เข้าสู่ระบบหรือว่าอ้อมกอดของผมมันจะอบอุ่นจนเธอลุ่มหลง เพราะในเวลานี้คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับตัวเข้ามาแนบชิดจนตัวติดกัน ซุกใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักอยู่ตรงซอกคอแกร่งราวตั้งใจจะสูดกลิ่นกายผม แถมยังเอื้อมมือมาโอบกอดผมเอาไว้แน่น ลูบไล้แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของผมไปมาเบาๆ อีกต่างหาก
โคตรฟินเลยว่ะ ถ้าได้แบบนี้ทุกคืนก็คงจะดี! “ไหนๆ ก็แอบขึ้นมาแล้ว ร้องเพลงกล่อมผึ้งหน่อยสิพี่เอ็ม” โอย! น้ำเสียงหวานใสที่ดังขึ้นเบาๆ อย่างออดอ้อน ทำให้ผมดีใจแทบบ้า และดุ้นหฤหรรษ์ก็ทำท่าว่าจะแข็งขึ้นมาอีก บ้าฉิบ….! นี่มันจะแข็งทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอเลยเหรอวะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ตัวตนของผมนอกจากมันจะใหญ่โตแล้ว มันจะยังหื่นและอึดขนาดนี้ “ทำไม… ผึ้งติดใจเสียงพี่เหรอ” แกล้งทำเสียงแหบห้าวถามกลับแบบห้วนๆ จริงๆ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่รู้จะปรับโทนเสียงให้เป็นแบบไหน พออ้อนหน่อยก็บอกว่าไม่ชอบ เวลาห้าวใส่ก็บอกว่าไม่อ่อนโยน ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาเป็นแบบนี้กันเหรอวะ ผมเองก็ไม่เคยคบกับใครจริงจังซะด้วย ตั้งแต่เด็กจนโตก็แอบมองผู้หญิงแค่คนเดียว… และเธอคนนั้นก็คือผู้หญิงที่ผมกำลังนอนกอดอยู่ในขณะนี้ “อืม… พี่เอ็มร้องเพลงเพราะมาก ผึ้งชอบ” น้ำเสียงงัวเงียที่ป้อนคำชมตรงข้างหู ทำให้ผมแอบยิ้มเหมือนคนบ้า อยากจะกระแทกแท่งเอ็นใส่หนักๆ ให้เป็นรางวัล แต่ดูแล้วน้องสาวข้างบ้านเธอคงจะเพลียมาก ไหนจะต้องเตรียมตัวสอบ ไหนจะโดนผมคอยจ้องล่อลวงรังแกไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็คนมันรักมากนี่หว่า รักมากก็หื่นมากแล้วมันผิดตรงไหน! แถมผมยังรอคอยเวลานี้มานาน อยากเอาเธอตั้งแต่ปีที่แล้ว อยากปี้เธอตั้งแต่เพิ่งจะแตกเนื้อสาว แต่เธอยังเด็กเกินไป ก็ต้องอดใจเอาไว้แทบบ้า ตอนแรกก็กะจะรอให้เธอเรียนจบมอหกก่อนน่ะแหละ แต่ดันอดใจต่อไม่ไหวแล้ว แอบมองเธอแล้วช่วยตัวเองเป็นร้อยครั้งจนลำรักมันอ้อนวอนขอโอกาสให้ได้เข้าไปฟาดฟันในช่องเสียวของเธอซะที วันนั้นเลยตัดสินใจหลอกเธอขึ้นไปเอาที่ห้อง พอได้ฟันแล้วก็แม่ง… โคตรติด อาการหนักกว่าเดิมอีกกู “เสียงพี่เอ็มคือแบบ… ไปเป็นนักร้องได้เลยอ่ะ” นั่น! ยังไม่ยอมหยุดชมอีก ทำไมวันนี้ปากหวานจังวะ นึกว่าหลับไปแล้วเสียอีก แต่ชมแค่ว่าผมเสียงเพราะ ทำไมไม่ชมว่าผมเอาเก่งลีลาดีบ้างวะ “เออ! เล่นชมกันแบบนี้ สงสัยพี่คงต้องมานอนร้องเพลงกล่อมทุกคืน