Share

6

last update Last Updated: 2025-05-07 21:16:21

“ไอ้แนต...อีแนต!”

ธีทัตร้องทักเสียงดังแต่หน้าตาร่าเริงผิดกับภาษาที่ใช้ ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าคนที่เขาเพิ่งเอ่ยชื่อมานี้ต้องสนิทสนมกันพอสมควร และก็จริงตามนั้น เพราะหญิงสาวร่างสูงชะลูดราวนางแบบวิกตอเรียซีเคร็ตไม่แสดงทีท่าโกรธขึ้ง แม้เธอจะเชิดหน้าขึ้นอย่างคนที่ทนงในความสวยก็ตามที

“แนตตี้ค่ะ และไม่มีคำว่าไอ้อีนำหน้าด้วย ได้โปรดสุภาพกับสตรีด้วยนะคะไอ้คุณธี”

แนตตี้หรือชื่อในบัตรประชาชนว่านาตาชาสวนกลับเพื่อนรักทันควัน ธีทัตหัวเราะ เดินตรงไปหาให้ใกล้พอจะดึงแนตตี้ไปกอดและหอมแก้มซ้ายขวาอย่างมันเขี้ยว

"ว้าย กรี๊ด คนลามก อย่ามาถูกเนื้อต้องตัวฉันนะ!"

แนตตี้วี้ดว้ายอย่างรังเกียจ แต่สองมือกลับถือโอกาสลูบคลำกล้ามแน่น ๆ ของธีทัต ธีทัตก็ไม่หวงตัว ยังคงกอดรัดเธออย่างมันเขี้ยวจนแนตตี้ต้องเป็นฝ่ายร้องขอชีวิต

“โอ๊ย อีธี จูบขนาดนี้มึงลากกูไปปล้ำเลยมั้ยคะ”

“ก็สวยจนอดใจไม่ไหวนี่ครับ แต่คุณนาตาชาพูดมึงพูดกูทีไร หมดสวยทุกทีนะคุณ”

“ค่ะ!”

แนตตี้มองค้อน ก็ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งจนถึงปีห้า ไม่เคยมีวันไหนที่ในคณะจะไม่พูดภาษาพ่อขุนรามฯ ใส่กัน

“แล้วนี่มาทำไมอีก บ้านช่องไม่คิดจะกลับหรือไง อยู่นานไปแล้วนะแกน่ะ”

“ไม่ได้มาหาคุณค่ะ มาหาน้องรหัสดิฉัน”

แนตตี้ตอบ เธอแต่งงานกับสามีชาวเยอรมันและตั้งรกรากที่นั่นมาหลายปี เพิ่งกลับมาหาตายายกับน้องสาวที่เชียงใหม่และอยู่ยาวมาได้สามสัปดาห์แล้วเพราะถือว่านาน ๆ จะได้กลับเมืองไทย

“พี่แนต!”

เสียงร้องดังออกมาจากตัวบ้านที่ทำเป็นโฮมออฟฟิศ ลูกหมีหรือรัศมีจันทร์ สาวน้อยวิศวกรโยธาวิ่งออกมาด้วยความดีใจพลางยกมือไหว้พี่รหัสคนสวย...คนที่ครั้งหนึ่งเคยมีเพศสภาพเป็นชายแท้หน้าอ่อนใสจนรุ่นน้องในคณะหลายคนแอบกรี๊ดกร๊าด

จนเมื่อรุ่นพี่คนนั้นได้ทุนไปเรียนต่อระยะสั้นที่ประเทศเยอรมนีแล้วได้พบรักกับแฟนหนุ่มต่างชาติ ก็ตกลงแต่งงาน ผ่าตัดเปลี่ยนตัวเองเป็นหญิงเต็มตัว และเปลี่ยนชื่อจากนัฐสิทธิ์เป็นนาตาชา หรือแนตตี้มาถึงทุกวันนี้

“ไงลูกสาว” แนตตี้กางเขนโอบไหล่รุ่นน้องคนสนิทที่ตอนนี้มาทำงานกับธีทัต

“เย็นนี้ว่างไหม จะชวนไปกินหมูกระทะ”

“ว่างค่ะว่าง”

“สามีขอไปด้วยสิ” ธีทัตทำเสียงออดอ้อน แนตตี้จิกตามองอย่างหมั่นไส้

“ต่อให้ฉันไม่ชวนแกก็เสนอหน้าไป ฉันรู้ดี”

“เมียจ๋ารู้ใจสามีที่สุด”

