“คะ คุณชายหลิง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”
“แกนามสกุลจางสินะ แกนี่กล้าจริงๆ กล้าขนาดที่มาแตะต้องผู้หญิงของฉัน แกเตรียมตัวหาวิธีตายไว้แล้วหรือยัง?” หลิงหยางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หา? คุณพูดอะไรนะ? ผู้หญิงของคุณ ใคร…ใครกัน” จางฟานตกใจคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้
“แกไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงที่แกเพิ่งทำระยำกับด้วยเป็นของใคร?” หลิงหยางตะโกนด้วยความโกรธ พร้อมกับยกขาขึ้นเตะเข้าที่ท้องของมัน
จางฟานเซถอยหลังไปและล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น รีบลุกขึ้นจากพื้น คุกเข่าลงขอโทษหลิงหยางด้วยความหวาดกลัว
“คุณชายหลิง ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าซ่งเชี่ยนเป็นผู้หญิงของคุณ ผม…”
เพี๊ยะ!
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หลิงหยางก็ตบหน้าเขาอย่างแรง จนทำให้หน้าครึ่งหนึ่งของจางฟานบวมขึ้นทันที คนชั่วโฉดพยายามถุยเลือดที่คั่งอยู่ในปากออกมา และพบว่ามีฟันหน้าหลุดออกมาด้วย ฟันซี่นั้นกระเด็นไปตกอยู่บนพื้น
ในขณะนั้นเองซ่งเชี่ยนที่แต่งตัวเรียบร้อย และจัดผมให้เข้าที่ก็ออกมาจากห้องนอน เธอชี้หน้าจางฟานและตะโกนด้วยความโกรธ
“แกมันสัตว์เดรัจฉาน กล้าดียังไงถึงคิดจะข่มขืนฉัน วันนี้ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด!” เธอหยิบขวดเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วจากมุมห้องและฟาดเข้าที่หัวของจางฟาน
กร๊อบ!
เสียงขวดแตกดังสนั่น หน้าผากของจางฟานบวมขึ้น และมีเลือดไหลออกมา เขารู้สึกมึนหัวอย่างรุนแรงและล้มลงไปกับพื้นห้องนั่งเล่น บอดี้การ์ดที่มากับจางฟานรีบเข้ามาประคองตัวเขาฃ
“เจ้านาย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่…ไม่เป็นไร” จางฟานพูดพร้อมกับจับแผลที่หัวและค่อยๆ ยกตัวขึ้นนั่งบนพื้นห้องนั่งเล่น
อู๋ซิ่วหลานตกใจจนแทบช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอชี้หน้าซ่งเชี่ยนและตะโกนด้วยความโกรธ “แกมันลูกสาวอกตัญญู แกรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่? ทำไมถึงไปตีคุณชายจาง? แกรู้ไหมว่าการทำร้ายคุณชายจางครอบครัวของเขาจะต้องลำบากมากแค่ไหน?”
