แชร์

ตอนที่ 9 มีแค่คำขอบคุณ

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-24 21:00:15

 

พอถึงเวลาเที่ยงแม่เลี้ยงบุปผากับพ่อเลี้ยงทิศเหนือก็มาเยี่ยมยายช่อเอื้องซึ่งเป็นเวลาที่มนสิชากำลังให้อาหารทางสายยางกับยายของเธอเสร็จพอดี

“สวัสดีค่ะแม่เลี้ยง พ่อเลี้ยง” หญิงสาวยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าดีใจมากแค่ไหนที่เห็นคนมาเยี่ยมคุณยายของเธอ

“หมอบอกว่าเป็นยังไงบ้างล่ะยาย” แม่เลี้ยงถามด้วยความห่วงใย

“เป็นหลายอย่างเลยล่ะแม่เลี้ยง” ยายช่อเอื้องพยายามจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

“หมอบอกว่ายายมีอาการหัวใจวายเฉียบพลันค่ะ แล้วก็ระดับน้ำตาลในเลือดสูงค่ะ” มนสิชาตอบคำถามแม่เลี้ยงแทนคุณยายที่ยังดูเหนื่อยจนต้องให้ออกซิเจนทางจมูก

“หนูไม่ต้องกังวลหรอกนะ ถึงมือหมอแล้ว”

“หนูกลัวค่ะแม่เลี้ยง ยายไม่เคยป่วยเลย พอป่วยทีหนึ่งก็เป็นหลายโรคเลย”

“เดี๋ยวป้าจะนั่งคุยกับยายหนูเองนะ หนูไปพักหน่อยดีไหม ป้าทำกับข้าวมาให้”

“ขอบคุณนะคะ” มนสิชาไม่ปฏิเสธน้ำใจของแม่เลี้ยงเพราะตอนนี้เธอไม่มีใครอื่นให้พึ่งพาเลย น้าสายหยุดเองก็กำลังยุ่งเรื่องของตนเองเพราะสามีของเธอก็ประสบอุบัติเหตุจนต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจึงปลีกตัวมาดูแลยายของเธอไม่ได้

“ไปนั่งทานตรงนู้นไหม มีที่นั่งสำหรับญาติอยู่นะ” พ่อเลี้ยงทิศเหนือเอ่ยชวน

“หนูจะรีบไปรีบกลับนะคะคุณป้า”

“ไม่ต้องรีบหรอกจ้ะ หนูทานให้อิ่ม ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยเถอะ เดี๋ยวป้าจะนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณยายเอง”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า”

มนสิชานั่งทานข้าวที่แม่เลี้ยงบุปผาทำมาให้อย่างฝืดคอไม่ใช่รสชาติของอาหารที่ไม่อร่อยแต่เพราะเธอไม่รู้สึกถึงรสชาติอาหารเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของยายที่แพทย์เจ้าของไข้แจ้งเธอว่าตอนนี้หัวใจของนั้นค่า ef อยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ มนสิชาไม่เข้าศัพท์พวกนั้นเท่าไหร่ แต่หมอบอกว่าคนปกติค่าพวกนี้จะอยู่ที่ประมาณ 50-70 เปอร์เซ็นต์ และค่ายิ่งน้อยก็ยิ่งไม่ดีต่อคนไข้

“ไม่อร่อยเหรอ เอาอย่างอื่นเพิ่มไหมเดี๋ยวผมไปซื้อให้”

“อร่อยค่ะ แต่ฉันกินไม่ลง”

“ผมว่าคุณควรกินเยอะๆ นะ จะได้มีแรง อย่าลืมว่ายายมีคุณแค่คนเดียวที่จะคอยดูแลท่าน” เขาพูดเตือนสติ

“ฉันรู้ค่ะ”

