดอะไรกับมาคัสจนกระทั่ง
"เธอชอบมันใช่ไหม.?" มาร์คัสเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ "ชอบ..?" อันนาไม่เข้าใจกับคำถามที่มาร์คัสกำลังพยายามสื่อกับเธอ "ไม่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ฉันรู้ว่าเธอชอบไอ้เดวิดนั้นใช่ไหม ปล่อยให้มันสัมผัสมือทำไม" ไฟพายุโหมกระหน่ำลูกที่สองกำลังเกิดขึ้นแต่รูปนี้เหมือนพายุทอร์นาโดที่จะทำลายอันนาให้ย่อยยับลงตรงหน้า "อันนาเปล่านะคะคุณมาร์คัสก็เห็น..!" อันนาหันมาปฏิเสธเสียงแข็งเพราะเธอไม่ได้ทำอะไรเลยการที่มาวันนี้เพราะมาร์คัสบังคับให้เธอมาเธอก็มาโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องเลย "ฉันต้องฉีกสัญญามูลค่าหลายพันล้านเพราะใครล่ะ ที่ทำให้ฉันหัวเสีย" มาร์คัสหันมาพูดตะคอกเสียงดังใส่อันนาเขาตอนนั้นหัวเสียเป็นอย่างมากเพราะรู้สึกว่ากำลังโดนหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย "อันนาไม่รู้ค่ะ คุณจะให้อันนาทำยังไงคุณเป็นคนฉีกสัญญาเองนะคะ" อันนาหันมาเถียงอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวแล้วเพราะตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ชายที่เอาแต่ใจตรงหน้า "ดีปากเก่งดีนัก" มาร์คัสเอื้อมมือไปบีบปลายคางของอันนาบังคับให้อันนาหันเงยหน้าขึ้นมองเขาและสบตาของเขา ที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธที่แทบจะปะทุออกมายิ่งกว่าระเบิดภูเขาไฟ "จำไว้นะอันนา ทุกตารางนิ้วบนร่างกายของเธอเป็นของฉัน อย่าให้ใครใช้สายตาแบบนั้นมองเธออีก อย่าให้ใครคิดจะมาพรากเธอไปจากฉัน เธอเป็นของของฉันจำเอาไว้.!" มาร์คัสพูดกับอันนาพร้อมกับบีบไปที่ปลายคางมน "ปล่อยอันนานะคะ อันนาเจ็บ!" อันนาใช้มือทุบตีไปที่หน้าอกหนาพยายามแกะมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก "ถ้าไม่อยากเจ็บแบบนี้อีก ก็จำเอาไว้คนอย่างเธอ มีค่าให้ฉันแค่ขัดดอกแทนพ่อของเธอมาร์คัสสะบัดมือออกจากใบหน้าเล็กหน้าของ" อันนาแดงเถือกด้วยแรงรอยบีบ อันนานั่งชิดขอบหน้าต่างรถมองออกไปที่วิวทิวทัศน์ด้านนอกด้วยใจที่เหม่อลอยเธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องจมปลักอยู่กับสถานการณ์นี้อีกนานแค่ไหนแล้วนี่มหาศาลท่วมหัวที่พ่อเธอสร้างไว้มันจะหมดลงเมื่อไหร่หัวใจของเธอมันหนักอึ้งจนอยากจะหายไปจากโลกนี้ อยู่ดี ๆ รถหรูก็จอดลงตรงบริเวณคาเฟ่เล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งประดับประดาไปด้วยดวงไฟเป็นคาเฟ่ที่มีร้านขนมหวานและร้านอาหารในตัวแต่วันนี้กลับไม่มีผู้คนอันนาเพ่งมองออกไปจากรถหรูมีเพียงรถของมาร์คัสคนเดียวเท่านั้นที่จอดอยู่ "จะมองอีกนานไหมลงมาสิมาร์คัสพูดเสียงเรียบนิ่งขณะที่เห็นว่าอันนาจ้องมองที่คาเฟ่ตาไม่กระพริบ บอดี้การ์ดที่ตามมาทางด้านหลังรีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้กับมาร์คัสและอันนาอันนาก้าวขาเรียวเล็กลงไปเหยียบที่พื้นบอดี้การ์ดทุกคนโค้งคำนับและยืนเข้าแถวเพื่อให้มาร์คัสและอันนาเดินเข้าไปในคาเฟ่ "ยินดีต้อนรับค่ะนายท่าน" เสียงพนักงานนับสิบชีวิตทักทายมาที่มาร์ทัสอย่างเป็นกันเอง มาร์คัสพยักหน้ารับแล้วเดินตรงไปที่ห้องอาหารที่มีบริการเดินนำไปอยู่บรรยากาศวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืน แสงไฟประดับประดา แต่กลับมองแล้วอ้างว้างมันทำให้อันนาเหงาสุดหัวใจเธอคิดว่าบนโลกนี้น่าจะเหลือเพียงแค่เธอคนเดียวที่ยังไม่เคยสัมผัสความสุขของชีวิตอันนาเดินตามมาคัดไปอย่างไม่เต็มใจนัก "เชิญครับนายท่าน ผมเตรียมทุกอย่างตามที่นายท่านสั่งเรียบร้อยครับ" บริกรที่ผายมือให้มาค้าเดินตรงไปที่โต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เขาได้สั่งเตรียมเอาไว้เพื่อจะมาทานข้าวเย็นกับอันนา "เออให้อันนายืนรอตรงนี้ไหมคะ" อันนาที่ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเข้าไปในห้องเพราะเธอเห็นว่ามันหรูหราเกินกว่าที่จะเป็นที่ของเธอ มาร์คัสที่หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าอันนาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเชิงเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาไม่ได้ให้อันนาถามหรือออกความคิดเห็นก็ไม่ควรต้องออก "ทำไมเธอต้องรอข้างนอก ในเมื่อฉันให้เธอมากับฉัน" มาร์คัสพูดเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยพลังงานอำมหิตที่อยากจะหลอมละลายร่างบางของอันนาให้กองอยู่ตรงหน้า อันนาไม่รู้จะพูดอะไรเธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาเพราะเธอคิดแล้วว่าต่อให้พูดอะไรมันก็คงไม่ได้ทะลุเข้าไปในจิตใจของคนหยาบกระด้างอย่างมาร์คัส จะยืนบื้ออีกนานไหม..! หรือจะต้องให้ฉันปูพรมแดงให้เธอเดินเข้ามา" มาร์คัสยังคงยืนคอยอันนาให้เดินตามเขาเข้ามาในห้องอาหาร เขารู้สึกอารมณ์เสียที่เห็นอันนาทำหน้าตาบูดบึ้งตลอดเวลา ทีตอนอยู่กับไอ้เดวิดส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปให้แต่อยู่กับเขาทำเหมือนจะเป็นจะตาย สองเท้าเล็กของอันนาเดินก้าวย่างเข้าไปในห้องอาหารสุดหรู ถูกตกแต่งด้วยแชงเดอเรียประดับประดาด้วยคริสตัล และดอกไม้นานาพันธุ์ที่ถูกจัดวางไว้อย่างดี อันนาเกิดมาก็ยังไม่เคยเข้าร้านที่หรูหราขนาดนี้แค่เธอสัมผัสกับบรรยากาศเธอก็รู้สึกว่าเหมือนความฝันเกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้ มาร์คัสที่เห็นท่าทางอิดออดยิ่งทำให้เขาไม่สบอารมณ์เดินกลับย้อนออกมาแล้วจูงมืออันนาลากเข้าไป "คุณมาร์คัส.!" อันนาตกใจพูดเสียงดังขึ้นมาทันทีและสะบัดมือของเธอออกจากมือหนาของมาร์คัส "ทำไม..! อยู่กับฉันเนี่ย มันจะเป็นจะตายนักหรือไง.! ที่อยู่กับไอ้เดวิดเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งยิ้มให้มันจังเลย ทำหน้าให้มันเหมือนกับตอนที่ส่งยิ้มให้ไอ้เดวิดหน่อย" มาร์คัสยังใช้คำพูดเสียดแทงจิตใจของอันนา เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่เขารู้ว่าตอนนี้อันนาคือสมบัติที่เขายังไม่เบื่อ และเป็นผู้หญิงที่เขายังต้องการเล่นสนุก ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องสมบัติของเขาทั้งนั้น พอมาถึงโต๊ะอาหาร มาร์คัสนั่งลงที่โต๊ะ แต่.!