Share

บทที่ 7 จับตัวเองอาบน้ำ

last update Last Updated: 2025-01-03 23:15:03

บทที่ 7 จับตัวเองอาบน้ำ

หลังจากรุ่ยฉีจับเด็ก ๆ อาบน้ำเสร็จพร้อมกับค่อย ๆ เป่าหูเด็ก ๆ ไปในตัว คอยบอกคอยสอนกับบรรดาสมุนทั้งหลาย เสร็จแล้วก็เดินมาหยุดอยู่ตรงกองผ้าที่สมุนตัวน้อยเอามากองไว้หน้าห้อง แวบแรก! มันคือผ้าขี้ริ้วชัด ๆ แต่รุ่ยฉีจะปล่อยให้เป็นผ้าขี้ริ้วไม่ได้! รุ่ยฉีตัดสินใจว่าค่อยมาแยกทีหลัง ตอนนี้ต้องพาเด็ก ๆ ไปกินข้าวให้เรียบร้อยก่อน ทุกคนเดินชักขบวนไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวใกล้ ๆ ห้องครัว รุ่ยฉีทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟให้กับลูกสมุนทั้งหลาย โดยมีหัวหน้าแก๊งเป็นผู้ช่วยถือจานซาลาเปา ตามมาด้วยตัวแทนหมู่บ้านที่ถือกระบอกใส่น้ำดื่ม พอพร้อมแล้ว รุ่ยฉีได้เตรียมชามเล็กมาแบ่งให้เด็ก ๆ เพราะกลัวจะกินไม่หมด โดยให้ตัวแทนหมู่บ้านแบ่งคนละครึ่งกับหัวหน้าแก๊ง ส่วนรุ่ยฉีแบ่งกับสมุนตัวน้อย 

"ไม่อิ่มค่อยเติม ไม่ต้องห่วง ยังมีอีกเยอะ ค่อย ๆ กินไม่ต้องรีบ" รุ่ยฉีบอกกับเด็ก ๆ โดยที่เด็ก ๆ ก็พยักหน้ารับทราบ

รุ่ยฉีค่อย ๆ กินข้าวต้มไปเรื่อย ๆ พร้อมกับสังเกตอาการและกิริยาของเด็ก ๆ เท่าที่ดูก็พอจะเดาได้ว่าทุกคนกินค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ค่อยคุยกันตอนกิน แต่ละคนตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต้มในชามตัวเอง คิดอะไรเพลิน ๆ รุ่ยฉีนึกขึ้นมาได้ว่าให้ระบบหาของหวาน แต่ก่อนหน้านี้ระบบบอกยังไม่เสถียร ขอเวลาปรับปรุง คงต้องงดของหวานมื้อนี้ไปก่อน รุ่ยฉีคิดว่าก่อนนอนค่อยให้เด็ก ๆ ดื่มนมก่อนนอนก็พอ วันแรกได้เท่านี้ก็ดีแล้ว รุ่ยฉีคิดเองปลอบใจตัวเองไปด้วย ไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำหน้าที่ดีไหม แต่สรุปเอาเองว่าตัวเองทำดีที่สุด  

"แม่ฉันไม่อิ่ม... ขอเพิ่ม" ตัวแทนหมู่บ้านเป็นคนพูดพร้อมยื่นชามมาตรงหน้ารุ่ยฉี

พอมีคนนำก็มีผู้ตาม ชายงามทั้งสองก็ทำตามแบบไม่ต้องสอน รุ่ยฉีเลยลุกขึ้นเดินเข้าครัวไปหยิบข้าวต้มออกมาอีกชาม แล้วเอามาแบ่งให้เด็ก ๆ ทั้งสามคน พอได้ชามข้าวของตัวเองก็ต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวกันอย่างเงียบ ๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็กินข้าวกันเสร็จ ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะกับข้าว และช่วยกันล้างชามจนเรียบร้อย พอเสร็จ รุ่ยฉีก็เตรียมต้มน้ำเอาไว้

เด็ก ๆ กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ที่ห้องโถง รุ่ยฉีเลยชะโงกหน้าเข้าไปดูว่ากำลังดูอะไร พอดูแล้วก็เข้าใจ พวกเด็ก ๆ นั่งดูสมุดภาพกัน จากสภาพของสมุดภาพแล้ว น่าจะเข้าขั้นวัตถุโบราณเลยทีเดียว รุ่ยฉีนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เข้าห้างระบบ รุ่ยฉีกวาดของเล่นและสมุดภาพ พร้อมสมุดหนังสือ สี ดินสอ ปากกามาด้วย รุ่ยฉีเลยเดินเลี่ยงเข้าห้องนอน เพื่อที่จะสำรวจว่ามีอะไรพอที่จะเอาให้เด็ก ๆ ได้เล่นได้ทำกิจกรรมก่อนเข้านอนบ้าง รุ่ยฉีได้สมุดภาพระบายสีมาทั้งหมด 3 เล่มพร้อมสีเทียน เลยเดินเอาออกมาให้เด็ก ๆ พอที่จะได้ระบายสีเล่นกันก่อน สมุดภาพก็เป็นจำพวกสัตว์ทั่วไป จะได้ฝึกจินตนาการของเด็ก ๆ

"ใครเคยเห็นสมุดภาพแบบนี้บ้าง"

รุ่ยฉีเดินเข้ามานั่งลงตรงที่ว่างติดกับลูกชายคนเล็ก ทุกคนชะงักและต่างชะโงกหน้าเข้ามาดูสมุดภาพ รุ่ยฉีก็อธิบายวิธีระบายสีให้เด็ก ๆ ได้ลองทำกันเอง โดยแบ่งให้คนละชุดและบอกให้เก็บรักษาของตัวเองดี ๆ

"ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลยแม่" สมุนตัวน้อยดูท่าจะสนใจสมุดภาพระบายสีเป็นอย่างมาก

"นั่นสิ... ในอำเภอมีแต่ของแบบนี้ใช่ไหม แม่พาฉันไปด้วยสิ"ตามมาด้วยตัวแทนหมู่บ้าน

"ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย" ตามติดด้วยหัวหน้าแก๊ง

จ้า! ไม่น่าสนใจแต่กอดสมุดภาพไว้แน่นเลยนะหัวหน้าแก๊ง รุ่ยฉีคิดแต่ไม่ได้พูดอะไร และเหตุการณ์นี้ทำให้รุ่ยฉีรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย ดูแล้วเด็ก ๆ มีพื้นฐานที่ดี เพราะร่างเดิมสอนมาค่อนข้างดี มาติดตรงช่วงหลัง ๆ นี่แหละที่ปล่อยเด็กไปบ้านใหญ่มากเกินไป เลยออกนอกลู่นอกทางบ้าง ต้องคอยต้อน ๆ เข้ามา ไม่น่าจะยาก รุ่ยฉีปล่อยให้เด็ก ๆ ระบายสี ส่วนตัวเองเข้าไปเตรียมตัวอาบน้ำ จะได้สำรวจตัวเองอย่างละเอียดก็ตอนนี้แหละ

รุ่ยฉีเดินเข้าครัว ปิดเตาแก๊ส พร้อมยกหม้อน้ำต้มเตรียมไปผสมน้ำอาบ พอเข้ามาถึงห้องน้ำก็จัดแจงพื้นที่เอาอ่างอาบน้ำมาผสมน้ำให้เรียบร้อย พร้อมแก้ผ้ามาก! พอเสร็จแล้ว รุ่ยฉีเริ่มถอดเสื้อผ้าก้มมองสำรวจตัวเองคร่าว ๆ ก็ทำให้พึงพอใจ หุ่นสวยใช้ได้สำหรับคนลูกสาม เอวคอดเล็กกิ่ว สะโพกผายโค้งมน เข้ารูปกับเรียวขา หน้าอกหน้าใจ แม่เอ๊ย! เอามาทำไมเยอะแยะ ทั้งตัวนี่นมใหญ่สุด ซ่อนรูปน่าดู ไล่สายตาดูว่ามีรอยแตกตามท้อง ตามต้นขา หรือตามสะโพกบ้างไหม เท่าที่ดูไม่มีรอยแตกลายเลย ทุกอย่างถือว่าสวยสมบูรณ์แบบสำหรับสาว ๆ เลยทีเดียว ติดตรงที่ผิวค่อนข้างแห้ง อาจเพราะเจอแต่อากาศเย็นมากเกินไปเลยทำให้ผิวแห้ง อันนี้แก้ไม่ยาก แค่โบกครีม ขยันทาโลชัน ทาออยล์น่าจะช่วยได้  