“แต่ถ้าไม่ไหวคุณก็ควรจ้างใครสักคนมาช่วยดูแลนะ ลองถามพยาบาลดูไหมว่ามีใครรับจ้างดูแลผู้ป่วยบ้างหรือจะจ้างพยาบาลพิเศษ” พ่อเลี้ยงคิดว่าถ้าหญิงสาวต้องดูแลยายของเธอคนเดียวตลอดก็คงจะทั้งเหนื่อยและเครียดมากแน่ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไหว” มนสิชาอยากดูแลยายให้ดีที่สุดและคิดว่าการจ้างคนอื่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย

“ตอนนี้คุณยังไหว แต่ถ้านานๆ ไป คุณจะหมดแรงเอานะ”

“ฉันอยากดูแลยายด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยจ้างคนอื่นก็ได้ค่ะ”

“ครับ ระหว่างนี้คุณก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยนะ”

“ค่ะ”

“เย็นนี้อยากกินอะไรล่ะ ผมจะซื้อมาให้”

“ไม่เป็นไรค่ะพ่อเลี้ยง ฉันเดินไปกินที่หน้าโรงพยาบาลเองก็ได้ค่ะ”

“ถ้างั้นผมจะมาอยู่กับยายช่อเอื้อให้นะ คุณจะได้มีเวลาทานข้าวบ้าง”

“ฉันไม่อยากรบกวนคุณเลย คุณเองก็งานยุ่งนะคะ” เธอรู้มาจากยายและน้าสายหยุดว่าพ่อเลี้ยงมีงานหลายอย่างที่ต้องดูแล

“ไม่เป็นไรหรอกช่วงนี้งานผมไม่ยุ่ง อีกอย่างกว่าจะเยี่ยมได้ก็หกโมงเย็นไปแล้ว”

“ขอบคุณนะคะ” มนสิชาขอบคุณเขาอีกครั้ง เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือเธอในเวลาที่ไม่เหลือใครเช่นนี้ เพราะเธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันได้เพียงแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น

ยังไม่ถึงบ่ายโมงมนสิชาก็กลับมาดูแลยายต่อ ซึ่งตอนนี้ยายของเธอยังเหนื่อยมากจนแพทย์ปรึกษาว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจ

“ยายจะเจ็บมากไหมคะ”

“เจ็บนิดหน่อยครับ แต่มันจะช่วยให้ยายหายใจสะดวกขึ้น ท่านจะไม่เหนื่อยมาก เพราะยิ่งเหนื่อยหัวใจก็ยิ่งทำงานหนักมากขึ้นมันไม่ดีต่อโรคที่คนไข้เป็นอยู่เลย” แพทย์อธิบายเพิ่มเติม

มนสิชาไม่รู้จะปรึกษาใครดี เธอจึงหันมามองแม่เลี้ยงบุปผาและลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อขอความเห็น

“ป้าว่าใส่ก็ดีนะ ยายของหนูจะได้ไม่เหนื่อยมาก” แม่เลี้ยงเห็นด้วยกับแพทย์เจ้าของไข้

“แล้วต้องใส่นานแค่ไหนคะหมอ” หญิงสาวถามต่อ

“ก็จนกว่าคนไข้จะอาการดีขึ้นครับ”

“หมอคะ ยายจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมไหมคะ”

“ผมจะพยายามรักษาท่านให้ดีที่สุดครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ใส่ท่อตามที่หมอเห็นสมควรเถอะค่ะ แต่ก่อนใส่ขอฉันคุยกับยายก่อนได้ไหมคะ”

“ได้สิ แต่อย่าคุยนานนะครับ คนไข้จะเหนื่อย”

“ค่ะหมอ”

หมอและคนอื่น เดินออกมาจากบริเวณนั้นเพื่อให้มนสิชาได้คุยกับยายตามลำพัง

“ยายขา เดี๋ยวหมอจะใส่ท่อให้ยายนะคะ ยายจะได้ไม่เหนื่อย”

