LOGIN"แวะพักตรงนี้ก่อนไหม" เมฆินทร์เสนอ "ดูเหมือนจะเป็นหาดลับ"
จารวีพยักหน้าอย่างตื่นเต้นกับความสวยงามที่ซ่อนอยู่ เมฆินทร์จูงมอเตอร์ไซค์ที่หมดน้ำมันไปจอดพิงต้นมะพร้าวที่อยู่ห่างจากหาดพอสมควร จากนั้นก็เดินนำเธอไปยังผืนทราย
เมื่อเดินมาถึงหาดลับยามโพล้เพล้ จารวีรู้สึกถึงความสวยงามที่เงียบสงบ แต่ความรู้สึกสงบนั้นอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกแทนที่ด้วยความทรมานทางร่างกาย
เธอรู้สึกปวดห้องน้ำอย่างรุนแรง เพราะทั้งดื่มน้ำและทานขนมมาอย่างต่อเนื่อง ความเร่งรีบในการเดินทางทำให้เธอไม่ทันได้ปลดปล่อยเสียก่อน ตอนนี้มองซ้ายมองขวาไปทั่วก็มีเพียงแนวป่าทึบกับโขดหินใหญ่เท่านั้น
หญิงสาวยืนบิดตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย ขณะที่เมฆินทร์เดินไปสำรวจบริเวณแนวพุ่มไม้ที่อยู่ไกลออกไปหน่อย และหายลับตาไปในที่สุด
"โอ้ย!... ผู้ชายนี่ดีจริงๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรทั้งนั้น" เธอบ่นในใจด้วยความริษยา
เธอพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง มองไปยังโขดหินขนาดใหญ่ที่สูงเกือบเท่าตัวคน ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหลบ แล้วค่อย ๆ ถอดเสื้อลายดอกและกางเกงลายช้างออก แล้วเปลี่ยนชุดกระโปรงยาวสีขาวเนื้อบางเบาแบบสายเดี่ยวที่เธอใส่มาตอนแรก ซึ่งเป็นชุดที่เหมาะกับการลงน้ำอย่างยิ่งที่จะ....
เธอเดินลุยน้ำทะเลลงไปอย่างรวดเร็ว
<สาด...!>
น้ำทะเลอุ่น ๆ ยามเย็นทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายในทันที เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและหลับตาลงอย่างสบายใจ
"ลูกขอขมาด้วยนะเจ้าคะ พระแม่คงคาเจ้าขา ลูกไม่ไหวแล้วจริง ๆ" เธอพึมพำขอขมาเบาๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองวิว
"เฮ้ยยย...สวยจัง" เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด ชมความงามของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า
"ลงไปทำไมจี๊ด! "
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลัง ทำให้หญงสาวสะดุ้งสุดตัว เธอรีบหันไปมอง เมฆินทร์ที่กลับมาแล้ว และกำลังยืนเท้าสะเอวอยู่บนผืนทราย จ้องมองเธอที่ยืนอยู่กลางน้ำ
(...!...)
"เอออ...พอดีจี๊ดร้อนค่ะ เลยอยากเล่นน้ำ" เธอแก้ตัวติด ๆ ขัด ๆ พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอายที่กลัวถูกจับได้ในสถานการณ์อันน่าอับอายนี้
เมฆินทร์จ้องหญิงสาวในชุดพริ้วสีขาวสายเดี่ยวที่เปียกแนบเนื้อ... ทุกส่วนโค้งเว้าชัดเจนเกินไป ยามคลื่นซัด เสื้อผ้าก็ยิ่งลู่แนบ... สายตาเขาลุ่มลึก... มันคือความอยากดิบๆ...
แต่เขาก็อดอมยิ้มกับท่าทางของเธอที่รีบวิ่งลงน้ำไป จากที่เขามองมาจากไกล ๆ ... เมื่อสักครู่ อย่างรู้ทัน
"งั้นพี่เล่นเป็นเพื่อน"
เขาพูดพร้อม ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากตัว โยนทิ้งลงบนทราย... เผยแผงอกเปลือยกระแทกสายตาและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง...
