Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-08-30 16:15:07

เมืองหลี่เฉิงที่เคยคึกคักเริ่มมีความตึงเครียดบางอย่างเข้ามาปะปน ผู้คนเริ่มซุบซิบถึงข่าวลือแปลกๆ เกี่ยวกับแขกสำคัญจากเมืองหลวงที่กำลังจะเดินทางมาเยือน มีผู้คนจากราชสำนักเข้ามาจับจองโรงแรมที่ดีที่สุด จัดเตรียมเส้นทางและระเบียบการอย่างพิถีพิถัน บรรยากาศที่เคยเป็นกันเองของเมืองชายแดนเริ่มกลายเป็นทางการและสงบนิ่งผิดปกติ

"คุณหนูเจ้าคะ ได้ยินมาว่าองค์ชายสามจะมาถึงพรุ่งนี้" เสี่ยวชุนกระซิบกับเซียวหลันขณะจัดยา "เขาเป็นคนเจ้าสำราญและขี้เล่นนัก ผู้คนในเมืองหลวงต่างยกย่องเขาว่าเป็นองค์ชายที่เก่งกาจและรูปงามที่สุด"

เซียวหลันเงยหน้าจากตำรายาที่กำลังอ่าน นางไม่ได้สนใจข่าวลือในราชสำนักนัก แต่ชื่อของ องค์ชายสาม หรือ เฉินเหวิน นั้นกลับทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ความทรงจำของเซียวเหลียนบอกว่าเขาคือคนที่เคยให้ความช่วยเหลือตระกูลเซียวเมื่อครั้งอดีต แต่เซียวหลันในตอนนี้กลับรู้สึกว่าชื่อนี้แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนและอันตราย

"ข้าไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในราชสำนัก" เซียวหลันกล่าวเสียงเรียบ "ให้พวกเราอยู่กันอย่างสงบสุขก็พอแล้ว"

แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ยอมให้นางหลีกหนีได้ง่ายๆ

ในวันรุ่งขึ้น... เมืองหลี่เฉิงดูตื่นตัวเป็นพิเศษ ผู้คนต่างออกมาต้อนรับองค์ชายผู้สูงศักดิ์ กองทหารม้าในชุดเกราะสีเงินเรียงรายเป็นขบวน ตามด้วยรถม้าสีทองแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม ผู้คนรอบข้างต่างก้มศีรษะให้ด้วยความเคารพ

รถม้าหยุดลงที่กลางถนน บุรุษหนุ่มรูปงามในชุดคลุมผ้าไหมสีเข้มปักลายมังกรทองก้าวลงมา ใบหน้าของเขาคมคายราวกับรูปสลัก ดวงตาเรียวคมฉายแววเจ้าเล่ห์แต่มีเสน่ห์ รอยยิ้มบนใบหน้าดูอบอุ่นและเป็นมิตร แต่เซียวหลันกลับรู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังเมื่อได้สบตาเขาเพียงแวบเดียว

"ท่านองค์ชายสาม" ผู้ว่าการเมืองหลี่เฉิงคุกเข่าลงทำความเคารพ เฉินเหวินยิ้มและผายมือให้ผู้ว่าการลุกขึ้น

"ท่านไม่ต้องมากพิธี" เฉินเหวินกล่าวเสียงนุ่มนวล "ข้าเพียงแค่มาเยี่ยมเยือน ไม่ได้มาเพื่อสร้างความลำบากให้แก่ผู้ใด"

แต่คำพูดของเขาขัดแย้งกับการกระทำของทหารองครักษ์ที่กำลังกวาดสายตาไปทั่วเมือง ราวกับกำลังตามหาบางสิ่งอยู่ และสายตาของเฉินเหวินเองก็จับจ้องไปยังหอโอสถเซียวที่อยู่ไม่ไกลนัก

"ที่นี่มีหอโอสถเปิดใหม่ด้วยหรือ" เฉินเหวินกล่าวเสียงเรียบ แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความสนใจ "ดูเหมือนจะได้รับความนิยมไม่น้อย"

เขาเดินตรงเข้ามาที่หอโอสถเซียวอย่างไม่ลังเล ท่ามกลางความตกตะลึงของเสี่ยวชุนและอาหลง