“ยายไม่เหนื่อยเลย น้ำปิงพายายกลับบ้านได้ไหม ยายอยากกลับบ้าน ยายหิวน้ำ”

เพราะตอนนี้ยายช่อเอื้องใส่สายยางให้อาหารอยู่หมอจึงไม่อยากให้ท่านทานอะไรทางปาก เพราะกลัวจะสำลักลงปอดและทำให้ติดเชื้อได้

“ยายขา อดทนอีกนิดนะคะ ถ้ายายหายเหนื่อยและน้ำไม่ท่วมปวดแล้ว หมอก็จะให้ยายกินน้ำค่ะ”

“ยายไม่เหนื่อยเลยแต่ตอนนี้ยายใจจะขาดแล้วลูก ขอยายจิบน้ำได้ไหม”

“หนูรู้ค่ะยาย ว่ามันทรมานแค่ไหน แต่ยายของหนูก็เก่งอยู่แล้ว ทนอีกนิดนะคะ รอให้หายแล้วหนูจะตามใจยายทุกอย่าง” แม้อยากจะตามใจยายมากแค่ไหนแต่มนสิชาก็ต้องใจแข็งเพราะไม่อยากให้ยายต้องมาติดเชื้อที่ปอดอย่างที่หมอบอก

“นิดเดียวได้ไหมลูก ยายขอนิดเดียว” ยายช่อเอื้องต่อรอง

“ยายขาหนูรักยายนะคะ แต่หนูให้ไม่ได้จริงๆ ยายให้หมอใส่ท่อนะคะ” เพราะยิ่งพูดยายของเธอก็ยิ่งเหนื่อยหอบมากขึ้น

“ยายก็รักหนู แต่ใส่ท่อแล้วเราจะไม่ได้คุยกัน”

“ใส่ไม่นานหรอกค่ะ หมอบอกว่าถ้าน้ำท่วมปอดดีขึ้น ยายเหนื่อยน้อยลงก็จะถอดออก”

“ยายกลัวไม่ได้คุยกับหนู”

“ได้สิคะยาย หมอที่นี่เก่งมากๆ ยังไงยายก็ต้องหายค่ะ” มนสิชาหอมไปบนแก้มทั้งสองข้างของยายก่อนจะเดินออกมา

เมื่อผ้าม่านปิดลงเพราะหมอเริ่มใส่ท่อหญิงสาวก็ยืนน้ำตาซึม จนแม่เลี้ยงเห็นแล้วสงสารอย่างจับใจ

“หนูจะร้องกับป้าก็ได้นะ แต่ถ้าผ้าม่านเปิดหนูต้องหยุดร้องนะ” พอแม่เลี้ยงบุปผาพูดจบมนสิชาก็ร้องไห้และกอดเธอไว้แน่นอย่างคนต้องการที่พึ่ง เธอร้องจนกระทั่งได้ยินหมอพูดว่าใส่เสร็จแล้วจึงรีบเช็ดน้ำตาและเดินยิ้มกลับไปหายายของตนเองอีกครั้ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 30 คนเดียวที่จะยอมทุกอย่าง (ตอนจบ)

