จี้เหยาสังเกตเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ดูหรูหราของเหม่ยซูในขณะที่เดินตามเข้าไป เหม่ยซูใส่ชุดสีสว่างที่ดูเรียบหรูแต่แฝงความสง่างาม ขณะที่เหม่ยซูเดินนำทางไปข้างหน้า ทำให้จี้เหยารู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากช่วงที่จี้เหยาเคยอยู่ในบ้านนี้จี้เหยาทำหน้าบูดเบี้ยว ดวงตากลอกไปมาหลายรอบก่อนที่จะยิ้มเยาะและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยันอย่างที่ไม่อาจอดทนอีกต่อไป“แหม… ตอนข้าอยู่ไม่เห็นได้ของพวกนี้บ้างเลย เจ้ามาอยู่ไม่นานก็…ใช้เงินท่านโจวเยอะเพียงนี้เชียวหรือ”เหม่ยซูยังคงยิ้มด้วยท่าทางที่สงบ ใบหน้าสดใสและท่าทางเรียบง่ายไม่สะทกสะท้านกับคำพูดนั้นเลยแม้แต่น้อย “เจ้าเองก็รู้ว่าเงินท่านโจวหมดไปตั้งแต่ตอนที่เจ้าแบ่งไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวหนี่ บ้านโจวคงไม่มีวันนี้”จี้เหยาทำหน้าบูดอีกครั้งพูดออกมาอย่างไม่ยอมแพ้และไม่สำนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำ “อ้อ ข้าลืมไป เสี่ยวหนี่นางได้เป็นฮองเฮาแล้ว ความมั่งคั่งพวกนี้ก็คงได้จากนาง”เหม่ยซูส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะหยุดเดินและหันไปมองจี้เหยาที่ยังไม่สะทกสะท้าน สีหน้าเรียบเฉย นางคงเป็นจิตประสาทอะไรสักอย่างไม่มีทางเข้าใจความตั้งใจหรือลำบากของผู้อื่นเลย “ข้าไม่ตอ
หยางลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เป็นชวีหยาขอรับ...นางแค้นที่เสด็จแม่ส่งนางไปอยู่ตำหนักเย็นหลังจากที่ถูกลงทัณฑ์ แต่ข้าก็ไม่คิดว่านางจะกล้าทำเช่นนี้...ในเมื่อที่ผ่านมานางเติบโตมาพร้อมข้าใต้การเลี้ยงดูของเสด็จแม่ ช่วยงานเสด็จแม่อยู่ตลอด เคารพเหมือนมารดาและไม่เคยกล้าคิดร้ายกับเสด็จแม่”คำพูดของหยางลี่ทำให้ไทเฮาขมวดคิ้วมากขึ้น ไทเฮาฟูฉีลุกขึ้นนั่งตรงยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ ไทเฮาถามด้วยความสงสัย“ชวีหยาหรือ เท่าที่ข้าเห็นนางมาแต่เล็ก...ข้าไม่ได้เห็นความน่าสงสัยอะไรในตัวนางเลยนะ ยิ่งในตอนนี้นางลำบากมากอยู่แล้วย่อมไม่ใช่คนที่มีเขี้ยวเล็บเหลือแล้ว” ไทเฮาฟูฉีขมวดคิ้วเข้มขึ้น“แม้แต่คนใกล้ชิดของนางอย่างหรูซินยังทอดทิ้งนาง ข้าไม่คิดว่านางจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน”หยางลี่นิ่งไปเล็กน้อย ท่าทางเหมือนกำลังทบทวนคำพูดของไทเฮาแล้วคิดว่าไทเฮาอาจจะพูดถูก ในหัวของหยางลี่ก็ยังเต็มไปด้วยคำถาม“อาจจะเป็นเพราะนางไม่เหลือทางเลือกแล้วก็ได้...นางคงรู้สึกว่าหลังจากที่โดนลงทัณฑ์อย่างนั้น นางก็ไม่เหลืออะไรจะเสียอีก” หยางลี่พึมพำเสี่ยวหนี่ที่ยืนอยู่ข้างๆก็เริ่มสงสัยเช่นกัน มองไปท
