Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-08-30 16:24:23

หลังจากที่หลี่หยางจากไป บรรยากาศในหอโอสถเซียวก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่ความเงียบนั้นแตกต่างจากเดิม มันเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็น เซียวหลันยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองไปยังเส้นทางที่หลี่หยางจากไปอย่างเหม่อลอย

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านองค์ชายสามกับท่านเจ้าสำนักมีเรื่องบาดหมางกันหรือเปล่าคะ” เสี่ยวชุนถามด้วยความกังวล นางเองก็สัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่หลี่หยางแสดงออกเมื่อครู่

“ข้าก็ไม่แน่ใจ” เซียวหลันตอบตามตรง “แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมีเรื่องราวบางอย่างที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด”

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น อาหลงก็เดินเข้ามาพร้อมกับข่าวที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจ “คุณหนูขอรับ! มีคนถูกทำร้ายที่กลางตลาด! ขุนนางที่ติดตามท่านองค์ชายสามคนหนึ่ง ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสขอรับ!”

“เกิดอะไรขึ้น” เซียวหลันถามทันที

“ไม่ทราบขอรับ แต่ดูเหมือนจะเป็นการลอบทำร้ายจากยอดฝีมือ ดูท่าแล้วจะฝีมือไม่ธรรมดา” อาหลงตอบอย่างร้อนรน “ดูเหมือนจะมีคนที่ไม่พอใจท่านองค์ชายสามที่มาเยือนเมืองหลี่เฉิงขอรับ”

เซียวหลันขมวดคิ้วแน่น หากเป็นการลอบทำร้ายตามปกติก็คงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่ในช่วงเวลาที่หลี่หยางเพิ่งแสดงท่าทีไม่พอใจต่อเฉินเหวิน มันทำให้เหตุการณ์นี้ดูไม่ปกติเอาเสียเลย นางรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ในคืนนั้น...

เซียวหลันยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวของเธอ นางพยายามทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองหลี่เฉิง ตั้งแต่การปรากฏตัวของหลี่หยาง การรักษาที่เผยให้เห็นรอยแผลเก่าที่น่ากลัว ไปจนถึงการมาเยือนของเฉินเหวิน และการลอบทำร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น นางเชื่อว่าทั้งหมดนี้ต้องเชื่อมโยงถึงกันอย่างแน่นอน

“รอยแผลนั้น… ไม่ใช่รอยแผลที่เกิดจากวรยุทธ์ทั่วไป แต่เป็นพลังที่รุนแรงและป่าเถื่อน” นางพึมพำกับตนเอง “และสายตาที่หลี่หยางมองเฉินเหวิน… มันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง”

นางหยิบตำราการแพทย์และสมุนไพรออกมาวางบนโต๊ะ พยายามคิดหาหนทางที่จะเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ความรู้จากภพก่อนหน้าทำให้เธอสามารถวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างมีเหตุผลและรอบด้าน

ขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการค้นคว้า จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น เซียวหลันเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ อาหลงและเสี่ยวชุนน่าจะหลับกันไปนานแล้ว

“ผู้ใดกัน” นางถาม

“ข้าเอง” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านนอก

เซียวหลันรีบลุกไปเปิดประตู เผยให้เห็นเงาร่างสูงของหลี่หยางที่ยืนอยู่ด้านนอก เขาไม่ได้สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้า แต่ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว และที่แขนซ้ายของเขามีเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล

“ท่านบาดเจ็บอีกแล้ว” เซียวหลันอุทานด้วยความตกใจ นางรีบพาเขาเข้ามาในห้อง “เกิดอะไรขึ้น”

หลี่หยางเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ เขาไม่ตอบคำถามของนาง แต่สีหน้าของเขาบอกว่าเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วงมา

เซียวหลันรีบนำน้ำและผ้ามาทำความสะอาดบาดแผลของเขา นางคลายผ้าพันแผลออก เผยให้เห็นบาดแผลใหม่ที่เกิดขึ้นบริเวณใกล้ๆ กับรอยแผลเก่า มันเป็นบาดแผลจากคมกระบี่ที่ลึกจนน่ากลัว