เขาเดินลุยน้ำไปหาเธออย่างช้า ๆ ... น้ำทะเลสูงระดับเอว... ความเย็นของน้ำไม่ได้ช่วยอะไร... ไฟในตัวเขาโหมหนักกว่าเดิม... หญิงสาวยืนหันหลังให้โขดหิน... แต่ตอนนี้ไม่มีทางหนีอีกแล้ว
"มาแอบเล่นน้ำคนเดียวแบบนี้... ไม่ดีเลยนะครับ"
เมฆินทร์พูดปนกับกลั้นหัวเราะ เพราะรู้ว่าเธอคงสุดที่ทนไหวเลยวิ่งลงน้ำมาแบบนี้... พร้อมกับมือหนาที่วักน้ำสาดใส่เธอเบา ๆ...
เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วหยุด... ดวงตาคมกริบจับจ้องร่างเธอไม่วาง
แสงสีส้มสุดท้ายสาดกระทบผิวน้ำ... ชุดเปียก ๆ นั่นมันไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรเลย!... เนินอกอวบอิ่มชัดเจน... เอว สะโพก ทุกส่วนล่อตาล่อใจ...
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่... ลำคอเขากระตุก... ไอความอยากพุ่งขึ้นมาจนแทบจะระเบิด... เกินที่เขาอดทน!
หญิงสาวรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป... เธอพยายามจะถอย... แต่คลื่นทำให้เธอเซ... เมฆินทร์ก้าวเข้าประชิด... เขาดึงเธอเข้าหาทันที!...
ผิวสัมผัสเย็นจากน้ำทะเลกระตุ้นความปวดหนึบ... ไฟปรารถนาแล่นพล่าน... มือแกร่งเขาบีบกระชับเอวบาง... รั้งร่างเธอจนแนบชิด...
"พี่เมฆ..." เธอเรียกชื่อเขาเบา ๆ ... ใบหน้าเธอเห่อร้อน...
เขาก้าวเข้าไปใกล้ ๆ โน้มใบหน้าของเขาเพื่อประทับจูบ ริมฝีปากหนาบดขยี้ลงมาทันที!... ไม่ใช่จูบแผ่วเบา แต่เป็นการช่วงชิงและดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย...
"พี่เมฆคะ อย่าค่ะ!"
เสียงหวานปนหอบพยายามร้องห้าม... เขาไม่ฟัง! และยังคงประทับจูบที่ดุดันจนเธอแทบยืนไม่อยู่
"จะให้พี่หยุดได้ยังไง... ตอนนี้พี่ห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้วหนิ"
เสียงแหบพร่ากระซิบ... เต็มไปด้วยความต้องการ
ร่างหนากดจูบหนักหน่วง... ดันเธอถอยร่นจนแผ่นหลังแนบชิดโขดหินที่อยู่ใกล้... มือแกร่งตรึงร่างเธอไว้...
"อย่าค่ะ... อย่า...!"
คำร้องขอขาดห้วง เมื่อสองแขนเรียวกลับโอบรัดรอบคอเขาอย่างยอมจำนน... ริมฝีปากเปลี่ยนมาซุกไซร้ที่ซอกคอหอมกรุ่น
"ใครใช้ให้ทำหน้ายั่วยวนพี่ล่ะ...ฮื้ม~"
เขาช้อนตัวเธอขึ้นลอย... มือหนาปลดรั้งชุดลงจากบ่าให้พ้นทางพร้อมกับใช้มือล้วงดึงกางในตัวจิ๋วลงพร้อมกับใช้ท้าเหยียบลงให้หลุดออกอย่างไม่รีรอ...
