 LOGIN
LOGINเวลาสองทุ่มกว่าๆ หญิงสาวรีบเดินซอยเท้าไปขึ้นรถแท็กซี่เพราะกลัวว่าร้านซ่อมรถจะปิดซะก่อน และเมื่อเธอลงจากรถแท็กซี่มายืนที่หน้าร้านก็เห็นกับชายหนุ่มหลายคนดื่มเหล้าอยู่ข้างร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์
“สวัสดีค่ะ หนูมารับรถที่ยางรั่วเมื่อเช้าค่ะ” หญิงสาวในชุดนักศึกษาจับกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กข้างลำตัวจนมันแทบจะขาดติดมือมาเพราะประหม่าที่มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธอจากกลุ่มเหล้านั้นก็มีทันศิลานั่งอยู่ด้วย
“มาแล้วเหรอ” ร่างสูงลุกขึ้นไปจูงรถมอเตอร์ไซค์ ในร้านออกมาให้หญิงสาว
“ทั้งหมดรวมค่าเปลี่ยนยางและค่าไปส่งก็สองร้อยเจ็ดสิบครับ” ทันศิลาพูด
“เฮ้ย อะไรวะมีไปส่งกันด้วยเหรอ ฮิ้ววว” เพื่อนในกลุ่มที่นั่งกินเหล้าแซวขึ้น
“ไอ้เชี่ย หุบปากไปเลยแล้วรีบกินรีบกลับกันกูจะปิดร้านละ เดี๋ยวเถ้าแก่มาเห็นว่าพวกมึงมานั่งสุมหัวแซวลูกค้ากันกูจะโดนไล่ออกไปด้วย” ทันศิลายืนเท้าสะเอวต่อว่าเพื่อนในกลุ่มที่ชอบมานั่งกินเหล้าอยู่หน้าร้านประจำ
“ไอ้ทันมึงจะโดนไล่ออกได้ไง มึงไม่ได้กินกับพวกกูสักหน่อย” เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูด
“นี่ค่ะ สองร้อยเจ็ดสิบ” หญิงสาวหน้าตาน่ารักยื่นเงินให้พร้อมกับยิ้มหวานให้เขา เมื่อทันศิลาเห็นว่าหญิงสาวยิ้มให้จึงเลิกคิ้วขึ้นเหมือนเป็นคำถามว่าทำไมเธอถึงเอาแต่ยิ้มให้เขาบ่อยนักทั้งที่เขาแทบจะไม่ค่อยจะยิ้มให้เธอสักเท่าไหร่เลย เรียกว่ายิ้มแบบธุรกิจยังได้เพราะว่าผู้ชายที่ยิ้มยากอย่างเขาแทบจะไม่สนใจผู้หญิงที่ไหนเลย
เมื่อแคนดี้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากร้านซ่อมมา พวกเพื่อนๆ ของทันศิลาก็แซวกันใหญ่
“ไรวะ มีสาวมาโปรยเสน่ห์ใส่แบบนี้ ยังทำท่าไม่สนใจอีก”
“โปรยเสน่ห์บ้าอะไร มึงอ่ะไปว่าน้องเขาน้องมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ้มทั่วไปหมด” ทันศิลาพูดขึ้น
“มึงดูไม่รู้สิไอ้ทัน” ภูมิเพื่อนสนิทที่สุดของเขาพูดขึ้น
“เออๆ พวกมึงไม่ต้องพูดมาก กูโตแล้วคิดเองได้ ไปๆ กูจะปิดร้านละ” เมื่อพูดจบทันจึงดึงประตูเหล็กม้วนลงมาแล้วใส่กุญแจล็อกทันที
“วันนี้ไม่นอนร้านเหรอวะ” ภูมิพูดขึ้น
“มีธุระนิดหน่อย กูไปละ” เมื่อชายหนุ่มพูดจบก็สตาร์ทบิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำออกไปยังจุดนัดพบของผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ที่บ้านของแคนดี้
“คุณแคนดี้ครับ ถ้ายังขับมอ’ ไซค์ไปเรียนแบบนี้ ผมคงต้องเรียนให้คุณทูนทราบแล้วนะครับ” พ่อบ้านรีบวิ่งมารับหญิงสาวที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ของคนทำสวนเข้ามาภายในบ้าน
