ขณะเดินทางกลับ กู้มั่วหลีนั่งตรงข้ามกับเจี่ยนอันอัน พร้อมจ้องมองนางไม่วางตาแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเป็นห่วงนางที่ลงน้ำแล้วยังไม่ขึ้นมา เกรงว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นแต่หลังจากเจี่ยนอันอันขึ้นเรือมาแล้ว มองดูสีหน้าที่เรียบเฉยของนางกู้มั่วหลีก็พอจะคาดเดาได้ทุกอย่างป้ายประกาศิตสวรรค์สำหรับฉู่เทียนหัวและเจี่ยนอันอัน ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างมาก การที่เจี่ยนอันอันลงน้ำไปนานไม่ยอมขึ้นมาเสียที นั่นแสดงว่านางหมายมั่นปั้นมือต้องการป้ายนั้นให้จงได้แต่หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว นางกลับมีสีหน้าเรียบเฉยแสดงว่าคงได้ป้ายประกาศิตไปแล้ว หาไม่นางจะต้องลงน้ำอีกครั้ง เพื่อเสาะหาร่องรอยของป้ายนั้นอีกขณะที่เจี่ยนอันอันปฏิเสธว่ายังไม่พบป้ายนั้น กู้มั่วหลีก็อยู่ด้านข้างดูเรื่องสนุกอยู่ส่วนป้ายนั้นจะถูกเจี่ยนอันอันไปซ่อนไว้ที่ใด ให้คนอื่นไม่อาจหาพบได้เชื่อว่าเจี่ยนอันอันคงมีวิธีของนางอย่างไรเสียที่เขามาตามหาป้ายประกาศิตที่นี่ ก็เพื่อหวังมอบให้นางอยู่แล้วในเมื่อเจี่ยนอันอันหาพบด้วยตัวเอง ทำให้เขาเสียโอกาสอันดีไปจึงคิดว่าวันหน้าอาจต้องหาของสำคัญยิ่งกว่านี้ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้นางอีกครั้ง
ถ้าเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงตามหาป้ายประกาศิตพบแล้ว เขาก็ไม่ต้องลงน้ำไปหาอีกแต่จะหาวิธีเอาป้ายนั้นกลับมาต่างหากฉู่จวินสิงส่ายหน้าเบาๆ “ยังไม่พบ”เขากับเจี่ยนอันอันก่อนขึ้นมาเหนือน้ำ ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้วป้ายประกาศิตนี้จะมอบให้ฉู่เทียนหัวไม่ได้เป็นอันขาดเมื่อฉู่เทียนหัวได้ยินว่าทั้งคู่ยังหาป้ายไม่พบ สีหน้าเขาก็แสดงถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดเจี่ยนอันอันสบช่องจึงกล่าวสมทบ “เพราะแม่น้ำนี้กว้างใหญ่มาก อีกทั้งสายน้ำเชี่ยวกราก”“เราสองคนลงไปงมหา ก็เกือบถูกต้นไม้น้ำพันเข้าเช่นกัน”“การจะหากล่องไม้ในแม่น้ำเช่นนี้ มีความยากยิ่งไม่ต่างกับงมเข็มในมหาสมุทร”เจี่ยนอันอันกล่าวพลาง พร้อมถอนหายใจออกมาเบาๆแสดงท่าทีคล้ายจนปัญญาโดยสิ้นเชิงกู้มั่วหลีได้ยินว่าเจี่ยนอันอันเกือบถูกต้นไม้น้ำพันเข้า จึงรีบถามไถ่ “เจี่ยนอันอัน วันหน้าอย่าได้ไปทำเรื่องอันตรายเช่นนี้อีก”เจี่ยนอันอันตอบเพียงคำว่า “อืม” ถือว่าตอบกลับเขาไปฉู่เทียนหัวลุกขึ้นนั่ง พับขาพร้อมปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดร่างกายก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเขามักรู้สึกว่า เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงคล้ายกำลังพูดปดอยู่แม้ว่าแม่น้ำนี้จะกว