“ใช่แล้วเชี่ยนเอ๋อร์ ลูกทำเรื่องใหญ่แล้ว รีบขอโทษคุณชายจางเดี๋ยวนี้ ขอให้เขาอภัยอย่าหาความ” ซ่งปันซานพูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“พอได้แล้ว! พวกคุณก็พอกัน เพียงเพราะเงินพวกคุณถึงกับขายลูกสาวของตัวเองให้กับสัตว์เดรัจฉานอย่างจางฟาน ถ้าไม่เห็นว่าพวกคุณเป็นคนในครอบครัว ฉันก็จะเอาเรื่องพวกคุณด้วย!” ซ่งเชี่ยนจ้องมองพ่อแม่ของเธอด้วยความโกรธ
“นี่แกพูดอะไร? แกยังเห็นตัวเองเป็นลูกของเราอยู่ไหม?” ซ่งปันซานพยายามอ้างความเป็นพ่อ
“แล้วพวกคุณทำไมไม่เห็นว่าฉันเป็นลูก ตอนที่ให้คนมามัดฉันไว้กับเตียงและกักขังฉันไว้ในห้อง เตรียมให้จางฟานข่มขืนฉัน” ซ่งเชี่ยนมองซ่งปันซานด้วยสายตาเย็นชา
“ฉัน…” ซ่งปันซานพูดไม่ออก
“เชี่ยนเอ๋อร์ เราทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อลูกนะ” อู๋ซิ่วหลานรีบพูดแก้ต่าง
“ถ้าพวกคุณทำเพื่อฉันจริงๆ คงไม่ทำเรื่องที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานหรอก!” ซ่งเชี่ยนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ซ่งเชี่ยนชี้ไปที่ซ่งปันซานและอู๋ซิ่วหลาน “พวกนี้แหละคือพ่อแม่ของฉัน พ่อของฉันติดหนี้พนันหนึ่งล้านหยวน เพื่อให้จางฟานช่วยจ่ายหนี้ เขาเลยยอมให้ฉันแต่งงานกับจางฟาน และยังรับสินสอดจากเขาอีกแปดแสนหยวน…”
หลิงหยางจึงเข้าใจว่าทำไมเมื่อคืนซ่งเชี่ยนถึงมาที่บาร์ และพาตัวเองไปที่โรงแรมเพื่อมีความสัมพันธ์กัน และทำไมเธอถึงตกลงแต่งงานกับเขาในวันรุ่งขึ้น
หลิงหยางมองไปที่ซ่งปันซานและอู๋ซิ่วหลาน พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่น่าเชื่อเลยว่าบนโลกนี้จะมีพ่อแม่ที่เลวทรามแบบพวกคุณ เพียงเพราะเงินถึงกับผลักลูกสาวของตัวเองลงไปในนรก!”
“แล้วคุณเป็นใคร?” ซ่งปันซานถามด้วยความสงสัย
“ฉันชื่อหลิงหยาง เป็นสามีของซ่งเชี่ยน มีปัญหาอะไรไหม?” ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่คิดเคารพคนตรงหน้าเป็นพ่อตาด้วยซ้ำ เขารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อประสาอะไรผลักลูกลงนรกด้วยน้ำมือตัวเอง!
“พวกคุณไม่ใช่ตำรวจเหรอ?” บิดาของซ่งเชี่ยนยังคงสับสน
“ถ้าคุณคิดว่าใช่ก็คือใช่ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ถ้าพวกคุณทำผิดกฎหมาย ฉันก็สามารถส่งพวกคุณเข้าคุกได้ทุกเมื่อ!” รู้สึกโกรธแทนภรรยาของเขา ที่ต้องมาเจอเรื่องระยำโดยที่ครอบครัวรู้เห็นเป็นใจ
ซ่งปันซานตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
“โอ้ ฉันจำได้แล้ว คุณนี่เองที่ไปทำใบสมรสปลอมกับลูกสาวฉันที่แผงลอยเมื่อวานนี้?” ” อู๋ซิ่วหลานมองหลิงหยางด้วยความสนใจ
“เธอเอาใบสมรสให้พวกเขาดูแล้วหรือยัง?” ขมวดคิ้วถาม แม่ของซ่งเชี่ยนทำไมถึงพูดแบบนั้น หรือเธอยังไม่ได้เอาทะเบียนสมรสให้ทั้งสองคนดู?
“อืม!” ซ่งเชี่ยนพยักหน้าและตอบ
“แล้วทำไมแม่ของเธอถึงบอกว่าเราไปทำใบสมรสปลอมที่แผงลอย?” เขาถามด้วยความสงสัย
“พวกเขาไม่เชื่อว่าใบสมรสของเราจะเป็นของจริง!” เธอพยายามอธิบายแล้ว แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ฟัง เอาแต่พูดว่าใบทะเบียนที่เธอให้ดูเป็นของปลอม แล้วยัดเยียดเธอให้กับจางฟาน
“ถ้าพวกเขาไม่เชื่อ แล้วเธอจะทำยังไง?” พวกเขาช่างโง่เง่าเสียจริง
“พวกเขาทำกับฉันแบบนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจในบ้านหลังนี้อีกต่อไป ฉันจะไปกับคุณและออกจากที่นี่!” ไม่กล้าอยู่ต่อ เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะทำเรื่องแบบนี้อีก จางฟานไม่ได้เงินคืนมันคงไม่หยุดแค่นี้แน่ จะต้องมาบีบบังคับให้ครอบครัวเธออับจนหนทาง
สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า!