รัศมีจันทร์มองหน้ารุ่นพี่สองคนสลับกันไปมา ยิ้มพราว

“พี่ธีกับพี่แนตอย่างกับแฟนกันจริง ๆ”

“แล้วใครว่าไม่ใช่ล่ะ” ธีทัตยังหยอกไม่เลิกก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งมีใครบางคนเข้าใจผิดคิดว่านัฐสิทธิ์เป็นแฟนของเขาจริง ๆ เหมือนกัน

“เออลูกหมี เข้าไปข้างในก่อน พี่ขอยืมตัวแนตตี้แป๊บ มีอะไรจะคุยกับมันหน่อย”

“โอเคจ้ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะพี่แนต”

รัศมีจันทร์บอกก่อนจะวิ่งปรู๊ดกลับเข้าไปด้านในอย่างว่องไวตามประสาคนไฮเปอร์

“มีอะไรจ๊ะ ว่ามา”

แนตตี้หันกลับมาหาเพื่อนรัก

“แกยังอยู่เมืองไทยอีกหลายวันใช่ไหม”

“อีกสองสัปดาห์เลย จองตั๋วกลับไว้แล้วกลางเดือนหน้า”

“ถ้าอย่างนั้นระหว่างนี้ถ้าพอมีเวลาว่าง ทำอะไรให้ฉันสักอย่างสิ”

“ทำอะไรคะ” หญิงสาวหรี่ตามอง “อย่าบอกนะว่าให้ทำ...”

“พอ ๆ หยุดความคิดลามกจกเปรตไว้เดี๋ยวนี้ นี่กูซีเรียส” ธีทัตรีบบอก อุตส่าห์พูดไพเราะก็ต้องหลุดพูดจาภาษาพ่อขุนอีกจนได้ แนตตี้หัวเราะอารมณ์ดี

“เออ ๆ ล้อเล่น จะให้ทำอะไรว่ามา จะบุกน้ำลุยโคลนหรือว่าอยากจะโอนสัญชาติเป็นเยอรมัน ว่ามาได้เลย”

ธีทัตหัวเราะ ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันในวันรับน้องของคณะจนกระทั่งถึงตอนนี้ นาตาชาหรือนัฐสิทธิ์คือหนึ่งคนที่ไม่เคยปฏิเสธคำไหว้วานร้องขอของเพื่อน ๆ ทั้งที่หมอนี่เรียกได้ว่ามาจากครอบครัวที่ฐานะยากจนข้นแค้นที่สุด แต่กลับมีน้ำใจกว้างใหญ่เหมือนมหาสมุทร นัฐสิทธิ์เป็นคนเรียนเก่ง เป็นอัจฉริยะด้านวิชาคำนวณ หาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นติวเตอร์ให้น้อง ๆ ชั้นมัธยมฯ ปลายที่อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัย และก็ยังเป็นติวเตอร์ให้เพื่อนในคณะอีกด้วย

“ก็ไม่ได้มีอะไรยากเย็น แค่อยากขอให้แกกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง”

“เป็นนักเรียน?”

คิ้วเรียวสวยเลิกสูง ธีทัตพยักหน้ายิ้ม ๆ 

"ใช่ อยากให้แกช่วยไปเป็นนักเรียนของคนรู้จักหน่อย เขาก็ไม่ได้เป็นครูมืออาชีพหรอกนะ แต่ทำขนมเก่ง ขนมไทยน่ะ อยากพาแกไปแนะนำให้รู้จัก"

"แล้วทำไมไม่พาไปเฉย ๆ ทำไมต้องให้ไปเรียนด้วย...แต่ เอ... ขนมไทยเหรอ ก็น่าสนนะ จะได้เอาไปทำให้เดวิดกินที่เยอรมัน รายนั้นชอบเหลือเกินอาหารไทยขนมไทย"

"นี่ไง พอดีเลย แกก็จะได้ไปเรียนทำขนม แค่วันเดียวก็น่าจะพอ เดี๋ยวฉันติดต่อให้เอง"

แนตตี้ยักไหล่นิด ๆ อย่างคนไม่คิดมาก และไม่คิดจะซักถามให้มากความอีกว่าทำไมเธอต้องทำอะไรแบบนั้น เพราะธีทัตเป็นเพื่อนสนิทที่เธอเชื่อใจเป็นอย่างมาก ถ้าเพื่อนรักอยากให้ทำอะไรหรือให้ช่วยอะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง คนอย่างแนตตี้ก็ทำให้ทันทีอย่างไม่มีข้อสงสัยเลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   18

