ศิวัชมาส่งอรุณีมาลาและลูกที่บ้านของเธอในตอนบ่ายแก่ๆ หญิงสาวนั่งที่เบาะหลังกับลูกสาว ส่วนต้นกล้านั่งคู่บิดาที่เบาะหน้า เมื่อรถใกล้ถึงหน้าบ้าน ต้นกล้ามองรถที่จอดหน้าบ้านถัดไปแล้วทำหน้าเบ้อย่างไม่ชอบใจ
ศิวัชมองเห็นดังนั้นจึงถามเด็กชาย
“มีอะไรเหรอครับลูก”
“รถเพื่อนพ่อแทนมาอีกล่ะ ต้นกล้าไม่ชอบเลยเขาชอบมาคุยกับคุณแม่แล้วก็ชอบผลักหัวต้นกล้าแรงๆ”
“เพื่อนพ่อแทน ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ” ชายหนุ่มถามต่อ เริ่มไม่พอใจที่ลูกชายฟ้องว่าถูกผลักศีรษะแรงๆ
“ผู้ชายครับต้นกล้าฟ้องคุณแม่แล้ว คุณแม่ก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน แต่แม่บอกเป็นเพื่อนพ่อแทนว่าเยอะไม่ได้เสียมารยาท”
อรุณีมาลาฟังอยู่ด้านหลัง เธอเรียกลูกชาย
“ต้นกล้าครับ เดี๋ยวเราเข้าบ้านไปอาบน้ำแล้วแม่จะพาไปซื้อดินสอสีดีไหมลูก เดี๋ยวแม่เรียกแท็กซี่ไปกัน ไม่ต้องหาที่จอดรถ”
เด็กชายรีบหันไปหามารดากับน้องสาว
“ไปครับ ต้นกล้าอยากไปบ้านบอลด้วย”
“หนูก็อยากไปค่ะ” ต้นข้าวบอก
“ให้พ่อไปส่งเราที่ห้างเลยไม่ได้เหรอคับแม่ ต้นกล้ายังไม่อยากเข้าบ้าน” เด็กชายเสนอ
“ไม่ได้ค่ะลูก มันจะดูน่าเกลียดไป เข้าไปแปบเดียวเนอะเดี๋ยวแม่พาออกไปข้างนอก ค่ำๆ เราค่อยกลับ” หญิงสาวเองก็ไม่ชอบเพื่อนของแทนไท แต่ไม่อยากให้อรุณประภาลำบากใจเพราะเพื่อนของแทนไทคนนี้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจของว่าที่พี่เขย
“ให้พี่ไปส่งไหมครับ ออกับลูกเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่นั่งรอที่ห้องรับแขกได้ บ้านออกับบ้านคุณพิณคนละหลังกันไม่ใช่เหรอ”
“ให้พ่อไปส่งดีกว่าค่ะแม่ ลุงชัยจะได้ไม่ขอไปส่งพวกเรา” เด็กหญิงต้นข้าวพูด เธอไม่ชอบเพื่อนพ่อแทนมากๆ
“หนูเคยเห็นเขาจับมือแม่ หนูไม่ชอบ”
“อะไรนะคะลูก” ศิวัชหูผึ่ง เขาจอดรถที่หน้าบ้านเธอแล้วแต่ยังคุยกันอยู่ไม่จบ
“ต้นกล้าเคยเห็นลุงพลเคยจับมือแม่แรงๆ แล้วแม่ก็ตบหน้าเขา” ต้นกล้าพูด
“ต้นกล้า! ตอนนั้นลุงเขาเมา เขาขอโทษแม่แล้วมันไม่มีอะไรแล้วค่ะ หนูไม่พูดแบบนี้กับใครอีกนะ" อรุณีมาลาปรามลูกชาย
เด็กชายหน้ามุ่ย เขาเป็นคนช่วยแม่แท้ๆ ในวันนั้น
“ไหนต้นกล้าเล่าให้พ่อฟังสิครับ” ศิวัชถามลูกชาย ต้นกล้าได้โอกาสเล่าจ๋อยๆ
“ตอนนั้นเขาเข้ามาในบ้านเรา คุณแม่กำลังทำกับข้าว ลุงพลมาถึงก็ไล่ต้นกล้าออกไปจากห้องแล้วเขาก็จับมือแม่แรงๆ จนแม่ร้อง ต้นกล้าก็เลยเข้าไปกัดเขาที่แขน ลุงพลก็ผลักหัวต้นกล้าไปชนโต๊ะ แม่เลยตบหน้าเขาคับพ่อ”