เขารีบปลดกระดุมกางเกงออกอย่างไม่รีรอ... งัดแก่นกายร้อนผ่าวที่แข็งขึงภายใต้น้ำออกมาเบียดเสียดกับกลีบอ่อนนุ่ม...
"พี่เมฆ! อ๊ะ... อย่าค่ะ... นี่มันในน้ำนะ"
เสียงครางหวานถูกกลืนด้วยสายน้ำ... เนื้อแน่น ๆ ถูกดันเข้ามาจนสุด...
<'กึ๊ก!'>
"ซี้ดดดด!..."
"อ้าาา!..."
เอวสอบเริ่มโยกคลึงอย่างเนิบนาบแต่เปี่ยมด้วยแรงปรารถนาที่แท้จริง...
"รู้สึกมั้ย... ชอบมั้ย...หืมม์..." เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู...
"ไม่...พี่เมฆ... จี๊ด...กลัว...!"
"ไม่เอาค่ะ!...ที่นี่มัน...ในน้ำนะคะ"
เขาอุ้มร่างเธอขึ้นจากน้ำ... จุดเชื่อมยังคงตรึงแน่นไม่ถอน... จัดท่าให้เธอนั่งพร้อมจับสองขาเธอยกขึ้นบนโขดหินที่กำบัง... ร่องรักตอดรัดแน่นจนหายใจไม่ทั่วท้อง... เอวแกร่งเริ่มสาดใส่อย่างบ้าคลั่ง... เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกึกก้อง...ประทะกลับเสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาด
< <ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!>>
"อื้ออ! อ๊าาา!..."
เธอซบหน้าลงขบกัดไหล่หนา...หวังจะกลั้นเสียงคราง...
"อ่าาา... ของจี๊ดมันแน่น...อ่ะ ตอดรัดพี่ไม่หยุดเลย... ซี้ดดดด!..."
"อ๊ะ! อ๊ะ!"
"พี่เมฆ...จี๊ดหายใจ...ไม่ทัน...อ่ะ"
เขาเปลี่ยนเป็นจังหวะหมุนควงที่เนิบนาบแต่ทิ่มแทงลึกสุด...
"อ๊าาา... พี่เสียวจะใจจะขาดแล้ว..."
"เรียกชื่อพี่สิ... เรียกอีก!" เขาเร่งจังหวะหนักขึ้น...
"อ้าาาา! พี่เมฆ!!!"
เขาสลับหมุนท่าให้เธออยู่ข้างบนตัก... มือหนากอบกุมเอวคอด... โยกเธอตามจังหวะที่เขาควบคุมอย่างบ้าคลั่ง... ริมฝีปากเปลี่ยนมาขบเม้มเนินอกอวบอิ่ม...
"อื้ออ! อ๊ะ!"
"พี่เมฆคะ... จี๊ด... อึก!..."
"มันใหญ่...จะ...จุก!..."
"แล้วชอบมั้ย... ติดใจพี่แล้วใช่มั้ยคนดี... เก็บไว้ให้พี่คนเดียวนะ... อื้ออ~..."
ใบหน้าสวยหวานแหงนเงย หมุนควงสะโพกด้วยท่วงท่าที่เซ็กซี่...ยั่วยวน เธอแอนกายพร้อมกับใช้มือค้ำยันที่ต้นขาแกร่งของเขา ทั้งกัดมุมปากด้วยความเสียวซ่าน เอวคอดหมุนควงสะโพกหลับตาปริ่ม ด้วยใบหน้าที่ดูยั่วยวน
เขามองเธออย่างไม่ละสายตา ใบหน้า ท่วงท่า และเรื่อนร่างนี้ มันช่างหอมหวานเหลือเกิน ...
"อ้ะ...อ้ะ..อ้า ~"
"ซี๊ดดดดด"
เอวบางเริ่มหมุนควงเร็วขึ้นตามสัญชาตยาณ จนร่างกายเธอเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง... เล็บจิกฝังลงบนต้นขาแกร่งเพื่อระบายความสุขสม...
