Share

2.เรื่องบ้าอะไรกัน

last update Last Updated: 2025-11-02 16:31:10

 

“คนนี้ก็ไม่ถูกใจลูกอีกแล้วเหรอ?”

คำถามนั้นเขาไม่ได้ตอบในทันที ธีรักษ์ยกยิ้มจางๆ ที่มุมปากก่อนที่เขาจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

“เรื่องแต่งงาน ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา..”

ท่านประธานใหญ่หรือว่าแม่ของเขาหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับว่าท่านกำลังขบขันกับคำตอบลูกชาย

“นี่ธีร์ หากว่าลูกมีใครในใจก็บอกแม่มาเลยได้ไหม..เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับการนัดดูตัวของลูกอีก แม่แค่ต้องการให้ลูกมีชีวิตครอบครัวที่ดี แม่ไม่ได้ต้องการให้ลูกทำงานหนักมากขนาดนั้นด้วย..ลูกรัก แม่แค่ต้องการอยากเห็นงานแต่งงานของลูก เห็นหลานตัวน้อยก่อนที่แม่จะตาย..บ้านเรามีเงินมากมายอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นต่อให้คนที่ลูกรักไม่ได้เป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัทชื่อดัง แม่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย”

ธีรักษ์ส่ายหน้าเบาๆ

“เรื่องนั้นมันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะบอกแม่หรอกครับ ที่ผมมาวันนี้ก็แค่ต้องการบอกกับแม่ว่าอย่าส่งผมไปดูตัวอีกเลย แล้วก็เรื่องของไอ้สิงหา..แม่ไม่ควรยื่นมือเข้ามายุ่ง”

ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนเริ่มแข็งค้างในทันที

“ธีร์..กับเรื่องเงินเล็กน้อยที่เราถูกยักยอก ลูกมองข้ามมันไปไม่ได้อย่างนั้นหรือ? พ่อของสิงหายังมีประโยชน์กับเราอีกมาก..ในอนาคตเราจะหาเงินจากพวกเขาได้มากกว่าที่เราเสียไปในวันนี้อีก..”

ธีรักษ์มองแม่เขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่า เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องราวมันจะต้องเป็นแบบนี้..ตั้งแต่ที่พ่อของเขาตายไปแม่กับพ่อของไอ้สิงหาก็สนิทสนมกันมากเสียจนมีข่าวลือหนาหูว่าแม่มีความสัมพันธ์ลับๆ กับครอบครัวนั้น ในครั้งแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่อยู่ๆ ชื่อของไอ้สิงหาที่ไม่เอาไหนกลับโผล่ขึ้นมาอยู่ในรายชื่อของผู้จัดการ..

“เพราะแบบนั้นผมถึงได้มาที่นี่ยังไงล่ะครับ หากแม่ยินยอมล้มเลิกความคิดที่จะไม่จับผมไปดูตัว ผมก็จะไม่ไล่ไอ้สิงหาออก..เอาแบบนั้นดีไหมครับ”

ความสัมพันธ์แม่ลูกของเรามันเปราะบางมากเสียจนเปรียบเสมือนแก้วที่มีรอยร้าวเต็มไปหมด เพียงแต่แตะลงไปเบาๆ แก้วที่แต่เดิมก็มีรอยร้าวมากมายอยู่แล้วมันอาจจะแตกไปเลยก็ได้

“..เอาแบบที่ลูกว่าก็ได้ธีร์ แม่จะไม่ไปยุ่งกับเรื่องการดูตัวของลูกอีกแล้ว”

เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่อยากเสี่ยง ทำลายความสัมพันธ์ที่มันใกล้แตกหักเต็มทีกับลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ

ธีรักษ์ส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณแม่ของเขา ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากที่นี่..เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะจุดยิ้มที่มุมปาก

วันนี้ช่างเป็นอีกหนึ่งวันที่โหดร้ายมากเหลือเกินสำหรับเขา แม่ของเขา..ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่กลับออกหน้าเพื่อปกป้องไอ้สิงหามากขนาดนั้น..บอกตามตรงว่าภายในใจของธีรักษ์มันแย่ไปหมด

เขาเรียกรถไปส่งที่ไนท์คลับก่อนจะกดส่งโลเคชั่นไปบอกกับณิริน..

บางทีการเห็นหน้าสวยๆ นั่นในตอนนี้อาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็เป็นได้

.

.

“ติ้ง!”