“ถ้าเธอพูดแบบนี้ ฉันก็โล่งใจ!” หลิงหยางพอใจมากกับคำตอบของซ่งเชี่ยน
สิ่งที่เขาชอบก็คือความเป็นคนที่กล้าหาญและไม่ยอมแพ้ของซ่งเชี่ยน เขาตัดสินใจที่จะรักเธอ เอาใจใส่เธอ และปกป้องเธออย่างเต็มที่ หากเธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่แล้ว เขาก็มีบ้านที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งเมื่อเช้าพาหญิงสาวไปดูมาแล้ว เหลือแค่ให้เธอตัดสินใจเข้าอยู่ เสียงที่ดังขึ้นข้างๆ ขัดอารมณ์ เขาจึงหันไปมองจางฟานที่เพิ่งถูกซ่งเชี่ยนตีจนหัวแตกและถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“แกทำร้ายภรรยาของฉัน แกคิดว่าเราควรจะคิดบัญชีกันยังไง?”
เล่นมันให้หนักๆ เลยค่ะพี่หยางง เอาให้เข็ด จะได้ไม่กล้ายุ่งกับภรรยาคนอื่นอีก
หลิงหยางมองดูชายหัวล้านตรงหน้า ด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ที่แท้ลูกพี่ที่ว่าก็คือเขาคนนี้นี่เอง"อาคัง นายกล้าจริงๆ เหรอ ส่งลูกน้องมาแย่งของจากฉัน แถมยังจะช่วยออกหน้าอีก นายมีเงินมากหรือว่ามีอำนาจใหญ่โตขนาดเชียวเหรอ?"ชายหัวล้านรีบยิ้มอย่างประจบ "คุณชายหลิง ผมจะกล้าได้ยังไง เมื่อเทียบกับคุณแล้ว พวกเราเป็นแค่เศษฝุ่นในสายตาคุณ ถึงจะให้ผมมีความกล้าร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าแย่งของจากคุณหรอก!""ถ้างั้นนายก็รู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำยังไง?" หลิงหยางพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก"รู้แล้วครับ" อาคังพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบยกมือขึ้นตบผู้ชายที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง ก่อนจะตะโกนด่า "ไอ้หนู นายอยากตายใช่ไหม? รีบคุกเข่าลงขอโทษคุณชายหลิงเดี๋ยวนี้!"ชายคนนั้นเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นและขอโทษหลิงหยาง "คุณชายหลิง ผมขอโทษครับ ผมตาไม่ดีเองเอง ไม่ควรแย่งของจากคุณ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!"หลิงหยางไม่สนใจและไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ว่าจะยอมรับคำขอโทษนั้น แต่กลับจับมือซ่งเชี่ยนออกจากร้าน คนมาซื้อของดีๆ กลับถูกหาเรื่องเสียได้"ที่รัก ไปกันเถอะ!"ซ่งเชี่ยนคล้องแขนเขา แล้วทั้งสองก็เดินออกจากร้านเครื่องป
หลังจากลงมายังชั้นล่าง ก็เห็นรถยนต์ของหลิงหยางจอดอยู่ที่หน้าอาคาร ซ่งเชี่ยนนั่งลงที่ข้างๆ คนขับ ก่อนจะหันไปพูดกับหลิงหยาง“คุณคะ คุณเพิ่งใช้เงินไป 6 ล้านหยวน เพื่อซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนให้ฉัน นั่นก็เยอะพอแล้ว ฉันจะกล้าขอให้คุณซื้อแหวนแต่งงานให้ฉันได้ยังไง?”“การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฉันไม่ซื้อเครื่องประดับที่เหมาะสมให้ คนอื่นจะดูถูกเอาได้ ดังนั้นให้ฉันซื้อให้เถอะ”ซ่งเชี่ยนลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะฟังคุณ”“ดี งั้นตอนนี้ฉันจะพาเธอไปที่ร้านเครื่องประดับ”หลิงหยางพูดเสร็จก็สตาร์ทรถ และขับไปที่ร้านเครื่องประดับไฮโซ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ไม่นานนักหลิงหยางก็ขับมาถึง ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านเครื่องประดับที่หรูหรา และมีสไตล์ที่สุดในเมือง มีเครื่องประดับหลากหลายประเภท ทั้งแหวน, ต่างหู, สร้อยคอ, กำไล, และจี้ ในบรรดาเครื่องประดับเหล่านี้ มีผลงานของนักออกแบบชื่อดังจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลิงหยางจอดรถเรียบร้อย ซ่งเชี่ยนควงแขนเขาแ ละเดินเข้าร้านเครื่องประดับไปด้วยกัน พนักงานขายสาวอายุประมาณย