ฉู่จวินสิงพยักหน้า ทั้งคู่จัดแจงเก็บของเรียบร้อย จึงนั่งอยู่บนเรือรอให้ฉู่เทียนหัวขึ้นจากน้ำมาสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ในขณะที่ฉู่เทียนหัวกำลังตามหาป้ายประกาศิตอยู่นั้น เนื่องจากการมองเห็นในน้ำไม่ถนัดชัดเจนศีรษะจึงไปชนเข้ากับหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเข้าทำให้หน้าผากถลอกทันที และมีเลือดไหลออกมา แต่ถูกน้ำชะล้างไปฉู่เทียนหัวเอามือกุมหน้าผากที่เจ็บ คิดไปจากที่ตรงนั้นเสีย แต่กลับพบว่าบริเวณที่เหยียบอยู่ มีต้นไม้น้ำมาพันแข้งพันขาไว้ทำให้ฉู่เทียนหัวในยามนี้ รู้สึกว่าการกลั้นหายใจ เป็นเรื่องลำบากยากยิ่งหากไม่รีบขึ้นเหนือน้ำอีก เกรงว่าคงต้องสำลักน้ำเสียชีวิตเป็นแน่แท้เขาจึงรีบแกะต้นไม้น้ำที่มาพัวพันออก แต่ปรากฏว่ายิ่งรัดก็ยิ่งแน่นมากขึ้นขณะที่ฉู่เทียนหัวกำลังดิ้นรนอยู่นั้น ลมหายใจที่กลั้นอยู่ สุดท้ายก็ต้านการเคลื่อนไหวที่รุนแรงไม่ได้ จนต้องระบายออกมาเสียสิ้นและเมื่อขาดอากาศ เขาจึงกลืนกินน้ำเข้าไปแทนเป็นจำนวนมากรู้สึกว่าภายในอกเริ่มมีน้ำปริมาณมหาศาลไหลเข้าไปและยามนี้เขาเริ่มเกิดความหวาดกลัว แต่ยิ่งดิ้นรนเท่าใด ก็ยิ่งไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการของต้นไม้น้ำได้ในท้องมีน้ำเข้าไปเป็น
เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงต่างสบตากัน พร้อมแหวกว่ายไปตามทิศทางที่จุดสีแดงบอกไว้อาศัยแสงสว่างจากไฟส่องทางใต้น้ำ ไม่นานทั้งคู่จึงเห็นกล่องไม้ใบหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ถูกดินปกคลุมไว้อยู่คาดว่าน่าจะเป็นกล่องไม้ที่บรรจุป้ายประกาศิตอย่างแน่นอนทั้งคู่แอบดีใจเงียบๆ พลางรีบว่ายไปที่กล่องไม้นั้น หลังจากปัดเอาเศษดินออกไป จึงเห็นกล่องไม้นั้นยังมีโซ่เหล็กผูกไว้อีกชั้นพร้อมกุญแจที่ล่ามสิ่งของในนั้นไว้เจี่ยนอันอันหยิบเข็มเงินออกมาจากห้วงมิติ พร้อมสอดเข้าไปในแม่กุญแจแล้วขยับเล็กน้อยไม่นานก็สามารถไขกุญแจออกเจี่ยนอันอันเปิดฝากล่องออก ในที่สุดก็เห็นป้ายแผ่นหนึ่งที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์บนป้ายนั้นสลักอักษรตัวใหญ่ว่า ‘ป้ายประกาศิตสวรรค์’ภายใต้ชื่อนั้นยังมีอักษรสลักอีกหนึ่งแถวเจี่ยนอันอันมองดูอักษรแถวนั้น พลางคิดในใจว่าไฉนดูแล้วจึงคล้ายพยัญชนะภาษาอังกฤษ?นางลองสะกดดู พลันนัยน์ตาเบิกโพลงขึ้นเป็นอักษรภาษาอังกฤษจริงๆแต่ในยุคโบราณนี้จะมีภาษาอังกฤษได้อย่างไร หรือว่าผู้ที่เคยครอบครองป้ายประกาศิตนี้ ก็ได้ทะลุมิติมาเช่นกัน?แต่ยามนี้ไม่มีเวลาคิดมากความ เจี่ยนอันอันรีบนำกล่องไม้และป้าย