“เกิดเรื่องที่ตลาดใช่หรือไม่” เซียวหลันถามขณะที่บรรจงทำความสะอาดบาดแผลอย่างเบามือ

หลี่หยางพยักหน้าเล็กน้อย “คนของมันตามมา”

“แล้ว… ท่านไปเกี่ยวข้องกับเรื่องลอบทำร้ายขุนนางขององค์ชายสามหรือเปล่า” เซียวหลันถามตรงๆ นางต้องการความจริงในตอนนี้

หลี่หยางเงยหน้าขึ้นสบตานาง ดวงตาของเขาฉายแววความประหลาดใจเล็กน้อยที่นางกล้าถามคำถามนี้ “ข้าไม่ได้ทำ” เขาตอบเสียงเรียบ “แต่ข้าไปช่วยมัน”

“ท่านช่วยองค์ชายสามหรือ” เซียวหลันยิ่งงุนงง “เหตุใดท่านจึงช่วยเขา ในเมื่อท่านดู… ไม่ชอบหน้าเขาเอาเสียเลย”

หลี่หยางถอนหายใจช้าๆ “เป็นเรื่องในอดีต” เขาเริ่มเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าตกใจออกมาทีละน้อย “เมื่อสิบปีก่อน… ครอบครัวของข้าก็ถูกใส่ร้ายเหมือนกับตระกูลของเจ้า”

เซียวหลันเบิกตากว้าง “อะไรนะ”

“เราถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เพียงเพราะครอบครัวของข้ามีความสามารถด้านวรยุทธ์และพลังธาตุที่แตกต่างจากผู้อื่น และคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือ… ตระกูลของเฉินเหวิน” หลี่หยางเล่าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “พวกเขาต้องการครอบครองพลังที่ซ่อนเร้นในตัวพวกเรา”

เซียวหลันนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เรื่องราวของเขาช่างคล้ายคลึงกับเรื่องราวของตระกูลเธออย่างน่าประหลาดใจ

“ข้าคือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากตระกูลของเรา รอยแผลบนแขนของข้า… เกิดจากพลังที่ข้าใช้เพื่อปกป้องน้องสาว แต่ข้าก็ทำไม่สำเร็จ” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “ส่วนเรื่องที่ช่วยเฉินเหวินจากการถูกลอบทำร้ายในวันนี้… เพราะเขาถูกข้าจับได้เมื่อสิบปีก่อน และเราได้ทำข้อตกลงกันไว้”

“ข้อตกลงอะไรหรือ” เซียวหลันถามด้วยความอยากรู้อย่างยิ่ง

“ข้อตกลงที่ให้เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพลังธาตุที่อยู่เบื้องหลังยุทธภพ” หลี่หยางตอบเสียงหนักแน่น “และข้าจะคอยเฝ้าดูเขา หากเขากลับไปทำเรื่องเดิมอีก… เขาจะต้องรับผลกรรมนั้น”

เซียวหลันเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เฉินเหวินมาที่เมืองหลี่เฉิงในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องของหอโอสถเซียวเพียงอย่างเดียว แต่เขาต้องการมาตรวจสอบบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับปมในอดีต และการลอบทำร้ายเมื่อครู่ก็เป็นฝีมือของคนที่ไม่พอใจเฉินเหวิน เพราะอาจจะเคยเกี่ยวข้องกับเรื่องในอดีตเช่นกัน

“ท่านก็เลยมาช่วยเขา” เซียวหลันกล่าวสรุป

“ข้าไม่ได้ช่วยมัน” หลี่หยางตอบเสียงเรียบ “ข้าแค่มาเตือนให้มันอย่าทำผิดพลาดอีกครั้ง และป้องกันไม่ให้เรื่องราวในอดีตต้องหวนกลับมาทำร้ายผู้บริสุทธิ์”

เซียวหลันเงียบไปครู่หนึ่ง นางมองดูใบหน้าของหลี่หยางที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นทางใจ นางสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและความโดดเดี่ยวที่เขาแบกรับไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“บาดแผลนี้… คงเจ็บปวดนัก” เซียวหลันกล่าวเสียงแผ่ว พลางบรรจงทำแผลให้เขาอย่างอ่อนโยน

