Home / โรแมนติก / พันธะลวง / 6.เราคบกันจริงๆ (2)

Share

6.เราคบกันจริงๆ (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-06-13 00:56:47

“นี่หมายความว่า...”

มาลินีพึมพำเสียงเบา แววตาและสีหน้ามองเขาอย่างว่างเปล่า

“ใช่ครับ ผมกับสองคบกัน”

ปัฐวิกรยืนยันซ้ำอีก เขาไม่อยากให้ความหวังกับมาลินีเพราะดูออกว่าหญิงสาวสนใจเขาเหมือนกับเพื่อนของเธอ

“หนึ่งไม่เห็นรู้เลย”

เธอถามออกไปอย่างอ่อนล้าราวกับคนพ่ายแพ้ หากน้องสาวตนเองเป็นคนพูด เธอยังเชื่อน้อยกว่าผู้ชายตรงหน้า เพราะไม่มีเหตุผลที่เขาต้องโกหกเธอ แต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมเธอไม่เคยระแคะระคายมาก่อน ช่วงที่ชายหนุ่มมาในตอนมีปัญหาของกิตติกรครั้งก่อน น้องสาวของเธอกับปัฐวิกรก็แทบจะไม่คุยกันเลย

แล้วทั้งสองคนไปคบหากันตอนไหน

“ตั้งแต่สองไปงานแต่งนายกลางเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ ถึงจะไม่ค่อยได้เจอกันก็เถอะ สองเขายังไม่กล้าจริงจัง ก็เลยยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมจริงจังเพราะอายุมากแล้ว”

คำพูดของปัฐวิกรดูน่าเชื่อถือจนแม้แต่มาธาวีเองก็คงหลงเชื่อไปด้วย หากคนที่เขาเอามาอ้างไม่ใช่เธอเอง

“เหรอคะ”

มาลินีเหมือนจะถามแต่กลับพยักหน้าเบาๆ ราวกับยอมรับ

ส่วนปัฐวิกรเหลือบไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนนิ่งเงียบ แต่แววตาคู่กลมโตกลับมองเขาอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากได้รูปสวยยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับก้าวเข้าไปหาเจ้าของร่างอรชรแบบบาง

“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ สักวันที่บ้านสองก็ต้องรู้”

เสียงทุ้มดูอ้อนนิดๆ สำหรับมาลินีจนชวนน่าอิจฉา แต่ในความคิดของมาธาวีแล้วเธอรู้ว่าเขากำลังบังคับให้สงบปากสงบคำเข้าไว้

หญิงสาวไม่เข้าใจเลยว่าทำไมปัฐวิกรยังเล่นละครต่อ ทั้งที่พี่สาวเธอก็แสดงออกว่าสนใจเขา ทำแบบนี้มันหาเรื่องให้เธอชัดๆ เลย

ขณะที่เธอแหงนขึ้นมองคนที่มาหยุดยืนตรงหน้าด้วยสายตาขุ่น ทว่าอีกฝ่ายกลับมองด้วยแววอ่อนละมุน มือหนาวางลงบนไหล่ทั้งสองข้างของเธอกระชับมั่นอย่างกดดัน

“อย่าเคืองผมนะคนดี ฝันดีครับ”

พูดจบใบหน้าขาวคมก็เคลื่อนลงมาหา มาธาวียืนนิ่งงัน ตาโต รับรู้ได้ถึงปากอุ่นที่แนบสนิทบนหน้าผากเธอทำเอาหน้าร้อนวูบ เข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงจับไหล่เธอล็อกไว้แน่น

เมื่อทำในสิ่งที่ยืนยันความสัมพันธ์ได้อย่างดีแล้วปัฐวิกรก็พอใจ ร่างสูงใหญ่ขยับออกมาสบตากับดวงตาคู่สวยที่ดูตระหนกชั่วอึดใจ ก่อนจะหันไปหามาลินีที่กำลังยืนอ้าปากค้างนิดๆ ตาขยายกว้างขึ้น

“ถ้าเคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับผมจะมาที่นี่ตามคำเชิญนะครับ ยังไงจะโทรบอกสองอีกที”

ชายหนุ่มบอกกับคนเป็นพี่สาวแล้วหันไปยิ้มบางให้มาธาวีก่อนจะกลับขึ้นรถไป

รถคันหรูเคลื่อนออกไปแล้ว สองสาวไม่ได้มองตามรถปัฐวิกร ทว่าต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง แล้วก็เป็นมาธาวีที่ถอนหายใจหงุดหงิดออกมาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้านอย่างกระแทกกระทั้น จนคนเป็นพี่มองตามด้วยสายตาไม่พอใจ สุดท้ายก็อดใจไม่อยู่ ก้าวเร็วๆ ไปดึงแขนน้องสาวเอาไว้

“ทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรกว่าคบคุณปัฐอยู่”

มาลินีเสียงแข็ง ตาวาววับด้วยความโกรธ

มาธาวีเหลือบมองพี่สาวอย่างเซ็งๆ แล้วก็ส่ายหน้าดึงมือออกตั้งใจจะเดินหนีอย่างไม่มีอารมณ์จะคุยด้วยในตอนนี้ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมง่ายๆ ยังเดินตามมาขวางหน้าเธอเอาไว้

“เดี๋ยว ตอบฉันมาก่อน”

“ก็...อย่างที่เขาบอกนั่นแหละ”

หญิงสาวอึกอักก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

“เธอก็ดูออกว่าฉันถูกใจเขา ถ้าคบเขาแล้วก็ต้องพูดกับฉันสิ นี่เป็นบ้าอะไร ปล่อยให้ฉันตามจิกเขาเป็นไก่อยู่คนเดียวทั้งที่ไม่มีความหวัง”

“พี่ไม่ได้ออกตัวแรงขนาดนั้นสักหน่อย พูดเว่อร์ไปได้”

มาธาวีตีสีหน้าเบื่อหน่าย ยังไงอีกฝ่ายก็มักจะหาเรื่องกัดเธอได้ตลอด นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เธอจึงไม่ค่อยใส่ใจนัก

“หึ นั่นสินะ ฉันช้าเป็นเต่าคลานด้วยซ้ำ มัววางแผนพาเขาไปทักทายคุณพ่อคุณแม่ ยายตามาเห็นแป๊บเดียวก็ให้ฉันชวนเขาไปต่อด้วย กะจะสอยไปคืนนี้แล้ว”

หญิงสาวระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจตนเอง

“แต่ยายตา ก็ยังช้ากว่าเธอ”

มาลินีมองน้องสาวด้วยสายตาไม่พอใจ

“ซิวปาดหน้าทุกคนไปตั้งนานแล้วยังอมพะนำไม่บอกใคร แอบยิ้มเยอะชาวบ้านอยู่ในใจล่ะสิ”

“สองเปล่า”

เธอพูดได้เพียงแค่นี้ ทั้งที่ตนเองก็หงุดหงิดไม่แพ้พี่สาว ทว่าไม่อาจทำอะไรได้

“อย่ามาโกหก ฉันรู้จักเธอดี ได้แกล้งฉันแล้วมันสนุกนักใช่ไหม”

“มันไม่ใช่อย่างนั้น”

คนเป็นน้องบอกเสียงเอื่อย หมดอาลัยกับคนที่กำลังสติแตกเพราะเข้าใจว่าโดนตัดหน้าแย่งผู้ชายไปก่อน

“ไม่ใช่ยังไง ฉันพูดผิดตรงไหน เธอไม่เคยเห็นฉันเป็นพี่เลยหรือไง เรื่องผู้ชายยังไม่เว้น แค่สะกิดบอกฉันสักนิด ฉันก็ไม่เอาเขาแล้ว ไม่อยากได้ชื่อว่าแย่งผู้ชายคนเดียวกันกับน้องหรอก ขายขี้หน้าชาวบ้านเขา”

“พี่หนึ่งเล่นใหญ่ไปแล้ว”

เมื่อเห็นว่ามาลินีดูจะไม่หยุดง่ายๆ แถมพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมมาธาวีก็เริ่มเบรกพี่สาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟกต์ เป๊ะตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเยอะแยะไป ฉันก็มีปัญญาหาได้ย่ะ ไม่ต้องลงทุนอ่อยแฟนน้องหรอก”

“ค่า รู้แล้ว พี่หนึ่งเก่ง สวยมาก”

เธอยอมจำนน เพราะไม่อยากมีปัญหาให้อีกฝ่ายเสียงดังไปกว่านี้ ร่างบางเดินเลี่ยงพี่สาวเพื่อจะเข้าบ้าน แต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะเสียงเครือสั่นของที่ดังขึ้น

“ถึงเราจะไม่ลงรอยกันนัก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะใจดำกับฉันขนาดนี้นะสอง”