ศิวัชขบกรามด้วยความไม่พอใจ การทำร้ายร่างกายผู้หญิงและเด็กเป็นสิ่งที่เขาถือมากว่าผู้ชายไม่ควรทำ
อรุณีมาลาไม่อยากให้เรื่องลุกลาม เธอรีบตัดบท
“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง ไปค่ะเด็กๆ เข้าบ้านกันค่ะลูก”
ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไปด้วย
“ผมจะรอพาลูกไปเที่ยวห้างด้วย ออจะพาลูกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไป”
“คุณกลับไปได้แล้วค่ะ คุณศิวัช” หญิงสาวปวดหัวทำไมเจอแต่คนพูดไม่รู้เรื่อง หญิงสาวลงจากรถแม่บ้านรีบวิ่งมาเปิดประตูให้
“ต้นกล้าอยากให้พ่อไปด้วยไหมครับ” ศิวัชหันไปถามลูกชาย ซึ่งหน้าชื่นตาบานขึ้นมาทันที
“อยากคับ”
ในระหว่างที่ศิวัชรอสามแม่ลูกเปลี่ยนเสื้อผ้า เชานั่งรอในห้องรับแขกเปิดดูนิตยสารอ่านผ่านๆ แบบไม่มีสมาธิมากนัก มีชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในบ้าน แต่งกายด้วยเสื้อผ้ามองดูชัดเจนว่าเป็นนักธุรกิจ เดินอาดๆ มาหาจ้องเขานิ่ง
ศิวัชมองอย่างประเมินท่าที เขานึกรู้ว่านี่อาจจะเป็น “ลุงพล” ที่เด็กๆ เรียก
“ออไม่อยู่เหรอ แล้วคุณเป็นใครเข้ามานั่งในบ้านออได้ไง” ชัยพลอยากรู้ว่าชายตรงหน้าเป็นใคร ความอยากรู้นั้นมีมากเสียจนต้องยอมเสียมารยาทเดินมาจากฝั่งบ้านของอรุณประภาเพื่อมาถาม
เท่าที่เขาเห็นอรุณีมาลามาหลายปี หญิงสาวไม่เคยเชิญผู้ชายคนไหนเข้าบ้านนอกจากพี่ชายและเพื่อนสนิทคนสองคน แล้วไอ้หมอนี่มันเข้ามาได้ยังไง แถมยังดูสนิทสนมกับไอ้เด็กแฝดสองคนนั่นด้วย
“แล้วคุณล่ะเป็นใคร” ศิวัชย้อนถามเขาลุกขึ้นยืนช้าๆ
“คุณพล คุณวัชคะ” อรุณประภารีบวิ่งเข้ามาก่อนสองหนุ่มจะมีเรื่องกัน เธอไปคุยโทรศัพท์แปบเดียวออกมาเพื่อนของคู่หมั้นก็หายไปจากห้องรับแขก สังหรณ์ใจว่าต้องมาที่นี่
“คุณพลคะ นี่ดร.ศิวัช พ่อของเด็กๆ ค่ะ พ่อของต้นกล้ากับต้นข้าว ส่วนคุณวัชนี่คุณชัยพลเป็นเพื่อนของแทนค่ะ” เธอแนะนำเขาสองคนให้รู้จักกัน
ชัยพลหน้าตึงในที่สุดพ่อของไอ้เด็กสองคนนั่นก็กลับมา เขารู้แล้วว่าไอ้แฝดคนพี่ได้ความกวนประสาทมาจากไหน ชายหนุ่มคิดโดยลืมมองว่าตนเองก็ไม่ได้ทำดีกับเด็กก่อน
“อ้อ คุณจะกลับมารับลูกไปเลี้ยงเองใช่ไหม ก็ดีผมกับออจะได้มีลูกใหม่ของตัวเองกันสักที” ชัยพลพูดในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด อรุณประภาอ้าปากค้าง เธอไม่นึกว่าเพื่อนของแฟนหนุ่มจะเป็นคนแบบนี้ไปได้
ต้นกล้ามาจากไหนไม่รู้ วิ่งมาผลักชัยพลสุดแรง เด็กชายโมโหอย่างมากที่ได้ยินคำว่าแม่จะมีลูกใหม่ เด็กชายน้ำตาคลอ