"อ๊ะ...อ๊างงง...อ๊าาาา!!!..." เสียงกรีดครางบ่งบอกถึงการปลดปล่อย...
"ไม่รอพี่เลยนะ... คนใจร้าย!" เขาหัวเราะด้วยความพึงพอใจ... แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นในท่าอุ้ม... แก่นกายยังคงฝังแน่นไม่ถอน...
เขาพาเธอเดินสู่หาดทราย... วางร่างเธอลง... กระแทกตัวลงซ้ำอย่างหนักหน่วง!
"อ๊ะ! อื้ออ!..." เธอต้องยกมือขึ้นปิดปากไว้ด้วยความกลัวว่าเสียงครางจะดังเกินไป
เขารั้งขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแกร่ง... ตอกแท่งรักเข้าใส่ซ้ำ ๆ อย่างถี่รัวบ้าคลั่งจนสะโพกลอยขึ้น... เสียงครางต่ำในลำคอคำราม... ใบหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านสูงสุด...
"อ่าาา... มันแน่นเหลือเกินคนดี... ตอดพี่...ดูดพี่...อ๊ะ...ไม่หยุด... ซี้ดดดด..."
"พะ... พี่เมฆ! อ๊ะ! แรง... แรงไปแล้ว!"
เสียงหวานปนสะอื้นยิ่งทำให้เขาคลั่ง...
"พี่... พี่ไม่ไหวแล้ว... !" เขาคำรามเสียงแหบพร่า... ตอกอัดเน้น ๆ ด้วยแรงทั้งหมดที่มี... ในจังหวะสุดท้าย เขากระชากแก่นกายออก! พร้อมกับแรงอุ่นร้อนที่พุ่งทะลักสู่ผืนทราย... เป็นหลักฐานแห่งความเร่าร้อน...
ร่างทั้งคู่เกร็งกระตุกเป็นครั้งสุดท้าย...
สองร่างหอบหายใจหนัก... แนบชิดกันบนผืนทรายเย็น...
"อ่าาา..." เขาล้มตัวลงนอนทับเธอ... ใบหน้าซบลงกับซอกคอ... จูบซับเหงื่อ...
"เหนื่อยไหม..." เขาถามเสียงแผ่วพร่า...
"ใจจะขาด..." เธอตอบอย่างซื่อตรง... กอดรัดแผ่นหลังแกร่งไว้แน่น
"ใจขาดเพราะพี่ใช่ไหม..." เขาขย้ำสะโพกเนียนเบา ๆ... "จำไว้ว่าเธอเป็นของพี่คนเดียว... ไม่มีใครจะกล้าแตะต้องของ ของพี่!..."
เขาถอนตัวออกจากร่างกายเธอช้าๆ ... ความเย็นของอากาศยามโพล้เพล้ทำให้จารวีรู้สึกหนาววาบทันที เธอรีบจัดชุดกระโปรงยาวสีขาวเนื้อบางเบาแบบสายเดี่ยวที่เปียกปอนและหลุดลุ่ย อย่างรีบร้อน เพื่อปกปิดร่างกายที่ยังเปียกชื้นอยู่ภายใต้ผืนผ้าบางเบา
เมฆินทร์สวมเสื้อเชิ้ตขาวของเขาคืน... ทั้งคู่รู้สึกเก้อเขินกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ต่างคนต่างนั่งอยู่บนพื้นทรายข้างกันอย่างเงียบงัน ไม่กล้าสบตากันตรง ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดและทำตัวไม่ถูก กับเหตุการณ์กลางแจ้งแบบนี้
ทันใดนั้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้นมาจากทางแนวป่าทึบ!