    ภูมิวัตน์ส่งต่อบ้านให้เพื่อนอย่างเรียบร้อยก่อนตัวเองจะย้ายไปอเมริกา ธีทัตจึงได้เวลาขนของย้ายเข้าไปอยู่อย่างเป็นทางการ และเริ่มตกแต่งทั้งข้างนอกและข้างในให้เข้ากับรสนิยมตัวเองธิดาแม้ไม่อยากให้ลูกชายแยกบ้านแต่ก็ต้องยอมรับว่าบ้านและที่ดินหลังนี้สวยงามคุ้มค่าน่าอยู่"ภูมิเพื่อนลูกเขาดูแลบ้านดีมากเลยนะ ไม่มีเสียหายตรงไหนเลย แล้วลูกจะขึ้นบ้านใหม่เมื่อไรล่ะธี”คนเป็นแม่ถามระหว่างเดินสำรวจบ้าน"ใหม่ที่ไหนแม่ ซื้อต่อจากไอ้ภูมิก็ไม่ใหม่แล้วสิ""ก็ใหม่ของเรา จะเก่าของใครก็ช่างสิ”ธิดาพูดพลางเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ตัวบ้าน ฝ้าเพดานในห้องรับแขกที่สูงไปถึงชั้นสองทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง"ถึงธีจะไม่ได้นอนที่นี่ทุกวัน แต่ยังไงมันก็เป็นบ้านของเราแล้ว ทำบุญเลี้ยงพระสักทีก็น่าจะดีนะลูก ถ้าไม่อยากจัดอะไรให้ยุ่งยาก แค่นิมนต์พระมาสัก ๙ รูป ๑๒ รูปก็ได้""ทำอย่างที่แม่เขาบอก พ่อว่าก็ดีนะ"คงเดชออกความเห็นบ้าง"ก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเอาไว้ผมเช็คตารางงานก่อน แล้วได้วันไหนจะบอกแม่อีกที"ธิดาคิดว่าอาจต้องรออีกหลายวั

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   17

    “อ้าว...นั่นคุณธีมานี่คะ”ดอกรักที่กำลังจัดเรียงถุงต้นกล้าให้เข้าที่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใครที่อยู่หน้าร้าน มีแค่สองคนที่ยังเรียกธีทัตว่าคุณ ก็คือพี่ดอกรักกับน้าน้อย เพราะทั้งคู่มีอายุมากกว่าธีทัตหลายปี ส่วนมนิษานั้นไม่นับ หญิงสาวนึกอยากจะใช้สรรพนามเรียกขานชายหนุ่มว่าอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะนั้นและตอนนี้มนิษาก็ใจหายวาบเมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมาหลายวัน ก่อนจะค่อย ๆ หันไปหาเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตรงข้ามกับใบหน้าคมคุ้นตามที่เดินยิ้มแฉ่งตรงมาหาพร้อมถุงของฝากเต็มสองมือ“สวัสดีครับพี่ดอกรัก”“สวัสดีค่ะคุณธี หายไปไหนตั้งนานคะ ไม่เห็นหน้าเลย”“เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ ครับ...ไปทำงานมา”ประโยคหลังเขาตั้งใจเอ่ยกับเจ้าของร้านต้นไม้“อ้าว... น้องมะนาวก็อยู่ด้วยหรือนี่ พี่ไม่ทันเห็น สวัสดีจ้ะ”มนิษาแยกเขี้ยวใส่ รู้ว่าเขาแกล้ง“ผมซื้อของมาฝากครับพี่ดอกรัก” ดอกรักรีบถอดถุงมือออกก่อนเอื้อมมือไปรับถุงของฝากจากชายหนุ่ม ธีทัตซื้อมาฝากครบทุกคนเหมือนเช่นเคย แต่ถุงสุ

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   16 (ยังไม่จบ)