"ถวายบังคมฝ่าบาท" อาหลงคุกเข่าลงทำความเคารพด้วยความหวาดกลัว

เซียวหลันพยายามควบคุมสีหน้าให้นิ่งเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ นางถอนสายบัวอย่างสง่างาม "คารวะองค์ชายสาม"

เฉินเหวินยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าของเซียวหลัน ดวงตาของเขาวาววับราวกับพยัคฆ์ผู้ล่าเหยื่อ "หมอเทวดาที่ร่ำลือกันใช่เจ้าหรือไม่"

"หม่อมฉันเพียงแต่ช่วยเหลือผู้ป่วยตามวิชาที่ร่ำเรียนมาเพคะ" เซียวหลันตอบอย่างถ่อมตัว แต่น้ำเสียงไม่ได้แสดงถึงความหวาดกลัว

"ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีฝีมือล้ำเลิศ" เฉินเหวินกล่าว "บังเอิญว่าข้ารู้สึกไม่สบายใจนัก... เจ้าพอจะช่วยตรวจดูอาการให้ข้าได้หรือไม่"

นี่เป็นข้ออ้างที่ฟังดูดี แต่เซียวหลันรู้ดีว่าชายผู้นี้มิได้มาเพื่อรักษาอาการป่วย นางพยักหน้าเล็กน้อย "เชิญด้านในเพคะ"

เซียวหลันเชิญเฉินเหวินเข้าไปในห้องด้านในของหอโอสถ นางผายมือให้เขาที่นั่งบนเก้าอี้ไม้ แล้วจึงลงมือจับชีพจรอย่างชำนาญ

"ชีพจรขององค์ชายมั่นคงดี ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ" เซียวหลันกล่าวเสียงเรียบ นางจับได้ว่าเฉินเหวินมีลมปราณแข็งแกร่ง ไม่ได้มีอาการป่วยไข้ใดๆ เลย

"จริงหรือ" เฉินเหวินถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่ข้ากลับรู้สึกว่าบางอย่างในใจข้าไม่สงบ... เจ้าช่วยหาวิธีรักษาอาการนี้ได้หรือไม่"

เซียวหลันรู้ทันทีว่าเขากำลังลองเชิง นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างชาญฉลาด "ใจของคนเรายากจะรักษาให้สงบได้ หากองค์ชายไม่มีเรื่องที่ทำให้สบายใจ ยาใดก็ไม่สามารถช่วยได้เพคะ"

เฉินเหวินหัวเราะเบาๆ "น่าสนใจ... น่าสนใจนัก" เขามองเซียวหลันด้วยความประทับใจในไหวพริบของนาง "แล้วหากข้าบอกว่า... สิ่งที่ข้าไม่สบายใจนั้นคือเรื่องของตระกูลเซียวเล่า... เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าควรจะรักษาอาการนี้อย่างไร"

ทันทีที่ได้ยินคำว่า 'ตระกูลเซียว' หัวใจของเซียวหลันก็เต้นรัวอย่างแรง แต่สีหน้าของนางยังคงนิ่งเฉย

"หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ" นางตอบเสียงเรียบ "หม่อมฉันเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ไม่นาน ไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวของตระกูลเซียว"

"ไม่คุ้นเคยจริงหรือ" เฉินเหวินยิ้มมุมปาก "แต่ชื่อหอโอสถของเจ้า... เหมือนกับชื่อตระกูลนั้นมาก"

เซียวหลันยังคงรักษาใบหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด นางกล่าวตอบอย่างสุขุม "เป็นเพียงชื่อที่หม่อมฉันชื่นชอบเพคะ"

เฉินเหวินไม่เซ้าซี้ต่อ เขายิ้มอย่างมีเลศนัย "ถ้าเช่นนั้นก็แล้วไป... ข้าเพียงแค่เป็นห่วงว่าผู้ใดจะแอบอ้างชื่อของตระกูลเก่าแก่ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้แก่แคว้น"

เซียวหลันก้มหน้าลงเล็กน้อย นางรับรู้ได้ว่าเฉินเหวินไม่ได้มาเพียงแค่หยั่งเชิง แต่เขากำลังสืบหาตัวตนที่แท้จริงของนาง และเขาก็มีเงื่อนงำบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีของตระกูลเซียวอย่างแน่นอน

