Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-08-30 16:29:45

แสงอรุณยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาในหอโอสถเซียว เซียวหลันกำลังง่วนอยู่กับการจัดยาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยรายวัน แม้เมื่อคืนจะผ่านเรื่องราวที่น่าตกใจมา แต่ความเด็ดเดี่ยวจากวิญญาณของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโลกอีกใบก็ทำให้นางสามารถกลับมาทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว

"คุณหนูเจ้าคะ" เสี่ยวชุนเดินเข้ามาพร้อมกับท่าทีร้อนรน “คนขององค์ชายสามต้องการให้คุณหนูเข้าเฝ้าองค์ชายเจ้าค่ะ”

“เมื่อไหร่”

“ตอนนี้เจ้าค่ะ องค์ชายต้องการให้คุณหนูรักษาขุนนางที่โดนทำร้ายเจ้าค่ะ”

"พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน" เซียวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"อยู่ที่จวนผู้ว่าการเจ้าค่ะ เห็นว่าท่านผู้ว่าการจัดห้องพักให้เป็นการชั่วคราว" เสี่ยวชุนตอบอย่างรวดเร็ว

เซียวหลันตัดสินใจทันที นางรีบหยิบกล่องยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นใส่ถุงผ้า แล้วหันไปสั่งอาหลง "อาหลง เจ้าช่วยเฝ้าหอโอสถแทนข้าก่อน ข้าจะไปที่จวนผู้ว่าการ"

"คุณหนูจะไปที่นั่นได้อย่างไรขอรับ" อาหลงถามอย่างกังวล "ที่นั่นเต็มไปด้วยทหาร และองค์ชายสามก็เป็นคนอันตรายนัก"

"ข้าจะไปในฐานะหมอ" เซียวหลันตอบด้วยความเด็ดเดี่ยว "ในฐานะหมอ ข้าไม่มีความจำเป็นต้องกลัวใคร และการลอบทำร้ายครั้งนี้ต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เป็นแน่"

จวนผู้ว่าการเมืองหลี่เฉิงเต็มไปด้วยทหารองครักษ์ในชุดเกราะสีดำ การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดเป็นพิเศษ เซียวหลันต้องแสดงใบอนุญาตการเป็นหมอของเธอ และใช้ชื่อเสียงของหมอเทวดาที่ผู้คนในเมืองต่างยกย่อง เพื่อให้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้

เมื่อเข้าไปด้านใน นางเห็นขุนนางคนสนิทของเฉินเหวินนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียว เลือดไหลไม่หยุดจากบาดแผลที่แขน บาดแผลนั้นลึกและน่ากลัว ราวกับถูกโจมตีด้วยอาวุธที่แหลมคมเป็นพิเศษ

เฉินเหวินยืนอยู่ข้างเตียง ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเย็นชาผิดปกติจากที่เซียวหลันเคยเห็นเมื่อวาน เขามองเซียวหลันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

“คิดว่าเจ้าจะไม่ยอมมาเสียแล้ว" เฉินเหวินถามเสียงเรียบ

“ในเมื่อมีผู้บาดเจ็บ ข้าก็ต้องรีบมาช่วยเพคะ" เซียวหลันตอบพลางเดินเข้าไปใกล้เตียงคนไข้

เฉินเหวินไม่พูดอะไร เขาเฝ้ามองนางตรวจดูอาการของขุนนางคนสนิทด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ เซียวหลันจัดการห้ามเลือดอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ก่อนจะนำสมุนไพรและอุปกรณ์ที่เตรียมมาออกมาทำแผล

ขณะที่นางกำลังทำแผลอยู่นั้น ก็มีกระแสพลังประหลาดไหลเวียนเข้ามาในตัวเซียวหลัน นางสัมผัสได้ถึงรอยแผลที่ไม่ได้เกิดจากคมอาวุธธรรมดา แต่มันมีพลังงานบางอย่างที่เชื่อมโยงกับหลี่หยางที่เพิ่งมาหานางเมื่อคืน

ทันใดนั้นเอง เซียวหลันก็เห็นภาพบางอย่างซ้อนขึ้นมาในหัว เป็นภาพการต่อสู้ที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ท่ามกลางเงามืดของราตรี ชายในชุดคลุมสีดำกำลังต่อสู้กับชายอีกคน แล้วคมกระบี่ของชายชุดดำคนนั้นก็พุ่งตรงไปยังขุนนางคนสนิทของเฉินเหวิน ภาพนั้นไม่ชัดเจนนัก แต่เซียวหลันมั่นใจว่าชายในชุดคลุมสีดำนั้นคือหลี่หยาง

แต่ทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น? หรือเขาโกหกเมื่อคืน?