    เสียงฝีเท้าหลายคู่พร้อมกับเสียงพูดคุยครึกครื้นที่หน้าร้าน ทำให้มนิษาที่กำลังทอนเงินให้ลูกค้า หันขวับไปหาทันทีโดยอัตโนมัติ แต่ในบรรดาลูกค้ากลุ่มใหญ่นั้น กลับไม่มีใบหน้าที่เธอคุ้นเคยและเผลอคาดหวังว่าจะได้เห็น... พี่ดอกรักกับน้าน้อย รีบเข้าไปบริการลูกค้ากลุ่มใหม่ดังกล่าว คนงานทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของร้านต้นไม้แห่งนี้มาตั้งแต่มนิษายังเป็นเพียงเด็กมัธยมฯ เธอไว้ใจพวกเขาได้เท่ากับที่ไว้ใจครอบครัวของตัวเอง หญิงสาวจึงไม่เข้าไปวุ่นวายและเลิกจะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านเงียบ ๆ ด้วยอาการเงื่องหงอย"วันนี้ทำอะไรน่ะพี่ส้ม" มะนาวถามเนือย ๆ เมื่อโผล่หน้าเข้าไปในครัวและเดินตรงไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วให้ตัวเอง "ขนมกรวยจ้ะ" "ทำคนเดียวเหรอ ไม่ให้นิดหน่อยมาช่วยล่ะ" "ทำคนเดียวได้ ทำง่ายแล้ววันนี้พี่ก็ทำไม่เยอะจ้ะ" คนเป็นพี่สาวตอบ กำลังหยอดแป้งลงในกรวยใบตองที่ม้วนเตรียมไว้แล้ว ตัวแป้งเนื้อขนมทำไม่ยาก ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งถั่วเขียวอีกนิดหน่อย เติมกะทิ น้ำตาลปี๊บ เหยาะเกลือเล็กน้อยอย่าเผลอหลุดมือใส่ลงไปเยอะ แล้วก็กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   15

    “เมื่อไรมึงจะยอมไปนอนบ้านกูสักที มากี่หนก็จะนอนแต่โรงแรม” ทยากรเอ่ยกับธีทัตที่เพิ่งมาถึงกรุงเทพฯ เขาขับรถมารับเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนที่สนามบิน ชวนแวะกินข้าวร้านประจำก่อนจะไปส่งโรงแรม“กูชอบอาหารเช้าโรงแรม มึงทำไม่อร่อยไงไอ้ทอยกูเลยไม่อยากไปนอนด้วย”ธีทัตแกล้งตอบ ทยากรหัวเราะหึ ๆ รู้ว่าเพื่อนเกรงใจเพราะตอนนี้แฟนสาวของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ถ้าทยากรอยู่คนเดียวตามประสาหนุ่มโสดแบบเมื่อก่อน ธีทัตก็คงจะไม่ปฏิเสธทยากรคือหุ้นส่วนหนึ่งในสามคนของ ‘ทรีทีพรอเจคต์แอนด์ดีไซน์’ เมื่อสถาปนิกหนุ่มเรียนจบปริญญาตรีที่เชียงใหม่ เขาลงขันเปิดบริษัทกับธีทัตและเพื่อนรักอีกหนึ่งคนที่เรียนสถาปัตย์เหมือนกัน โดยมีธีทัตเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่สุดคือถือหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ทยากรกับเพื่อนอีกคนคนละยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ แบ่งหน้าที่กันไปตามความถนัดแม้สำนักงานหลักจะอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ตัวทยากรเองก็มารับงานที่กรุงเทพฯ ที่เป็นบ้านเกิดของเขา วันนี้ที่ธีทัตเดินทางมาก็เพื่อจะมาช่วยประเมินโครงสร้างอาคารของโปรเจกต์ใหม่ที่บริษัทเพิ่งเซ็นสัญญารีโนเวต

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   14

    วันนี้ป้าองุ่นขับโฟล์กสวาเก้นรุ่นปี ๑๙๖๗ หรือ 'รถเต่า' สีน้ำเงินของตัวเองมากินข้าวเที่ยงกับหลานสาวอีกเช่นเคย นอกจากจิ๊นหมูนึ่ง[1] ผักนึ่ง ตำบะหนุน[2] น้ำพริกข่า[3] กับข้าวนึ่ง(ข้าวเหนียว) สริดาก็ยังเตรียมมะยงชิดลอยแก้วใส่กล่องไว้ให้เรียบร้อยเพราะรู้ว่าป้าจะต้องไปเที่ยวหาป้าธิดาเพื่อนสนิท หญิงสาวจึงทำเผื่อไปฝากบ้านนั้นอีกกล่องใหญ่ ๆ“เมื่อวานพี่ธีซื้อมาฝากเยอะแยะเลยค่ะ ส้มเลยแบ่งทำมะยงชิดโซดาให้คนงานกินแก้เหนื่อย แล้วก็แบ่งทำลอยแก้วให้ป้าหงุ่นกับป้าธิดาด้วย”“ขอบใจนะส้ม นี่ป้าไม่ได้กินมานานแล้วนะนี่”“มะยงชิดลอยแก้วทำง่ายค่ะป้าหงุ่น ถ้าวันไหนป้าอยากกินอีกบอกส้มก็ได้นะคะ แค่ปอกเปลือกคว้านเมล็ด แล้วก็ทำน้ำเชื่อม ตอนจะกินก็แค่ตักน้ำเชื่อมราด เติมน้ำแข็งอีกหน่อย เหมาะกับอากาศบ้านเราตอนนี้สุด ๆ”คนเป็นหลานบอกพลางตักให้ป้าชิมหนึ่งถ้วยใหญ่ ๆ“มะนาวไม่กินเหรอ”สริดาถามน้องสาวอย่างแปลกใจเพราะปกติมนิษาจะต้องถามหาของหวานด้วยเสมอ แต่วันนี้เจ้าหล่อนส่ายหน้าดิก ตั้งปณิธานว่าจะไม่ยอมกินของฝากของธีทัตให้ป้าองุ่นเห็นเด็ดขาด“พ่อธีนี่ก็น่ารักจริง ๆ เลยน