สักวันต้องโดนป๊าแฟนลากเข้าคุกแน่กู” ผมยื่นมือไปลูบผมคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่แอบหัวเราะผมอยู่ พร้อมกับร้องเพลงขับกล่อมเบาๆ ‘หลับตาซิที่รัก ในวงแขนของฉัน จะไม่มีผู้ใด คิดทำร้ายเธอได้’ จะว่าไปแล้วการมีเธออยู่ในอ้อมกอดมันคือความสุข ผมชอบมองตอนเธอหลับ ผมคิดว่าผมควรจะกอดเธอไว้ทั้งคืน ค่อยกลับไปที่บ้านของตัวเองตอนเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ก็แล้วกัน ‘หลับตาซิที่รัก ขอจงนอนหลับฝัน เพื่อพรุ่งนี้ได้พบ วันใหม่กับฉัน’ “พี่เอ็มน่ะ น้องเพลงไม่เข้ากับหน้า ไม่นึกเลยว่าจะร้องเพลงแบบนี้” เสียงงัวเงียดังขึ้นอีกรอบ “ทำไม!? ไม่ชอบเหรอ เพลงนี้คือเพลงที่แม่ร้องกล่อมพี่ตอนเด็กๆ หลังจากโดนพ่อตี” พ่อแท้ๆ ของผมก็แม่ง… บางวันก็ทุบผมยังกับหมูกับหมา จริงๆ ไม่น่าเรียกพ่อเลยด้วยซ้ำ พอร้องเพลงไปเรื่อยๆ ก็ทำให้นึกถึงภาพความทรงจำในวัยเยาว์ของเราสองคน ในวันที่แม่ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพ่อเลี้ยง ตอนนั้นผมอายุแค่แปดขวบ สำหรับเด็กผู้ชายคนนั้น การย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่ใจกลางเมืองหลวงแบบนี้ มันทั้งตื่นตาตื่นใจและวุ่นวายใจในเวลาเดียวกัน ถึงแม้พ่อเลี้ยงจะไม่ได้รักผมสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยตีผมเลยสักครั้ง พ่อเลี้ยงขายจักรยานกับรับซ่อมจักรยานไปวันๆ รายได้ก็ไม่ได้มากมายอะไร ไหนจะค่าเช่าบ้านอีก การที่ต้องส่งเสียผมเรียนหนังสือจึงกลายเป็นภาระที่เขาบ่นอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดวันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจที่จะหยุดส่งเสียผม และให้ผมคอยอยู่ช่วยงานที่ร้านแทน ชีวิตผมตั้งแต่เด็กจนโตแม่งโคตรแย่! สิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีความสุขทุกวันก็คือ ‘น้องสาวข้างบ้านที่ชื่อน้ำผึ้ง’ “เพิ่งย้ายมาอยู่ที่ร้านจักรยานเหรอ ชื่อไรน่ะ” เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงวัยห้าขวบที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาถามผมผ่านทางช่องว่างของรั้วเหล็กหลังบ้านตัวเอง คนตัวเล็กตัดผมสั้นทรงม้าเต่อทำให้ยิ่งดูเป็นอาหมวยน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งต่างจากผมลิบลับ ที่ทั้งตัวดำและผมกระเซอะกระเซิง “เออ! เพิ่งย้ายมา พี่ชื่อเอ็ม แล้วเราอ่ะชื่ออะไร” ผมในวัยแปดขวบรีบเดินเข้าไปตรงริมรั้วบ้านเธอ อยากจะมองหน้าเธอให้ชัดๆ “ชื่อน้องผึ้ง ปีนี้ขึ้นอนุบาลสองแล้ว” เสียงใสตอบเจื้อยแจ้ว พร้อมกับยื่นขนมกล่องเล็กๆ ให้ผม “อ่ะ กูลิโกะป๊อกกี้รสสตรอว์เบอร์รี่ น้องผึ้งให้” นั่นแหละครับ… วันที่ผมเจอกับเธอครั้งแรก“เล้าโลมก่อนไง