สำรวจร่างกายตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รุ่ยฉีก็เริ่มอาบน้ำ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองตอนนี้ผมยาวเกือบถึงกลางหลัง ต้องสำรวจเหาก่อนว่ามาสร้างอาณาจักรที่หัวบ้างไหม คิดได้เลยหยิบเอาหวีค่อย ๆ สางผมตัวเองเรื่อย ๆ ใจก็ลุ้นยิ่งกว่าลุ้นรางวัล และก็เป็นจริงอย่างที่หวัง ยินดีด้วย!! คุณคือผู้โชคดีที่เหาพาบรรดาญาติโกโหติกามาสร้างคฤหาสน์บนหัวคุณแล้ว!! แบบนี้ฉันไม่ต้องโกนหัวอีกคนหรือเนี่ย!! ได้แต่ทำใจและสระผมหลาย ๆ รอบเผื่อช่วยได้ หุ่นสวย ผิวสวย หน้าสวยบ้าบออะไร เหาเต็มหัว! อันดับแรกที่รุ่ยฉีจะทำ คือ กำจัดเหาออกไปให้หมดจากครอบครัวนี้! ตั้งใจแล้วก็รีบอาบน้ำสระผมสักสองสามรอบ ถึงมือจะอาบ แต่หัวก็ยังคิดถึงร้านค้าระบบว่ามันมียาฆ่าเหาให้แลกบ้างไหม มันมีวิธีแบบโบราณที่เขากำจัดเหาไหม หัวก็คิดมือก็ทำหน้าที่อาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จ รุ่ยฉีก็ทาออยล์ ตามด้วยโลชัน เสร็จก็เช็ดตัวเตรียมออกจากห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้าไปแต่งตัวในห้องนอนให้เรียบร้อย

รุ่ยฉีใช้เวลาในการแต่งตัวไม่ถึง 10 นาที อาจเพราะรุ่ยฉีทาออยล์และทาโลชันทั้งตัวมาจากตอนที่อยู่ในห้องน้ำแล้ว พอแต่งชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาสำรวจหน้าตาของร่างนี้แบบละเอียด รุ่ยฉีเดินไปนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งนั่งมองหน้าตัวเอง ส่องแล้วส่องอีกก็ยังมองไม่ชัด จะให้ชัดได้ไง เวลานี้ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว และแสงสว่างในบ้านก็ไม่พอ เพราะหมู่บ้านที่อยู่นี้ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง เลยต้องอาศัยการจุดตะเกียงเพื่อให้แสงสว่าง ถึงรุ่ยฉีจะจุดตะเกียงเพื่อส่องกระจกดูความสวยของตัวเอง แต่ก็แทบมองไม่ออก ไหนจะแสงไม่พอ ไหนจะกระจกเงาที่ดูยังไงก็มัว ๆ ไม่ชัด ให้อารมณ์แบบมีฟิลเตอร์ให้ภาพมัว ๆ เอาผ้าเช็ดกระจกแล้วก็ยังเหมือนเดิม ทางที่ดีคือทำใจ พรุ่งนี้ตอนสว่างค่อยมาส่องดูหน้าดูความสวยตัวเองใหม่ คิดได้ดังนั้นแล้ว รุ่ยฉีก็เริ่มทาเซรัม และครีมบำรุงผิวหน้าที่ได้มาน้อยนิดตอนที่ไปแย่งกับวิญญาณตนอื่นมา ตบท้ายด้วยลิปมัน ฟังดูดีเนอะ ลิปมัน แต่จริง ๆ มันคือสีผึ้งแบบตลับที่ฉันได้มาเพราะแย่งลิปสติกไม่ทัน ที่ทันก็นี่แหละ ลิปมันแบบตลับ รุ่ยฉีเปลี่ยนสีผึ้งเป็นลิปมันให้ชื่อมันดูอินเตอร์หน่อย พอตรวจเช็กตัวเองเรียบร้อย รุ่ยฉีก็หยิบลิปมันใส่เข้าในกระเป๋ากางเกงนอน เพื่อจะเอาไปทาให้เด็ก ๆ ด้วย

แต่ก่อนที่จะไปหาเด็ก ๆ รุ่ยฉีได้เดินเข้าครัวอีกรอบเพื่อจุดเตาให้ถ่านติด แล้วย้ายเข้ามาติดที่เตียงเตา ยังดีได้ถ่านอย่างดีและไร้ควันมาด้วย ทำให้นอนได้อย่างสบายไม่ต้องกลัวจะขาดอากาศหายใจ เพราะควันและก๊าซคาร์บอนเยอะ หลังเสร็จจากจุดถ่านที่เตียงเตาแล้ว รุ่ยฉีก็สำรวจที่นอน หมอน ผ้าห่มว่าเพียงพอไหม ถ้าไม่พอจะได้เตรียมให้เรียบร้อย หลังจากจัดเตรียมที่นอนเรียบร้อย รุ่ยฉีได้หยิบผ้าห่มผืนใหญ่ออกมาสองผืน หมอนข้างสามใบ รุ่ยฉีตัดสินใจให้นอนด้วยกันที่เตียงเตาของห้องนอนใหญ่ เท่าที่ดูแล้วน่าจะนอนพอ เพราะแต่ละคนก็ตัวเล็ก ๆ กันทั้งนั้น หลังจากดูแล้วว่าเรียบร้อย รุ่ยฉีก็เดินเข้าครัวอีกรอบเพื่อเตรียมแก้วมาใส่นมให้เด็ก ๆ ดื่มก่อนนอน 

"กินนมคนละแก้วให้หมด เก็บของให้เรียบร้อย และไปแปรงฟันเตรียมเข้านอน" รุ่ยฉีส่งนมให้เด็ก ๆ กินคนละแก้ว 

"มีนมกินด้วย สงสัยแม่ฉันรวยใหญ่แล้ว" มือหยิบนมปากก็พูดนะแม่คนงาม ปากแบบนี้ไม่เหมือนเด็กสี่ขวบที่ฉันเคยเจอเลย 

"รีบกิน ไม่ต้องพูดอะไรมาก รวยไม่รวยก็มีให้กิน และคำพูดบางคำพูดไม่ควรพูดออกมา เข้าใจไหม" รุ่ยฉียื่นมือไปบิดจมูกแม่คนงามเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว

"ฉันเชื่อแม่" ว่าเสร็จก็ส่งยิ้มหวานมาให้

หลังจากให้กินนมและแปรงฟันเสร็จก็ต้อนเด็ก ๆ ขึ้นเตียงเตา พอทุกคนขึ้นเตียงได้แล้วก็กรี๊ดกราดกันใหญ่กับผ้าห่มใหม่ หมอนข้างใหม่ แถมได้ห่มกันคนละผืนด้วย กว่าจะไล่ให้นอนได้ เล่นเอาเหงื่อออก พอเด็ก ๆ หมดฤทธิ์ก็ได้ยินเสียงสวรรค์

[ระบบกลับมาพร้อมใช้งานแล้ว โฮสต์โปรดเตรียมตัวรับภารกิจ]

...........................................

ระบบกลับมาแล้ว!! เสียงสวรรค์ของรุ่ยฉีกลับมาแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 3 ตัวป่วนแห่งยุค 70 (แก๊งมงกุฎ)