มาธาวีรู้สึกไหล่หนักอึ้งราวกับแบกความเสียใจของมาลินีเอาไว้

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะลวง   8.รถไฟชนกัน (2)

    มาธาวีให้อธิปมารับตนเองเพราะเขายังไม่เคยไปบ้านของเธอ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อยืนส่งนักเรียนกลับบ้านอยู่หน้าโรงเรียนแล้วเห็นรถของกิตติกรมาจอด ซึ่งปัฐวิกรใช้รถของน้องชายเขา หญิงสาวหน้าซีดทันที ขณะที่กัญญานันทักพี่ชายเสียงใส“พี่ปัฐ”ร่างสูงใหญ่ของปัฐวิกรเข้ามากอดน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน ส่วนมาธาวีก็จำต้องยกมือไหว้อีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะกระซิบบอกว่าไปรอข้างในเพราะน้องสาวกับเพื่อนยังส่งนักเรียนอยู่กับพนักงานต้อนรับรอไม่นานสองสาวก็กลับเข้ามาด้านในเพราะเหลือนักเรียนคนเดียวพนักงานสามารถดูแลได้ ส่งนักเรียนเรียบร้อยอีกฝ่ายก็กลับบ้านได้เลย“มารับสองไปบ้านเหรอคะ”กัญญานันเอ่ยถามพี่ชายทันที เธอรู้ว่าวันนี้พี่ชายจะไปบ้านเพื่อนตามคำชวนของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเพราะเขาเคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ชายหนุ่มมาก็ทำงานที่คั่งค้างของกิตติกรเพิ่งจะมาหาเธอก็วันนี้“ครับ”มาธาวีกัดริมฝีปากล่างด้วยความลำบากใจ เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังก็เห็นว่าเวลานี้อธิปเองก็คงเลิกงานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มออกมาหรือยัง“เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำให้นะคะ”เธอพูดขึ้นพยายามจะเลี่ยงออกไปเพื่อโทรหาอธิป“ไม่เป็นไร ผมเอามาแล้วนี่ไง”ตาคู่กลมโตเหล

  • พันธะลวง   8.รถไฟชนกัน (1)

    เป็นเช้าที่มาธาวีตื่นขึ้นมาอย่างไม่สดชื่นเอาเสียเลย ทั้งที่บ้านเธออยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศสดชื่นเย็นสบาย ปกติมานอนที่บ้านเมื่อไรหญิงสาวจะลุกขึ้นไปยืนมองพระอาทิตย์ขึ้นหน้าระเบียงห้องนอนตอนเช้า ทว่าวันนี้แม้แสงแดดส่องผ่านกระจกที่ผ้าม่านเปิดแง้มเอาไว้เจ้าของร่างอรชรก็ไม่มีอารมณ์จะลุกขึ้นแต่อย่างใด ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่อย่างนั้น กระทั่งได้ยินเสียงข้อความเข้ามาในมือถือจึงหยิบขึ้นมาดู‘พี่ปัฐบอกให้ส่งเบอร์เขาให้สองน่ะ แล้วเขาก็ขอเบอร์สองไปด้วย เห็นว่ารับปากพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงเอาไว้ตอนท่านชวนไปทานข้าวที่บ้าน เลยขอเบอร์สอง’เห็นข้อความของกัญญานันแล้วก็ได้แต่ทิ้งมือถือลงอย่างอ่อนแรง ไม่นึกอยากให้ปัฐวิกรมาที่บ้านของเธอเลยสักนิด สังหรณ์ในใจบอกเธอว่าเรื่องราวคู่หมั้นจอมปลอมจะไม่จบลงแค่ที่พี่สาวของเธอแม้แทบไม่อยากลุกจากเตียงนอนไปเผชิญหน้ากับมาลินีในเวลาอาหารเช้า แต่มาธาวีก็ต้องขยับตัวเพราะไม่อยากทำตัวให้ผิดปกติจนอีกฝ่ายหาเรื่องค่อนขอดได้อีก จึงลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายใจร่างโปร่งระหงในชุดข้าราชการเรียบร้อยเดินลงจากบันไดไปก่อน มาธาวีที่ก้าวออกมาเห็นอีกฝ่ายหยุดกึกรอให้

  • พันธะลวง   7.ยอมจำนนหนี้บุญคุณ (2)