หลี่หยางมองนางด้วยแววตาที่อ่อนลงกว่าปกติ “ใช่… เจ็บปวดนัก แต่เจ้าก็ทำให้มันบรรเทาลงได้”

เซียวหลันเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา ความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ความไว้ใจ ความเข้าใจ และความเห็นใจในชะตากรรมที่คล้ายคลึงกัน

หลังจากที่ทำแผลเสร็จแล้ว เซียวหลันก็เริ่มปรุงยาจากสมุนไพรหายาก นางใช้ความรู้จากภพก่อนหน้าในการผสมผสานสมุนไพรให้มีฤทธิ์ในการฟื้นฟูเส้นลมปราณโดยตรง หลี่หยางเฝ้ามองทุกขั้นตอนด้วยความประหลาดใจในฝีมือของนาง

“ยาตัวนี้จะช่วยฟื้นฟูเส้นลมปราณของท่านได้เร็วขึ้น” เซียวหลันกล่าวพลางยื่นถ้วยยาให้เขา “ท่านต้องดื่มให้หมดนะ”

หลี่หยางรับถ้วยยามาดื่มจนหมด เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่อบอุ่นที่ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายและค่อยๆ เยียวยารอยแผลเป็นเก่าที่เคยเจ็บปวดของเขา

“ข้า… ไม่เคยพบใครที่มีฝีมือเช่นเจ้ามาก่อน” หลี่หยางกล่าวอย่างจริงใจ

“ข้าก็ไม่เคยพบใครที่มีบาดแผลเช่นท่านมาก่อนเช่นกัน” เซียวหลันตอบด้วยรอยยิ้ม

เมื่อรุ่งเช้ามาถึง หลี่หยางจากไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ทิ้งเพียงความสงสัยไว้เบื้องหลัง แต่ทิ้งความลับอันดำมืดในอดีตที่เชื่อมโยงระหว่างพวกเขาสองคน และทิ้งความรู้สึกที่อบอุ่นบางอย่างไว้ในหัวใจของเซียวหลัน

นางมองไปยังท้องฟ้ายามเช้าที่เริ่มมีแสงสว่างรำไร รู้สึกว่าโชคชะตาได้เริ่มพัดพาชีวิตของนางเข้าสู่กระแสแห่งความขัดแย้งที่ใหญ่กว่าเดิมแล้ว… สงครามแห่งการชิงอำนาจและความลับดำมืดที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ยุทธภพและราชสำนักได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 25

    บรรยากาศในห้องโถงกว้างของวังหลวงเต็มไปด้วยความตึงเครียด เซียวหลันมองหน้าหลี่หยางและเฉินเหวินสลับกันไปมา หัวใจของนางเต้นรัวด้วยความสับสนและความเจ็บปวด"ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วพวกเจ้า... จะทำอย่างไรกับข้า"คำพูดของเฉินเหวินดังก้องอยู่ในหัวก้องเธอ เธอไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายทำอย่างนั้นกับพวกเธอได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะระแวดระวังกันมาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายขึ้นมาจริงๆ“เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้ เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป” เฉินเหวินเอ่ยขึ้น สายตาของเขาจับจ้องมาที่เซียวหลัน“ข้าไม่เข้าใจ ทำไมท่านถึงทำเช่นนั้น" เซียวหลันถามเสียงสั่นเครือ "ทำไมท่านถึงหลอกใช้เรา""ข้าไม่ได้หลอกใช้พวกเจ้า" เฉินเหวินตอบ "ข้าแค่... ทำตามหน้าที่ของข้า""หน้าที่ของเจ้าคือการทำลายพวกเราอย่างนั้นหรือ!" หลี่หยางตะโกนด้วยความโกรธแค้น "เจ้าทำลายครอบครัวของข้า! ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามี!""ไม่ใช่ข้า" เฉินเหวินปฏิเสธ "เป็นตระกูลของข้าต่างหาก... ที่ต้องการพลังที่ซ่อนเร้นในตัวพวกเจ้า""แล้วทำไมท่านถึงไม่บอกเราแต่แรก!" เซียวหลันถาม"เพราะข้า... อยากที่จะสร้างโชคชะตาของข้าเอง" เฉินเหวินตอบ "ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาเกี่ยวข้อง