“อย่าบอกคุณพ่อนะคะลุงพจ ถ้าลุงพจไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก” หญิงสาวทำเสียงชู่ปากใส่พ่อบ้าน
“แต่มันอันตรายนะครับ ไม่ได้การแล้วครับยังไงผมต้องเรียนให้คุณทูนทราบ” พ่อบ้านจะหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นนายแต่ลืมไปว่ามันดึกแล้วเขาจึงเก็บโทรศัพท์เข้าไปตามเดิม
“คุณพ่อไม่อยู่เหรอคะ” แคนดี้ถาม
“ไปประชุมผู้บริหารที่ต่างจังหวัดครับ”
“แล้วพี่ไทป์ล่ะคะ” หญิงสาวถามต่อ
“คุณไทป์ยังไม่กลับบ้านเลยครับ น่าจะนอนที่คอนโดของเธอเพราะเห็นว่ามีงานสำคัญที่ต้องเคลียร์” พ่อบ้านพูด
“น่าจะไม่กลับหลายวันแล้วมากกว่า ดูสิบ้านใหญ่โตขนาดนี้แต่ไม่มีใครอยู่” หญิงสาวมองสำรวจบ้านของตัวเองที่ใหญ่อย่างกับคฤหาสน์แต่มีเพียงแค่เธอกับพ่อบ้านแม่บ้านเท่านั้นที่อาศัยอยู่
เมื่อหญิงสาวอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จก็กระโดดขึ้นเตียงในทันที
‘คงจะทำงานหนักมากเลยสินะ’ หญิงสาวคิดในใจ เมื่อเห็นว่าผิวพรรณที่เคยขาวของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งเจอมามันคล้ำลงไปมากจากเมื่อก่อนเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
เหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
เสียงฝีเท้าของกลุ่มเด็กอาชีวะหลายคนกำลังกรูวิ่งกันเข้ามาตามทางเดินเท้าช่วงเย็นที่มีผู้คนพลุกพล่านเพราะกำลังเลิกงานและเลิกเรียนกัน แถวนั้นมีโรงเรียนอยู่หลายแห่งที่อยู่ใกล้กันจึงมีนักเรียนมัธยมและเด็กอาชีวะหลายคนที่กำลังรอขึ้นรถจะกลับบ้านกัน
เสียงประแจเลื่อนกระทบกับพื้นคอนกรีตพร้อมกับร่างของเด็กอาชีวะที่ร่วงลงไปกองกับพื้นและมีเลือดพุ่งออกมาจากศีรษะอาบนองหน้าของชายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นทันที
“ไอ้ไทป์ มึงทำเพื่อนกูไอ้สัตว์ กูจะฆ่ามึง” เสียงของเด็กอาชีวะคู่อริโกรธเดือดดาลอารมณ์พลุ่งพล่านจนระงับความโกรธไว้ไม่ได้เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองถูกคู่อริใช้ประแจเลื่อนตีศีรษะจนหมดสติล้มลงไปเลือดนองพื้น
เมื่อไทป์เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามดึงมีดยาวปลายตัดที่เหน็บกับเอวกางเกงแล้วถอดปลอกมีดออกก็ใจไม่ดีจึงวิ่งหนีไปตามทางฟุตบาตที่ผู้คนเดินพลุ่กพล่านรวมถึงทันศิลาที่กำลังเดินอยู่ทางที่ไทป์วิ่งมาด้วยและแน่นอนว่าทันศิลาเขาถอดเสื้อชอปออกแล้วเหลือแต่เพียงเสื้อยืดสีดำเท่านั้น
ไทป์เพื่อนร่วมสถาบันของทันศิลาที่กำลังวิ่งหนีอยู่นั้นอยู่ในสายตาของทันศิลาตลอด
“พี่ไทป์ แคนดี้อยู่ตรงนี้ค่ะ” หญิงสาวหน้าตาน่ารักวัยสิบสามสวมชุดนักเรียนมอต้นกำลังยืนถือแก้วน้ำที่เธอเพิ่งซื้อมาในขณะที่รอพี่ชายของตัวเองอยู่หน้าวิทยาลัยอาชีวะเพราะจะกลับบ้านพร้อมกัน
“พี่ไทป์ วิ่งหนีใครคะ” สาวน้อยรีบวิ่งตามพี่ชายไปเมื่อเขาวิ่งผ่านเธอไปราวกับมองไม่เห็นเธออย่างนั้น