    กว่าคู่บ่าวสาวจะตื่นนอนก็เกือบจะเที่ยงของอีกวัน เพราะทั้งสองเพลียจากงานแต่งอีกทั้งเมื่อคืนก็ใช้เวลาเข้าหอกันอย่างคุ้มค่าพ่อเลี้ยงหนุ่มไม่คิดเลยว่าการรอคอยของตนมันจะทำให้มีความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลย แม้มนสิชาจะมีเขาเป็นคนแรกแต่ร่างกายของเธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณได้ในแบบที่เขาคิดไม่ถึง เธอเร่าร้อนและมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาในทุกท่วงท่า พ่อเลี้ยงไม่เคยมีความสุขมากมายแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยร่วมรักกับใครอย่างยาวนานอย่างนี้เลย แม้จะสุขสมไปแล้ว แต่ร่างกายก็ยังคงเรียกร้องอยู่อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่เห็นว่ามนสิชาแทบจะหมดแรงในครั้งสุดท้ายพ่อเลี้ยงหนุ่มก็คงไม่ยอมหยุดเขาก้มหน้ามองเจ้าสาวของตนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนแผงอกข้างซ้ายแล้วยิ้มกว้าง เมื่อคิดว่าในทุกๆ วันตนเองจะตื่นนอนมาแล้วเห็นมนสิชากอดอยู่อย่างนี้เมื่อวานมีเพื่อนของเธอบางคนบอกว่าอิจฉามนสิชาที่ได้สามีทั้งหล่อทั้งรวยแต่เขากลับคิดว่าคนที่น่าอิจฉาน่าจะเป็นเขามากกว่าเพราะได้ภรรยาที่ทั้งสวย ทำงานเก่งอีกทั้งเรื่องบนเตียงก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย“ตื่นแล้วเหรอ”“กี่โมงแล้วคะ เราจะกลับบ้านกันตอนไหน” มนสิชาเงยหน้าขึ้นมองพ่อเลี้ย

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 28 ไม่เหมือนที่คิดไว้ nc

    พ่อเลี้ยงหนุ่มขยับเข้าใกล้คนรักสองมือประคองใบหน้าสวยเข้ามาใกล้ๆ สายตาสบประสานบอกถึงความต้องการจากส่วนลึกก่อนจะโน้มใบหน้าลงประกบปากหยักได้รูปเข้ากับปากบางสีสวยมนสิชาเปิดปากยอมให้เขาเข้ามากวาดต้อนน้ำหวานในโพรงปากยังไม่ขัดขืน การจูบของพ่อเลี้ยงครั้งนี้มันต่างจากครั้งก่อนมากมันทั้งเร่าร้อนและเรียกร้องจนคนที่คิดว่ารับมือไหวอย่างมนสิชาสั่นจนทำอะไรแทบไม่ถูก หญิงสาวรู้สึกว่าเขากำลังจะสูบเอาวิญญาณออกจากร่างของเธอเธอประท้วงเมื่อรู้สึกว่าเขารุกหนักขึ้นเรื่อยๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนปล่อยปากบางให้เป็นอิสระเขากดจูบไล่ต่ำลงมาตามซอกคอหอมกรุ่นสูดดมความหอมจากกายสาวที่เขาเคยจินตนาการถึง“เราจะทำกันจริงๆ เหรอคะพ่อเลี้ยง”“มาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรหยุดพี่ได้หรอกนะน้ำปิง คืนนี้เป็นคืนเข้าหอพี่ไม่อยากพลาด”ชายหนุ่มพูดจบก็ค่อยๆ ดันร่างคนรักให้นอนลงบนเตียงขณะที่เขาก็ขึ้นคร่อมสองมือใหญ่ถอดชุดนอนวาบหวิวที่มารดาเป็นคนจัดให้อีกทั้งชั้นในตัวบางลายลูกไม้ตัวก็ถูกออกอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนซึ่งเขาเคยจินตนาการถึงมานับครั้งไม่ถ้วน“สวยมาก สวยที่สุด”“พ่อเลี้ยงจะไม่ปิดไฟหน่อยเหรอคะ”เขายิ้มเพราะ