ในขณะที่ชัยพลเซไป เขาหันกลับมาทำท่าจะผลักต้นกล้าท่ามกลางความตกใจของอรุณประภาและอรุณีมาลาที่หวีดร้องสุดเสียง
แต่ชัยพลก็ต้องชะงักเมื่อเขาถูกกระชากไปอีกทาง ศิวัชโกรธจนอยู่เฉยไม่ได้ เขากระชากคนที่จะทำร้ายลูกชายออกมาแล้วชกเข้าไปเต็มแรง จนชัยพลลงไปกองกับพื้นเลือดกลบปาก
“มึง มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร” เขาลนลานหนี ชัยพลไม่ใช่คนที่จะสู้ใครได้ เขาทำได้แค่เป็นนักเลงผู้หญิงเพราะมีเงิน แต่ไม่เคยลงสนามในการต่อสู้จริงแบบศิวัช
อีกตัวตนหนึ่งของดร.หนุ่มคือลูกชายคนเดียวของนายหัวที่ต้องคุมคนงานทั้งเกาะ เขาจึงได้รับการฝึกศิลปการต่อสู้จนชำนาญตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะสู้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ
“แล้วมึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร” ศิวัชก้มลงไปกระชากคอเสื้อคนที่ยังนอนกับพื้น พูดเสียงต่ำให้ได้ยินแค่สองคน
“มึงรู้จักนายหัวภาคย์ไหม รู้จักตระกูลวิชิตดำรงไหม” ศิวัชพูดแล้วปล่อยคอเสื้ออีกฝ่ายให้ลงไปกองกับพื้นเหมือนเดิม เขาปัดมือเหมือนกับชัยพลเป็นแค่ฝุ่นละอองที่ไม่มีความสำคัญ
ชัยพลตาเหลือกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขามองสายตาของอีกฝ่ายแล้วรีบลุกหนีออกไปจากบ้าน ตรงขึ้นรถยนต์ของตนเองขับออกไปทันที ศิวัชหันไปมองต้นกล้าที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดา
“เขาบอกว่าแม่จะมีลูกใหม่กับเขา ต้นกล้าเกลียดผู้ชายคนนั้น ฮือ” เด็กชายร้องไห้กับแม่
“ไม่จริงค่ะต้นกล้าต้องฟังแม่นะ อย่าไปฟังคนอื่นลูก” หญิงสาวปลอบลูก
“พิณขอโทษนะที่เพื่อนแทนทำแบบนี้ พิณคงต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องแล้ว” อรุณประภาจับแขนคู่แฝด เธอรู้สึกผิดมากจริงๆ
ดร.หนุ่มถอนใจ เขาเข้าไปหาต้นกล้าเรียกบุตรชายเบาๆ
“ต้นกล้าครับ” เด็กชายโผเข้าหาพ่อทันที
“เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งนะลูก ต้องปกป้องแม่กับน้องได้” ศิวัชพูด เด็กชายพยักหน้ารับ
“ครับต้นกล้าจะเก่งเหมือนพ่อ พ่อทำได้ยังไง พ่อสอนต้นกล้าบ้างสิ” เด็กชายเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็ว เขายังจำได้พ่อของเขากระชากแขนไอ้หมอนั่น ชกทีเดียวลุงปากเสียลงไปกองกับพื้น พ่อของเขาเก่งที่สุด
“พ่อจะสอนแต่ตอนนี้ไปล้างหน้าล้างตาก่อน จะไปบ้านบอลกันไหม”