    ตอนพิเศษ 3ตัวป่วนแห่งยุค 70(แก๊งมงกุฎ)วันนี้รุ่ยฉีตื่นแต่เช้าเพื่อมาช่วยเฟยหรงเตรียมอาหารให้ลูก ๆ ของเธอที่จะไปทัศนศึกษา ดูเหมือนไปไกล แต่จริง ๆ แค่ภูเขาหลังบ้านเธอนี่แหละ และถามว่าไปทัศนศึกษากับโรงเรียนหรือยังไง ก็อยากจะหัวเราะดัง ๆ ว่าวันนี้โรงเรียนปิด ที่ว่าไปก็ไปกันทั้งบ้านนั่นแหละ แต่เพราะสองสาวที่กำลังเห่อการไปทัศนศึกษาที่ได้ไปกับโรงเรียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เลยอยากไปอีก เฟยหรงผู้ไม่เคยห้ามลูกสาวก็ตามใจ พาไปทัศนศึกษาที่ภูเขาที่อยู่ติดกับหลังบ้านนี่แหละ"เย่วเย่วตื่นเต้นมากเลยค่ะ" สาวน้อยเย่วเย่วที่ดูตื่นเต้นกับการไปทัศนศึกษาหลังบ้านในครั้งนี้เฟยหรงที่เตรียมอาหารอยู่หันมาหัวเราะกับท่าทางของเย่วเย่ว"พร้อมหรือยัง" "พวกหนูพร้อมแล้วค่ะ... แต่น้องสาวฉิงฉิงยังไม่พร้อมค่ะ" เย่วเย่วตอบแม่ใหญ่น้องน้อยของเธอไม่ยอมใส่เสื้อผ้าที่เธอกับพี่สาวอาอีเตรียมให้ น้องน้อยจะเอาแต่สีแดง คุณครูบอกว่าเวลาขึ้นเขาเข้าป่าให้ใส่สีทึบเพื่อไม่ให้สัตว์ป่าตกใจ เพราะถ้ามันตกใจ มันอาจวิ่งมาทำร้ายเราได้ แต่น้องน้อยจะใส่สีที่แม้แต่ยืนอยู่โรงเรียนยังมองเห็น มันแดงมาก เธอไม่รู้จะบอกน้องน้อยยังไงดี"เดี๋ยวแม่ไปดู

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2ตอนนี้เฟยหรงอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองซูโจว เนื่องจากอยู่ ๆ แม่เฒ่าซ่งก็เกิดอาการชักเกร็งเป็นลมหมดสติไป ทำให้ต้องรีบหามส่งโรงพยาบาล อาการยังไม่แน่ชัดว่าเป็นยังไงบ้าง"เป็นยังไงบ้างพี่ใหญ่" เฟยหรงที่มาเจอกับพี่ชายคนโตก็ถามขึ้นทันทีที่เจอ"หมอยังไม่บอกอะไร พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้ฟื้นแล้ว แต่ยังมีอาการเหม่อลอย พูดบ่นอะไรไม่รู้ตลอดเวลา บางทีก็ทำอะไรแปลก ๆ " "แล้วแม่รู้เรื่องไหม รู้ตัวไหมเวลาที่ทำ""รู้ตัวเป็นบางครั้ง บางครั้งก็ไม่รู้ตัว เข้าไปพร้อมกันไหม หมอเพิ่งให้เข้าเยี่ยม" "ครับ"พอเข้าไปในห้องพักคนไข้ก็เห็นแม่ของเขาที่นั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอก ช่วงก่อนพี่ใหญ่จะถูกปล่อยตัว แม่ต้องเก็บตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ คนเดียว ลูกหลานไม่มีใครเข้าหา เพราะทุกคนกลัวแม่หาเรื่องหรือหาปัญหามาให้ พี่น้องทุกคนแยกบ้านกันอยู่เพราะไม่อยากให้มีปัญหา แวะเวียนมาหาเยี่ยมแม่เป็นบางครั้ง จนพี่ใหญ่กลับมานี่แหละที่เข้ามาดูแลมาหาบ่อย ๆ ทั้งสองคนเลยเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"แม่หิวไหม ผมซื้อข้าวต้มกับขนมมาให้" ลูกชายคนโตเอ่ยถามแม่"หรือจะกินผลไม้ น้องสี่เอามาให้เยอะแยะเลย" เมื่อเขาเห็นแม่ยังนั่งเงียบ เขาเลยพูด