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 28 เห็นผลจนน่าตกใจ

    แม่เลี้ยงบุปผากลับมาจากฮ่องกงก็ดีใจมากที่ได้รับข่าวดีจากลูกชาย เธอรีบจัดการหาฤกษ์ที่ดีที่สุดให้กับทั้งสองคน ซึ่งมีเวลาเตรียมตัวเพียงสองเดือนเท่านั้นงานแต่งงานของพ่อเลี้ยงทิศเหนือและมนสิชาถูกจัดขึ้นที่บ้านในช่วงเช้าซึ่งมีแขกมาร่วมงานไม่มากส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเลี้ยงทิศเหนือและแม่เลี้ยงบุปผา ส่วนเพื่อนของมนสิชาก็มีวาริสาและเพื่อนสมัยมัธยมอีกหลายคนอีกทั้งลุงคำอินและเพื่อนเก่าของยายก็พากันมาร่วมงานในช่วงเช้าด้วย มันเลยทำให้มนสิชารู้สึกอบอุ่นมาก บรรยากาศงานแต่งงานเลยเต็มไปด้วยความสุข หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข มันเป็นความสุขที่เธอไม่คิดว่าจะได้รับหลังจากที่ตนเองเสียยายไปเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อนแม้งานแต่งจะถูกจัดขึ้นอย่างกระชั้นชิดแต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดีช่วงเย็นเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในโรงแรมใหญ่กลางใจเมือง แขกที่มาร่วมงานต่างพากันแสดงความยินดีกับพ่อเลี้ยงทิศเหนือซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นยิ้มหน้าบานเพราะใครๆ ต่างก็พากันชมเจ้าสาวของเขาว่าสวยมากและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสองคนนั้นเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก อีกคนที่ยิ้มไม่หุบก็คือแม่เลี้ยงบุปผาเพราะเธอรักลูกสะใภ้คนนี้รา

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 27 คู่คิด

    พ่อเลี้ยงทิศเหลือและมนสิชามาดูบ้านไม้สักที่เจ้าของประกาศขาย ทั้งสองใช้เวลาตรวจและประเมินราคาไม่นานเจ้าของบ้านก็ตกลงจะขายให้โดยทำสัญญาและรับเงินมัดจำพร้อมทั้งกำหนดวันรื้อถอนในอีกสามวันข้างหน้า “เพราะคุณให้ราคาสูงกว่าคนอื่นใช่ไหมคะ ชาวบ้านถึงชอบติดต่อให้คุณมาซื้อ” มนสิชาถามหลังจากที่ทั้งสองออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ไม่นาน“ผมให้ราคาตามสมควรครับ แต่สำหรับคนอื่นบางครั้งเขาต้องซื้อแล้วเอาไปขายต่ออีกทีก็เลยอาจจะกดราคาหน่อย” “แล้วไม้ที่คุณซื้อไปมันเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกชิ้นไหม” “มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่ามันยังได้กำไรอยู่ ผมโชคดีที่มีช่างที่เก่ง พวกเขาเลยใช้ประโยชน์จากไม้ที่ซื้อไปได้ดี” พ่อเลี้ยงอธิบายเพิ่ม เขาอยากให้มนสิชาเรียนรู้งานจากเขาให้ได้มากที่สุดเพราะในอนาคตเธอก็จะกลายเป็นคนในครอบครัวของเขา“งานเสร็จแล้วเราจะกลับกันเลยไหมคะ” “เดี๋ยวเราหาอะไรกินก่อนแล้วผมว่าจะแวะไปเยี่ยมเพื่อนพ่อสักหน่อย คุณไม่รีบกลับใช่ไหม” “ไม่ค่ะ” พ่อเลี้ยงทิศเหนือพามนสิชามายังบ้านไม้หลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางสวนส้มกว้างสุดลูกหูลูกตา“ลมอะไรหอมมาหาลุงถึงที่นี่ล่ะเหนือ” ชายสูงวัยทักทายเมื่