ปริศนาชายชุดดำตัดภาพกลับมายังในรถขณะที่เมย์และเมฆินทร์ ภายในรถ เมย์ยังคงคาใจเรื่องเหตุการณ์ที่คอนโดของจารวี"พี่เมฆ... เรื่องชายชุดดำวันนั้น ตกลงพี่ว่ามันเป็นใครกันแน่" เมย์เริ่มถาม น้ำเสียงจริงจังขึ้นทันทีที่ไม่มีจารวีอยู่ด้วยเมฆินทร์ขมวดคิ้ว มือหนากำพวงมาลัยแน่น เขามองกระจกข้างด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ "พี่ก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่มันมีบางอย่างที่พี่รู้สึก แปลก""แปลกยังไงคะ?""คำพูดของมันไง ที่พูดกับจี๊ดว่า 'จำฉันไม่ได้เหรอ' ถ้าเป็นสตอล์กเกอร์ที่คลั่งไคล้ผลงานการถ่ายแบบ มันควรจะพูดอะไรที่บ่งบอกถึงการชื่นชม หรือต้องการครอบครอง ไม่ใช่คำถามที่เหมือนเป็นการ ทวงความจำ แบบนั้น"เมย์พยายามคิดตาม "หรือว่าจะเป็นศัตรูของจี๊ดตอนสมัยเรียน? หรือตอนที่เธอเป็นนักกีฬา?""พี่ก็คิดอยู่ แต่นั่นมันเรื่องนานมาแล้ว แถมจี๊ดก็บอกว่าเธอไม่มีปัญหากับใครเลย" เมฆินทร์ถอนหายใจ "แต่ที่สำคัญคือ... ปฏิกิริยาของมันตอนที่เห็นพี่""ปฏิกิริยาอะไรคะ?""มันเหมือน ตกใจ มากกว่าที่จะกลัว หรือโกรธที่ขัดขวางการทำร้ายจี๊ด พอพี่ถีบมันออกไป มันพยายามจะดึงหมวกคลุมหน้ากลับมากกว่าจะคว้ามีด มันอยากจะปิดบังตัวตนมากจริง ๆ"เมย์ชั่งใจ
อากาศบนภูยามค่ำคืนช่างหนาวเหน็บเสียจนต้องขดตัว แต่ความหนาวนี้ก็มิอาจเทียบได้กับความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในเต็นท์...ในเต็นท์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แสงไฟดวงน้อยส่องให้เห็นเงาตะคุ่มๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างเร่งเร้า ริสา ถูกรุกเร้าจนเสียงหอบหายใจขาดห้วง มือเล็กจิกลงบนแผ่นหลังกว้างของธนาอย่างลืมตัวเพื่อยึดเหนี่ยวตัวเองไว้กับความรู้สึกที่พุ่งทะยานธนาจูบเธอหนักหน่วงและดูดดื่มราวกับจะกลืนกินทุกอณูของร่างกาย เสียงกระซิบพร่าๆ คลอไปกับเสียงผ้าปูที่นอนเสียดสี... เป็นภาพที่ใครเห็นก็รู้ว่าคนข้างในกำลังใช้ความหนาวเป็นข้ออ้างในการมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างไร้ขีดจำกัด!"ไอธนา มึงดับไฟด้วย!" เสียงตะโกนของเมฆินทร์ ดังข้ามมาพรึ่บ! ไฟในเต็นท์ก็ดับลง เหลือเพียงความมืดมิดที่ช่วยปกปิดความเร่าร้อนที่ดำเนินต่อไป...(...!...)เมฆินทร์ดึงจารวีเข้ามากอดไว้แน่นจนร่างบางแทบจะจมหาย ซบใบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมๆ ของเธอ กลิ่นหอมหวานของเธอปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบให้ตื่นขึ้นทันที อ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นจนความหนาวที่มีอยู่มลายหายไปสิ้น"หนาวจัง... ขอกอดหน่อยนะ" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าว รดริน
เมย์กลับมาหาจารวีที่คอนโดในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เมย์ก็โวยวายด้วยความตกใจ"อะไรนะ! นี่ฉันทิ้งแกไว้คนเดียวแป๊บเดียว เกิดเรื่องเลยเหรอ! แบบนี้ที่แกรู้สึกว่าเหมือนมีคนตามแกมองแกอยู่ มันก็เรื่องจริงสิ! สต๊อกเกอร์ไหม? พวกที่ชื่นชมผลงานแกผ่านที่แกถ่ายแบบกับพี่จีน่าหรือเปล่า? ไม่สิ... ถ้าเป็นพวกคลั่งไคล้ ถึงขนาดต้องเอามีดจี้คอกันเลยเหรอ! แต่แกก็ไม่มีศัตรูที่ไหนนี่" เมย์รัวใส่ด้วยความสงสัย"ฉันคุ้นเสียงนะ เหมือนเคยได้ยินเสียงที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก... มันพูดว่าจำฉันไม่ได้เหรอ ... ใคร? ฉันต้องจำใครได้?" จารวีพึมพำเมย์รีบสรุป "เท่ากับว่ามันตามแกอยู่ตลอด คิดดูสิ ไม่งั้นมันจะรู้ได้ยังไง ว่าแกอยู่คนเดียวได้ถูกจังหวะแบบนี้ เพราะปกติเราจะอยู่ด้วยกันตลอด""อือ... ก็จริงของแกนะเมย์""ดีนะที่ตอนนั้นพี่เมฆอยู่ด้วย" เมย์เผลอหลุดปาก"เดี๋ยวก่อนยัยเมย์! แกหมายความว่ายังไง นี่เป็นแผนของแกเหรอ""แฮ่ ๆ ๆ ... ขอโทษที ฉันอยากให้แกกับพี่เมฆได้เจอกัน ได้คุยกันบ้างอ่ะ""อย่าไปว่าเมย์เลยครับ พี่เป็นคนขอให้เมย์ช่วยเอง ก็พี่เป็นห่วงเรานี่" เมฆินทร์รีบสวนขึ้นจารวีสบตาเมฆินทร์อย่างอ่อนใจ แต่ในใ
บทสนทนาทางโทรศัพย์เมฆินทร์กับเมย์"ฮัลโหลเมย์ พี่มีเรื่องจะถามหน่อย" เสียงทุ้มกรอกลงไปในโทรศัพท์"พี่โทรมาพอดีเลย เมย์ก็มีเรื่องจะบอก" ปลายสายตอบกลับทันที "คือพี่จีน่ามาชวนจี๊ดไปถ่ายแบบ แต่พี่ไม่ต้องตกใจนะ ยังไม่ได้ออกจากงาน แค่ชวนให้ลองดูเฉยๆ""แล้วจี๊ดว่าไง? ตกลงไหม?" เขารีบถามด้วยความสนใจ"ดูเหมือนจะสนใจนะ" เธอตอบเสียงอ้อมแอ้ม "พี่จีน่าพูดถูก ถ้าจี๊ดยังอยู่กับความกลัวแบบนี้เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นปกติ? ให้ลองดูก็ดีเหมือนกัน""พี่ไม่มีสิทธิ์ห้ามอะไรเขาอยู่แล้ว ฝากเมย์ดูแลด้วยนะ" เขาเน้นย้ำ"เมื่อกี้พี่กำลังจะถามอะไรเมย์นะ?" เธอถามย้อนขึ้น"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ไว้เจอกันพี่ค่อยถามก็ได้ วันหยุดนี้พี่จะกลับกรุงเทพฯ เมย์ช่วยพี่หน่อยได้ไหม?ทำยังไงก็ได้ให้พี่ได้เจอจี๊ดสักครั้ง" เขาขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง"จะโอเคเหรอพี่? เดี๋ยวแม่จะว่าไหม?" เมย์กังวล"แค่ครั้งเดียวนะเมย์ ช่วยพี่หน่อยเถอะ พี่มีเรื่องจะคุยกับจี๊ด และก็อยากเจอหน้า ขอแค่ครั้งเดียวจริงๆ""ก็ได้ค่ะ เมย์จะพยายาม" เธอยอมรับปากบทสนทนาของเมฆินทร์กับเพื่อนหลังวางสายจากเมย์ เมฆินทร์กดโทรศัพท์หาวายุทันที"วายุ ช่วงนี้มึงว่างไหม? ช่วยกูคิ
6 เดือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าทรมาน สำหรับเมฆินทร์ที่ถูกย้ายไปเชียงใหม่ และจารวีที่ทำงานที่กรุงเทพฯ มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเหมือนขาดใจ เพราะเขาไม่มีโอกาสได้ดูแลเธอ ส่วนจารวี... แม้จะยังรัก... แต่ความหวาดกลัวก็ยังคงฝังลึกและเจ็บปวดจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจารวีทำงานในบริษัทของครอบครัวเมฆินทร์ภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวดของ นภา รองประธานบริษัทผู้มีอำนาจล้นเหลือ ครอบครัวของเมฆินทร์ประกาศชัดเจนว่าห้ามใครมายุ่งหรือทำอันตรายเธอโดยเด็ดขาดนภาจัดการไล่พนักงานที่เคยซุบซิบนินทาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงหรือพูดในทางไม่ดีออกไปทั้งหมด และกำชับห้ามใครคิดร้ายอีกต่อไปการปฏิบัติของทุกคนในบริษัทต่อจารวีเหมือนเป็นลูกสาวคนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งตัวเธอเองก็รู้สึกอึดอัดใจกับสถานะที่ได้รับ แต่นภาต้องการชดใช้ความผิดที่ลูก ๆ ของเธอเคยทำพลาด ไม่ว่าจะในอดีตของเมย์ หรือในปัจจุบันของเมฆินทร์ การดูแลเธอในระดับนี้จึงยังน้อยไปด้วยซ้ำในความรู้สึกของผู้เป็นแม่วันเวลาที่ผ่านไปได้ช่วยเยียวยาจิตใจของจารวีให้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีเงื่อนปมบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจของเธอเสมอมา วันนี้ ความคับข้องใจนั้นกำลังจะถูกคลี่คลายลง เมื่อมีหญิงสา
ล็อบบี้และสติของเมย์เมฆินทร์อุ้มร่างที่ไร้สติของจารวีวิ่งออกมาจากลิฟต์ไปยังล็อบบี้อย่างบ้าคลั่ง สภาพเขาตอนนี้มีแต่ร่องรอยการต่อสู้ เหงื่อท่วมกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอย่างไรต่อบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ใครก็ได้! เรียกรถ! เรียกรถพยาบาล!พนักงานที่เคาน์เตอร์ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกับภาพชายคลั่งที่อุ้มหญิงสาวตัวซีดเซียวเมย์วิ่งตามมาติด ๆ คว้ากระเป๋าจี๊ดไว้แน่น เธอเห็นความตกตะลึงจนสติแตกของพี่ชาย จึงพุ่งเข้าใส่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันทีเมย์เสียงเฉียบขาดและเร่งรีบ ตอนนี้ต้องการรถไปส่งที่ท่าเรือข้ามเกาะด่วนที่สุด! เร็วเข้า! ตอนนี้!เธอชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเมฆินทร์ พยายามใช้ไพ่ตายที่สร้างขึ้นมาผู้หญิงคนนี้... เธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง... ฉันกลัวว่าเธอจะ แท้งลูก! ให้รีบไปส่งที่ท่าเรือข้ามฝั่ง! ตอนนี้! เครื่องมือการแพทย์และสถานพยาบาลบนเกาะนี้มันไม่พอแน่ ๆ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก... รีสอร์ทของคุณจะรับผิดชอบไม่ไหว!พนักงานรีบประสานงานกันอย่างตื่นตระหนกโดยทันที เมื่อได้ยินคำว่า 'แท้งลูก' และ 'รับผิดชอบไม่ไหว'เมฆินทร์หันไปมองน้องสาว ใบ