หลังจากหลิงหยางส่งวิดีโอ ที่จางเมิ่งเสวี่ยถูกจับได้ว่าเป็นชู้ไปให้แม่ของเขาดู หลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่โทรกลับมาอีกเลย น่าจะเป็นเพราะท่านรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อยของคนอื่น จึงไม่กล้าพูดถึงจางเมิ่งเสวี่ยต่อหน้าเขาอีก และยิ่งไม่อยากช่วยพูดแทนแล้วเรื่องนี้ทำให้หลิงหยางและซ่งเชี่ยน รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมาก จากนี้ไปหลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะจับคู่หลิงหยางกับจางเมิ่งเสวี่ยอีกต่อไปแล้ว และจะไม่มาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองด้วยเมื่อครู่ขณะที่ทั้งสองคนเล่นรักกันบนโซฟายาว ในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป มันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างมาก และพวกเขาก็เข้าใจว่า ทำไมโจวหยุนหลงถึงชอบให้จางเมิ่งเสวี่ย มาพลอดรักในห้องทำงาน มันเป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดเสียวปัจจุบันห้องทำงานนี้รวมถึงบริษัททั้งหมด เป็นของซ่งเชี่ยนแล้ว อย่างไรก็ตามในมุมมองของหญิงสาว แม้ว่าพวกเธอจะทำเรื่องส่วนตัวในห้องทำงาน โดยที่ไม่มีใครว่าอะไรแต่มันก็ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์"เพราะคุณเลย! คนนิสัยไม่ดี!" หลังจากจัดเสื้อผ้าและผมของเธอเรียบร้อยแล้ว ซ่งเชี่ยนหันมามองหลิงหยางด้วยสายตาตำหนิ "ต่อไปห้ามทำอะไรฉ
วิดีโอที่หลิงหยางส่งมา เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงหน้าประตูห้องทำงานของผู้จัดการบริษัทหลานเถียน ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะที่ภรรยาของโจวหยุนหลงมาจับชู้ เมื่อดูจบหลิวฮุ่ยหลิงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงพยายามแก้ตัวให้จางเมิ่งเสวี่ย “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เมิ่งเอ๋อร์ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอจะไปมีอะไรกับผู้ชายแก่ๆ ได้ยังไง?”“ยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? ภรรยา คุณควรยอมรับความจริงได้แล้ว วิดีโอนี่เป็นของจริง โชคดีที่หลิงหยางไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้น ไม่งั้นตระกูลหลิงของเราคงเสียหน้าไปหมดแล้ว!” หลิงฉิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดูวิดีโอด้วยกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหลิวฮุ่ยหลิงขมวดคิ้ว “หมายความว่าจางเมิ่งเสวี่ย หลอกเราให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กดี?” “ชีวิตส่วนตัวของเธอไม่ดีนัก ถ้าไม่ใช่การแสดงแล้วจะเป็นอะไร?” หลิงฉิงไม่ได้สนิทกับครอบครัวนั้นเหมือนภรรยา รู้จักเพียงแค่ผิวเผินจึงพูดไปตามเนื้อผ้า “ดูเหมือนว่าหลิงหยางตัดสินใจถูก ที่ไม่ไปคบกับจางเมิ่งเสวี่ย และเลือกแต่งงานกับซ่งเชี่ยนแทน!” มาถึงตอนนี้แม้ยากจะยอมรับ แต่ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หลิวฮุ่ยหลิงถอนหายใจออกมาดังๆ“ใช่แล้ว แม้ว่า