ผลั่ก กุกๆๆ
เสียงกลิ้งล้มลงบนพื้นคอนกรีตอย่างรุนแรงเมื่อมือหยาบจับกระชากคอเสื้อของสาวน้อยที่วิ่งตามพี่ชายอยู่ถูกมือหนาเหวี่ยงจนล้มลง
“เป็นน้องสาวมันเหรอ งั้นพี่ฝากแผลนี้ไปให้พี่ชายที่ชื่อไทป์หน่อยนะ” คู่อริร่างสูงที่กำลังบันดาลโทสะเงื้อมมือหวังจะวางคมมีดลงบนร่างเล็กของสาวน้อยด้วยความโกรธแค้นแทนเพื่อนของตัวเอง
“อั่ก ฮึก” เสียงของชายหนุ่มที่เอาตัวเองไปรับคมมีดที่ยาวขนาดยี่สิบสี่นิ้วนั้นร้องลั่นโอดครวญด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังของเขาก็ขาดออกแยกจากกัน พร้อมกับไม้บรรทัดเหล็กที่อยู่ในกระเป๋าก็งอตามแรงกดทับที่รุนแรงของมีด เลือดกระเซ็นออกที่หลังของทันศิลาทันที พร้อมกับเด็กสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขาด้วยความหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือก เมื่อเลือดของเขาไหลลง ไปยังชุดนักเรียนมอต้นที่ขาวสะอาดหมดจรดนั้นอย่างช้าๆ
สามวันต่อมา
ร่างเล็กพาตัวเองมายังห้องผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีชายวัยสิบแปดนอนใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในท่านั่งกึ่งนอน
“เพราะหนูเอง พี่ถึงต้องมาเจ็บแบบนี้” เด็กสาวมองไปยังชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ด้วยน้ำตาเอ่อล้นพรั่งพรูออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างหักห้ามไม่ได้
“เพราะเราแท้ๆ” แคนดี้สาวน้อยถักผมเปียสองข้างยืนเกาะกระจกมองเขาอยู่ จนมีพยาบาลเดินเข้ามา
“มาหาพี่ชายเหรอคะ” พยาบาลถามเพราะเห็นว่าเด็กสาวคนนี้มาที่นี่ทุกวันหลังเลิกเรียนมายืนมองคนที่นอนเป็นผักอยู่พักหนึ่งแล้วยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“เอ่อ…ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า
“ถ้าอยากเข้าไปต้องมาใส่ชุดเยี่ยมผู้ป่วยพิเศษก่อนนะคะ เพราะว่าแผลของพี่เขาลึกมากๆ ต้องระวังเชื้อโรคด้วยค่ะ” พยาบาลสาวท่าทางใจดีเอ่ยขึ้นก่อนจะพาเด็กสาวเข้าไปใส่ชุด
ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวจับไปที่ฝ่ามือหนาที่แสนอบอุ่นนั้นอย่างห่วงใยและรู้สึกผิด
“ถ้าหนูแบ่งความเจ็บปวดของพี่มาได้ หนูจะแบ่งออกมาทั้งหมดเลยค่ะ” แคนดี้สาวน้อยวัยสิบสามบีบมือของเขาจนแน่นพร้อมกับน้ำตาที่หยดลงตรงท่อนแขนของเด็กหนุ่มที่นอนหมดสติมาหลายวัน แต่แล้วเธอก็รีบเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแขนของเขาออกอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าน้ำตาของเธอนั้นอาจจะมีเชื้อโรคอยู่ก็ได้ เธอกลัวไปหมดทุกสิ่งกลัวว่าเขาจะตายเพราะเธอจริงๆ
“หนูต้องไปแล้ว ไว้หนูจะมาหาใหม่นะคะพี่ทันศิลา”
จบเหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว

ทันศิลาในชุดเสื้อยืดสีขาวด้านในถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวโอเวอร์ไซส์ปลดกระดุมด้านหน้าจนหมดวันนี้ทรงผมอันเดอร์คัทด้านบนที่สั้นหน่อยๆ ของเขาถูกจัดแต่งเซทขึ้นให้ดูเท่ๆ ขึ้น ใบหน้ารูปไข่ หน้าผากกว้างสวยเลยยิ่งทำให้ดูโดดเด่นเมื่อเขาทำผมเปิดหน้าผาก คิ้วเข้มหนาได้รูปช่วยขับให้ใบหน้าดูคมและดุดันขึ้น ดวงตาเรียวยาวสื่ออารมณ์นิ่งๆ สุขุมและดูจริงจังตามสไตล์ของเขาได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มก้าวขามายังผับแห่งหนึ่งหลังจากจอดบิ๊กไบค์คู่ใจไว้ด้านหน้าของร้านด้วยท่าทางนิ่งเรียบและเดินขึ้นไปยังห้องวีไอพีที่เขาคุ้นเคย“มานั่งนี่สิเจ้าทัน” ชายวัยกลางคนพูดพร้อมกับตบโซฟาให้มานั่งใกล้ๆ“หวัดดีครับเสี่ย” ทันศิลายกมือไหว้“เอ่อ หวัดดีๆ วันนี้ว่างมาหาเสี่ยได้นะ” ทันศิลายิ้มออกมาเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเสี่ยคนนี้กำลังจะต่อว่าเขาที่ไม่ค่อยมาเยี่ยมเยือนเขาที่ผับนี้เลย“เป็นไงล่ะ ช่วงนี้ไปทำงานอะไรหลังจากปลดทหารเกณฑ์” ชายวัยกลางคนพูดพร้อมกับรินเหล้าให้เขา“เป็นช่างร้านซ่อมมอ’ ไซค์ครับ”“ดีไหมล่ะ ทำไมไม่มาทำงานกับฉันที่ผับนี้ล่ะ ฉันมีหลายที่นะจะแบ่งให้ช่วยดูแลค่าตอบแทนสูงจนนายคาดไม่ถึงเลยล่ะ” เสี่ยพูดพร้อมกวักมือเรียก
เวลาสองทุ่มกว่าๆ หญิงสาวรีบเดินซอยเท้าไปขึ้นรถแท็กซี่เพราะกลัวว่าร้านซ่อมรถจะปิดซะก่อน และเมื่อเธอลงจากรถแท็กซี่มายืนที่หน้าร้านก็เห็นกับชายหนุ่มหลายคนดื่มเหล้าอยู่ข้างร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์“สวัสดีค่ะ หนูมารับรถที่ยางรั่วเมื่อเช้าค่ะ” หญิงสาวในชุดนักศึกษาจับกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กข้างลำตัวจนมันแทบจะขาดติดมือมาเพราะประหม่าที่มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธอจากกลุ่มเหล้านั้นก็มีทันศิลานั่งอยู่ด้วย“มาแล้วเหรอ” ร่างสูงลุกขึ้นไปจูงรถมอเตอร์ไซค์ ในร้านออกมาให้หญิงสาว“ทั้งหมดรวมค่าเปลี่ยนยางและค่าไปส่งก็สองร้อยเจ็ดสิบครับ” ทันศิลาพูด“เฮ้ย อะไรวะมีไปส่งกันด้วยเหรอ ฮิ้ววว” เพื่อนในกลุ่มที่นั่งกินเหล้าแซวขึ้น“ไอ้เชี่ย หุบปากไปเลยแล้วรีบกินรีบกลับกันกูจะปิดร้านละ เดี๋ยวเถ้าแก่มาเห็นว่าพวกมึงมานั่งสุมหัวแซวลูกค้ากันกูจะโดนไล่ออกไปด้วย” ทันศิลายืนเท้าสะเอวต่อว่าเพื่อนในกลุ่มที่ชอบมานั่งกินเหล้าอยู่หน้าร้านประจำ“ไอ้ทันมึงจะโดนไล่ออกได้ไง มึงไม่ได้กินกับพวกกูสักหน่อย” เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูด“นี่ค่ะ สองร้อยเจ็ดสิบ” หญิงสาวหน้าตาน่ารักยื่นเงินให้พร้อมกับยิ้มหวานให้เขา เมื่อทันศิลาเห็นว่าหญิงสาวยิ้มให้จ