ก่อนจะจากไป เฉินเหวินได้ทิ้งถุงเงินจำนวนมากไว้ให้เซียวหลัน "นี่คือค่ารักษาที่เจ้าทำให้ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย... หากเจ้ามีเรื่องเดือดร้อนใดๆ ก็สามารถส่งคนมาหาข้าได้ตลอดเวลา"

คำพูดของเขานั้นดูเป็นมิตร แต่เซียวหลันรู้ดีว่านั่นคือคำเชิญชวนให้เข้าร่วมกับเขา ซึ่งนางจะไม่มีวันตอบรับ

หลังจากเฉินเหวินจากไป อาหลงและเสี่ยวชุนที่รออยู่ด้านนอกก็รีบเข้ามาหานางด้วยความตกใจ

"คุณหนู... องค์ชายสาม... เหตุใดเขาจึงมาหาคุณหนู" อาหลงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เขาดูน่ากลัวนัก"

"เขามีเรื่องบางอย่างต้องการจากข้า" เซียวหลันตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาของนางกลับฉายแววครุ่นคิด "เขามาเพื่อสืบหาตัวตนของข้า"

"แล้ว... แล้วเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ" เสี่ยวชุนถามด้วยความกังวล

"ไม่ต้องกังวล" เซียวหลันกล่าว "เขายังไม่มั่นใจในตัวข้า แต่ก็ยังไม่เชื่อในคำพูดของข้า เรายังมีเวลา"

ขณะที่เซียวหลันกำลังวางแผนรับมือกับเฉินเหวินอยู่นั้น ก็มีเงาร่างสูงโปร่งปรากฏขึ้นที่หน้าหอโอสถอีกครั้ง หลี่หยางยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า เขามองเข้าไปในหอโอสถ สายตาคมกริบของเขาจับจ้องไปยังร่องรอยของขบวนเสด็จที่หลงเหลืออยู่

"องค์ชายสามมาที่นี่ใช่หรือไม่" หลี่หยางถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซียวหลันพยักหน้า นางรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา "ท่านรู้จักเขาหรือ"

หลี่หยางไม่ตอบ แต่สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซับซ้อน เขากำหมัดแน่น ก่อนจะคลายออกอย่างรวดเร็วราวกับว่าพยายามควบคุมอารมณ์

"ข้าแค่ผ่านมา" หลี่หยางกล่าวเช่นเคย แต่คราวนี้น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างและห่างเหินกว่าทุกครั้ง

เซียวหลันรู้สึกถึงรอยร้าวบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทันที นางไม่รู้ว่าทำไม แต่หลี่หยางดูจะไม่ชอบเฉินเหวินเอาเสียเลย

"ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร" หลี่หยางกล่าวเสียงเบา "อย่าไปเชื่อเขา"

เขาหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เซียวหลันยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน พร้อมกับความรู้สึกสับสนในใจ นางเพิ่งจะเผชิญหน้ากับองค์ชายผู้ทรงอำนาจที่อาจเป็นศัตรู และบัดนี้ก็ต้องรับมือกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับชายผู้ลึกลับที่ดูเหมือนจะมีความแค้นบางอย่างกับองค์ชายผู้นั้น

โชคชะตาได้เริ่มหมุนวงล้อแล้ว... และเซียวหลันก็ถูกดึงเข้าไปในกระแสแห่งอำนาจที่ยากจะคาดเดา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 18

    หลังจากได้อ่านคัมภีร์โบราณแล้ว เซียวหลัน หลี่หยาง และเฉินเหวิน ก็ตระหนักได้ว่าสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของพลังอำนาจ แต่เป็นเรื่องของคำทำนายที่ถูกสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และพวกเขาทั้งสามก็คือผู้ที่จะต้องเข้ามามีบทบาทในสงครามนี้"ในคัมภีร์ไม่ได้ระบุวิธีหยุดยั้งสงครามไว้" เซียวหลันกล่าวด้วยความผิดหวัง "มันมีเพียงแค่คำทำนายเกี่ยวกับผู้ที่จะมาช่วยโลกเท่านั้น""แต่เราก็มาถูกทางแล้ว" หลี่หยางปลอบโยน "อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าพลังที่แท้จริงของพวกเราคืออะไร และเราจะสามารถใช้มันในการต่อสู้กับคนพวกนั้นได้อย่างไร""ข้ามีแผน" เฉินเหวินกล่าว "เราจะกลับไปที่วังหลวง"เซียวหลันและหลี่หยางมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ “อะไรนะ!?" เซียวหลันถาม "ท่านจะให้เรากลับไปที่นั่นได้อย่างไร ในเมื่อที่นั่นเป็นกับดัก""ใช่... มันเป็นกับดัก" เฉินเหวินตอบ "แต่ตอนนี้... เราก็สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน" เขามองไปยังแผนที่บนผนังถ้ำ "ในแผนที่นี้... มีสถานที่ลับอีกแห่งหนึ่