จางเมิ่งเสวี่ยขับรถกลับบ้าน แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ก่อนจะซบหน้าลงบนเตียงและร้องไห้ออกมา จ้าวชิงหย่าเปิดประตูห้องเห็นลูกเศร้าโศกจึงเดินเข้ามาถาม "เมิ่งเอ๋อร์ ลูกไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงานหรอกเหรอ? ทำไมกลับมาถึงบ้านแล้วก็ร้องไห้แบบนี้ล่ะ บอกฉันสิใครรังแกเธอ?"จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่ของเธอ จะรู้เรื่องที่เธอแอบมีความสัมพันธ์กับโจวหยุนหลงในห้องทำงาน และภรรยาของโจวหยุนหลงจับได้ พนักงานในบริษัทก็แห่ไปดูเหตุการณ์ ดังนั้นเธอจึงนั่งขึ้นมาจากเตียง และตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่เลย แม่ออกไปก่อนเถอะ ให้หนูได้อยู่คนเดียวสักพัก!""ไม่!" จ้าวชิงหย่าปฏิเสธอย่างหนักแน่น "ถ้าลูกไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่ออกไปจากห้องนี้เด็ดขาด รีบบอกมาว่ามีเรื่องอะไร""ฉัน... ฉันโดนไล่ออกแล้ว..." ถูกคาดคั้นเลยจำเป็นต้องตอบ เพราะอย่างไรไม่ช้าหรือเร็วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"อะไรนะ? โดนไล่ออกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าถามด้วยเสียงตกใจ "ใครไล่เธอออกล่ะ? หรือว่าคุณโจวไล่ออก ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะ ลูกไปทำอะไรผิดพลาดไว้หรือเปล่า?""ไม่ใช่ค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "ฉันถูกหลิงหยา
เมื่อได้ยินว่าหลิงหยางซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนในนามของเธอ และซ่งเชี่ยนเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง และเมื่อสามีตัดสินใจไล่โจวหยุนหลงและจางเมิ่งเสวี่ยออก เธอจึงรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน “ฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันขอไล่คนเพิ่มอีกสองคนได้ไหม?” “เธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ใครที่อยากไล่ก็ไล่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นฉัน” ยิ้มกว้างให้ภรรยา ตอนนี้เธอมีสิทธิ์ขาดอย่างเต็มที่ จะไล่ใครก็ตามสะดวก“ถ้าอย่างนั้น” ซ่งเชี่ยนหันไปมองซุนจิ่นเหยาแล้วพูด “วันนั้นคุณร่วมมือกับหลิวจื้อกังและจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อรังแกฉัน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ตั้งแต่ตอนนี้คุณและหลิวจื้อกังจะไม่ใช่พนักงานของบริษัทโฆษณาหลานเถียนอีกต่อไป เก็บข้าวของของคุณแล้วออกไปได้เลย” “ท่านประธานซ่ง ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันมีพ่อแม่ต้องดูแลและลูกเล็กๆ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป!” ซุนจิ่นเหยารีบคุกเข่าขอร้อง “แล้วตอนที่คุณร่วมมือกับจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อต่อต้านฉัน ทำไมคุณไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้าง?” ไม่ได้อยากใจร้าย แต่คนพวกนี้ทำร้ายเธอก่อน จะมีหน้าร่วมงานกันได้อย่างไรอีกซุน