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1ตอนนี้รุ่ยฉีและทุกคนในครอบครัวกลับมาเที่ยวเมืองซูโจว ซึ่งได้กลับมาอยู่บ้านหลังเดิมในหมู่บ้านที่ตอนแรกตั้งใจจะขาย ติดประกาศขายไว้นาน แต่ก็ยังไม่มีคนมาติดต่อซื้อ อาจเพราะราคาที่เธอตั้งไว้มันค่อนข้างสูงเกินไป จึงทำให้ชาวบ้านไม่ซื้อกัน พวกเราเลยตัดสินใจเก็บบ้านไว้จ้างคนมาดูแลทำความสะอาดประจำ มีโอกาสก็กลับมาพัก และรุ่ยฉีรู้สึกว่าที่นี่ยังมีความทรงจำดี ๆ ถึงตอนแรกจะตัดสินใจขาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ใจหาย ยังดีที่ไม่มีคนมาซื้อ และตอนนี้รุ่ยฉีได้คลอดลูกสาวแล้ว แต่จะเป็นลูกสาวขี้อายไหม อันนี้ไม่อยากพูด..."หม่ำ หม่ำ" 'ซ่งอ้ายฉิง' ลูกสาวขี้อาย (มั้ง) ของเธอเอง หรือที่ทุกคนเรียกว่า 'ฉิงฉิง'ตอนนี้อ้ายฉิงอายุ 9 เดือนแล้ว กำลังกินข้าวบดที่รุ่ยฉีแลกมาจากร้านค้าในระบบ กินเก่งเหมือนสมุนตัวน้อย ขี้โวยวาย แค่ป้อนไม่ทันใจก็ร้องหม่ำหม่ำแล้ว มือเร็วที่สุด ถ้าชามอยู่ใกล้เป็นต้องเอามืออ้วน ๆ ขาว ๆ นั่นมาคว้าทันที คิดว่าขี้อายไหมล่ะ... รุ่ยฉีอยากจะหัวเราะ ถึงยังไงพ่อกับพี่ก็ยังเรียกลูกสาวขี้อาย น้องสาวขี้อาย..."ใจเย็น ๆ นะครับลูก" เฟยหรงที่ทำหน้าที่ป้อนข้าวบดลูกสาวพยายามบอกให้ลูกสาวใจเย็น ๆ"แอ๊ ๆ

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 52 บทส่งท้าย เติบโตและก้าวไปด้วยกัน

    บทที่ 52 บทส่งท้ายเติบโตและก้าวไปด้วยกันรุ่ยฉีเจอเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทำให้เธอคิดได้ว่าไม่ควรช่วยคนสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะบางคนช่วยมาแล้วก็มาสร้างความเดือดร้อน มาสร้างปัญหาให้ภายหลัง ช่วงหลังมานี้ รุ่ยฉีแทบไม่ออกไปไหนและไม่ช่วยใคร นอกจากเด็กเร่ร่อนที่หนิงหลงช่วยมาจากการถูกลักพาตัวไปแล้วมาขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนของเธอ เรื่องนี้รุ่ยฉีปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอสงสารเด็กด้วย และอีกอย่างเรื่องช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนคือภารกิจใหม่และภารกิจหลักของเธอในตอนนี้ เผื่อเรื่องนี้จะอนุมัติ ระบบของเธอยื่นเรื่องไปถึงสองปีกว่า ๆ แต่ก็ถือว่าคุ้ม ได้ช่วยเด็ก ๆ ตอนนี้เธอช่วยแค่เด็ก ๆ ส่วนคนโตนั้น เธอไม่อยากหาปัญหามาให้ตัวเองปวดหัวอีกแล้วตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว รุ่ยฉีแทบไม่ต้องทำอะไรมาก ลูก ๆ ของเธอโตขึ้นมาบ้างแล้ว และมีแนวโน้มจะไปในทางที่ดี หัวหน้าแก๊งของเรา 11 ขวบ โตขึ้น สูงขึ้น เข้มขึ้นแต่ยังพูดน้อยเหมือนเดิม ซิงอีกับเย่วเย่วอายุ 10 ขวบเริ่มสูงขึ้น ซิงอีมีแววสวยเฉี่ยวตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว และในอนาคตดูท่าทางซิงอีจะเป็นสาวมั่นตัวแม่แน่ ๆ เย่วน้อยของเรานั้นเป็นสาวหวานทั้งหน้าตาท่าทางและการพ