    ‘จะเอาให้ครางเอาอีกๆ ไม่หยุดเลย คอยดูสิ’‘ไอ้บ้าเอ๊ย!’มาธาวีตะโกนด่าเสียงดังอย่างรังเกียจสุดจิตสุดใจ ทั้งยังวาดมือใส่หน้าที่ซุกไซ้แก้มกับลำคอไม่หยุดสุดกำลังเท่าที่มือจะใช้แรงได้‘โอ๊ะ...’ได้ยินเสียงเข้มดังก่อนชายหนุ่มจะเข่นเขี้ยว‘ตบเหรอหา!’เพี้ยะ!!แรงกระทบหน้าหนักหน่วงทำเอามาธาวีถึงกับชาไปทั้งข้างแก้ม รู้สึกได้ถึงความเจ็บจี๊ดตรงมุมปาก เธอชะงักไปอึดใจหนึ่งเลยเดียว‘ไง หมดฤทธิ์แล้วสินะ’น้ำเสียงเยาะหยันอย่างพอใจก่อนคุณากรจะถอยออกไปถอดเสื้อของตัวเอง คงเพราะเห็นว่าเธอไม่กล้าแผลงฤทธิ์แล้ว นั่นทำให้มาธาวีรีบปัดป่ายมือควานหาของใกล้มือตรงโต๊ะหัวเตียงแล้วก็เจอไอแพดกับมือถือของตัวเอง เมื่อไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบมือถือปาใส่อีกฝ่าย‘โอ๊ย!’คุณากรสะดุ้ง มาธาวีรีบถอยกรูดให้ห่างอีกฝ่ายมากที่สุดทั้งยังถีบเขาไม่ยั้ง มือหนาคว้าขาเธอเอาไว้ คราวนี้หญิงสาวจึงเอาไอแพดปาใส่ซ้ำไปอีก‘โธ้เว้ย!’อีกฝ่ายสบถเสียงดังอย่างหงุดหงิด ขณะที่ร่างอรชรรีบเผ่นลงจากเตียงวิ่งไปยังประตูห้องด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงกำยำก้าวตามมา ทว่าเธอก็เปิดประตูได้พอดี กำลังจะพุ่งตัวออกไปอีกฝ่ายก็ดึงกลับมา แต่เธอทันได้สบตากับคนที่อยู่ห้

  • พันธะลวง   7.ยอมจำนนหนี้บุญคุณ (1)

    น้ำร้อนๆ เอ่อขึ้นมาในดวงตาคู่กลมโต ความอึดอัดขัดใจแน่นอยู่ในอก มาธาวีรู้ว่าที่พี่สาวโวยวายเพราะกำลังเจ็บ ไม่ใช่เจ็บเพราะโกรธ แต่เจ็บที่โดนน้องอย่างเธอหักหลังมาลินีเป็นคนขี้บ่นจู้จี้จุกจิกอยู่แล้ว เธอโดนตำหนิบ่อยจนเคยชินแต่รู้ว่าที่พี่สาวมักจะเคือง ไม่พอใจ หรือบ่นเธอก็เพราะหวังดี พอมารู้ว่าถูกหลอกเรื่องผู้ชายก็ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะปรี๊ดขึ้นมาเธอรู้ว่าพี่สาวเสียใจกับความแห้วของตัวเองมาตั้งแต่ครั้งเปรมินทร์แล้ว แถมยังมีกิตติกรอีก แต่เพราะเป็นคนสวย เริด เชิด การศึกษาหน้าที่การงานดี มาลินีจึงมั่นใจในตัวเองว่าต้องมีคนที่ดีเหมาะสมเข้ามาในชีวิต การได้เจอปัฐวิกรในเวลาใกล้เคียงกับที่ต้องถอยห่างจากกิตติกร มาธาวีจึงไม่แปลกใจว่าหนุ่มมาดเนี้ยบหล่อโปรไฟล์หรูย่อมต้องเป็นเป้าหมายใหม่ของพี่สาวเธออย่างไม่ต้องสงสัยอีกฝ่ายหมายมั่นปั้นมือกับปัฐวิกรพอสมควร เพียงแค่ยังไม่มีเวลาได้ทำความรู้จักเพราะชายหนุ่มไม่ได้อยู่เชียงใหม่เท่านั้น นั่นทำให้คนเป็นน้องสะเทือนใจเมื่อได้ยินเสียงตัดพ้อสั่นเครือของพี่สาว จนสุดท้ายก็ต้องเอ่ยออกไปโดยไม่ได้หันไปมองด้วยไม่อาจฝืนทนเห็นอีกฝ่ายเสียใจได้ ทว่าน้ำเสียงก็เจือความสั่นไม่แพ้