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 26 ความกลัว

    “คุณคิดว่าแม่เลี้ยงจะเห็นด้วยกับเราสองคนเหรอคะ”“คุณกลัวเรื่องนี้เหรอน้ำปิง”“ค่ะ ฉันรักและเคารพแม่เลี้ยงเหมือนแม่และฉันคงไม่กล้าขัดใจท่าน แค่ที่ฉันรู้สึกกับคุณฉันก็รู้สึกผิดต่อท่านมากแล้ว ท่านอุตส่าห์มีเมตตากับฉัน แต่ฉันกลับคิดเกินเลยกับลูกชายของท่าน”“คุณคงเคยได้ยินคนอื่นพูดถึงแม่ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ”“เขาพูดว่ายังไง”“เท่าที่ได้ยินมาคือเขาบอกว่าแม่คุณเป็นคนที่หวงลูกชายมาก”“แม่ผมไม่ได้หวงหรอกครับแม่ก็แค่ห่วงเท่านั้นเอง”“ห่วงเหรอคะ คุณโตขนาดนี้แล้วมีอะไรต้องห่วงกันล่ะคะ”“แต่ในสายตาของคนเป็นแม่ยังไงก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคบใครนะ แต่ผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามาในชีวิตผมในชีวิตผมเขาไม่ได้จริงใจกับผมสักเท่าไหร่”“หมายถึงพวกเธอหวังแต่เรื่องเงินใช่ไหมคะ” มนสิชารู้ว่าพ่อเลี้ยงนั้นรวยมากและคิดว่าผู้หญิงที่เข้าหาคงหวังจะสุขสบาย“มันก็ไม่ทุกคนหรอกครับ บางคนเขาก็ไม่สนใจเรื่องฐานะหรือเงินทอง เพียงแต่บางครั้งอะไรหลายๆ อย่างมันไปด้วยกันไม่ได้ คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าผมทำแต่งานบางคนเขาก็ไม่ชอบ”“ถ้าคุณรักใครจริงๆ คุณจะยอมปรับปรุงตัวเพื่อเขาโดยไม่รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าใจมันบอกว่าไม่ใช่ เวลา

  • พ่อเลี้ยงเคียงรัก   ตอนที่ 25 เปิดอกคุย

    ตลอดบ่ายของวันนี้พ่อเลี้ยงทิศเหนือและมนสิชาทำตัวราวกับเป็นคู่รักที่มาออกเดต พวกเขาเดินซื้อของด้วยกันเสร็จก็ดูหลังกันต่อ ก่อนจะพากันมาทานอาหารเย็นที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง“อาหารร้านนี้อร่อยมากค่ะ พ่อเลี้ยงนึกยังไงถึงพาฉันมากินสเต๊กล่ะคะ” “ผมเห็นคุณทานแต่อาหารไทยมานานก็เลยคิดว่าคุณน่าจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ร้านนี้เจ้าของเป็นคนฝรั่งเศสนะ แต่ที่ทำให้เราน่าจะเป็นรุ่นลูก” “พ่อเลี้ยงมากินบ่อยเหรอคะ” “แต่ก่อนมาบ่อยครับ แต่ช่วงหลังไม่ค่อยได้มาเพราะแม่มีร้านประจำอีกร้านที่เป็นเพื่อนของแม่ ผมเลยต้องเปลี่ยนร้านตามใจท่าน” แม้ชอบรสชาติอาหารร้านนี้มากแค่ไหนแต่เขาก็ยอมทำตามใจมารดา“ดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยขัดใจแม่เลยนะคะ” “ใช่ครับ เราเหลือกันแค่สองคนอะไรที่ทำให้ท่านสบายใจผมก็ยินดีทำ” “คุณจะทำตามท่านทุกอย่างเลยไหมคะ” มนสิชาถามเพราะถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมารดาของเขาจะหาผู้หญิงมาให้เพราะเคยได้ยินแม่เลี้ยงบุปผาเปรยว่ายังไงปีนี้ลูกชายของแม่เลี้ยงจะต้องมีข่าวดีเรื่องคู่ครอง ซึ่งถ้าพ่อเลี้ยงตามใจมารดาขนาดนั้นมนสิชาก็คงไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป“ผมทำตามที่ท่านบอก ถ้านั่นมีเหตุผลพอครับ” พอได้ยินแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status