พอเข้าไปในห้องจะได้ใส่เลย” พอพูดจบประตูลิฟต์ก็เปิดทันที และประตูลิฟต์เปิดออกยังไม่ทันสุด ฉันก็โดนเขาฉุดไปตามทางเดิน“ถึงแล้ว ห้องนี้ไง ห้องชั้นสูงๆ แบบนี้ วิวน่าจะสวยนะผึ้ง”เมื่อเราทั้งคู่เปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องพบกับความตกตะลึง หืม! สมชื่อเลิฟโฮเทลจริงๆ โรงแรมแฟนซีที่ซ่อนอยู่ในซอยใกล้ๆ บ้าน ออกแบบตกแต่งเพื่อคู่รักมาเอากันโดยเฉพาะ ภาพเขียนอีโรติกที่ติดอยู่ตามผนังห้องยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเราทั้งคู่ให้ลุกโชน และเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ดูแล้วน่าจะใหญ่กว่าเตียงที่บ้านฉันสองเท่าก็กำลังร้องเรียกให้เราสองคนรีบๆ กระโจนเข้าไปพี่เอ็มรีบถอดเสื้อยืดสีดำโยนทิ้งไปทันที มือเรียวยาวปลดหัวเข็มขัดของตัวเองออก แล้วดึงกางเกงยีนส์ขาดๆ ให้ร่วงไหลลงมาตรงปลายเท้า ส่วนบ็อกเซอร์สีเข้มๆ ของเขา ฉันเป็นคนดึงมันลงมาเองแหละ “อา~ ผึ้ง” คนตัวโตครางขึ้นมาอย่างชอบใจเมื่อโดนฉันจู่โจม พอเห็นความใหญ่โตของเขาฉันก็ทนไม่ไหวรู้ตัวอีกทีร่างเล็กบอบบางก็นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา มือเล็กๆ ที่กำลำเอ็นของเขาไม่รอบรีบคว้าหมับตรงกลางลำก่อนจะค่อยๆ ขยับริมฝีปากเข้าไปใกล้ๆ แล้วใช้ปลายลิ้นเล็กตวัดเล้าเลียตั้งแต่ป
คนตัวโตที่กำลังส่งยิ้มกว้างแววตาเป็นประกายระยิบระยับ รีบยื่นฝ่ามือสากๆ มาจับนมฉันเหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิดเรื่องหื่น… ขอให้ไว้ใจพี่เอ็ม “ไอบ้า! นี่มันข้างถนน” พอโดนฉันดุก็ผลักมือออกแล้วเปลี่ยนมาลูบแก้มเนียนนุ่มของฉันแทน“ผึ้ง! พี่รอตั้งนาน นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” คำว่านานของพี่เอ็มนี่มันยังไงกันวะ ฉันออกมาช้าแค่สิบนาทีเอง “นี่เพิ่งจะสิบโมงสิบห้าเองนะพี่เอ็ม” ย่นจมูกใส่คนตัวโตที่ยังคงยิ้มพริ้มกรุ้มกริ่มมองฉัน เงาสะท้อนของความรักมันสื่อออกมาจากดวงตาคู่คมของพี่ชายข้างบ้านอย่างชัดเจนวันนี้พี่เอ็มดูหล่อกว่าเมื่อวานซะอีก แล้วนั่นไปแอบเจาะหูตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากจะตัดผมทรงไอดอลเกาหลีแล้ว ยังไปหาต่างหูแบบเดียวกันมาใส่อีก เชื่อเขาเลย! แต่เห็นแบบนี้แล้วก็อดส่งยิ้มน่ารักไปให้เขาไม่ได้ ถ้าหากจะมีสิ่งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ฉันมีความสุขมากและอยากจะตื่นขึ้นมาเจอในทุกๆ วัน สิ่งนั้นก็คือพี่เอ็มของฉันนี่แหละถึงแม้ว่าเขาจะหื่นแต่เขาก็เป็นไอ้ตัวความสุขของฉัน! “วันนี้ผึ้งน่ารักมากเลยรู้ไหม” ในที่สุดคนหน้าหล่อก็ป้อนคำหวานให้ฉันเสียที เสียงหวานซะด้วย “พอพี่เห็นผึ้งเดินออกมาจากปากซอยพี่แม่งเงี่ยนเลยว่ะ” เออ
