สองเดือนต่อมา...
ฉันยังคงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของพี่กองทัพ อยู่แค่ที่นี่จริง ๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นที่พี่กองทัพบอกจะพาไปร้านสักก็ไม่ได้ไป เพราะจู่ ๆ พี่กองทัพเขาก็เปลี่ยนใจออกไปคนเดียวซะงั้นและเขายังสั่งห้ามฉันไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด ฉันก็เชื่อฟัง
พี่กองทัพกลับมานอนที่นี่ทุกคืน เขาทำให้ฉันเผลอใจรักจนได้ รักทั้งที่ไม่ควรจะรัก ทว่าพักหลังเขาดูแปลกไป เขาไม่เรียกร้องเรื่องบนเตียงกลับมาถึงเข้าห้องนอนกอดฉัน เช้าตื่นมาเขาก็ไป ทุกวันนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่มีสิทธิ์ถามและต้องบอกก่อนว่าแม้ฉันกับมิ้มจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของมิ้มสักนิดเพราะฉันคิดอยู่เสมอว่าฉันต่ำต้อยกว่ามิ้มจึงไม่อยากถาม ถ้าเรื่องไหนมิ้มอยากเล่ามิ้มก็จะเล่าให้ฟังเอง ฉันจึงไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของพี่กองทัพ
มิ้มยังคงทักไลน์มาหาอยู่บ่อย ๆ ฉันก็ยังคุยกับเธอปกติแม้จะนอนกกผัวเธออยู่ก็ตาม โคตรจะหน้าด้านไร้ยางอาย รู้สึกผิด รู้ว่าบาปแต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้มิ้มรู้เรื่อง กลัวเธอเสียใจที่โดนคนรักและเพื่อนเลว ๆ อย่างฉันหักหลังและตอนนี้มันเลวร้ายมาก เพราะฉันมันไม่สำนึก ไม่รู้จักประมาณตัวเอง ไม่รู้จักเจียมตัวเจียมใจ แยกแยะไม่ออกตกหลุมรักคนรักของเพื่อนเข้าอย่างจัง ก็ไม่ได้อยากให้มันแบบนี้ แต่ด้วยความใกล้ชิด สัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน เขาถึงเนื้อถึงตัวฉันอยู่ตลอด ความสัมพันธ์นี้ทำให้ฉันคิดไปไกล มันทำให้ฉันเผยสันดานเลว ๆ ฉันเลวไม่ต่างจากพี่กองทัพ ฉันไม่สมควรเป็นเพื่อนของมิ้ม
แต่ก็นะ ถึงฉันจะรักพี่กองทัพ แต่ว่า ‘ห้ามรักพี่’ ประโยคนี้เขาย้ำกับฉันเป็นประจำย้ำทุกวันจนฉันจำขึ้นใจ แต่หัวใจเจ้ากรรมดันไม่ยอมฟัง ยังดื้อรั้นรักผู้ชายของเพื่อนหัวปักหัวปำทั้งที่รู้ว่าไม่ควรกระทำ จะให้ฉันทำยังไงได้ก็พี่กองทัพเขาชอบทำดี เขาชอบหว่านคำหวานแล้วสุดท้ายก็บอกว่าห้ามรัก
แต่ฉันก็ทำไม่ได้ หัวใจมันไม่ฟังฉันเลย ฉันมันผู้หญิงบาป
ทว่าตอนนี้มีเรื่องน่าหนักอกหนักใจมากกว่าการรักพี่กองทัพ ประจำเดือนฉันขาดมาสองเดือน เดือนแรกที่ไม่มาฉันคิดว่าอาจจะเคลื่อนเหมือนที่เคยเป็นเพราะบางครั้งประจำเดือนก็ชอบหายไป ฉันจึงเฉยเมยต่อสุขภาพร่างกาย...