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   13

    ในห้องครัว สริดากำลังตั้งหม้อนึ่งถั่วเขียวซีกเพื่อเตรียมจะทำขนมถั่วแปบ ตอนที่มนิษากับนิดหน่อยช่วยกันยกกล่องลังผลไม้เข้ามาหลายกล่อง“พี่ธีเอามะยงชิดมาฝากค่ะพี่ส้ม”นิดหน่อยรีบบอกโดยไม่ต้องรอให้ถามตอนแรกคนงานทุกคนไม่กล้าเรียกธีทัตว่าพี่ และยืนยันจะเรียก “คุณธี” เหมือนที่เรียกลูกค้าคนอื่น ๆ แต่เมื่อชายหนุ่มมาเป็นแขกบ้านนี้บ่อยครั้งเข้า และทุกครั้งที่มาเขาก็ขอร้องให้ทุกคนเลิกใช้คำเรียกขานที่ห่างเหิน คนงานทุกคนจึงค่อย ๆ เรียกเขาว่าพี่ธีหรือธีเฉย ๆ ได้อย่างสนิทปากสนิทใจ (แต่แน่ล่ะว่าสร้างความหมั่นไส้ให้ มนิษาอย่างที่สุด)“พี่ธีเอามาฝาก? ทั้งหมดนี่เลยหรือ”สริดาเปิดกล่องแล้วหยิบพวงมะยงชิดมาชื่นชมอย่างแปลกใจ แต่ละลูกผลใหญ่ ผิวสีส้มเนียนสวยน่ารับประทาน“ใช่แล้วจ้ะ ตอนแรกหนูนึกว่ามะปราง แต่พี่ธีบอกว่าเป็นมะยงชิด มันต่างกันยังไงอะพี่ส้ม”นิดหน่อยถามซื่อ ๆ ก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้จักผลไม้ในประเทศตัวเองได้หมดนี่นา“ที่จริงมันก็คือมะปรางเหมือนกันนั่นล่ะจ้ะ มะปรางจะผลเล็กกว่ามะยงชิดแต่เม็ดในใหญ่กว่า เปลือกจะออกนวล ๆ แล้วก็หวานจัดกว่าด้วย แต่

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   12

    เมื่อถึงห้องน้ำ ฟ้าลดาโก่งคออาเจียนอาหารออกมาจนหมดท้อง เธอรู้สึกคลื่นไส้มาเป็นเดือนแล้ว กินได้แต่น้ำผักผลไม้ แม่ก็สังเกตเห็นแต่หญิงสาวก็อ้างเพียงว่ากินแต่อาหารจืด ๆ มานานจนท้องไส้ไม่ค่อยยอมรับอาหารรสจัดแบบไทย ๆล้างปากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็พาร่างบอบบางจนแทบปลิวลมกับใบหน้าซีดเซียวเดินออกจากห้องน้ำ ยังไม่อยากกลับไปที่โต๊ะแต่เลือกเดินออกไปสูดอากาศด้านนอกที่ระเบียงติดแม่น้ำเมื่อผลักประตูกระจกออกมา สายลมของเดือนมีนาคมก็สัมผัสใบหน้า แม้จะเป็นสายลมอุ่นแต่ก็ทำให้หายใจได้โล่งขึ้น เมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้น หญิงสาวนักเรียนนอกจึงหันกลับจะเข้าไปในร้าน ลูกค้าจากด้านในกำลังผลักประตูกระจกออกมาพอดีเธอจึงหยุดรอ ร่างสูงชะงักกึกตอนที่หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาตาคมเข้มคู่นั้น ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้างขึ้นพร้อมกัน“ฟ้า!”“ธี!”***สามปีก่อน...“ไม่อยากให้ฟ้าไปเลย แค่คิดว่าต้องอยู่คนเดียวก็ใจจะขาดแล้ว”ธีทัตออดอ้อนร่างบางเปล่าเปลือยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา สองร่างอิงซบกันอยู่บนเตียงกว้าง ห้วงยามหวามหวานเพิ่งผ่านพ