ร่างเล็กบอบบางล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนนุ่ม น่าเสียดายที่มันเป็นผ้าปูที่นอนผืนใหม่ เลยไม่มีกลิ่นกายของพี่เอ็มหลงเหลืออยู่ ส่วนมือเรียวสวยก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่เห็นว่าพี่เอ็มจะส่งข้อความอะไรมาเลย โอย! คิดถึง นี่พี่เอ็มเขาหลับอยู่หรือยังไงถึงไม่ยอมโทรมา ไลน์มาก็ยังดี ปกติเห็นติดฉันยิ่งกว่าอะไร ติดแฟนเข้าเต็มๆ แล้วฉัน สมาธิจะอ่านหนังสือก็ไม่ค่อยจะมีเพราะมัวแต่คิดถึงเขา สุดท้ายฉันก็เลยต้องเป็นฝ่ายส่งข้อความถึงเขาก่อน Line >> 🍯 Honey: ทำไมเงียบจัง! ทำอะไรอยู่ที่ไหนเนี่ย [ ไม่อ่าน…. 5 นาทีผ่านไปก็ยังไม่อ่าน เกือบ 10 นาทีแล้วก็ยังไม่ยอมอ่าน อย่าบอกนะว่าหลับอยู่!] อ่านแล้ว!! ในที่สุดก็อ่านซะที อ่านปุ๊บตอบปั๊บแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย 🐸 เอ็ม จักรวาล: แฟนเงี่ยนเหรอครับ [ โอ๊ย! ไอ้บ้า ] 🍯 Honey: พี่เอ็ม! ในหัวคงมีแต่เรื่องอย่างว่าสินะ 🐸 เอ็ม จักรวาล: พี่ก็เงี่ยน แต่อยากให้ผึ้งได้พักอ่านหนังสือบ้าง เลยออกมาปลดปล่อยข้างนอกกับคนอื่นแทน [ ปลดปล่อย! หมาย
“ซุปเปอร์เดอลุกซ์แป้งหนานุ่ม สปาเก็ตตีขี้เมาทะเล ขนมปังกระเทียม ปีกไก่บาร์บีคิว แล้วก็ผักโขมอบชีสได้แล้วค่ะ” น้ำเสียงใสๆ ของพนักงานเสิร์ฟที่ร้านพิซซ่าในห้างแถวบ้านดังขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร… และสายตาเปล่งประกายแวววาวของฉันก็โปรยมองไปยังจานอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายแล้วก็ทำให้ท้องร้องขึ้นมาทันที นานแล้วที่ไม่ได้มากินอาหารนอกบ้านแบบนี้ เพราะว่าป๊ากับหม่าม้าฉันเป็นคนประหยัดทั้งคู่แถมยังไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง สองคนนั้นไม่ค่อยชอบกินพวกฟาสต์ฟู้ดเหมือนวัยรุ่นอย่างเรา ครั้งล่าสุดที่ป๊ายอมพาฉันมากินของอร่อยๆ ในห้างก็ตอนมอสาม ตอนนั้นฉันทำคะแนนสอบได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของห้อง หม่าม้าบอกว่าอาหารในห้างราคามันแพงเกินจริง คนที่ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดและเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแบบหม่าม้าย่อมรู้ดี เฮ้อ… ครอบครัวของฉันจริงจังกับทุกๆ เรื่องในชีวิตจนเกินไปนะฉันว่า ต่างกันลิบลับกับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันในเวลานี้ พี่เอ็มดูจะไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอนาคตของตัวเองเลย “แค่นี้พอไหม อยา