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 24

    การฝึกฝนของเซียวหลันภายใต้การดูแลของเฉินเหวินดำเนินไปอย่างเข้มข้น วันแล้ววันเล่าที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งทางร่างกายและจิตใจ พลังแห่งแสงของเธอนับวันยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แต่เธอก็รู้สึกถึงความมืดที่คืบคลานเข้ามาในจิตใจเช่นกัน"เจ้าต้องควบคุมมันให้ได้" เฉินเหวินกล่าวขณะมองเซียวหลันที่กำลังควบคุมพลังแสงในมือของเธอให้แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธที่ทรงพลัง "หากเจ้าปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ... เจ้าก็จะกลายเป็นพวกมัน"เซียวหลันเข้าใจดี นางไม่ต้องการที่จะกลายเป็นคนเช่นนั้น นางจึงพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองและใช้พลังในทางที่ถูกต้องในขณะเดียวกัน... หลี่หยางที่นอนป่วยอยู่ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ แม้พลังของเขาจะหายไปจนหมดสิ้น แต่เขาก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความผูกพันที่เชื่อมโยงระหว่างเขากับเซียวหลัน และเขาก็ตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือนาง"ข้าจะต้องช่วยเซียวหลัน" หลี่หยางพึมพำกับตนเอง "ข้าจะต้องฟื้นฟูพลังของข้าให้กลับมา"เขาเริ่มค้นหาวิธีที่จะฟื้นฟูพลังของตนเองโดยเริ่มจากการค้นหาตำราโบราณที่เฉินเหวินเก็บไว้ในห้องสมุดของเขา ในตำราเหล่านั้นมีบันทึกเกี่ยวกับการฝึกฝนพลังอัคคีที่บร

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 23

    การเดินทางออกจากหุบเขาต้องห้ามเต็มไปด้วยความยากลำบากเซียวหลันพยุงร่างที่ไร้สติของหลี่หยางไว้ในอ้อมแขนขณะที่เฉินเหวินคอยนำทางและระวังภัยให้ การเสียสละของหลี่หยางทำให้พลังในตัวเขาหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงร่างกายที่อ่อนแรง และเซียวหลันเองก็รู้สึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เข้ามาในชีวิตของเธอ"เราจะไปไหนกันต่อ" เซียวหลันถามเสียงแผ่ว"เราจะไปที่สำนักแพทย์หลวงในเมืองหลวง" เฉินเหวินตอบ "ที่นั่นมีหมอที่ดีที่สุด และพวกเขาก็จะสามารถดูแลหลี่หยางได้"เซียวหลันพยักหน้าอย่างเข้าใจ นางรู้สึกว่านี่อาจจะเป็นทางเลือกเดียวที่พวกเขาจะทำได้ในตอนนี้เมื่อเดินทางมาถึงสำนักแพทย์หลวง เซียวหลันก็รีบพาหลี่หยางไปให้หมอหลวงตรวจดูอาการ หมอหลวงวินิจฉัยว่าหลี่หยางได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง และไม่มีวิธีใดที่จะสามารถรักษาเขาได้เลย นอกจากปล่อยให้เขาฟื้นตัวด้วยตนเอง"ไม่... ไม่จริง!" เซียวหลันกล่าวด้วยความสิ้นหวัง "ท่านต้องช่วยเขา!""ข้าขอโทษ" หมอหลวงกล่าว "ข้าไม่มีทางเ