อันนาที่ยืนจ้องไปที่โต๊ะอาหารอยู่ก็ทำตัวไม่ถูก เธอไม่กล้าแม้แต่จะเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง เพราะทุกอย่างมันดูหรูหราจนกลัวว่าจะทำข้าวของเสียหายเธอคิดว่าคงไม่มีปัญญาชดใช้ "รอบนี้อะไรอีกล่ะ จะกินข้าวหรือจะกินอย่างอื่น..?" มาร์คัสเงยหน้าขึ้นมองอันนาสายตาที่คมกริบเหมือนใบมีด ขยับเขยื้อนขึ้นลงเล็กน้อย เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทานอาหารอย่างเป็นจังหวะ แล้วเงยหน้าขึ้นมองอันนาอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ อันนาที่ได้ยินคำพูดที่ดูเป็นภัยอันตรายกับตัวเธอเอง ในขณะนั้นอันนาไม่คิดอะไรอีกแล้วนอกจากรีบดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงอย่างเรียบร้อย "ฮึ.!" เสียงในลำคอทุ้มต่ำของมาร์คัสบ่งบอกถึงความพึงพอใจที่อันนายังรู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ อาหารสุดหรูเริ่มนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะใต้แสงเทียน แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของมาร์คัส อันนาที่เงยหน้ามองอย่างบังเอิญและในจังหวะนั้น ราวกับเธอต้องมนต์สะกดจากรูปปั้นที่พระเจ้าสรรสร้าง อันนาเผลอจ้องใบหน้าที่หน้าหลงไหลนี้ เธอเริ่มพิจารณารูปลักษณ์ที่ดู โหด ดิบเถื่อน แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนมาร์คัสเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนไม่เคยปฏิเสธที่จะขึ้นเตียงกับเขา "มองอะไร! หรือเมื่อคืนไม่อิ่ม?" มาร์คัสที่รู้สึกได้ว่ามีคนแอบมองเขาอยู่ จึงได้จับผิดคนตรงหน้า มาร์คัสนึกสนุกอยากจะแกล้งอันนาขึ้นมา "เปล่าซักหน่อยค่ะ!" อันนาปฏิเสธเสียงแข็งแล้วหันหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากคุยกับคนนิสัยเสียอย่างมาร์คัส "ยังจะปฏิเสธอีกหรอ ก็ฉันเห็นอยู่ว่าเธอมองหน้าฉัน"มาร์คัสทำเสียงเข้มขรึมทั้งที่ในใจหัวเราะไปไม่รู้กี่รอบแล้วที่เห็นว่านกน้อยในกรงทองสันเทิ้มทุกครั้งที่พูดกับเขา ตอนนี้มาร์คัสกลับรู้สึกอารมณ์ ดีที่เห็นสายตาคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาเพียงผู้เดียว เขาไม่ต้องการให้สายตาคู่นั้นจ้องมองผู้ชายคนไหนอีก บรรยากาศทุกอย่างดูเป็นใจ แล้วเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี หากมองผิวเผินจากภายนอกอันนาและมาร์คัสเหมือนคู่รักที่เพิ่งคบกันใหม่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือเจ้าหนี้กับลูกหนี้อันนาจะต้องทำยังไงกับชีวิตในกรงทองนี้ต่อไปดี.....เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป