Share

ตอนที่ 14

last update Last Updated: 2025-09-16 09:17:53

ตัดมาที่อนาคินเขาพึ่งจะคุยงานกับลูกค้าเสร็จสองรายก็กินเวลาไปเกือบทั้งวัน ชายหนุ่มมองดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามกว่า ระหว่างนี้เขาก็กำลังรอคุณผู้ช่วยเลขาที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

“มัวไปทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ว่าไปล้างเมคอัพแต่งหน้าใหม่อยู่หรอกนะ” เขาบ่นให้เธอที่หายไปนานสองนานแล้วแต่กระนั้นก็ไม่ได้คิดที่จะไปตาม เขาหยิบมือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา

“น้ำตาล” ชายหนุ่มอุทานที่เห็นว่าเบอร์คู่นอนของเขาโทรเข้ามา ทีแรกเขาก็ปล่อยให้เธอวางสายไปเองเพราะไม่อยากจะรับ แต่สาวเจ้าก็ดันโทรจิกจนต้องรีบรับให้มันจบๆ ไป

“มีอะไร”

[“ทำไมพี่คินต้องพูดกับน้ำตาลห่างเหินแบบนั้นด้วยล่ะคะ เราไม่ได้เจอกันหลายวันแล้วนะ วันนี้น้ำตาลอยากไปกินหมาล่านะคะ”] ปลายสายพูดบอกเขาอย่างออดอ้อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงยอมแต่โดยดีพร้อมเตรียมไปเก็บค่าอาหารกันต่อบนห้องแล้ว แต่ตอนนี้เขายังมีบางอย่างที่สำคัญกว่าน่ะสิ แน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่การทำงานด้วย

“ไปไม่ได้หรอกน้ำตาลช่วงนี้ฉันไม่มีเงินต้องประหยัดนะ” เขาตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจนักสายตาคอยมองเข้าไปยังมุมห้องน้ำเพื่อดูว่าหญิงสาวที่เขารอจะออกมาตอนไหน

[“อะไรกันคะ ไหนบอกว่าพี่ไปทำงานให้คุณพ่อแล้วนิ นี่ท่านยังไม่ให้เงินพี่ใช้อีกเหรอ”] น้ำเสียงของสาวปลายสายดูจะไม่พอใจนิดๆ แต่อนาคินก็ไม่ได้ใส่ใจ

“ฉันบอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ แค่นี้นะ แล้วไม่ต้องโทรมากวนอีกล่ะ ฉันทำงานอยู่” เขารีบกดตัดสายทันทีเวลานั้นเจย่าก็เดินมาถึงตัวเขา อนาคินเอาแต่มองที่เธอพร้อมกับยิ้มๆ จนหญิงสาวนึกหมั่นไส้

“เราไปกันต่อเถอะค่ะ ท่านรองบอกว่าจะไปหาดูร้านที่จะมาลงห้างไม่ใช่เหรอ” เธอรีบเอ่ยถึงเรื่องงานที่คุยกันไว้ก่อนหน้า ทั้งยังทำเป็นจับไอแพดขึ้นมาดูตารางงานเพื่อหลบสายตาเขา

“อยู่กันแค่สองคนแทนตัวเองว่าเจแล้วเรียกพี่คินเหมือนเดิมก็ได้นะ” เขาที่เริ่มรู้สึกว่าเธอเอาแต่ทำตัวห่างเหินเกินไปแล้ว จึงเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเรียกร้อง เจย่าเงยหน้ามองเขาก่อนจะหลบในทันทีเพราะรู้สึกถึงความหวั่นไหวบางอย่าง

“แต่ตอนนี้มันเป็นเวลางานค่ะ ไปได้แล้วมั้งคะท่านรอง” เธอจ้องเขาอีกครั้งด้วยแววตามาดมั่นแล้วเดินออกไปรอเขาที่รถ อนาคินเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตาม

รถของทั้งสองวิ่งเข้ามาจอด ณ ตลาดนัดของกินแห่งหนึ่ง เสียงพูดโห่ร้องขายของของเหล่าแม่ค้าพ่อค้า พร้อมกับกลิ่นหอมอบอวลของอาหารบนเตาลอยมาแตะจมูกเมื่อรถจอดสนิท เจย่ามองดูจุดหมายแล้วก็ขมวดคิ้ว

“เดี๋ยวนะคะ! ท่านรองพาฉันมาที่นี่ทำไม” เธอหันไปจ้องหน้าของเขาที่ทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่

“ร้านที่เราอยากได้เข้าห้างก็ต้องมีร้านอาหารด้วยไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวขมวดคิ้วยุ่งราวกำลังเรียบเรียงสิ่งที่เขาพูดอยู่

“หาร้านในตลาดนัดนี่นะคะเข้าห้าง! พ่อค้าแม่ค้าที่ไหนเขาจะไปรับความเสี่ยงเสียค่าเช่าตั้งแพง เพื่อเข้าไปตั้งร้านในห้างงั้นเหรอ?” อนาคินหรี่ตามองพลางยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน เขาเปิดประตูลงจากรถไปก่อนโดยมีเธอเดินตามลงมาติดๆ ด้วยความสงสัย

“แล้วเธอเห็นไหมล่ะว่าคนที่ตลาดนัดเยอะขนาดไหน” เขาหันไปมองรอบตัวที่เต็มไปด้วยคนเดินสวนกันพลุกพล่าน

“ฉันก็แค่อยากให้เธอดูไว้… ว่าเขาจัดร้านยังไง จัดโซนยังไง เอาไปปรับใช้กับโซนอาหารในห้างเราบ้าง”เขาหันมาจ้องหน้าหญิงสาวด้วยแววตามีเลศนัย

“หรือเธอจะบอกว่ามันไม่คุ้มค่าให้เราเดินดูเลย?” เจย่าเบ้ปากใช่เขานิดๆ

“แล้วก็จะให้ฉันเชื่อว่าท่านรองบังเอิญหิวข้าวพอดีตอนมาเดินดูงานสินะคะ” อนาคินยิ้มมุมปากที่เห็นว่าเธอรู้ทันเขาด้วย

“หิวข้าวกับดูร้านมันทำพร้อมกันได้ไหมล่ะ คนฉลาดเขาก็ต้องทำงานควบกินข้าวได้สิ ไปได้แล้ว”เขาคว้าแขนของเธอจับไว้แล้วเดินนำผ่าฝูงชนเข้าไป เจย่าที่กำลังสับสนกับสถานการณ์เธอได้แต่มองมือตัวเองที่ตอนนี้เขากำลังกุมมันไว้อยู่ พร้อมความรู้สึกแปลกๆ โผล่เข้ามาในใจอีกแล้ว ‘นี่มันอะไรทำไมหัวใจเราถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ล่ะ เขาคือพี่คินน่ะเจ เขาไม่ใช่พี่คีรินของแก หยุดรู้สึกแบบนี้สักทีเลิกสับสนได้แล้ว’ คิดจบหญิงสาวก็สะบัดมือเธอจนหลุดจากเขา ชายหนุ่มหันมาจ้องหน้า

“ฉันเดินเองได้ ไม่เห็นท่านรองต้องมาจับเลย” เธอว่าแล้วก็รีบหลบหน้ามองไปทางอื่น

“งั้นเธออยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเลือกได้เลยนะ” อนาคินพูดเหมือนจะไม่ใส่ใจทั้งยังทำเป็นเดินไปทางอื่น เพื่ออยากให้เธอออกไปเดินดูของที่อยากได้เอง เจย่าเห็นว่าเขาเดินไปที่อื่นแล้ว เธอจึงดูของกินน่าอร่อยทั้งหลายตรงหน้า

“แย่จังเราพึ่งจะปฏิญาณกับตัวเองไปว่าจะต้องใช้เงินอย่างประหยัดจนกว่าเงินเดือนๆ แรกจะออก ไม่งั้นจะซื้อทุกอย่างที่อยากกินเลย” เธอบ่นอยู่ต่อหน้าร้านขายยำแมงกะพรุน โดยไม่ทันได้สังเกตเขาคนนั้นแอบมาย่องๆ อยู่ด้านหลังของเธอ

“อุ้ยอันนั้นก็น่ากิน” เจย่าเหลือบไปเห็นลูกชิ้นปลาทอดก็ชอบใจรีบเดินเข้าไปดู

“รับอะไรไหมคะ” อนาคินเดินมายังร้านขายยำแมงกะพรุนแล้วจัดสอยมาหนึ่งถ้วย

“เอาลูกชิ้นปลา 2 เส้นครับ” เขาเดินมาอีกร้านทันทีเมื่อเห็นว่าเธอเดินหลีกไปทางอื่นแล้ว

“เฮ้อ เดินมาตั้งนานได้น้ำลำไยแก้วเดียว ไม่เป็นไรน่า กลับไปทานข้าวฝีมือคุณแม่ดีกว่า” เจย่าบ่นให้กับแก้วน้ำในมือเบาๆ

“เสร็จหรือยังเราไปหาที่นั่งกินกันเถอะ” เสียงทุ้มด้านหลังทำให้หญิงสาวหันไปมองอย่างท้อใจเขาคงจะแกล้งให้เธอนั่งมองเขาทานแน่ๆ

“เฮ้ย!” หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเห็นของกินเต็มมือเขาไปหมด แถมมองดูดีๆ มีแต่ของที่เธออยากจะกินทั้งนั้น

“มานี่” ไม่รอช้าหาคำตอบอนาคินรีบจูงมือเจย่ามานั่งที่ม้านั่งริมน้ำใกล้ๆ บรรยากาศกำลังดี ท้องฟ้าเป็นสีส้มดูแล้วอบอุ่นเหมือนใจของเจย่าในตอนนี้ที่กำลังทำให้เธอร้อนรุ่ม เขาไม่ใช่พี่คีรินท่องไว้สิเจย่า

“นั่งลงแล้วมากินสิ มองอะไรไม่หิวเหรอ” ชายหนุ่มบอกเมื่อเขานั่งลงเรียบร้อยพร้อมกับวางของกินทั้งหลายลงตรงกลางม้านั่ง และไม่ลืมเหลือที่ให้หญิงสาวได้หย่อนก้น

“ไหนท่านรองบอกว่ามาดูการจัดโซนของตลาดไง ไหนพาฉันมาแอบนั่งหลบตรงนี้ล่ะ” เธอถามพลางมองหน้าเขาที่กำลังหม่ำพิซซ่าทอดเข้าปากไปคำใหญ่

“นี่เธอเชื่อฉันเหรอเจย่า” เขาพูดทั้งที่อาหารยังเต็มปาก

“หมายความว่า?” อนาคินยกยิ้มมุมปากก่อนกลืนอาหารลงท้องและเฉลยความจริงให้เธอได้รู้

“พวกจัดโซนห้างเลือกร้านมันใช่หน้าที่รองประธานบริษัทซะที่ไหน ฉันก็แค่หิวข้าว” หญิงสาวกำหมัดแน่นทำงานวันแรกเธอก็กลับบ้านช้าเพราะต้องมาเดินตามท่านรองขี้เก๊กที่หิวข้าวเนี่ยนะ เจย่าสะบัดตัวจะเดินหนี แต่ถูกเขาคว้าตัวไว้

“เฮ้ยๆ จะไปไหนมานั่งกินข้าวกับพี่ก่อนเถอะน่าไหนๆ ก็มาแล้ว เธอจะเรียกรถกลับบริษัทเองให้เปลืองเงินทำไม” เจย่าไม่สนใจที่เขาพูดแต่ว่าท้องของเธอดันร้องเสียงดัง แถมกลิ่นอาหารที่เขาซื้อมามันก็ยั่วน้ำลายเหลือเกิน

“ถือว่าเป็นการเลี้ยงข้าวสำหรับวันแรกของการทำงานไง แค่นี้รับน้ำใจกันหน่อยไม่ได้เหรอ เธอจะจงเกลียดจงชังพี่ไปจนตายเลยหรือไง” คำพูดของเขาทำให้เธอหันมอง ไม่ใช่ว่าเธอจะ ไม่ชอบขี้หน้าเขาน้อยลงหรอกนะ แต่หากว่าวันหนึ่งเธอได้ใจพี่คีรินขึ้นมา ก็คงจะได้เห็นเขาในชีวิตบ่อยขึ้นอยู่ดี เพราะฉะนั้นทำตัวให้ชินไว้ดีกว่า

“อะ” อนาคินหยิบถ้วยลูกชิ้นปลาให้กับเธอ หญิงสาวรับเอาแล้วรีบใช้ไม้จิ้มใส่ปากแต่เพราะมันยังร้อนเธอจึงเคี้ยวไม่ได้ เจย่าอ้าปากกว้างเอามือปัดขึ้นลงเพื่อหวังว่ามันจะลดความร้อนลงได้บ้าง อนาคินแอบขำเบาๆ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามันร้อน แต่พอเห็นหน้าของเธอแดงเหมือนจะร้อนมากมือใหญ่ก็จับที่ปลายคางมนให้หันมาหา ใบหน้าของเขาขยับเข้าไปใกล้ๆ ค่อยๆ เป่าลมแผ่วเบาบริเวณปากอิ่มสีชมพูอ่อนของเธอ แววตาของเขาแวววาวไปกับแสงอาทิตย์น้อยๆ ที่ส่องผ่านมา สะกดให้หญิงสาวนั่งแน่นิ่งด้วยหัวใจเต้นราวจะระเบิดออกจากอก

“เฮ้ย!!” เมื่อตระหนักในใจได้ว่าเขาไม่ใช่คีริน!! ไม่ใช่พี่คีริน! เธอเลยผลักอกเขาให้ห่างออก

“พี่คินแกล้งเจเหรอ!!” เจย่ากอดอกมองแรง ส่วนคนถูกต่อว่ากลับหัวเราะลั่นอย่างห้ามไม่อยู่

“ก็ใครบอกให้เธอตามพี่ไม่ทันเอง!!” เจย่ามองค้อนเขาด้วยปรายตา ไม่ว่าเธอจะพยายามทำตัวให้มั่นแค่ไหน ก็ยังเป็นยัยบื้อในสายตาของเขาสินะ

“ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ เอาๆ เอาน้ำไปดื่มก่อน” เขาแกะขวดน้ำส่งให้เธอ เจย่าโกรธอยู่แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็คงทำอะไรไม่ได้จึงยอมรับน้ำของเขา พลางมองค้อนเขาและแย่งกินอาหารที่เขาซื้อมาเพื่อหวังว่ามันจะเป็นการแก้แค้นได้ ส่วนอนาคินเอาแต่แอบมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มพอใจที่เขาแอบๆ ไว้ไม่ให้เธอเห็น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 65

    ห้องประธานบริษัท คีรีนนั่งจ้องหน้าว่าที่พนักงานใหม่ที่เขาเผลอไปหลุดปากว่าจะขอสัมภาษณ์เองต่อหน้า HR ซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังนั่งยิ้มให้เขา “ยิ้มอะไรนักหนา” เสียงเข้มเอ่ยดังจนคนฟังหุบยิ้ม จ้องมองเขาที่เอาเอกสารของเธอขึ้นไปอ่าน “ทำไมถึงอยากจะทำงานที่นี่” เขาถามทั้งที่ตายังจดจ่ออยู่กับกระดาษในมือ “ก็ที่นี่มีพี่คีรินนี่ค่ะ” เธอก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาจนเขามองหน้า “นี่คือคำตอบของคนมาสัมภาษณ์งานงั้นเหรอ?” เขาไซ้ โซเฟียอมยิ้มหน้าตาย “ก็พี่คีรินไม่ชอบคนโกหกไม่ใช่เหรอ” เขาถึงกับนิ่งไป สายตามองไปทางอื่น “แล้วทำงานที่เก่าตั้งหลายปีทำไมถึงได้ลาออก คิดว่าตัวเองมาสมัครที่นี่แล้วจะได้ทำงานเหรอ ใครเขาสอนให้ลาออกก่อนได้งานใหม่กัน” โซเฟียยังคงจ้องหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม จนคีรินเริ่มทนมองไม่ไหว เขาจึงทำเป็นดุกลบเกลื่อน “ผมถามทำไมไม่ตอบ!!จะทำไหมงานนะ” “ก็บอกไปในแชทเมื่อคืนแล้วนี่ค่ะ” เธอมีน้ำเสียงเศร้า “พอดีว่าแม่ฉันเขาอยากจะกลับบ้านเกิด และฉันเองก็ไม่อยากห่างแม่แล้ว เลยมีแผนว่าจะมาสมัครที่นี่หากไม่ได้รับโอกาส ฉันแม่และก็พี่ชายจะย้ายออกไปจากเมืองนี้ค่ะ” คนฟังนิ่งไป คำว่าโอกาสที่เธอพูดมันไม่ใช่แค่โอกาสที่เธอจะ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 64

    กริ่งๆๆๆๆ คีรินที่กำลังจะเข้านอน เหลือบสายตามองมือถือบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะเห็นว่าคนที่แชทหาเขาคือใคร “โซเฟีย” เขาบ่นชื่อหญิงสาวออกมา ทีแรกเขาก็ว่าจะทำเป็นไม่สนใจ แต่พอเห็นเธอส่งรูปมาด้วย เขาเลยเผลอกดเข้าอ่านด้วยความอยากรู้ ข้อความทักทายแรกของเธอ เขามองดูด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะยิ้มให้กับรูปที่เธอส่งมาเพราะมันคือรูปที่เขาและเธอถ่ายด้วยกันในย่านอ็อกซ์ฟอร์ดตอนที่ไปเดินเล่นกัน คนดูหุบยิ้มเมื่อเจอข้อความถัดไป เขาจ้องมือถือแล้วหันมองซ้ายขวา ไม่ใช่ว่าเธอแอบยืนมองอยู่แถวนี้หรอกนะ แต่ความคิดนั้นมันก็ทำให้เขายิ้มไม่หุบ รอยยิ้มของเขาค่อยๆ จางลงเธอบอกว่าจะไปจากที่นี่งั้นเหรอ ข้อความของเธอที่ส่งมามีแค่นั้น คีรินมองมันด้วยใจที่เต้นแรงเขากดพิมพ์บนจอว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงจะย้าย แต่เขาก็ไม่มี