ศิวัชพาต้นกล้าและต้นข้าวไปส่งให้อรุณีมาลา เด็กสองคนเริ่มงอแงเพราะง่วงนอน“พ่อจะมานอนกับเราไหม” ต้นกล้าถามศิวัชเหลือบตามองอรุณีมาลาที่กำลังพาต้นข้าวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำด้านในห้อง“มาสิ เดี๋ยวพ่อรีบกลับนะลูก” เขาทำเสียงกระซิบกระซาบต้นกล้าพูดแบบไม่มีเสียงตอบกลับ “โอเคคับ”งานเลี้ยงยังดำเนินไปอยู่อย่างสนุกสนานแต่อรุณประภาอ้างว่าเวียนศีรษะ ขอตัวลุกจากโต๊ะหลังที่น้องสาวฝาแฝดขอตัวไปห้องน้ำไม่นานนัก แทนไทและชัยพลจึงถือขอโอกาสขอตัวออกจากงาน เขาบอกเจ้าภาพว่า“เราขอตัวกลับไปนอนก่อนนะครับ รู้สึกมึนๆ” เมฆายิ้ม “ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานของเราสองคน” เมื่อแทนไทและชัยพลขับรถออกไปจากบริเวณงาน สีหราชก็มาถึง “เรียบร้อย” เขาพูดเพียงสั้นๆ เข้าใจกันได้ดี เจ้าภาพปล่อยให้งานเลี้ยงดำเนินไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องขยายเสียงและไฟ แต่สมาชิกหลักในครอบครัวและจนท. รวมถึงคนที่มาช่วยหายเข้าไปในห้องประชุม ต่างรอฟังความเคลื่อนไหวจากผลงานในวันนี้อรุณประภาและอรุณีมาลาเข้ามาสมทบหลังจากที่เด็กๆ หลับแล้ว เธอสองคนนั่งโต๊ะเดียวกับอัญญา“เจ้าแฝดล่ะ” พี่สาวคนโตถาม“หลับแล้วค่ะ ให้พี่เลี้ยงอ
งานเลี้ยงเริ่มเวลาหนึ่งทุ่ม แต่อิงควัตให้อรุณีมาลากับอรุณประภาลงไปในงานเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที เพื่อให้ดูเด่นมากพอ“พี่จะดูหลานให้เอง ออกับพิณต้องระวังตัวนะ ถ้าไม่ชอบมาพากลให้ถอยเลย” อิงควัตดูความเรียบร้อยให้น้องสาวทั้งคู่ คืนนี้คู่แฝดสาวสวยมากทั้งสองคน“รอบๆ งานจะมีจนท.ที่แฝงตัวมา พวกเขาจะคอยจับตาอีกทาง” “ค่ะพี่อิง” สองสาวรับคำ ด้านอิงควัตแม้จะห่วงน้องแต่เขาคิดว่าทั้งสองคนน่าจะเอาตัวรอดได้อรุณีมาลาและอรุณประภามองหน้ากัน “ไม่เป็นไรนะพิณ หลังจากคืนนี้เราจะสลัดไอ้ผู้ชายเฮงซวยออกไปจากชีวิตแบบถาวร ด้วยการส่งมันเข้าคุก” “เดี๋ยวนะออ ใส่อารมณ์จังผู้ชายเฮงซวยที่ว่านี่รวมดร.ด้วยรึเปล่า” อรุณประภาถาม แต่คนอีกกลุ่มที่นั่งฟังผ่านไมโครโฟนพากันหัวเราะ อรุณีมาลาไม่ตอบเธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้างานสองสาวเลือกนั่งโต๊ะที่ว่างโต๊ะหนึ่ง จากนั้นไม่นานแทนไทและชัยพลก็มองเห็นพวกเธอ สองคนพากันลุกมาหาคู่แฝดสาวทันที“พิณมานั่งที่นี่เอง แทนรอตั้งนาน” แทนไทนั่งลงข้างๆ เขาคิดว่าคนรักยังเคืองอยู่ “ยังโกรธแทนอยู่รึเปล่าครับ แทนขอโทษอีกทีนะ” ชายหนุ่มหันมาหาอรุณีมาลา“วันนั้นขอโทษออด้วยนะครับ พอด