ฉันถือกระเป๋านักเรียนเดินมุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์ รู้สึกอยากจะบ้าตายกับตัวเองเพราะไม่เจอพี่ชายข้างบ้านจอมหื่นแค่ชั่วโมงเดียวก็คิดถึงเขาแล้ว อาการหนักเหมือนกันนะเรา… อย่าว่าแต่เขาเลย พี่ชายข้างบ้านจอดมอเตอร์ไซค์รอฉันอยู่ตรงป้ายรถเมล์เป็นที่เรียบร้อย หัวเปียกๆ ยุ่งๆ แบบคนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ พอเห็นฉันเดินออกมาก็โปรยยิ้มหล่อมาแต่ไกล ฉันก็เลยต้องรีบส่งยิ้มสวยๆ ตอบไปในทันที ตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกวันแล้วฉัน แถมยังผูกพันกันมากขึ้นทุกที เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ มือใหญ่ก็ยื่นนมกล้วยเกาหลีมาตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มละมุน จริงๆ แล้วพี่เอ็มก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ใส่ใจแฟนและเอาใจเก่งมากคนหนึ่งเลยล่ะ นอกจากเขาจะรู้ว่าฉันชอบอะไร บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าเขารู้ทันความคิดของฉันอีกด้วย ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นวัยรุ่นฉันเห็นเขาแอบมองฉันอยู่ห่างๆ บางวันก็มาคอยดักรอฉันอยู่ตรงป้ายรถเมล์แล้วเดินตามฉันกลับบ้าน ช่วงวันหยุดก็ชอบเข้าไปเดินวนเวียนเหล่มองฉันในเซเว่น และเวลาที่ฉันโดนป๊าดุแล้วออกมานั่งร้องไห้ตรงรั้วหลังบ้านเขาก็เดินมาเกาะรั้วมองฉัน ยืนทำหน้าเศร้
“หื่นจริงๆ เลยพี่เอ็ม แล้วไอ้นี่มันแข็งได้ตลอดเวลาเลยหรือยังไง” พูดพร้อมกับคว้าหมับตรงแท่งเอ็นอุ่นที่แข็งขยายจนสุดแล้วรูดสาวมันเบาๆ เพื่อแกล้งเร้าให้เขายิ่งมีอารมณ์ “แล้วจะให้พี่ทำไง พี่นอนกอด นอนสูดกลิ่นตัวหอมยั่วเยของผึ้งทั้งคืน ตื่นมาก็แข็งสิวะ ปกติผู้ชายเวลาตื่นนอนตอนเช้าคxยแม่งก็แข็งกันทั้งนั้นแหละ”พูดจบก็สูดปากคราง ตาเยิ้มเคลิบเคลิ้มมองมือขาวเนียนของฉันที่กำลังชักสาวลำรักให้เขาเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง “ให้พี่เอาเลยนะผึ้ง โดนพี่กระแทกแรงๆ ก่อนไปโรงเรียน รับรอง ฟิน! อารมณ์ดีไปทั้งวัน” แล้วฉันจะทำอะไรได้ ปฏิเสธเขาได้เหรอ ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันมันพ่ายแพ้ให้แก่เขาไปตั้งนานแล้ว! นี่ขนาดเขายังไม่ทันได้เล้าโลม ความชุ่มฉ่ำก็หลั่งล้นออกมารอเบิกทางจนเยิ้ม… ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มน่ารักถูกเขาฉกจูบโดยไม่ทันตั้งตัว ปากหยักระดมจูบฉันอย่างบ้าคลั่ง บดขยี้ขบดูดไม่บันยะบันยัง ลิ้นหนาถูกสอดแทรกเข้ามากวาดต้อนในโพรงปากอุ่นอย่างร้อนเร่าจนร่างฉันอ่อนระทวยเช้าๆ แบบนี้… ผู้ชายเขามีอารมณ์มากขนาดนี้เลยเหรอ ริมฝีปากของฉันเริ่มปวดแสบ ได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ร่างแกร่งโถมลงมานัวเนียกอดรัดร่างบอบบ