ความสับสนและความไม่เชื่อใจเริ่มก่อตัวในใจของเซียวหลัน

เมื่อทำแผลเสร็จแล้ว เซียวหลันก็ลุกขึ้นยืนหันหน้าเข้าหาเฉินเหวิน "บาดแผลนี้ลึกนัก... จะต้องใช้เวลาพักฟื้นพอสมควร แต่เขาก็จะปลอดภัยเพคะ"

"เจ้าเก่งนัก" เฉินเหวินกล่าวอย่างจริงใจ "แม้แต่หมอหลวงยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าบาดแผลนี้เกิดจากอะไร"

เซียวหลันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดความจริงบางส่วน "บาดแผลนี้... ไม่ได้เกิดจากคมกระบี่ธรรมดาเพคะ"

เฉินเหวินเลิกคิ้ว "แล้วเกิดจากอะไร"

"เกิดจาก... พลังจากคมกระบี่ที่รุนแรงเพคะ" เซียวหลันตอบอย่างระมัดระวัง "หม่อมฉันคิดว่าผู้ที่ทำร้ายเขาต้องมีพลังที่ไม่ธรรมดา"

ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเซียวหลัน สายตาของเฉินเหวินก็แข็งกระด้างขึ้นทันที เขานึกถึงหลี่หยางและความลับดำมืดที่พวกเขาเคยทำข้อตกลงกันไว้เมื่อสิบปีก่อน เขานึกถึงเรื่องเมื่อคืนทันที เขาได้ให้องครักษ์คนหนึ่งแอบติดตามชายชุดดำผู้นั้นไป จึงได้รู้ว่าชายชุดดำคนนั้นแอบหนีเข้าไปในหอโอสถเซียวกลางดึก

เฉินเหวินรู้ทันทีว่าชายผู้ลึกลับที่มาหานางเมื่อวาน คือชายคนเดียวกันที่เขาเคยเผชิญหน้ามาแล้วในอดีต

"เมื่อคืนนี้มีชายต้องสงสัยเข้าไปพบเจ้าใช่หรือไม่"

"ฝ่าบาท... ทราบได้อย่างไรเพคะ"

"เจ้า... รู้จักคนผู้นั้นใช่หรือไม่" เฉินเหวินไม่ตอบแต่เลือกเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เซียวหลันมองสบตาเขา นางรู้ดีว่าหากโกหกอาจจะยิ่งทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย "หม่อมฉันเคยพบกับเขาเพียงครั้งเดียวเพคะ"

"เจ้าโกหก" เฉินเหวินกล่าว "เจ้ากับเขาต้องมีความเกี่ยวข้องกัน"

เซียวหลันไม่ตอบ นางเงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งตึงเครียดขึ้น

"ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใคร หรือมีความเกี่ยวพันกับคนผู้นั้นอย่างไร" เฉินเหวินกล่าวต่อ "แต่ข้าต้องการให้เจ้ามาช่วยข้า"

"ช่วยอะไรหรือเพคะ" เซียวหลันถาม

"ช่วยข้าสืบหาคนผู้นั้น" เฉินเหวินตอบ "ข้าต้องการกำจัดมัน"

เซียวหลันส่ายหน้าช้าๆ "หม่อมฉันเป็นเพียงหมอ ไม่ใช่สายสืบเพคะ"

"อย่าปฏิเสธข้าเลย" เฉินเหวินกล่าวเสียงอ่อนลง "หากเจ้าช่วยข้าได้ ข้าจะช่วยเจ้ากอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลเซียว และข้าจะปกป้องเจ้าจากทุกสิ่งทุกอย่าง"