อวี่หรงรีบก้าวเข้าใกล้ คงเพราะเฟยเทียนติดเซียหยาคงตามมาและแอบฟังอยู่ เสียงของอวี่หรงอ่อนลงแต่อบอุ่นราวกับอยากให้เซียหยาหยุดคิด"เห็นไหมล่ะ ขนาดเด็กน้อยยังไม่อยากให้เจ้าจากไป แล้วข้าเองก็ไม่อยากให้เจ้าไปเหมือนกัน เรื่องนี้ข้าสัญญา ข้าจัดการได้ ข้าจะปกป้องเจ้าให้ปลอดภัยแค่เจ้าอดทนรอหน่อย"เซียหยาเบิกตากว้างหยุดชะงักเพราะไม่คาดคิดว่าอวี่หรงจะพูดแบบนี้ จิตใจหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ยังคงตอบปัดอย่างลังเล"ข้าเข้าใจทุกอย่างแต่ข้าก็ต้องไปจริงๆ องค์ชายรองอวี่หรงข้าไม่อยากให้ใครต้องลำบากเพราะข้า"เฟยเทียนปล่อยโฮสะอื้นไห้ฟูมฟายกว่าเดิมขนาดตนเองร้องไห้ขอร้องแล้ว เซียหยายังยึดมั่นจะจากไปยิ่งรู้สึกว่าเซียหยาตั้งใจจะทิ้งตนเองด้วยจริงๆ"พี่สาวเซียหยาจะไปแล้วจริงๆหรือ ข้าไม่อยากให้พี่สาวจากไปเลยฮื่ออออ"อวี่หรงหันไปมองเด็กน้อย แล้วหันกลับมามองเซียหยา"เห็นไหมล่ะ ขนาดเด็กยังห่วงเจ้า แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆได้อย่างไร"เซียหยาเพียงแค่เงียบสายตาหลุบลงคิ้วขมวดเล็กน้อยรู้สึกหนักใจแต่ยังคงไม่ละความตั้งใจใดๆเซียหยาหยุดยืนนิ่งอยู่นาน ดวงตาของนางเบิกกว้างเล็กน้อย สายตาของอวี่หรงที่จ้องมองมาด้วยความห่วงใยทำให้เซี
ภายในตำหนักเหยียนหลิงที่เงียบสงบ เสี่ยวหนี่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างโต๊ะเล็กมือเล็กๆ เกาะชายเสื้อของหยางลี่แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปจากตรงนั้น สูดหายใจลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นดวงตากลมใสที่โศกเศร้าจับจ้องใบหน้าของหยางลี่“ฮองเฮาวันนี้ทำไมออดอ้อนเช่นนี้มีอะไรหรือไม่ อยากให้ข้าทำอะไรให้เป็นพิเศษไหม”หยางลี่ถามยิ้มๆ ยกมือขึ้นเชยคางมนขึ้นสบตาค้นหาความจริงในดวงตากลมเสี่ยวหนี่ส่ายหน้าไปมา“ไม่เพคะ แค่รู้สึกว่าทุกอย่างที่กำลังดำเนินไปมันยุ่งเหยิงเหลือเกินหรือว่าข้าจะไม่เหมาะกับที่นี่”“หือออใครบังอาจทำให้ฮองเฮาของข้าไม่สบายใจกันนะ บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าข้าอยู่ข้างเจ้าเสมอไม่ว่าอย่างไรให้วางใจข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”"ฝ่าบาท...เสี่ยวหนี่รักการทำอาหาร รักที่จะทำอาหารอร่อยๆ ให้ผู้คนได้กินอย่างมีความสุข ข้าไม่มีทางเอาอาหารไปทำร้ายผู้ใดแน่นอน ข้าจะไม่มีวันทำเช่นนั้นเด็ดขาด"หยางลี่มองเสี่ยวหนี่เงียบๆ แววตาอ่อนโยนอย่างที่สุด คำพูดนั้นตรงไปตรงมา ไร้เล่ห์เหลี่ยมใดๆ เหมือนดวงใจของเสี่ยวหนี่ที่สะอาดและจริงใจ เขาเองก็รู้ดี ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักในฐานะคนเร่ร่อนและพ่อค้าหลี่เขาก็เห็นความใสซื่อที่น่ารัก ความดื้อรั
ในคุกหลวงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและเงียบสงัด เสียงฝีเท้าของทหารที่เดินเข้ามานั้นดังแหวกอากาศที่เงียบงัน ทำให้ทุกสายตาต่างหันมาจับจ้อง เมื่อทหารยกมือชี้ไปที่ห้องขังที่ตั้งอยู่ลึกสุดในคุกหลวง นั่นคือห้องที่ใช้สำหรับคุมตัวผู้ที่ต้องโทษร้ายแรงกุ้ยเฟยชวีหยาที่ถูกคุมตัวมานั้นถูกมัดมือและล่ามเท้าอย่างแน่นหนาใบหน้าแสดงอาการหวาดวิตกและหมดอาลัยตายอยาก ชวีหยาเองไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ก้มหน้านิ่งและไม่พยายามจะดิ้นรนหลีกหนีการจับกุมใดๆ แม้ภายในใจนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเสียใจทหารสองคนเดินเข้ามาข้างๆ เสียงตะโกนดังออกมาจากทหารที่นำชวีหยาเข้ามา "ข้าได้รับคำสั่งจากองค์ชายรองอวี่หรง ให้คุมตัวกุ้ยเฟยมาที่คุกหลวงจนกว่าฝ่าบาทจะมีคำสั่ง เปลี่ยนแปลง"ชวีหนยายิ้มหยัน“ไม่ต้องห่วงข้าก็ไม่ได้คิดจะหนีไปไหนหรอก...ก็แค่รู้สึกเหมือนว่าชีวิตนี้มันไร้ค่าก็เท่านั้นไม่มีใครให้ห่วงและไม่มีใครห่วงข้า”“หุบปาก แล้วเข้าไปข้างในเสีย” ทหารคนหนึ่งสั่งเสียงดังชวีหยาไม่ตอบอะไรเพียงแค่ก้าวเข้าไปในห้องขังมืดๆ ท่ามกลางความเงียบ ทุกอย่างที่เห็นคือผนังห้องขังที่สกปรกและมืดมิดจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจนทหารหนึ่งในนั้นเ
เสียงฝีเท้าของคนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องไต่สวน ทุกคนในห้องเงียบกริบ รอฟังสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นถัดไป องครักษ์ที่รีบเร่งมาพบหยางลี่ ถือห่อยาที่ถูกค้นพบมาในมือ สายตาของเขามีแววหลากหลายระหว่างความกังวลและความร้อนรนจากสิ่งที่เขาพบ"ฝ่าบาท..."องครักษ์แล้วยื่นห่อยาให้กับหยางลี่ด้วยท่าทีเคารพ ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง "ห่อยานี้ค้นพบในตำหนักเย็นของกุ้ยเฟยซวีหยา ข้าพบมันหลังจากที่ได้ทำการค้นหาตามคำสั่งขององค์ชายรองอวี่หรง"ทุกสายตาจับจ้องไปที่ห่อยาเล็กๆ ในมือขององครักษ์ผู้นั้น หยางลี่เพียงแต่ยกมือให้เขาวางห่อยาลงบนโต๊ะ ก่อนจะมองไปที่ทุกคนในห้อง"ซวีหยา อย่างนั้นหรือ" เสียงของหยางลี่ดังก้องไปทั่วห้อง เขาจับจ้องไปที่องครักษ์และถามเสียงเย็นชา "เจ้าแน่ใจนะว่าเจอสิ่งนี้ในตำหนักเย็นของซวีหยา"ผู้คุมพยักหน้าอย่างมั่นใจ "ขอรับ... ข้าทำตามคำสั่งและได้ทำการค้นหาทุกซอกมุมจนพบสิ่งนี้..."คำพูดขององครักษ์ทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบไปชั่วขณะ ทุกคนหันมามองหน้ากันและกัน สีหน้าของหลายคนเริ่มไม่สบายใจ เพราะทุกคนรู้ดีถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างไทเฮากับกุ้ยเฟยซวีหยา หลังจากที่ไทเฮาทรงสั่งลงทัณฑ์ให้กุ้ยเ