แต่พอเข้าเดือนที่สอง สมองอันน้อยนิดของฉันเริ่มฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าฉันลืมคุมกำเนิด คือครั้งแรกที่มีอะไรกันพี่กองทัพบอกฉันว่าคืนแรกที่ฉันเป็นของเขา เขาเอาสด ให้ฉันหายากิน แต่ฉันดันลืมและเพิ่งจะมานึกออกเมื่อเข้าเดือนที่สอง
แค่ครั้งเดียวที่ไม่ใส่ถุงจะพลาดได้เหรอ คลายความกังวลด้วยการไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ เวลานี้กำลังยืนลุ้นที่ตรวจครรภ์จำนวนห้าอันที่ถูกหยดปัสสาวะลงครบทุกอัน ขอให้เป็นขีดเดียวเถอะ ไม่งั้นฉันซวยแน่ ๆ
ผ่านไปห้านาที ลืมตาดูที่ตรวจครรภ์ที่เรียงกันมันขึ้นสองขีดทุกอัน เข่าอ่อนทรุดตัวนั่งกับพื้น มือสั่น หัวใจเต้นแรง คิดหาทางออกดี ๆ ไม่ได้เลย มันมืดแปดด้านไป จะทำไงดี ผู้ชายที่นอนด้วยก็เป็นของเพื่อน หนำซ้ำเขายังบอกห้ามรักเขา เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันทั้งนั้นและตอนนี้เขาก็กำลังจะเบื่อฉันอย่างที่เขาเคยบอกไว้ ที่แน่ใจก็เพราะวันนี้เป็นวันที่สามที่เขาหายไป อย่างไร้วี่แวว ไม่โทรหา กับข้าวที่ฉันตั้งใจทำถูกทิ้งลงถังขยะทุกวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ คงถึงเวลาที่เรื่องพวกนี้มันควรจะจบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น พี่กองทัพกลับมาแล้ว ด้วยความดีใจที่จะได้เห็นหน้าเขาที่ห่างหายไปหลายวัน ฉันรีบเช็ดน้ำตาและเปิดประตูห้องน้ำออกไปโดยลืมคิดถึงปัญหาไปชั่วขณะ
“เป็นอะไรเบลล์” พี่กองทัพทำท่าตกใจที่เห็นฉันโผเข้ากอด
“คิดถึงค่ะ” ฉันพูดอย่างไม่อายเพราะคิดถึงเขาซะมากมายมันล้นอกจนจะตายอยู่แล้ว ฉันโหยหาอ้อมกอดของเขา โหยหารอยยิ้มร้าย ๆ ที่เขาชอบมองฉันแล้วยิ้ม
“พี่ขอเข้าห้องน้ำแป๊บนะ” เขาผละฉันออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ให้ตายเถอะ ฉันเพิ่งนึกออกว่าที่ตรวจครรภ์อยู่ในนั้น
แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้น ผู้หญิงสวยแต่งตัวเซ็กซี่หน้าอกใหญ่โตเดินออกจากห้องนอนของพี่กองทัพ เธอมองมาที่ฉันและส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเอ่ยถาม “เฮียล่ะ”
เสียงของเธอหวานจับใจ เป็นใครก็คงหลงใหล หัวใจของฉันมันกำลังเต้นแรงผิดปกติ เหมือนมีบางอย่างบีบรัดอย่างแรง ความรู้สึกบ่งบอกว่ากำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง
แกร็ก ก่อนที่ฉันจะตอบอะไรออกไปพี่กองทัพเปิดประตูออกมา เขามองหน้าฉันแวบหนึ่งและหันไปส่งยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“น้องแพรเข้าไปรอเฮียในห้องก่อนนะ เดี๋ยวเฮียคุยกับเพื่อนแป๊บเดียว” พี่กองทัพพูดกับผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางอ่อนโยน น้ำเสียงแบบนี้เขาไม่เคยพูดกับฉันด้วยซ้ำ ใช่สิเขาไม่รักฉัน แล้วฉันจะหวังคำหวานอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นยิ้มก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป จากนั้นเสียงเยือกเย็นชวนขนลุกก็ดังขึ้นพร้อมกับต้นแขนถูกกระชากให้เดินตามเข้ามาในห้องน้ำ “เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันนะเบลล์”