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 22

    แสงจากคันธนูแห่งแสงเลือนหายไปในความมืดมิดของถ้ำ เหลือไว้เพียงร่างที่ไร้สติของเซียวหลันที่นอนอยู่บนพื้น หลี่หยางรีบเข้าไปประคองนางขึ้นมาอย่างร้อนรน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวด"เซียวหลัน! เซียวหลัน!" หลี่หยางเรียกชื่อนางซ้ำๆ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากนางเฉินเหวินเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว เขามองไปยังเซียวหลันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "นาง... ต้องมาเจอกับเรื่องนี้เพราะข้า""ไม่ใช่ความผิดของท่าน" หลี่หยางกล่าว "เป็นความผิดของข้าต่างหาก... ที่ปล่อยให้นางต้องมาเสี่ยงชีวิต"หลี่หยางใช้พลังอัคคีที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อรักษาเซียวหลัน แต่นางก็ยังคงไม่ฟื้น และลมหายใจของนางก็เริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ"ไม่... ไม่จริง!" หลี่หยางร้องไห้ออกมาอย่างหมดหวัง "เจ้าต้องไม่เป็นไรนะ... เซียวหลัน!"เฉินเหวินเดินเข้ามาใกล้หลี่หยาง "ยังมีทางเดียวที่จะช่วยนางได้""วิธีอะไร" หลี่หยางถามด้วยความหวังอันริบหรี่

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 21

    ในที่สุดอาวุธในตำนานก็ตกอยู่ในมือของเซียวหลัน คันธนูส่องแสงประกายสว่างท่ามกลางความมืดมิดของหุบเขาต้องห้าม พลังอันยิ่งใหญ่ที่ไหลเวียนออกมาจากอาวุธนั้นทำให้ทั้งหลี่หยางและเฉินเหวินรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่น่าเกรงขาม"มันคือ... คันธนูแห่งแสง" เฉินเหวินเอ่ยเสียงแผ่ว "อาวุธที่ถูกกล่าวถึงในคำทำนาย"เซียวหลันรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่ผสานเข้ากับพลังแห่งแสงในตัวเธออย่างสมบูรณ์แบบ ราวกับว่าอาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ"แต่เราจะใช้มันอย่างไร" เซียวหลันถาม"เจ้าจะต้องใช้จิตใจที่บริสุทธิ์เพื่อควบคุมมัน" หลี่หยางกล่าว "พลังของเจ้าจะหลอมรวมเข้ากับคันธนูแห่งแสง และเมื่อถึงตอนนั้น... เจ้าก็จะเป็นผู้เดียวที่จะสามารถใช้มันในการต่อสู้ได้"ขณะที่ทั้งสามกำลังสนทนากันอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกถ้ำ ตามมาด้วยเงาร่างที่ปรากฏขึ้นในความมืดมิด"พวกเราตามพวกเจ้ามานานแล้ว" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น "และในที่สุด... เราก็เจอตัวผู้สืบทอดพลังแห่งแ

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 20

    หลังจากความจริงอันน่าตกตะลึงถูกเปิดเผยในคัมภีร์โบราณ เซียวหลันและหลี่หยางก็เข้าใจแล้วว่าชะตากรรมของพวกเขาไม่ได้ผูกพันเพียงแค่การกอบกู้ตระกูล แต่ยังเกี่ยวพันกับสงครามที่จะตัดสินชะตาของโลกเฉินเหวินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรู บัดนี้ได้กลายเป็นพันธมิตรที่ไม่อาจขาดไปได้"ในคัมภีร์ระบุว่ามีอาวุธโบราณถูกซ่อนไว้ในที่ลับแห่งหนึ่ง" เฉินเหวินกล่าวขณะมองแผนที่ที่เพิ่งค้นพบ "หากเราได้อาวุธนี้มา จะช่วยให้เรามีพลังที่จะต่อสู้กับคนพวกนั้นได้""แล้วอาวุธนั้นอยู่ที่ไหน" หลี่หยางถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"มันถูกซ่อนไว้ใน... หุบเขาต้องห้าม" เฉินเหวินตอบ "สถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายและพลังที่ชั่วร้าย"เซียวหลันและหลี่หยางมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะยอมเสี่ยง"เราจะไป" เซียวหลันกล่าวอย่างหนักแน่น "เราต้องไปเอาอาวุธนั้นมาให้ได้"การเดินทางสู่หุบเขาต้องห้ามเต็มไปด้วยอุปสรรค พ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status