  • พันธะลวง   6.เราคบกันจริงๆ (2)

    “นี่หมายความว่า...”มาลินีพึมพำเสียงเบา แววตาและสีหน้ามองเขาอย่างว่างเปล่า“ใช่ครับ ผมกับสองคบกัน”ปัฐวิกรยืนยันซ้ำอีก เขาไม่อยากให้ความหวังกับมาลินีเพราะดูออกว่าหญิงสาวสนใจเขาเหมือนกับเพื่อนของเธอ“หนึ่งไม่เห็นรู้เลย”เธอถามออกไปอย่างอ่อนล้าราวกับคนพ่ายแพ้ หากน้องสาวตนเองเป็นคนพูด เธอยังเชื่อน้อยกว่าผู้ชายตรงหน้า เพราะไม่มีเหตุผลที่เขาต้องโกหกเธอ แต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมเธอไม่เคยระแคะระคายมาก่อน ช่วงที่ชายหนุ่มมาในตอนมีปัญหาของกิตติกรครั้งก่อน น้องสาวของเธอกับปัฐวิกรก็แทบจะไม่คุยกันเลยแล้วทั้งสองคนไปคบหากันตอนไหน“ตั้งแต่สองไปงานแต่งนายกลางเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ ถึงจะไม่ค่อยได้เจอกันก็เถอะ สองเขายังไม่กล้าจริงจัง ก็เลยยังไม่ได้บอกใคร แต่ผมจริงจังเพราะอายุมากแล้ว”คำพูดของปัฐวิกรดูน่าเชื่อถือจนแม้แต่มาธาวีเองก็คงหลงเชื่อไปด้วย หากคนที่เขาเอามาอ้างไม่ใช่เธอเอง“เหรอคะ”มาลินีเหมือนจะถามแต่กลับพยักหน้าเบาๆ ราวกับยอมรับส่วนปัฐวิกรเหลือบไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนนิ่งเงียบ แต่แววตาคู่กลมโตกลับมองเขาอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากได้รูปสวยยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับก้าวเข้าไปหาเจ้าของร่างอรชรแบบบาง“อย่าม

  • พันธะลวง   6.เราคบกันจริงๆ (1)

    ‘ตาถูกชะตาคุณจังเลย อยากลองคบคุณ ได้ไหมคะ’สาวร่างอิ่มขยับขึ้นไปพูดใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่โดยการเกาะไหล่เขาทั้งสองข้าง แล้วเขย่งตัวขึ้นนี่คือภาพที่มาลินีแอบตามเพื่อนที่ดึงปัฐวิกรออกมาแล้วเห็นเข้า เธอบอกอธิปว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ส่วนชายหนุ่มมีสายโทรศัพท์เข้ามาพอดีเขาจึงออกไปคุยด้านหน้า เพราะข้างในค่อนข้างเสียงดังแต่ถึงจะดังยังไง พรชิตาก็ไม่เห็นต้องขยับไปพูดใกล้ๆ ชายหนุ่มขนาดนั้น เพราะเธอยืนอยู่ตรงนี้ยังได้ยินเลย หญิงสาวค่อนขอดเพื่อนตัวเองในใจ‘เราเพิ่งเจอกันเองนะครับ’ปัฐวิกรแย้ง แต่ก็ไม่ได้ผลักพรชิตาออก คิดว่าเขาคงไม่อยากเสียมารยาท เพราะแขนกำยำแนบข้างลำตัว ไม่โอบหรือกอดอีกฝ่ายแต่อย่างใด‘นั่นสิคะ ตาถึงได้บอกว่าถูกชะตา’พรชิตาถอยออกมาเงยหน้ามองชายหนุ่มไม่ห่างนัก ตาคู่สวยพราวหยาดเยิ้ม‘ผม...’‘อย่าบอกนะคะ ว่าคุณไม่ถูกใจตา ของแบบนี้ต้องลองก่อนสิคะ ถึงจะรู้’สาวสวยยิ้มอย่างขี้เล่นขณะพูดคนแอบฟังอย่างมาลินีได้ยินคำนี้ของเพื่อนยังถึงกับอึ้ง เธอไม่ค่อยแปลกใจหรอก เพราะรู้จักนิสัยกันดีอยู่ แต่พรชิตาเพิ่งเจอปัฐวิกรวันนี้เอง อ่อยหนักขนาดนี้หมายความว่าอยากให้เขากลับไปด้วยคืนนี้แน่ๆคิดมาถึงตรงนี้มาลินีก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status