พรึบ! ที่ตรวจครรภ์จำนวนห้าอันโยนใส่หน้าฉัน ใบหน้าของพี่กองทัพเคร่งเครียด ดวงตาเขาจ้องฉันเขม็ง มันมีแต่ความขุ่นเคือง ดูก็รู้ว่าเขากำลังหัวเสียกับเด็กที่กำลังจะเกิดมา “นี่อะไรวะเบลล์ พี่ใส่ถุงตลอดทำไมมันเป็นแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ครั้งนั้นเบลล์ลืมกินยาค่ะ” ฉันก้มหน้ามองพื้นและสารภาพความผิดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเพราะกลัวท่าทีของเขา
“โธ่ โว้ย! ลืมเหรอ แล้วทำไมไม่จำวะ” ฉันเห็นปลายเท้าพี่กองทัพกำลังเดินมาทางฉัน จากนั้นมีเสียงดังตุบ เป็นเขาที่ปล่อยหมัดแรง ๆ ไปที่ผนังกำแพงข้าง ๆ ที่ฉันยืนอยู่ มันห่างจากฉันแค่นิดเดียวเอง ฉันไม่กล้าพูดหรือขยับตัวเพราะกลัวท่าทีของเขา ฉันจึงร้องไห้ ก็ฉันมันทำได้แค่นี้ไง ทำได้แค่ร้องไห้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ฉันได้ยินเสียงถอนลมหายใจยาว ๆ ของพี่กองทัพ จากนั้นเขาเปิดประตูห้องน้ำเดินออกไป ฉันไม่รู้จะทำยังไงจึงเช็ดน้ำตาและรีบเดินตามเขา
“อะนี่เงินที่ตลอดสองเดือนเบลล์อยู่กับพี่ ฟังนะตอนนี้พี่ได้ผู้หญิงใหม่แล้ว เข้าใจใช่ไหมว่าพี่หมายความว่าอะไร” เขายัดเช็คที่เขียนจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทใส่มือให้ฉัน พร้อมกับคำพูดที่สื่อว่าฉันมันไม่มีค่าอะไรเลย ถึงเวลาที่ควรจบเพราะเขาเบื่อแล้ว
“...” มือข้างขวามีเช็คที่เขายัดมาและมองการกระทำของเขา เขากำลังเขียนเช็คอีกใบ
จากนั้นก็มองหน้าฉันและยัดเช็คมาที่มือข้างซ้ายพร้อมกับพูดว่า “และนี่ ไปเอาไอ้มารหัวขนในท้องนั่นออกซะ พี่ไม่ต้องการและพี่คิดว่าเบลล์ก็คงไม่ต้องการ”
ประโยคนี้ทำเอาฉันล้มทั้งยืน เงยหน้ามองเขาที่ยืนอยู่เหนือหัว สายตาที่เขามองมาที่หน้าท้องของฉันมันแสดงถึงการรังเกียจสิ่งที่อยู่ในท้อง สิ่งที่เรียกว่าลูก จำนวนเงินของเช็คใบที่สองคือห้าแสนบาทสำหรับการฆ่าชีวิตใครคนหนึ่ง ใครคนหนึ่งที่เป็นสายเลือดของเขา ผู้ชายเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ทำไมเลวได้ขนาดนี้
ฉันหลงรักซาตานร้ายคนนี้ได้ยังไง ทำไมฉันโง่ขนาดนี้ รักคนแบบนี้ได้ไง
“เลิกทำหน้าอาลัยอาวรณ์พี่สักที พี่ไม่สนใจสายตาแบบนี้ พี่เบื่อเบลล์แล้วเบลล์ไม่มีความหมายอะไรเลย ต่อไปนี้เราจบกันนะ เรื่องของเรามิ้มจะไม่มีทางรู้ เก็บข้าวของเบลล์แล้วไปซะ พูดให้รู้เรื่องพี่ไม่ชอบพูดซ้ำ” เขาไม่แคร์อะไรฉันเลย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นทั้งที่เขาเพิ่งจะบอกให้ฉันไปเอาเด็กออก
เมื่อเขาไล่ ก็คงต้องไปไง ให้อยู่เพื่ออะไร
“เดี๋ยวค่ะ” ฉันเอ่ยเรียกเขาไว้ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าห้องนอน เขาหันมามองฉันด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ทำไม มันน้อยไปเหรอ จะเอาอีกเท่าไหร่ล่ะ” พี่กองทัพเดินกลับมาที่เดิมและกำลังจะก้มลงเขียนเช็คอีกรอบ
ฉันจึงลุกขึ้นเดินมาหาเขา วางเช็คเงินสดหนึ่งล้านใส่มือเขาไป “เปล่าค่ะ เบลล์แค่จะบอกว่า เบลล์ไม่เอาเงินนี่ ส่วนเงินห้าแสนเบลล์จะเอาไปจัดการมารหัวขนที่พี่บอกและชาตินี้ทั้งชาติเราอย่าได้เจอกันอีกนะคะ ให้เราหมดเวรหมดกรรมกันแค่ตรงนี้ จะไปตายที่ไหนก็ไป”
พูดจบฉันเดินออกจากห้องของเขามา ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาสักอย่าง แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้มา มีแค่เช็คห้าแสนบาทที่เขาให้มาจัดการกับเด็กในท้อง
ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่ต้องติดต่อกับมิ้มอีกเพราะฉันละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและทรยศหักหลังความไว้ใจที่มิ้มมีให้
มันถูกแล้วที่คนทรยศเพื่อนอย่างฉันโดนกระทำเช่นนี้ จบสิ้นกันกับเรื่องคาว ๆ จากนี้ฉันจะเลิกรักคนเลวคนนั้นให้ได้
สองเดือนต่อมา...บ้านชานเมือง“แม่เบลล์คะหนูมีเรื่องจะบอกค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่ใบหู ความจริงไม่ต้องกระซิบก็ได้เพราะตอนนี้เราอยู่กันสองคน น้าวันไปซื้อของกับเพื่อนข้างบ้าน“อะไรคะ” ฉันฉีกยิ้มสดใสอีกทั้งทำหน้าอยากรู้อยากเห็นให้สมกับที่ลูกสาวกำลังเล่นใหญ่ ก็หมูน้อยทำหน้าทำตาเหมือนมันเป็นความลับสุดยอด“ตาหนุ่มข้างบ้านเป็นแฟนยายวันของหนูค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่หูอีกรอบ“ฮะ หนูรู้ได้ไงคะ” น้าวันเนี่ยนะมีแฟน อันนี้ฉันตกใจจริง“ก็ตาหนุ่มกับยายวันชอบยิ้มให้กัน แล้วตาหนุ่มก็บอกให้หนูเรียกว่าคุณตาเหมือนที่เรียกยายวัน ตาหนุ่มยังบอกอีกนะคะว่าให้หนูช่วยบอกยายวันให้รับรักตาหนุ่มที” หมูน้อยเล่าเป็นฉากเป็นตอนด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังมากตาหนุ่มคงเป็นคนที่น้าวันพูดถึงบ่อย ๆ ได้ยินว่าเมียแกตายไปปีกว่าแกเสียใจมาก น้าวันเลยเข้าไปชวนคุยไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะกลัวแกเหงา กลัวจะตรอมใจจะว่าไปเวลาน้าวันเล่าถึงตาหนุ่มน้ำเสียงน้าก็ดูมีความสุข น้าวันของฉันมีความรักใช่ไหมเนี่ย“แล้วหนูทำไมบอกว่าตาหนุ่มกับยายวันเป็นแฟนกันคะ เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้”“ก็อาทิตย์ก่อนที่แม่เบลล์ไม่มา ตาหนุ่มถือดอกไม้ช่อเบอเริ่มมาขอยายวันเป
หลายวันต่อมาเวลา 22:45 น.คอนโด“ค้างด้วยกันสิ” เสียงของสามีเพื่อนที่ข่มขู่จนได้ฉันมาเป็นเมียอีกรอบ วนกลับเข้ามาในลูปเดิม เกิดความผิดพลาดอีกครั้ง เรียกว่าซ้ำซากง่ายกว่า ไม่สมควรได้รับการอภัยโทษ“ไม่ค่ะ แค่นี้ก็ละอายใจมากแล้ว” ฉันปฏิเสธพร้อมทั้งลุกจากเตียง อยากจะหายไปจากคนตรงหน้าเต็มกลืน“อย่าพูดแบบนี้สิครับที่รัก เมื่อกี้เรายังมีความสุขกันอยู่เลย เย็นชาจัง” พี่กองทัพลุกขึ้นมากอดและจูบที่ต้นคอใช่ค่ะ สุดท้ายฉันก็กลัวมิ้มจะเห็นคลิปนั้น ฉันยอมกลับมาเป็นของเล่นของสามีเพื่อน ยอมให้เขาย่ำยี ดีกว่าให้เพื่อนที่แสนดีเสียใจ ฉันยังคงเป็นคนโง่มันคือความบังเอิญหรือพี่กองทัพตั้งใจไว้อยู่แล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อเพื่อนที่แสนดีของฉันโทรมาบอกเล่าให้ฟังว่าเธอต้องไปต่างประเทศด่วนและอาจจะไปอยู่ที่นู่นสองถึงสามเดือน เธอบอกว่ากลับมามีเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังและยังย้ำว่าฝากดูแลท่านประธานด้วยมันเลยเหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว!แมวขี้ขโมย แอบเอากันตอนเมียเขาไม่อยู่ความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน จากนั้นหลังเลิกงานฉันต้องมาบำเรอกามอารมณ์ให้สามีของเพื่อนทุกวัน จนฉันรังเกียจตัวเ
เวลา 17:54 น.“บอสจะให้ดิฉันไปส่งที่ไหนคะ” ฉันเอ่ยถามสามีของเพื่อน ก็ตอนนี้เขานั่งอยู่ในรถของฉัน สาเหตุมาจากข้ออ้างที่ว่ามิ้มเอารถกลับไปและเขาไม่มีรถกลับบ้าน เขาจึงอาศัยรถฉันเพื่อมาพบคุณดนัย หลังจากเจรจาธุรกิจเรียบร้อยเราทั้งคู่นั่งอยู่ในรถโดยที่ฉันนั่งประจำที่คนขับ“คอนโดเดิม จำได้ไหม” เขาว่ามาแบบนี้ แล้วฉันจะตอบว่าอะไรดีล่ะ เปิดประเด็นมาแบบนี้เลยเหรอ จำได้ ก็จะหาว่าฉันใส่ใจ จำไม่ได้ ก็จะว่าเสแสร้งใช่ไหมสุดท้ายฉันเลือกที่จะไม่ตอบ ขับรถไปตามเส้นทางของคอนโดหรูที่ฉันไม่เคยลืม เพราะฝังใจ การเงียบ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับบางเรื่อง แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่อง“ขอโทษนะ” แล้วจู่ ๆ สามีของเพื่อนที่เป็นบอสของฉันก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา“ขอโทษอะไรคะบอส” ฉันหันหน้ามองเขาเพียงนิดและกลับมาโฟกัสเส้นทาง“ห่างเหินเกินไปนะเบลล์”“รัศมีค่ะ สำหรับบอสควรเรียกฉันแบบนั้น”“หึ” เขาแค่นเสียงในลำคอจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง เราทั้งสองต่างคนต่างเงียบ จนกระทั่งรถจอดที่หน้าคอนโดหรู“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง แต่วานคุณรัศมีถือของขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ผมด้วยนะครับ” พี่กองทัพยกยิ้มมุมปาก“คือ...” ฉันอึกอักอึดอัดไปหมด ในหัวเริ่มสับ
ออกจากคอนโดมาแล้วฉันเดินตามทางถนน เดินร้องไห้ไม่สนใจว่าใครจะมอง ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ทั้งที่ใจหนึ่งก็เตรียมไว้แล้วว่าสักวันพี่กองทัพคงเบื่อแต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ กลับรับไม่ได้ ไหนจะเสียใจกับเรื่องที่เขาให้ไปเอาเด็กออก เสียใจที่รักคนผิด เสียใจที่เกิดมาโง่ มันรู้สึกจุกแน่นอกไปหมด ไม่เข้าใจหัวใจผู้ชายคนนี้ทำด้วยอะไรถึงคิดฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขได้ลง ทำไมตัดสินใจได้เร็วขนาดนั้น หรือว่าเขาไม่มีหัวใจชีวิตของฉันในตอนนี้มีเพียงเช็คเงินสดห้าแสนบาทเท่านั้นที่ติดตัวมา เหลือญาติคนเดียวที่มีมาตั้งแต่เด็กและลูกในท้องที่กำลังจะเกิด ฉันคงต้องเอาเช็คไปขึ้นเงินแม้จะไม่อยากใช้แต่ก็ต้องใช้เพราะไม่มีทางเลือก จากนั้นก็ซมซานกลับไปหาน้าวันที่พึ่งทางใจสุดท้ายของฉันมารหัวขนที่เขาเรียกเป็นเด็กเกิดจากความผิดพลาดก็จริง แต่ฉันไม่คิดจะฆ่าเด็กในท้องอย่างที่เขาบอกไว้ ฉันจะเก็บลูกไว้ ใจฉันไม่ดำขนาดฆ่าลูกในไส้ตัวเองได้ลงคอ ฉันทำไม่ได้ ยังไงก็ทำไม่ได้ เด็กไม่รู้เรื่อง เมื่อเขามาเกิดเขาควรได้เกิด ฉันจะดูแลเองและพี่กองทัพกับฉันไม่มีวันเจอกันอีกหลังจากที่จัดการเรื่องเช็คเรียบร้อย ฉันกลับมายืนที่ห้องเช่าเก่า ๆ ยืนทำใจก่อนจะเข้า
สองเดือนต่อมา...ฉันยังคงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของพี่กองทัพ อยู่แค่ที่นี่จริง ๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นที่พี่กองทัพบอกจะพาไปร้านสักก็ไม่ได้ไป เพราะจู่ ๆ พี่กองทัพเขาก็เปลี่ยนใจออกไปคนเดียวซะงั้นและเขายังสั่งห้ามฉันไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด ฉันก็เชื่อฟังพี่กองทัพกลับมานอนที่นี่ทุกคืน เขาทำให้ฉันเผลอใจรักจนได้ รักทั้งที่ไม่ควรจะรัก ทว่าพักหลังเขาดูแปลกไป เขาไม่เรียกร้องเรื่องบนเตียงกลับมาถึงเข้าห้องนอนกอดฉัน เช้าตื่นมาเขาก็ไป ทุกวันนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่มีสิทธิ์ถามและต้องบอกก่อนว่าแม้ฉันกับมิ้มจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของมิ้มสักนิดเพราะฉันคิดอยู่เสมอว่าฉันต่ำต้อยกว่ามิ้มจึงไม่อยากถาม ถ้าเรื่องไหนมิ้มอยากเล่ามิ้มก็จะเล่าให้ฟังเอง ฉันจึงไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของพี่กองทัพมิ้มยังคงทักไลน์มาหาอยู่บ่อย ๆ ฉันก็ยังคุยกับเธอปกติแม้จะนอนกกผัวเธออยู่ก็ตาม โคตรจะหน้าด้านไร้ยางอาย รู้สึกผิด รู้ว่าบาปแต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้มิ้มรู้เรื่อง กลัวเธอเสียใจที่โดนคนรักและเพื่อนเลว ๆ อย่างฉันหักหลังและตอนนี้มันเลวร้ายมาก เพราะฉันมันไม่สำนึก ไม่รู้จัก
ช่วงเย็นฉันออกไปเก็บเสื้อผ้าบางส่วนและบอกน้าวันว่ามีคนจ้างทำงานเป็นงานพิเศษ มีที่พักให้ น้าวันไม่เอะใจอะไรสักนิดเพราะว่าฉันรับจ้างทำงานหลายอย่างมาตลอด น้าวันก็เลยไว้ใจเวลาสามทุ่มพี่กองทัพเดินเข้ามาในห้องของคอนโดหรู ที่ฉันรู้ว่ามันหรูเพราะฉันเห็นแล้วไงมันหรูมาก ๆ สูงหกสิบชั้นได้มั้ง ย่านคนมีเงินอยู่กันทั้งนั้น คนจนอย่างฉันไม่มีทางได้เฉียดเข้ามาเหยียบหรอก “พี่กินข้าวมาหรือยังคะ”“ทำไมอะ เบลล์อยากไปกินข้างนอกเหรอ” พี่กองทัพถอดเสื้อหนังออก เดินไปแขวนไว้ตรงที่แขวนใกล้ ๆ ตู้เสื้อผ้า“เปล่าค่ะ เบลล์จะบอกว่าเบลล์ทำเผื่อพี่ไว้อยู่ในครัวค่ะ อาหารบ้าน ๆ ไม่รู้พี่จะกินได้ไหม” ฉันก็แค่ทำเผื่อแผ่มนุษย์ร่วมห้องก็แค่นั้น เป็นความเคยชินที่ชอบทำกับข้าวเผื่อใครสักคนเพื่อเตือนตัวเองว่าฉันไม่ได้ตัวคนเดียวพี่กองทัพมายืนด้านหลังโซฟาแล้วโน้มตัวมาหอมแก้มฉัน กลิ่นน้ำหอมอบอวลใกล้ ๆ ตัวฉัน ตึก ตึก ตึก ใจมันเต้นแรง สั่นไหวแปลก ๆ นี่ฉันกำลังคิดไม่ซื่อกับคนรักของเพื่อนงั้นเหรอ ไม่ดิ ไม่ได้ มันผิด ฉันต้องห้ามรู้สึก “ขอบใจนะ กินข้าวกันปะ”“เบลล์กินแล้วค่ะ” ฉันต้องนิ่ง ต้องนิ่งให้มากกว่านี้ อย่าใจสั่นเพียงเพราะเขาหล