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 63

    ณ คอนโดใจกลางเมืองใหญ่วันนี้หลังเลิกงานเจย่าตามชายหนุ่มมาถึงห้อง เพราะโชคดีที่พ่อกับพี่ชายไปต่างจังหวัด เธอเลยแค่บอกแม่แล้วก็ตามเขามาได้ “ทำไมมองพี่แบบนั้น” อนาคินจ้องตาแฟนสาวที่เอาแต่มองค้อนเขาตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเมื่อกี้นี้แล้ว เขารู้ว่าเธอคงจะโกรธเขาเรื่องเมื่อเช้า “ยังโกรธพี่อยู่เหรอ” เขาปลดกระเป๋าสะพายออกให้เธอ “ก็พี่ไม่ชอบที่มีคนมาว่า นินทาให้คนที่พี่รักเสียหายนี่” เขาจับสองแก้มเธอพร้อมถูกับมือไปมา เจย่าเบือนหน้าหนี “แต่ตอนโดนนินทาเรื่องพวกนั้นเจยังดูสบายกว่าตอนโดนเซ้าซี้ถามเรื่องคบกันกับถูกแซวเรื่องลืมปิดไมค์เมื่อเช้าอีกนะคะ” เธออธิบายแต่ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจหรอก เขาคงถูกใจด้วยซ้ำที่ได้ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ “ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย อย่างน้อยมันก็ดีกว่าให้นินทาสิ่งที่ไม่ถูกต้องนี้ อีกอย่างอาทิตย์หน้าพี่ต้องไปเชียงรายตั้งห้าวัน พี่ไม่อยากทิ้งเรื่องไว้ให้บานปลาย” เขาโอบเอวเธอแล้วพานั่งลงที่โซฟา เจย่าจ้องหน้าของเขา “แล้วให้เจไปด้วยไหมคะ พรุ่งนี้เจจะได้เก็บของ” เธอถามด้วยท่าทีตื่นเต้น นึกสนุกจะได้ไปทำงานนอกสถานที่กับเขาอีก “ไม่ต้องหรอกเจ อยู่ทำงานที่บริษัทนั่นแหละ” เขาเอ่ยเ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 62

    เช้าวันเสาร์ซึ่งวันนี้ก็บรรยากาศดีไม่น้อย เมื่อคืนมีฝนนิดหน่อย พอตื่นมาฝนหยุดตกแล้วบรรยากาศจึงสดชื่น คีรินนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ที่สวนตั้งแต่เช้า พลางนั่งมองคุณเจมส์ทำกายภาพบำบัดอยู่ที่มุมสวนไม่ไกลจากเขา ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาหา “คุณคีรินคะ มีคนมาหาค่ะ” ชายหนุ่มมองแม่บ้านคิ้วขมวด “ใครครับ?” “ฉันถามชื่อเธอไปแล้วเธอบอกว่าไม่บอกค่ะ เธอฝากไว้ว่าถ้าคุณอยากรู้คุณคงจะไปดูเอง ฉันก็เลยไล่เธอกลับแต่เธอค้านว่าไม่กลับค่ะ บอกว่าจะนั่งอยู่ที่หน้าบ้านถ้าคุณคีรินไม่ยอมออกไปหา” คนฟังถอนหายใจยาว “งั้นพี่ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวผมไปไล่เอง” “ค่ะ” คีรินลุกพรวดเดินตรงไปที่ประตูบ้าน เขาเปิดประตูเดินออกไปก็เห็นว่าเธอยืนอยู่ข้างกำแพง “มาทำไมกลับบ้านไปซะ มายืนลับๆ ล่อๆ ตรงนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาก็กลัวหมดหรอก” เขากอดอกเอ่ยกับเธออย่างไม่มีเยื่อใย “เห็นหน้าก็ไล่กันเลยเหรอคะ” เธอมองเขาด้วยตาสั่นๆ คีรินมองเธออย่างสำรวจ สาใจแล้วจึงหันหน้าหนีไปทางอื่น “ก็ฉันไม่อยากจะพูดหรือคุยอะไรกับเธอนี่” เขากำลังจะหมุนตัวกลับเข้าบ้านแต่ต้องชะงักเสียงที่เธอร้องห้ามไว้ “เดี๋ยวสิพี่! ให้ฉันได้คุยแค่ห้านาทีก็ได้” เขาหันกลับไป