ณิรินที่กำลังเช็ดผมอยู่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่มีเสียงแจ้งเตือนดังออกมา

เธอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่านี่เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว..มันคือเวลาที่เธอควรจะนอนอ่านนิยายที่เธอชอบหรือไม่เธอก็ควรจะนอนพักผ่อนได้แล้ว

“เฮ้อ..”

แต่คิดมากไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เธอมีเงินซื้อคอนโดหรู มีเงินได้อยู่ในที่ดีๆ ก็เพราะการทำงานนี่ไม่ใช่รึไง

เอาวะ ไอเลิฟมายจ๊อบน่า..

ณิรินเปลี่ยนชุดก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วเดินมาที่ด้านล่างของคอนโด แค่ไปรับท่านประธานแล้วไปส่งเขาที่บ้านเหมือนกับในทุกครั้งมันจะยากเย็นตรงไหนกันล่ะ

ไนต์คลับที่มีแต่คนรวยเท่านั้นที่จะมาที่นี่ได้ สถานที่ที่เธอไม่มีวันพาตัวเข้าไปได้อย่างแน่นอน หากว่าเธอไม่ได้มาที่นี่ในฐานะของเลขาท่านประธานน่ะ

“คุณณิริน ยินดีต้อนรับครับ ท่านอยู่ในห้องวีไอพี..ให้ผมพาไปนะครับ”

ณิรินพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้กับผู้จัดการไนท์คลับให้พอเป็นมารยาท เธอเดินตามชายผู้นั้นไปจนถึงชั้นบน และเมื่อเปิดประตูเข้าไปสิ่งที่ณิรินมองเห็นมันแตกต่างจากทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ ข้างกายของท่านประธานไม่ได้มีสาวๆ สวยๆ แบบทุกครั้งที่ผ่านมา เขานั่งอยู่คนเดียวในสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก..

“ท่านอยากกลับรึยังคะ”

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมณิรินถึงได้คิดว่าตัวเองมองเห็นความเศร้าที่ฉายชัดในแววตาคู่นั้น ทั้งที่ในยามปกติสิ่งที่เธอเห็นผ่านทางแววตาของเขามันคือความเย็นชาในแบบที่ชวนให้เธอรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มองดวงตาคู่นั้น

“..อืม กลับกันเถอะ ช่วยประคองหน่อยได้ไหม”

ณิรินพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเข้าไปเพื่อประคองเขาออกไป เธอไม่ลืมส่งบัตรเครดิตให้กับผู้จัดการร้านเพื่อจ่ายค่าอาหารและค่าเหล้าของท่านประธานในวันนี้

นี่คืออภิสิทธิ์พิเศษอีกเช่นกัน แบล็คการ์คที่อยู่ในมือของเธอ ถึงแม้ว่าท่านประธานจะให้เธอเอาไว้เพื่อใช้จ่ายในเรื่องของเขา แต่ทว่าเขาก็บอกกล่าวกับเธอว่าหากเธออยากได้อะไรก็สามารถใช้บัตรนี่ในการใช้จ่ายได้เลย และแน่นอนณิรินไม่เคยเกรงใจในเรื่องนั้นเลย..ในเมื่อเธอทำงานหนักเช่นนั้นเธอก็ควรได้รับในสิ่งที่ตอบแทนที่คุ้มค่าสิ

“ช่วยยืนก่อนนะคะ”

ณิรินค่อยๆ เปิดประตูหลังของรถยนต์ที่เธอขับมาแต่ทว่ามือของธนัทกลับกันเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เปิดประตูหลังออก

“วันนี้ผมอยากนั่งข้างหน้า..ข้างหลังมันยืดขาไม่ถนัด”

เธออยากถามเขากลับเหลือเกินว่าเขาอยู่ในอารมณ์แบบไหนอีก ทุกครั้งก็เห็นนั่งข้างหลังได้แต่วันนี้กลับไม่อยากนั่งข้างหลังอย่างนั้นหรือ

“อา..ค่ะ”

ต่อให้เธอไม่พอใจหรือว่าไม่เต็มใจมากแค่ไหนแต่ณิรินก็ยังคงยิ้ม พร้อมกับเปิดประตูด้านหน้าให้เขา เธอเดินอ้อมมาอีกทางเพื่อที่จะขึ้นไปนั่งทางฝั่งคนขับ

“ปรับเบาะให้หน่อยสิ ผมอยากพักสายตาสักหน่อย..”