คำพูดของเฉินเหวินดังก้องอยู่ในหูของเซียวหลันราวกับเสียงกระซิบจากปีศาจ เขากำลังยื่นข้อเสนอที่น่าเย้ายวนใจนัก การกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลเซียว เป็นสิ่งที่นางปรารถนามาโดยตลอด แต่การร่วมมือกับเขาเพื่อตามล่าหลี่หยางกลับเป็นสิ่งที่นางไม่อาจยอมรับได้

"การกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูล... เป็นสิ่งที่หม่อมฉันอยากทำให้สำเร็จเพคะ แต่การเป็นสายสืบ... ไม่ใช่วิถีของหม่อมฉัน" เซียวหลันกล่าวปฏิเสธอย่างสุภาพแต่มั่นคง ดวงตาของนางมองตรงไปยังเฉินเหวินโดยไม่หลบเลี่ยง

เฉินเหวินมองนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะหยั่งถึง เขายิ้มเล็กน้อย "เจ้าไม่เชื่อใจข้า"

"หม่อมฉันเชื่อในความสามารถของตัวเองที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลได้ด้วยตัวเองเพคะ" เซียวหลันตอบ

"ดี" เฉินเหวินกล่าว "ความมั่นใจของเจ้าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่เจ้าคิดว่าหากเจ้าต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างคนผู้นั้นเพียงลำพัง เจ้าจะรอดหรือไม่"

คำพูดของเขาแทงใจดำเซียวหลันอย่างจัง นางนิ่งไปครู่หนึ่ง หลี่หยางไม่ได้เป็นศัตรูของนาง แต่หากนางต้องเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งของคนทั้งสอง นั่นอาจทำให้ชีวิตของนางและผู้คนที่นางรักตกอยู่ในอันตราย

"ข้าจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจ" เฉินเหวินกล่าวต่อ "ข้าจะอยู่ที่นี่อีกเจ็ดวัน หากเจ้าเปลี่ยนใจก็ให้มาหาข้าได้ตลอดเวลา" เขาหันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมของไม้จันทน์ที่คล้ายคลึงกับกลิ่นกายของหลี่หยางอย่างประหลาด

เมื่อบทสนทนาสิ้นสุดเซียวหลันก็ขอตัวกลับไปยังหอโอสถเซียว เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่ก็หนักใจไม่แพ้กัน อาหลงและเสี่ยวชุนรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความตื่นตระหนก

"คุณหนู! องค์ชายสามทรงพูดอะไรกับคุณหนูเจ้าคะ" อาหลงถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน ด้วยเห็นสีหน้าไม่สบายใจจากเซียวหลัน

เซียวหลันส่ายหน้า "เขาแค่อยากให้ข้าไปช่วยงานในวังหลวง แต่ข้าปฏิเสธไปแล้ว" นางตอบเลี่ยงๆ ไม่ต้องการให้อาหลงและเสี่ยวชุนต้องกังวล

แต่แล้ว... ก็มีเงาร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาในหอโอสถอีกครั้ง หลี่หยางยืนอยู่หน้าประตู เขามองตรงมายังเซียวหลัน ดวงตาภายใต้ผ้าคลุมฉายแววความห่วงใยและร้อนรน

"เขาพูดอะไรกับเจ้า" หลี่หยางถามทันทีที่เข้ามาในห้อง

เซียวหลันแปลกใจที่หลี่หยางมาเร็วถึงเพียงนี้ หรือว่าเขาแอบเฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา นางส่ายหน้า "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ"

"อย่าโกหกข้า" หลี่หยางกล่าวเสียงแข็ง "ข้ารู้จักเฉินเหวินดี มันไม่มีทางมาหาเจ้าเฉยๆ แน่"

เซียวหลันเงียบไปครู่หนึ่ง นางมองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของเขา ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริง "เขาอยากให้ข้าไปช่วยสืบเรื่องของท่าน และอยากให้ข้าเข้าร่วมกับเขา"

ทันทีที่ได้ยินคำตอบ สีหน้าของหลี่หยางก็เปลี่ยนไป เขาดูเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร"