ศิวัชมาส่งอรุณีมาลาที่บ้านพักส่วนตัวของเธอ ส่วนลูกๆ อยู่กับนายหัวภาคย์ คุณปู่คุยสนุกจนเด็กๆ ชอบที่จะอยู่ด้วย นายหัวบอกว่า"เอ็งพาแม่หนูเข้าบ้านไปเถอะ ท่าทางอยากพัก ส่วนหลานๆ อยู่กับปู่ดีกว่าเนอะลูก" ด้วยเหตุนี้ในรถจึงเหลือแค่เธอและเขาสองคน เมื่อเขาจอดรถหน้าบ้านหญิงสาวจึงรีบลงหยิบกระเป๋าลงมา แล้วเดินเข้าบ้าน เธอหันมามองเมื่อศิวัชหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาลงจากรถ"คุณเอาของคุณลงมาทำไม" นี่เขาคงไม่ได้คิดจะพักที่นี่หรอกนะ เธอคิดในใจ"ลูกกับอออยู่ไหน พี่ก็อยู่ที่นั่นล่ะ" เขาพูดง่ายๆ รอให้เธอเชิญเข้าบ้านคงไม่มีวันนั้น"แต่นี่บ้านฉัน บ้านส่วนตัวคุณควรกลับไปนอนที่ตึกใหญ่" หญิงสาวไล่ตรงๆ"แล้วออไม่กลัวนายชัยพลเหรอ ถึงไม่ให้พี่อยู่ด้วย รึว่า.. " เขาหยุดพูด"รึว่าอะไร" หญิงสาวเสียงขุ่น"รึว่าออเคยให้ความหวังเขา เรื่องจะมีลูกคนใหม่แบบที่เขาพูด"ฉาด... เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น เมื่ออรุณีมาลาลุแก่โทสะเพราะคำถามของเขา ศิวัชหน้าหันไปตามแรงตบ ชายหนุ่มกระชากร่างของเธอมาชิดร่างก้มลงจูบทันที หญิงสาวยกมือขึ้นดันอกกว้าง มือจิกข่วนลงไปตามผิวเนื้อของเขาแบบไม่เลือกที่ เธอเบี่ยงหน้าหนีริมฝีป
“พิณได้คุยกับเขาบ้างรึเปล่า” อรุณีมาลาถามระหว่างที่พวกเธออยู่ในห้องรับรอง มีพนักงานโรงแรมจากห้องอาหารด้านล่างขึ้นมาเตรียมกาแฟและขนมไว้แล้วรีบลงไป เนื่องจากคณะผู้บริหารต้องการความเป็นส่วนตัวอรุณประภาส่ายหน้า “ยังเลยทำใจไม่ไหว” “แล้วเรื่องคืนนี้ล่ะ” แฝดน้องถามต่อ“ก็คงต้องโทรไปชวนเขา แต่เรื่องนอกบ้านเป็นเรื่องของจนท. พี่อิงบอกแบบนี้ให้พวกเราอยู่แค่ในบ้าน” อรุณประภาตอบ“ถ้าเราจัดงานเลี้ยง เขาจะไม่ล้มเลิกแผนเหรอ” อรุณีมาลาคิดตาม“ไม่หรอก คนที่มากันเยอะจะทำให้พวกเขาไม่เป็นที่สังเกตต่างหาก” ศิวัชตอบแทน เขาวางถ้วยกาแฟลงกับโต๊ะและนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง“ขอบคุณนะคะดร. ได้นอนบ้างไหมคะ” อรุณประภามองว่าที่น้องเขยด้วยมุมมองที่ดีขึ้น เอ..จะเรียกว่าที่น้องเขยหรือน้องเขยดี หญิงสาวไม่แน่ใจ“ได้นอนอยู่ครับ คุณพิณไม่ต้องกังวลถึงเป็นคนอื่นขอความร่วมมือมาแบบนี้ผมก็ต้องให้ข้อมูล” ศิวัชพูดให้อรุณประภาสบายใจ และหันมาพูดกับแม่กับลูกว่า“เดี๋ยวเราจะไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียนสักตอนเที่ยงแล้วไปตราดกัน ฉลองอาฟเตอร์ปาร์ตี้หน้าที่ของออคืออยู่กับลูกพอ เรื่องนอกเขตบ้านฉัตรอรุณให้เจ้าหน้าที่จัดการไป ส่วนคุ