ที่ปรับเบาๆ มันก็อยู่ข้างๆ เบาะนั่นไม่ใช่เรอะ เขาสามารถที่จะทำเองได้ง่ายๆ แต่เขาดันเลือกที่จะใช้เธอเนี่ยนะ..

“ค่ะท่าน”

และแน่นอนว่าเธอยังคงยิ้ม พร้อมกับเอื้อมมือไปที่ด้านข้างเบาะรถเพื่อทำการปรับเบาๆ ..โดยที่ณิรินไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งที่จมูกของเธอได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขาชัดเจนมากขึ้นและเธอพบว่าเขาไม่ได้เอนตัวไปตามเบาะที่กำลังเอนลงไปทางด้านหลัง แต่ทว่าเขากลับโน้มตัวลงมาด้านหน้าที่มีเธอกำลังเอื้อมมือไปปรับเบาะอยู่

ปลายจมูกโด่งเป็นสันนั้นสัมผัสลงมาอย่างแผ่วเบาที่ข้างแก้มของเธอ และหากณิรินมองไม่ผิด เธอคิดว่าตัวเองกำลังมองเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเขา..

“ตุบ!!”

“.....”

ทว่าในวินาทีต่อมา เขาก็ล้มตัวลงไปนอนบนเบาะรถที่เอนไปทางด้านหลัง แล้วหลับไปในทันที ทิ้งให้ณิรินที่กำลังหน้าแดงก่ำ ต้องยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเอง เพราะว่าเธอกำลังกรีดร้องออกมาในใจ

นี่มัน..เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   15.ขอร้อง

    หากจะนับกันจริงๆ เขาไม่ได้รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะมุมมองที่เขาเห็น นั้นมันเป็นมุมมองของเจ้านายที่มองดูลูกน้อง และเธอที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา แถมยังไม่เคยทำสีหน้าไม่พอใจเลยสักครั้งไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาแบบไหนเธอก็ยังคงยิ้มราวกับว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ทว่าที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะเธอคือเลขาของเขายังไงล่ะ และเขาคือเจ้านายของเธอ..ณิรินไม่สามารถทำตัวเป็นเลขาผู้สมบูรณ์แบบของเขาไปได้ตลอดหรอก หากว่าเราอยู่ด้วยกันขึ้นมาจริงๆ แล้วเธอแสดงนิสัยที่แท้จริงของตัวเองออกไป เขาจะรับได้อย่างงั้นเหรอ?“แบบนั้นก็ลองดูสิ ผมเองก็มั่นใจไม่แพ้กันว่าคุณเองก็ยังไม่รู้จักผมดีพออย่างแน่นอน เราต่างมองกันและทำความรู้จักกันในนิสัยที่ไม่ใช่ตัวตนของเรา เพราะอย่างนั้นก็มาลองดูสิ มาลองทำความรู้จักกันดู แล้วหากว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริง..เราค่อยมาคุยเรื่องลูกกันอีกทีก็ได้”เขากำลังร้องขอสิ่งที่เรียกว่าโอกาส และณิรินเกลียดตัวเองมากเหลือเกินที่ตัวเธอเป็นพวกคนใจอ่อนน่ะหากจะมองในมุมของเขานั้น ตัวของท่านประธานเองก็ไม่ได้ผิดตรงไหนเลย ตรงกันข้ามเขาแสดงตัวและมีท่าทีที่ชัดเจนในการพยายามอย่างยิ่งที่จะรับผิดชอบเธอ“ได้โปรดนะณิริน คุณจะไม

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   14.จะรักกันได้อย่างไร

    เป็นเขาที่คิดน้อยมากเกินไป เพราะเราเดินเคียงข้างกันมานานในฐานะของเจ้านายและลูกน้อง เพราะอย่างนั้นสายตาของผู้คนเวลาที่มองมาที่เธอก็จะเกิดภาพจำว่าเธอคือเลขาของเขา..ด้วยเหตุนั้นธีร์จึงเปลี่ยนไปทานมื้อเช้าในร้านอาหารที่เราไม่เคยมาด้วยกัน“ร้านนี้ก็น่ากินเหมือนกันนะ จากนี้ไปเราลองเปลี่ยนบรรยากาศไปร้านใหม่ๆ กันบ้างดีกว่านะณิริน”เธอมองหน้าเขา ก่อนจะมองอาหารมากมายที่วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ วันนี้ท่านประธานแตกต่างไปจากทุกวันจริงๆ นั่นแหละ หรือว่าเขามีเรื่องอะไรที่จะพูดคุยกับเธอรึเปล่า“ค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านประธานมีอะไรอยากจะพูดกับณิรินไหมคะ”เธอมีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว มีเรื่องมากมายให้ต้องใช้ความคิดไตร่ตรองให้ดีเพราะอย่างนั้นเธอไม่มีเวลาที่จะมาคาดเดาความคิดของเขาอีกหรอกธีร์วางช้อนเอาไว้ในจาน เขาประสานนิ้วมือเข้าหากันราวกับว่าเขากำลังเข้าโหมดจริงจัง“แล้วณิรินไม่คิดว่าเรามีเรื่องจะต้องคุยกันงั้นเหรอ?”เธอกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา“ไม่นี่คะ หากเป็นเรื่องงานณิรินมั่นใจว่าณิรินทำงานได้อย่างดีและไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน ไม่มีเรื่องอะไรที่ท่านจะต้องมาตำหนิณิรินหรอกค่ะ”ธีร์พ่นลมหายใจอ