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 51 ไม่ถอดใจ... ไม่หมดหวัง

    บทที่ 51 ไม่ถอดใจ... ไม่หมดหวังจากเหตุการณ์สะดุดอากาศล้มในวันนั้น ทำให้เจียวจูได้ทหารคนนั้นเป็นสามี ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงได้รวดเร็วทันใจขนาดนั้น ก็เพราะสองสาวที่ตะโกนลั่นโรงเรียนให้คุณครูไปช่วยลุงทหาร ทั้งวิ่งทั้งตะโกนไปทั่วโรงเรียนจนคนรีบตามมาช่วยและได้เห็นทั้งสองที่กอดรัดกันอยู่ เมื่อมีคนมาเป็นสักขีพยานมากมาย เจียวจูเลยได้นายทหารคนนั้นเป็นสามี รุ่ยฉีไม่อยากจะคิดเลย ถ้ายอมให้เธอทำงานที่บ้านต่อจะเป็นยังไง ยังดีที่รีบบอกให้ไปช่วยงานที่อื่น ไม่อย่างนั้นคนที่โดนเจียวจูล้มทับอาจเป็นเฟยหรงก็ได้ ใครจะไปรู้ตอนนี้หลาย ๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว โรงเรียนก็มีครูใหญ่เป็นคนดูแลจัดการให้ ส่วนโรงพยาบาลก็เริ่มมีหมอ มีพยาบาลผู้ช่วย แต่ก็ยังไม่ได้เปิดแบบเป็นทางการ รุ่ยฉีอย่างให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป"แม่ใหญ่คะ... วันนี้โรงเรียนหยุดเหรอคะ" เย่วน้อยที่นั่งกินบิสกิตจิ้มนมพูดขึ้น"ใช่ค่ะ" รุ่ยฉีตอบกลับเย่วน้อย"คุณครูบอกว่าใกล้วันกีฬาสี... ต้องขยันซ้อม" อาอีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นรุ่ยฉีก็นึกขึ้นมาได้ว่าโรงเรียนจะจัดกีฬาสี ถึงจะมีนักเรียนน้อยแต่ก็ทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนโรงเรีย

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 50 สะดุดอากาศ

    บทที่ 50 สะดุดอากาศตั้งแต่วันนั้นที่รุ่ยฉีเห็นบรรยากาศแปลก ๆ บนโต๊ะกับข้าว เธอก็คอยสังเกตดูตลอดว่ามันมีอะไรผิดปกติบ้างไหม เจียวจูยังทำงานที่บ้านเธอตามปกติ แต่ส่วนมากเหมือนเธอจะหลบหน้ารุ่ยฉี แต่รุ่ยฉีก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นแบบที่เธอสงสัยหรือเปล่า และอีกอย่าง ตอนนี้เฟยหรงก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะต้องออกไปประสานงานให้เธอในหลาย ๆ เรื่อง"เจียวจู ตั้งแต่พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้วนะ ไปช่วยงานที่โรงเรียนได้เลย ฉันแจ้งครูใหญ่ให้แล้ว""ไม่ค่ะ... ฉันชอบทำที่นี่""แต่ฉันให้เธอไป! ถ้าไม่ทำก็ไปอยู่ที่อื่น" บอกดี ๆ ไม่ชอบ... ไปไม่ไป!"แต่คุณเฟยหรงชอบที่ฉันทำอาหารที่มีผักให้เด็ก ๆ กินนะคะ" เจียวจูไม่ยอมไปง่าย ๆ"เขาบอกตอนไหน! " รุ่ยฉีถามกลับกินผักมันก็ดีอันนี้รุ่ยฉีไม่เถียง แต่ใครก็ทำเมนูผักได้ไม่ใช่หรอ"บอกทุกวันค่ะ""คุณหลงครับ... คุณหลงอยู่ไหมครับ"รุ่ยฉียังไม่ทันได้พูดอะไรกับเจียวจู เพราะมีคนมาตะโกนเรียก น่าจะเป็นครูใหญ่เพราะเธอจำเสียงนี้ได้"เข้ามาก่อนค่ะ" พอเห็นว่าเป็นใคร รุ่ยฉีก็เชิญเข้าบ้านแล้วพาไปที่ห้องรับแขกเจียวจูพอเห็นว่าครูใหญ่มาก็เอาน้ำออกมาต้อนรับ พอเสร็จก็ออกจากห้องรับแขกทั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status