"ข้าปฏิเสธไปแล้ว" เซียวหลันตอบ

หลี่หยางถอนหายใจอย่างโล่งอก "ดีแล้ว อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน"

"แต่... เขาบอกว่าหากข้าช่วยเขา เขาจะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลข้า" เซียวหลันกล่าวเบาๆ เพื่อหยั่งเชิง

หลี่หยางเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวด "เจ้าเชื่อคำพูดของมันหรือ"

"ข้าไม่เชื่อ แต่ข้า... ปรารถนาที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ" เซียวหลันตอบอย่างจริงใจ "ข้าอยากให้ครอบครัวของข้าได้รับความยุติธรรม"

หลี่หยางมองนางด้วยความเข้าใจ "ข้าจะช่วยเจ้าเอง"

คำพูดของเขาทำให้เซียวหลันประหลาดใจนัก "อะไรนะ?"

"ข้าจะช่วยเจ้ากอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลเซียว" หลี่หยางกล่าวอย่างหนักแน่น "และข้าจะปกป้องเจ้าจากทุกสิ่งทุกอย่าง"

"ทำไมท่านถึงยอมช่วยข้า" เซียวหลันถาม

"เพราะเรามีชะตากรรมที่คล้ายคลึงกัน" หลี่หยางตอบ "ทั้งเจ้าและข้าต่างก็สูญเสียครอบครัวไปเพราะความมืดมิดในราชสำนักและยุทธภพ หากเราไม่ร่วมมือกัน... เรื่องราวในอดีตก็อาจจะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ อีก"

เซียวหลันมองเขาด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ความช่วยเหลือของหลี่หยางนั้นมีค่ามหาศาล แต่การร่วมมือกับชายผู้ลึกลับที่เต็มไปด้วยปมในอดีตก็เป็นเรื่องที่อันตรายไม่น้อย แต่นางก็รู้ดีว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้เรื่องราวของตระกูลเธอได้รับการสะสาง

"ตกลง" เซียวหลันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะร่วมมือกับท่าน"

หลี่หยางยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นอ่อนโยนกว่าที่เซียวหลันเคยเห็นมาก่อน "ดี"

ในชั่วขณะนั้นเองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงแค่คนไข้และหมออีกต่อไป แต่กลายเป็นพันธมิตรที่จะร่วมมือกันเพื่อไขปมปริศนาในอดีตและเผชิญหน้ากับความอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้า

"ท่านมีแผนการอะไรหรือเปล่า" เซียวหลันถาม

"มี" หลี่หยางตอบ "เราจะเริ่มจากการหาเบาะแสที่ซ่อนอยู่ในราชสำนัก และข้าคิดว่าเราควรจะเริ่มที่เมืองหลวง... สำนักกระบี่ล่องลอย"

คำพูดของหลี่หยางทำให้เซียวหลันประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือสถานที่ที่หลี่หยางเคยกล่าวถึงว่าเป็นต้นกำเนิดของบาดแผลบนแขนของเขา และอาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความลับที่แท้จริงของเขาและเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งทั้งหมด

ภารกิจครั้งนี้มิอาจปฏิเสธได้... ชะตากรรมของพวกเขาทั้งคู่ได้ผูกพันกันอย่างแน่นหนาแล้ว และไม่มีสิ่งใดจะแยกพวกเขาออกจากกันได้อีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 18

    หลังจากได้อ่านคัมภีร์โบราณแล้ว เซียวหลัน หลี่หยาง และเฉินเหวิน ก็ตระหนักได้ว่าสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของพลังอำนาจ แต่เป็นเรื่องของคำทำนายที่ถูกสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และพวกเขาทั้งสามก็คือผู้ที่จะต้องเข้ามามีบทบาทในสงครามนี้"ในคัมภีร์ไม่ได้ระบุวิธีหยุดยั้งสงครามไว้" เซียวหลันกล่าวด้วยความผิดหวัง "มันมีเพียงแค่คำทำนายเกี่ยวกับผู้ที่จะมาช่วยโลกเท่านั้น""แต่เราก็มาถูกทางแล้ว" หลี่หยางปลอบโยน "อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าพลังที่แท้จริงของพวกเราคืออะไร และเราจะสามารถใช้มันในการต่อสู้กับคนพวกนั้นได้อย่างไร""ข้ามีแผน" เฉินเหวินกล่าว "เราจะกลับไปที่วังหลวง"เซียวหลันและหลี่หยางมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ “อะไรนะ!?" เซียวหลันถาม "ท่านจะให้เรากลับไปที่นั่นได้อย่างไร ในเมื่อที่นั่นเป็นกับดัก""ใช่... มันเป็นกับดัก" เฉินเหวินตอบ "แต่ตอนนี้... เราก็สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน" เขามองไปยังแผนที่บนผนังถ้ำ "ในแผนที่นี้... มีสถานที่ลับอีกแห่งหนึ่