เช้านั้นศิวัชไปส่งคู่แฝดที่โรงเรียน เด็กชายต้นกล้ายิ้มหน้าบานที่พ่อไปส่งเข้าเรียน“แม่มารับต้นกล้ากับน้องเร็วๆ นะ” เด็กชายย้ำ หญิงสาวเปิดประตูรถให้เด็กๆ ลง เธอกล่าวอะไรกับคุณครูเวรหน้าประตูนิดหน่อย ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับพร้อมจดข้อความบางอย่างก่อนจะกลับมาขึ้นรถ“ออคุยอะไรกับครูเหรอครับ” “แจ้งครูไว้ค่ะ ถ้าคนอื่นมารับอย่าให้ต้นกล้ากับต้นข้าวกลับด้วย” เธอหมายถึงแทนไทเพราะเขาเคยมารับเด็กๆ ที่โรงเรียนบ้างเป็นครั้งคราว“คุณแทนไทเหรอครับ” ชายหนุ่มถาม“ค่ะ” เธอรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ “เย็นนี้ออเลิกงานกี่โมง” เขาถามเมื่อบังคับรถตรงไปยังโรงแรม“ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่จะไปรับลูกให้ทัน” เธอตอบพลางคิดวันนี้อาจจะต้องไปพัทยาอรุณีมาลาชะงักเมื่อมีสายเรียกเข้าจากอรุณประภา“ออเหรอเรากำลังไปตราดนะ” คู่แฝดบอกมา“ไปทำไมน่ะพิณ” เธอถามกลับ“พี่รินดูในไฟล์กล้องวงจรปิดของผับ คืนนี้แทนมีนัดส่งของข้ามชายแดน” แฝดพี่ตอบมาสั้นๆ“ออไปด้วย รอก่อนนะพิณ” ชายหนุ่มจอดรถในที่จอดรถของโรงแรมพอดี อรุณีมาลาหันไปบอกศิวัชว่า “ตอนเย็นอาจจะต้องฝากคุณไปรับเด็กๆ นะคะ พิณกำลังจะไปตราด” เธอเดินเร็วๆ ตรงไปที่รถของตัวเอง หญิง
“ออไม่คิดจะบอกพี่เลยเหรอ” ศิวัชถามขณะที่เขาขับรถตรงกลับบ้าน“แค่ไปประชุมเนี่ยนะคะ” หญิงสาวย้อนถาม“ถ้าพี่ไม่ไปป่านนี้ออไม่ไปถึงผับไอ้หมอนั่นแล้วรึไง” ชายหนุ่มย้อนถาม หญิงสาวเงียบ“เรื่องนี้มันอันตรายเกินไป พี่จะจัดการต่อเองกับพี่ชายออ ออเข้าใจไหม” เขาพูดพร้อมกับที่จอดรถลงที่หน้าบ้านของเขาเอง หญิงสาวไม่รับปากเธอเม้มปาก “ลูกคงหลับแล้ว แต่ออจะไปดูลูกก่อนก็ได้” เขาเดินนำขึ้นบ้าน หญิงสาวดูนาฬิกาตอนนี้เที่ยงคืนกับอีกสิบห้านาที ชายหนุ่มเดินขึ้นชั้นสองภายในบ้านเปิดไฟทางดวงเล็กๆ ไว้พอมองเห็นทางเดินได้ ห้องแรกเป็นห้องของต้นกล้าเด็กชายหลับสนิท ศิวัชปิดประตูห้องอย่างเบามือไปที่ห้องต่อไปซึ่งเป็นห้องของต้นข้าว เมื่อเปิดเข้าไปเด็กหญิงก็หลับเช่นกัน หญิงสาวสบายใจเมื่อเห็นลูกหลับดี ศิวัชเดินไปเปิดประตูห้องข้างๆ ของต้นข้าวให้“นี่ห้องของออ พี่ให้เด็กจัดให้แล้วมีของใช้ทุกอย่างของใหม่ทั้งหมดพี่เตรียมให้ออ” หญิงสาวมองเข้าไปในห้องท่าทีระแวงระวัง“ขอบคุณค่ะ” เธอเตรียมปิดประตูห้องแต่ชายหนุ่มจับบานประตูไว้ “แต่ถ้าออแปลกที่ ไม่อยากนอนคนเดียวห้องพี่อยู่ข้างๆ นะ เคาะเรียกพี่ได้ 24 ชม.เลย” เขายิ้