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   13.อยากคุย

    ในมือของณิรินยังคงถือที่ตรวจครรภ์เอาไว้ เธอหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเริ่มจัดระเบียบความคิดของตัวเองข้อแรกวันนี้เธอหยุดและณิรินจัดการปิดโหมดการบินเอาไว้แล้ว เธอไม่ต้องการรับข่าวสารใดๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องอะไรก็ตามทีและข้อสองเธอน่าจะต้องเตรียมตัวในเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเกิดมาณิรินล้มตัวนอนลงบนเตียง เธอหลับตาลงช้าๆ แน่นอนว่านี่มันคือเรื่องที่หนักหนาแต่นี่ช่างน่าแปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกกลัวกับการเผชิญหน้ากับความจริงเลยฝ่ามือเล็กๆ ของณิรินกำลังลูบลงไปเบาๆ บนหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง..หากเป็นเรื่องเงินเธอไม่ได้ติดขัดอะไรเลย ที่ผ่านมาเธอทำงานแบบไม่มีเวลาให้ได้ใช้เงิน ด้วยเหตุนั้นเงินเก็บในธนาคารที่ณิรินมีมันเพียงพอที่จะใช้เลี้ยงดูเธอและลูกไปอีกนานหลายปี เพราะอย่างนั้นสิ่งที่เธอต้องคิดในตอนนี้คือ..เธอควรวางแผนที่จะใช้ชีวิตระยะยาวของตัวเองและเธอคงไม่อาจทำงานในตำแหน่งที่กำลังยืนอยู่ได้อีกต่อไป..มันคงน่าอึดอัดพิลึก หากเขารู้ว่าเธอท้องและเธอจะทำยังไงดีล่ะในช่วงเวลาที่เขาเอ่ยถามออกมาว่าเด็กในท้องคือลูกใครณิรินไม่ได้คาดหวังให้ท่านประธานมารับผิดชอบเพราะในวันนั้นเธอเองก็

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   12.ได้ยินไหม

    เมื่อเหลือเราสองคนที่อยู่ในห้องนี้ ณิรินหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อสั่งอาหารให้เขา“..สั่งของคุณมาด้วยสิ วันนี้ผมไม่อยากกินข้าวคนเดียว”อันที่จริงไม่ใช่แค่วันนี้เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาเขาก็ชอบให้เธอสั่งอาหารมาเผื่อตัวเธอด้วย ความใส่ใจที่แสนเล็กน้อยนี่แหละที่ณิรินมองว่ามันช่างแสนอันตรายมากเหลือเกิน..ที่ผ่านมาต่อให้เธอจะทำงานหนักมากแค่ไหน นอกจากค่าตอบแทนที่สุดแสนจะคุ้มค่าแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เธอได้รับจากเขามันคือความเอาใจใส่ที่ถึงแม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่เธอกลับได้มันมาอย่างสม่ำเสมอ“ค่ะ..หมอฉลามอนุญาตให้ท่านออกจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ”และนั่นคงเป็นข่าวดีที่สุดในรอบสองเดือนสำหรับธีรักษ์เลยก็ว่าได้ เพราะมันหมายความว่าเขาจะได้ออกไปจากที่นี่ กลับไปทำงานและได้มองเห็นณิรินในสายตาตลอดเวลาแล้วแผลผ่าตัดที่เคยปริแตกของเขามันหายดีไปจนหมดแล้ว..หากแม่ไม่สั่งให้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ เขาคงจะไปจากที่นี่ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว“นั่นเป็นข่าวที่ดีมากจริงๆ ในที่สุดผมก็จะได้ออกไปจากที่นี่สักที..”เขาพูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมาด้วยรอยยิ้ม ส่วนสายตาของธีร์รักนั้นกลับไม่ละไปจากใบหน้าของณิรินเลยแม้แต่น้อยและสิ่งที่มาขั