เพียงไม่นานในมือเจี่ยนอันอัน ก็มีเครื่องตรวจจับเพิ่มมาหนึ่งเครื่องนางเปิดปุ่มทำงาน พลันมีเสียงติ๊ดๆ ดังขึ้นปรากฏแสงสีเขียวแสดงการเคลื่อนไหวคล้ายใบพัดฉู่จวินสิงมองดูเครื่องตรวจจับนั้น ไม่เข้าใจว่าของสิ่งนี้คืออะไรเขาคิดจะถามเจี่ยนอันอัน ว่าไปนำของสิ่งนี้มาได้อย่างไรแต่เพียงไม่นานก็นึกได้ ว่านางมีห้วงมิติอยู่เมื่อสามารถนำอุปกรณ์ดำน้ำออกมาได้ หากจะมีของแปลกประหลาดยิ่งกว่านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดทั้งคู่ยังคงแหวกว่ายขึ้นหน้าต่อไป เจี่ยนอันอันคอยเหลือบดูเครื่องตรวจจับเป็นระยะเสียงติ๊ดที่หน้าปัดส่งสัญญาณเชื่องช้า หลายนาทีจึงจะดังขึ้นสักหนึ่งครั้งว่ายต่อไปอีกไม่นาน ในที่สุดเครื่องตรวจจับก็ได้ส่งเสียงขึ้นอย่างเร็วรี่พร้อมหน้าปัดยังปรากฏจุดสีแดงเล็กๆ ขึ้นสองจุด เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามที่ฉู่เทียนหัวกล่าวมา ป้ายประกาศิตสวรรค์ถูกเขาวางอยู่ในกล่องไม้กล่องหนึ่งแต่เหตุใดเครื่องตรวจจับจึงปรากฏจุดสีแดงขึ้นมาสองจุดได้?ไม่ทันได้คิดมากความ เจี่ยนอันอันรีบดึงตัวฉู่จวินสิง แหวกว่ายไปตามจุดสีแดงที่เครื่องตรวจจับได้แสดงเอาไว้เดิมคิดว่าคงได้เห็นป้ายประกาศิตถูกสายน้ำพัดพา
ตรงข้ามกับฉู่จวินสิง นี่เป็นครั้งแรกที่แบกชุดดำน้ำเช่นนี้ทุกครั้งที่หายใจ จะต้องดึงเอาออกซิเจนในถังมาใช้รู้สึกไม่สู้คุ้นชินนักแต่เพียงไม่นานก็ปรับตัวได้ ขณะแหวกว่ายไปพร้อมกับเจี่ยนอันอัน จึงรู้สึกคล่องแคล่วมากขึ้นทั้งคู่แหวกว่ายไปในละแวกน่านน้ำที่ใกล้เคียง ก็ยังไม่พบกล่องใส่ป้ายประกาศิตสวรรค์แต่อย่างใดจึงลองว่ายไปยิ่งไกลมากขึ้นหลังจากฉู่เทียนหัวลงน้ำ ก็เริ่มมองหาป้ายประกาศิตเช่นกัน ต้องยอมรับว่าเขาว่ายน้ำแข็งมาก เพียงแต่ชั่วขณะที่กระโดดลงน้ำนั้น เขาได้กลั้นลมหายใจไว้เต็มและหลังจากลงน้ำไปแล้ว เขาก็ไม่ได้โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจอีกเขาลืมตาขึ้น แม้ว่าอยู่ใต้น้ำอาจทำให้แสบตาบ้าง แต่ก็ไม่มีผลต่อการมองในระยะสองเมตรของเขาเพียงแต่เมื่อดิ่งไปถึงก้นบึ้ง เขาเริ่มมองเห็นทัศนียภาพเบื้องหน้าไม่ชัดเจนมาถึงเวลานี้ ฉู่เทียนหัวจึงได้ตระหนักว่า อุปกรณ์ดำน้ำที่เจี่ยนอันอันนำมานั้นมีประโยชน์เพียงใดเขาเริ่มนึกเสียใจ ที่ไม่ได้บอกให้เจี่ยนอันอันเตรียมอุปกรณ์มาให้เขาอีกหนึ่งชุดแต่ตอนนี้ทุกอย่างก็สายเกินแก้แล้วในเมื่อลั่นวาจาออกไป ก็ย่อมไม่อาจถอยหลังได้อีกเขาอยู่ในน้ำราวกับคนตาบอ