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 17

    พันธมิตรที่เปราะบางได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วในถ้ำลับอันมืดมิด เฉินเหวินที่เคยเป็นศัตรูร้าย บัดนี้ยืนอยู่เบื้องหน้าเซียวหลันและหลี่หยางในฐานะสหายร่วมชะตากรรม"ก่อนที่เราจะเริ่ม" เซียวหลันเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของนางยังคงเจือความระแวง "ท่านต้องบอกความจริงทั้งหมด... ว่าท่านเกี่ยวข้องอะไรกับอดีตของพวกเรา"เฉินเหวินยิ้มอย่างขมขื่น เขามองไปยังแผนที่บนผนังถ้ำ "เจ้าคิดว่าข้าชื่นชอบการเป็นหมากในเกมอำนาจของตระกูลข้าหรือ"เขาเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้เซียวหลันและหลี่หยางฟังอย่างละเอียด เขาเกิดในตระกูลที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและต้องการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ พลังที่เขาใช้ในการต่อสู้ไม่ใช่พลังของตนเอง แต่เป็นพลังที่ถูกผนึกไว้ในตัวเขาตั้งแต่ยังเด็ก เขาถูกฝึกฝนให้กลายเป็นอาวุธที่มีชีวิต เพื่อที่จะใช้ในการทำลายศัตรูของตระกูล"ข้าถูกบังคับให้ทำร้ายครอบครัวของเจ้า" เฉินเหวินกล่าว "และข้าก็ถูกบังคับให้ทำร้ายครอบครัวของมัน" เขาชี้ไปที่หลี่หยาง "ข้า... เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้หัวใจ"

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 16

    เมื่อรุ่งอรุณมาเยือนเมืองหลวงอีกครั้งเซียวหลันและหลี่หยางก็เดินทางมาถึงนอกกำแพงเมืองที่เคยเป็นเสมือนกรงขังเมื่อคืนวานนี้แล้ว พวกเขายังคงสวมชุดที่มอมแมมและเต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ แต่ดวงตาของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินไปบนเส้นทางที่พวกเขาเลือกแล้ว"เราจะไปไหนกันดี" เซียวหลันถามขณะมองดูเมืองที่เงียบสงบในยามเช้า"เราต้องไปหาคนที่จะช่วยเราได้" หลี่หยางตอบ "และข้ารู้ว่าใครคือคนผู้นั้น"เซียวหลันพยักหน้าอย่างเข้าใจ พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทางไปยังทิศทางที่หลี่หยางบอก เส้นทางที่พวกเขาเลือกนั้นคือเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรค พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่ดักซุ่มอยู่ตามเส้นทาง และต้องต่อสู้กับสัตว์ร้ายในป่าที่รกทึบแต่ด้วยความสามารถของพวกเขา ทั้งสองคนก็สามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ในที่สุด หลี่หยางใช้พลังอัคคีที่เพิ่งฟื้นคืนมาในการต่อสู้ ในขณะที่เซียวหลันก็ใช้พลังแห่งแสงในการรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้ทั้งสองคนได้เรียนรู้ที่จะร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบ

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 15

    ดูเหมือนว่าโชคชะตาของเซียวหลันและหลี่หยางจะอยู่ในกำมือของเฉินเหวินไปเสียแล้ว คำพูดของเฉินเหวินเป็นดังคำประกาศศักดิ์สิทธิ์ที่ลิดรอนอิสระไปจากพวกเขาทั้งคู่ ชะตากรรมของพวกเขาเหมือนถูกขังเอาไว้ในกรงขนาดใหญ่ ทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะหนีไปจากโชคชะตาในครั้งนี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมีความมุ่งมั่นมากพอที่จะจับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันตามเส้นทางที่ตัดสินใจเลือก"เราจะทำอย่างไรกันดี" เซียวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง"เราจะออกจากที่นี่" หลี่หยางตอบอย่างหนักแน่น "เราจะไปจากวังแห่งนี้และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสร้างขึ้น"เซียวหลันส่ายหน้า “แต่... เราทำไม่ได้... ที่นี่เต็มไปด้วยทหารของเขา และท่านก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้""ข้าไม่เป็นไร" หลี่หยางกล่าว "ข้ายังมีพลังที่เหลืออยู่" เขามองเข้าไปในดวงตาของเซียวหลัน "เชื่อข้า... เราต้องไปจากที่นี่"เซียวหลันมองเขาด้วยความรู้สึกที่สับสน แต่ในที่สุดนางก็พยักหน้าอย่างจำยอม นางรู้ดีว่าห

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 14

    เซียวหลันและหลี่หยางมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ คำพูดของเฉินเหวินยังคงดังก้องอยู่ในห้องอันเงียบสงบ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็แบกรับความลับที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ และบัดนี้ความลับนั้นได้กลายเป็นภาระที่พวกเขาต้องแบกรับร่วมกัน"ท่าน... ไม่เป็นไรใช่ไหม" เซียวหลันถามเสียงแผ่ว นางยังคงรู้สึกผิดที่ทำให้หลี่หยางต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้หลี่หยางพยักหน้าเล็กน้อย "ข้าไม่เป็นไร... แต่เราไม่มีเวลาแล้ว""เราจะทำอย่างไรกันดี" เซียวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "เราถูกขังอยู่ที่นี่ และพลังของท่านก็... หายไปแล้ว""พลังของข้าไม่ได้หายไป" หลี่หยางกล่าว "มันแค่หลับใหลไปชั่วคราว" เขามองเข้าไปในดวงตาของเซียวหลัน "เจ้าต้องช่วยปลุกมันขึ้นมาอีกครั้ง"เซียวหลันส่ายหน้า "ข้าทำไม่ได้... ข้าเคยลองแล้ว และข้าก็เกือบจะเสียชีวิต""เชื่อข้า" หลี่หยางกล่าวอย่างหนักแน่น "ในตอนนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยข้าได้"เซียว

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 13

    เซียวหลันมองเฉินเหวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เพราะคำพูดของเขาฟังดูไม่เข้าหูนางเลยสักนิด คำพูดเหล่านั้นเป็นดั่งคมมีดกรีดลึกเข้าไปในจิตใจของนาง แต่นางก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้นอกไปจากความรู้สึกยอมจำนน"ท่าน... ทำเช่นนี้ทำไม" เซียวหลันถามเสียงสั่นเครือ "ท่านต้องการอะไรกันแน่"เฉินเหวินยิ้มเล็กน้อย เขามองไปยังหลี่หยางที่นอนอยู่บนเตียง "ข้าต้องการพลังที่แท้จริงของเจ้า และข้าต้องการผู้ที่สามารถต่อกรกับคนพวกนั้นได้" เขาหันกลับมามองเซียวหลัน "ส่วนเรื่องการกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลเจ้า... มันเป็นเพียงสิ่งล่อใจให้เจ้าเข้ามาในวังของข้า"เซียวหลันกำหมัดแน่น นางรู้สึกราวกับถูกหลอกใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกไร้หนทางที่จะหลีกหนี"แล้ว... ท่านจะทำอย่างไรกับข้า" เซียวหลันถาม"เจ้าไม่ต้องห่วง" เฉินเหวินตอบ "ข้าจะช่วยเจ้าฝึกฝนพลังของเจ้าให้แข็งแกร่งขึ้น และเมื่อถึงตอนนั้น... เจ้าก็จะเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของข้า"เซียวหลันส่ายหน้า "ข้าจะไม่ยอม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status