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 17

    พันธมิตรที่เปราะบางได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วในถ้ำลับอันมืดมิด เฉินเหวินที่เคยเป็นศัตรูร้าย บัดนี้ยืนอยู่เบื้องหน้าเซียวหลันและหลี่หยางในฐานะสหายร่วมชะตากรรม"ก่อนที่เราจะเริ่ม" เซียวหลันเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของนางยังคงเจือความระแวง "ท่านต้องบอกความจริงทั้งหมด... ว่าท่านเกี่ยวข้องอะไรกับอดีตของพวกเรา"เฉินเหวินยิ้มอย่างขมขื่น เขามองไปยังแผนที่บนผนังถ้ำ "เจ้าคิดว่าข้าชื่นชอบการเป็นหมากในเกมอำนาจของตระกูลข้าหรือ"เขาเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้เซียวหลันและหลี่หยางฟังอย่างละเอียด เขาเกิดในตระกูลที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและต้องการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ พลังที่เขาใช้ในการต่อสู้ไม่ใช่พลังของตนเอง แต่เป็นพลังที่ถูกผนึกไว้ในตัวเขาตั้งแต่ยังเด็ก เขาถูกฝึกฝนให้กลายเป็นอาวุธที่มีชีวิต เพื่อที่จะใช้ในการทำลายศัตรูของตระกูล"ข้าถูกบังคับให้ทำร้ายครอบครัวของเจ้า" เฉินเหวินกล่าว "และข้าก็ถูกบังคับให้ทำร้ายครอบครัวของมัน" เขาชี้ไปที่หลี่หยาง "ข้า... เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไร้หัวใจ"

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 16

    เมื่อรุ่งอรุณมาเยือนเมืองหลวงอีกครั้งเซียวหลันและหลี่หยางก็เดินทางมาถึงนอกกำแพงเมืองที่เคยเป็นเสมือนกรงขังเมื่อคืนวานนี้แล้ว พวกเขายังคงสวมชุดที่มอมแมมและเต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ แต่ดวงตาของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเดินไปบนเส้นทางที่พวกเขาเลือกแล้ว"เราจะไปไหนกันดี" เซียวหลันถามขณะมองดูเมืองที่เงียบสงบในยามเช้า"เราต้องไปหาคนที่จะช่วยเราได้" หลี่หยางตอบ "และข้ารู้ว่าใครคือคนผู้นั้น"เซียวหลันพยักหน้าอย่างเข้าใจ พวกเขาทั้งสองเริ่มเดินทางไปยังทิศทางที่หลี่หยางบอก เส้นทางที่พวกเขาเลือกนั้นคือเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรค พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่ดักซุ่มอยู่ตามเส้นทาง และต้องต่อสู้กับสัตว์ร้ายในป่าที่รกทึบแต่ด้วยความสามารถของพวกเขา ทั้งสองคนก็สามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ในที่สุด หลี่หยางใช้พลังอัคคีที่เพิ่งฟื้นคืนมาในการต่อสู้ ในขณะที่เซียวหลันก็ใช้พลังแห่งแสงในการรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้ทั้งสองคนได้เรียนรู้ที่จะร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบ

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 15

    ดูเหมือนว่าโชคชะตาของเซียวหลันและหลี่หยางจะอยู่ในกำมือของเฉินเหวินไปเสียแล้ว คำพูดของเฉินเหวินเป็นดังคำประกาศศักดิ์สิทธิ์ที่ลิดรอนอิสระไปจากพวกเขาทั้งคู่ ชะตากรรมของพวกเขาเหมือนถูกขังเอาไว้ในกรงขนาดใหญ่ ทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะหนีไปจากโชคชะตาในครั้งนี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมีความมุ่งมั่นมากพอที่จะจับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันตามเส้นทางที่ตัดสินใจเลือก"เราจะทำอย่างไรกันดี" เซียวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง"เราจะออกจากที่นี่" หลี่หยางตอบอย่างหนักแน่น "เราจะไปจากวังแห่งนี้และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสร้างขึ้น"เซียวหลันส่ายหน้า “แต่... เราทำไม่ได้... ที่นี่เต็มไปด้วยทหารของเขา และท่านก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้""ข้าไม่เป็นไร" หลี่หยางกล่าว "ข้ายังมีพลังที่เหลืออยู่" เขามองเข้าไปในดวงตาของเซียวหลัน "เชื่อข้า... เราต้องไปจากที่นี่"เซียวหลันมองเขาด้วยความรู้สึกที่สับสน แต่ในที่สุดนางก็พยักหน้าอย่างจำยอม นางรู้ดีว่าห

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 14

    เซียวหลันและหลี่หยางมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ คำพูดของเฉินเหวินยังคงดังก้องอยู่ในห้องอันเงียบสงบ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็แบกรับความลับที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ และบัดนี้ความลับนั้นได้กลายเป็นภาระที่พวกเขาต้องแบกรับร่วมกัน"ท่าน... ไม่เป็นไรใช่ไหม" เซียวหลันถามเสียงแผ่ว นางยังคงรู้สึกผิดที่ทำให้หลี่หยางต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้หลี่หยางพยักหน้าเล็กน้อย "ข้าไม่เป็นไร... แต่เราไม่มีเวลาแล้ว""เราจะทำอย่างไรกันดี" เซียวหลันถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง "เราถูกขังอยู่ที่นี่ และพลังของท่านก็... หายไปแล้ว""พลังของข้าไม่ได้หายไป" หลี่หยางกล่าว "มันแค่หลับใหลไปชั่วคราว" เขามองเข้าไปในดวงตาของเซียวหลัน "เจ้าต้องช่วยปลุกมันขึ้นมาอีกครั้ง"เซียวหลันส่ายหน้า "ข้าทำไม่ได้... ข้าเคยลองแล้ว และข้าก็เกือบจะเสียชีวิต""เชื่อข้า" หลี่หยางกล่าวอย่างหนักแน่น "ในตอนนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยข้าได้"เซียว

  • มธุรสวาทเจ้าสำนัก   บทที่ 13

    เซียวหลันมองเฉินเหวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เพราะคำพูดของเขาฟังดูไม่เข้าหูนางเลยสักนิด คำพูดเหล่านั้นเป็นดั่งคมมีดกรีดลึกเข้าไปในจิตใจของนาง แต่นางก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้นอกไปจากความรู้สึกยอมจำนน"ท่าน... ทำเช่นนี้ทำไม" เซียวหลันถามเสียงสั่นเครือ "ท่านต้องการอะไรกันแน่"เฉินเหวินยิ้มเล็กน้อย เขามองไปยังหลี่หยางที่นอนอยู่บนเตียง "ข้าต้องการพลังที่แท้จริงของเจ้า และข้าต้องการผู้ที่สามารถต่อกรกับคนพวกนั้นได้" เขาหันกลับมามองเซียวหลัน "ส่วนเรื่องการกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลเจ้า... มันเป็นเพียงสิ่งล่อใจให้เจ้าเข้ามาในวังของข้า"เซียวหลันกำหมัดแน่น นางรู้สึกราวกับถูกหลอกใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกไร้หนทางที่จะหลีกหนี"แล้ว... ท่านจะทำอย่างไรกับข้า" เซียวหลันถาม"เจ้าไม่ต้องห่วง" เฉินเหวินตอบ "ข้าจะช่วยเจ้าฝึกฝนพลังของเจ้าให้แข็งแกร่งขึ้น และเมื่อถึงตอนนั้น... เจ้าก็จะเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของข้า"เซียวหลันส่ายหน้า "ข้าจะไม่ยอม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status