ประตูร้านซ่อมรถถูกเปิดออกโดยผู้ชายที่นอนเฝ้าร้านในตอนเช้า เขาอยู่ในท่าทางงัวเงียแถมยังไม่ใส่เสื้อกำลังมองดูนาฬิกาที่ผนังของร้านก่อนจะมองหญิงสาวที่ใส่ชุดนักศึกษาจูงมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าร้าน“สวัสดีค่ะพี่ ร้านเปิดหรือยังคะพอดีมอ’ ไซค์ของหนูยางรั่วค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างเกรงใจ“ถึงยังไม่เปิดก็ต้องเปิดล่ะนะ ทุบประตูร้านแทบจะพังขนาดนี้” ชายหนุ่มร่างสูงจูงมอเตอร์ไซค์ของหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเข้ามาในร้านแล้วเดินหันหลังไปหยิบเสื้อมาใส่หญิงสาวมองแผ่นหลังที่มีรอยสักรูปมังกรยาวตั้งแต่ไหล่ด้านซ้ายพาดยาวลงไปจนเกือบถึงเอวของเขา หญิงสาวมองรอยสักนั้นอย่างหดหู่และรู้สึกเสียใจที่บางสิ่งที่อยู่ภายใต้รอยสักอันงดงามนั้น มันมีรอยแผลเป็นที่เป็นทางยาวถึงกลางหลังซ่อนอยู่นั่นเอง“หนูขอโทษจริงๆ ค่ะ แต่วันนี้หนูสายมากแล้วด้วยถ้าพี่ไม่ว่าอะไร รบกวนพี่ช่วยไปส่งหนูที่หน้ามอใกล้ๆ ได้ไหมคะ” หญิงสาวยืนยกมือไหว้ทำหน้าอ้อน พลางหันไปดูนาฬิกาที่ฝาผนังของร้านที่ดูเก่าเนื่องจากสีที่ทาเริ่มหลุดออกมา แถมภายในร้านก็ยังมีชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์เก่าๆ และคราบน้ำมันเครื่องเลอะที่พื้นอยู่เป็นจำนวนมาก“บ้านคงรวยมากสินะ ถึงได้เปลี่ยนมอ’
ทันศิลา ผู้ชายวัยยี่สิบห้าที่เย็นชากับเรื่องความรัก เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วยซ้ำเพราะอดีตที่เขาเคยติดคุกจากสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อเขาเสียรู้ให้กับคนมีเงินพวกนั้นเพื่อแลกกับการรักษาอาการเจ็บป่วยของย่าเขา เพราะเด็กวัยสิบแปดจะเอาเงินจากที่ไหนเป็นล้านมาจ่ายค่ารักษาจนมาเจอกับ แคนดี้ สาวนักศึกษาปีสองที่เข้าหาเขาเองเพียงเพราะเขาเป็นรักแรกของเธอในวัยสิบสามที่เขาเคยช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ แล้วรอยแผลเป็นที่เป็นทางยาวที่หลังของทันศิลาก็เพราะว่าช่วยเธอทั้งนั้น แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้นทันศิลาก็หายหน้าไปประมาณสามปีด้วยเหตุผลบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน จนมาเจอทันศิลาอีกครั้งตอนที่เขาเป็นทหารเกณฑ์มาช่วยครูฝึก ฝึกนักเรียนวิชาทหารที่โรงเรียนของเธอนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเขา จนกลับมาเจอกันอีกครั้งแคนดี้มีอายุยี่สิบปี และทันศิลามีอายุยี่สิบห้าปี ตลอดเจ็ดปีที่เธอเฝ้ารอคอยที่จะเจอเขามาตลอดมันเป็นจริงขึ้นมาแล้ว แต่ทันศิลาก็จำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้หน้าตาเป็นแบบไหนเพราะไม่เคยเห็นหน้าหรือได้รับคำว่าขอบคุณจากเธอเลยสักครั้ง จนเธอพยายามเข้าหาเขาก่อนโดยไม่รู้สึกว่าจะกลัวเขาเ