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   11

    ธีทัตยอมรับว่าเงินซื้อบ้านหลังนี้ไม่ใช่เงินที่เขาหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองทั้งหมด แต่เป็นเงินมรดกจากปู่ย่าตายายที่ส่งต่อมาให้กับพ่อกับแม่ในรูปแบบของที่ดิน ตลาด โรงงาน และกิจการอีกหลายอย่าง และดอกผลจากธุรกิจเหล่านั้นก็ส่งต่อมาถึงเขาอีกทีเมื่อตกลงกันได้ ภูมิวัตน์ก็ยิ้มโล่งใจ ธีทัตโอบไหล่เพื่อน“คืนนี้ไปหาอะไรดื่มกัน อีกหน่อยมึงไปอยู่นู่นก็ไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว เดี๋ยวคืนนี้กูเลี้ยงเอง”“ไม่ได้ ๆ มึงจะซื้อบ้านกูทั้งที ให้กูเลี้ยงเอง”ภูมิวัฒน์รีบบอก ก่อนจะกดโทรศัพท์ชวนเพื่อนสนิทอีกสี่ห้าคนออกไปสังสรรค์กันในคืนนี้ **ธีทัตกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนจะออกไปเจอกับเพื่อนที่ร้านอาหารที่ภูมิวัตน์จองไว้ เขาแวะบอกพ่อกับแม่ให้กินข้าวเย็นได้เลยไม่ต้องรอ และบอกด้วยว่าเขาตกลงจะซื้อบ้านใหม่ต่อจากเพื่อนแล้ว“ตกลงซื้อแน่ใช่ไหมลูก”คงเดชถามย้ำ เขาได้เห็นรูปบ้านที่ลูกชายส่งมาแล้ว“ครับพ่อ ราคานี้แทบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว เข้าอยู่ได้เลย”“โอ๊ย... เงินทองน่ะมีก็เก็บ ๆ กันไว้บ้างเถอะ”ธิดาเอ่ยขัดพลางมองลูกชายตาเขียว

  • มะนาวลายส้ม My Lemon My Orange   10

    “จริงเหรอ หมู่นี้ธีไปหาส้มหวานแทบทุกสัปดาห์เลยเหรอ”องุ่นถามย้ำอย่างตื่นเต้นเมื่อ ‘สายลับ’ ของหล่อนที่ทำงานอยู่บ้านหลานสาว โทรศัพท์มาบอก“ใช่ค่ะป้าหงุ่น เดือนก่อนคุณธีพาเพื่อนมาเรียนทำขนมกับพี่ส้ม ตอนนี้เห็นว่าเพื่อนกลับเยอรมันไปแล้ว แต่คุณธีก็ยังแวะมาหาทุกอาทิตย์ มากินข้าวบ้าง มาซื้อต้นไม้บ้าง หนูว่าเป็นข้ออ้างทั้งนั้นล่ะค่ะ...”สายขององุ่นหัวเราะคิกคัก ก่อนพูดต่อไปว่า“คุณธีคงจะเดินหน้าจีบพี่ส้มหวานจริง ๆ จัง ๆ อย่างที่ป้าหงุ่นหวังแล้วล่ะค่ะ”“ขอให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็แล้วกัน ป้าล่ะกลัวจะแก่ตายก่อนได้เห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝา”“อ้าว... ทำไมจู่ ๆ พูดแช่งตัวเองอย่างนั้นล่ะคะ”“เออ ๆ ฉันก็พูดไปเรื่อยเปื่อยนั่นล่ะ”องุ่นว่า หล่อนเพิ่งเกษียณจากราชการในตำแหน่งศึกษานิเทศก์ยังไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ คงยังเร็วไปที่จะพูดจาดราม่าแบบวัยไม้ใกล้ฝั่ง“ขอบใจนะนิดหน่อยที่โทรมารายงานความคืบหน้า มีอะไรก็โทรมาบอกอีกนะ”“ได้เลยค่ะป้าหง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status