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 61

    หลายวันต่อมา ณ บริษัทศิลาที่ลอนดอน คีรินเดินลงมายังลานจอดรถเตรียมตัวจะกลับบ้าน “พี่คีริน!” เขาสะดุ้งให้เสียงคุ้นหูจนต้องหันไปมอง “เธอเข้ามาได้ยังไง!” เป็นโซเฟียที่ยืนยิ้มให้เขาอยู่ พร้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยที่วิ่งตามมา “เข้ามาไม่ได้นะครับคุณ ผมขอโทษนะครับท่านประธาน” คีรินยกมือให้การ์ด “ไม่เป็นไร ปล่อยเธอเถอะ” เขาว่าเสียงเรียบนิ่งแต่สายตาแอบสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอสบายดีแล้วนี้ “รู้จักกันเหรอครับ?” การ์ดถามเพื่อความแน่ใจ คีรินยักคิ้วให้เป็นเชิงไล่ การ์ดจึงกลับไปทำหน้าที่ต่อ “พี่คีริน!” เธอเตรียมจะกระโจนเข้าไปกอดเขาด้วยความคิดถึง แต่เขาดีดตัวออก “จะทำอะไร!” โซเฟียชะงัก เธอลืมไปว่าเธอยังมีความผิด “ฉันจะมาขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกอย่างค่ะ!” เธอมองหน้าเขาด้วยความรู้สึกผิด คีรินยังคงทำหน้านิ่งเฉยไม่ยิ้มให้เธอเหมือนเมื่อก่อน “แค่นี้ใช่ไหม” หญิงสาวขมวดคิ้ว ทำไมเขาถึงได้ตอบเธอห่างเหินแบบนี้ล่ะ “ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” เขาหมุนตัว เธอรีบวิ่งไปดักหน้า “พี่คีรินย้ายบ้านแล้วเหรอ ฉันยังอยู่บ้านเดิมน่ะ ทำไมตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันถึงยังไม่เห็นพี่สักครั้งเลยล่ะคะ” เธออ้าแขนออกเพราะก

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 60

    โรงพยาบาล ณ ใจกลางลอนดอน “แม่~” โซเฟียมีสติตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของโรงพยาบาล คนแรกที่เธอเห็นคือแม่นอนหมอบหน้าอยู่ข้างเตียง “โซเฟีย ลูกตื่นแล้ว เป็นยังไงบ้างลูก เลย์ เลย์!! ไปตามหมอ!!” นาตาเลียหันไปเรียกลูกชายที่หลับอยู่บนโซฟา เลย์ลุกงัวเงียก่อนจะเดินออกไปจากห้อง “เขาล่ะคะแม่?” เมื่อมองไปรอบข้างแล้วไม่เจอใครอีก เธอจึงถามหา “เขาคนไหนลูก ถ้าเป็นซาเวียร์เขาพึ่งจะกลับบ้านไป แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนนั้น”คนเป็นแม่เสียงอ่อนลง “เขายังไม่ได้มา เยี่ยมลูกเลยสักครั้งตั้งแต่ที่รู้ความจริง” โซเฟียน้ำตาคลอใบหน้าของเธอสั่นไหวไม่แพ้หัวใจ “เขารู้ความจริงแล้วเหรอคะ อึก” น้ำตาของเธออาบแก้มภายในไม่กี่วิ จนแม่ต้องรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาให้ “ใช่ลูก วันนั้นซาเวียร์เขาโมโหก็เลยหลุดปากบอกไปหมดแล้ว” หญิงสาวมองหน้าแม่ของเธอน้ำตาไหลไม่หยุด “เขาโกรธมากไหม” นาตาเลียส่ายหน้าเบาๆ “แม่ไม่รู้แต่แม่ว่าเขาคงจะไม่โกรธหรอก เขาน่าจะแค่เสียใจ ลูกตั้งใจพักผ่อนให้หายดี แล้วค่อยไปง้อเขาก็คงไม่สายหรอกนะ” แม่ยกมือลูบหัวให้คนบนเตียง โซเฟียยังคงสะอื้นเธออยากจะลุกไปบอกเขาเดี๋ยวนี้ ลุกไปขอโทษเขา แต่ตอนนี้เนื้อตัวเธอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status