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   11.หนักหนา

    พะพายตามมาดูอาการของณิรินด้วยความเป็นห่วง“เราว่าแกไปหาหมอก่อนดีไหม หรือไม่ก็ไปที่ห้องพยาบาลก่อน..”เพราะพะพายรู้ว่างานของณิรินมันยุ่งมาก หากให้ณิรินไปหาหมอที่โรงพยาบาลคงเป็นไปไมได้อย่างแน่นอน คนบ้างานอย่างณิรินไม่มีทางจะยอมทิ้งงานเพื่อพาตัวเองไปหาหมอแน่ๆณิรินพยักหน้า เธอยอมเดินตามพะพายไปที่ห้องพยาบาลของบริษัท“ดูเหมือนว่าเพื่อนหนูจะพักผ่อนน้อยค่ะ มันกินข้าวไม่ได้และก็อาเจียนออกมาด้วย..”หมอที่ประจำเป็นที่ห้องพยาบาลส่งยิ้มให้กับพะพาย มันคือรอยยิ้มที่มากเกินคนรู้จักทั่วไปอย่างแน่นอน และนั่นทำให้ณิรินพอจะคาดเดาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้บ้าง“เดี๋ยวเราไปทำงานก่อนนะ หากแกไม่ไหวก็โทรไปหาเราก็ได้ เดี๋ยวเราไปส่งแกกลับบ้านเอง”พะพายกล่าวออกมาพร้อมกับจับมือของณิรินเอาไว้“อืม ขอบใจแกมาก ไปทำงานเถอะ..”หมอประจำห้องพยาบาลยกมือขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อโบกมือลาพะพาย ก่อนที่เขาจะเบนสายตากลับมาหาณิรินที่กำลังนั่งอยู่“มีอาการอาเจียนมากี่วันแล้วครับ แล้วก็มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยอีกไหม..ยกตัวอย่างเช่นการเวียนศีรษะหรือว่ารู้สึกอย่างอื่น”ณิรินเงียบไปพักหนึ่ง ช่วงนี้เธอพักผ่อนน้อยร่างกายก็เลยรวนไปหมด นั่นจ

  • พ่อของลูกฉัน ดันเป็นท่านประธานไปซะได้   10.เหลือจะเชื่อ

    “เท่าที่จำได้กูบอกว่าให้ณิรินไปส่ง แล้วมึงเสนอหน้ามาด้วยทำไมวะไอ้ธีร์”บรรยากาศในรถตอนนี้ดูเหมือนว่าจะร้อนระอุมากกว่าบรรยากาศในห้องทำงานเมื่อครู่อีก เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังพาคุณสิงหาไปที่รถ และเมื่อเธอกำลังจะเดินถึงรถ ท่านประธานก็ตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับเปิดประตูด้านหลังรถเพื่อยัดคุณสิงหาเข้าไปในนั้นแล้วเขาก็สั่งให้เธอขับรถ ส่วนตัวเองเดินเข้ามาเพื่อนั่งข้างคนขับ นี่มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่จนณิรินไม่รู้ว่าเธอจะรับมือกับความแปลกของท่านประธานอย่างไรดี“กูก็อยากไปหาหมอเหมือนกัน พอดีว่ากูไปต่อยหมามาก็เลยเจ็บมือ ทำไม..มีแต่มึงที่ไปหาหมอได้คนเดียวงั้นเหรอ”ตลอดทางทั้งสองคนก็จิกกัดกันไม่ยอมปล่อย จะว่ายังไงดีล่ะ ถึงแม้ว่าทั้งสองคน ทั้งท่านประธานและคุณสิงหาจะไม่ถูกกันแต่ทว่าในช่วงเวลาที่เขากำลังเถียงกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังมองเพื่อนกำลังทะเลาะกันมากกว่าแต่ณิรินไม่อยากจะพูดออกไปแบบนั้นหรอก เธอกลัวว่าท่านประธานจะไม่ชอบใจ ว่าแต่การที่เธอพยายามจะหนีท่านประธานออกมานั้นมันไม่ได้ผลอย่างนั้นสินะ เพราะต่อให้เธอพยายามหลบหนีเขามากแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามตามติดเธอมากแค่นั้น..แต่ช่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status