ทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก
“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”
เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ
“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”
ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม
“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”
เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยัน
เธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้
“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”
ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน
“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ
“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”
เด็กกาวกระชากผมเธอขึ้นมา ดวงตายิปซีคลอด้วยน้ำตาแต่ยังตวาดกลับ เสียงคอนเสิร์ตด้านในแว่วเบา ๆ เหมือนโลกคนละใบ
“เออ หมามันยังมีเจ้าของ แต่แกมันหมาไม่มีใครเลี้ยง ไอ้สวะ”
มือเธอฟาดหน้ามันกลับจนเลือดซึมตรงคิ้ว ทั้งคู่ล้มกลิ้งบนพื้นเปื้อนคราบน้ำมันรถ เสียงคนเดินผ่านหน้าเวทีแต่ไม่มีใครรู้ว่ามีความสกปรกเกิดขึ้นหลังเวทีแสงนีออน
“แกทำฉันเจ็บได้ไม่เกินนี้หรอก ไอ้โง่"
“อย่าคิดว่าฉันจะหยุดง่าย ๆ ถ้าไม่ได้เงิน”
เสียงยิปซีหอบเหมือนหมาไล่กัด เสียงหวอดตำรวจดังเข้ามาเพราะทีมรักษาความปลอดภัยสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดพอดี
ภาพเหตุการณ์ดาราสาวชื่อดัง ยิปซี มีปากเสียงกับวัยรุ่นชายด้านล่างคอนโด ผู้ประกาศข่าวเปิดคลิปภาพเบลอหน้า เผยสภาพยิปซีหน้าแตก แขนเข้าเฝือก ข้างเตียงโรงพยาบาลมีตำรวจเฝ้า แสงแฟลชนักข่าวยังตามติด แต่เธอทำหน้าเหยเกไม่อยากให้ใครเห็น
“แหล่งข่าวเผยว่า เหตุการณ์นี้อาจเชื่อมโยงกับเหตุพยายามทำร้ายร่างกายศิลปินในค่ายเพลงชื่อดัง”
เธอกลายเป็นประเด็นร้อน #ยิปซีคอนแตก #นางเอกตบเด็กกาว กระฉ่อนออนไลน์ในพริบตา
เช้าวันถัดมา
“เธอนี่มัน…ทำไมถึงทำตัวได้ขนาดนี้ ยิปซี”
เสียงเอเอผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลยิปซีมาตั้งแต่เข้าวงการ สั่นพร่าเล็กน้อยเพราะทั้งสงสาร ทั้งผิดหวัง ทั้งเหนื่อยใจ
เธอพยายามประคองเสียงไม่ให้ดังเกินไปเพราะได้ยินเสียงแฟลชนักข่าวปะทะกระจกหน้าห้อง บนเตียงคนไข้ในเฝือกแขนเดียว ใบหน้าบวมเป่งรอยฟกช้ำ ยิปซีเบ้ปากเหมือนไม่อยากฟัง
“ฉันเจ็บไปหมดแล้วนะ พูดดี ๆ ไม่ได้รึไง”
“มันไม่ใช่เรื่องแค่เจ็บ ฉันปั้นเธอมาทั้งหมดนี่ให้ไปก่อเรื่องฉาวหน้าทางเข้าคอนโด ยังมีจ้างเด็กกาวมาขู่คนอื่น แล้วสุดท้ายกลายเป็นโดนตีกลับเอง มันน่านักแก ”
เอเอขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ เตียงคนไข้สั่นตามแรงมือที่ทุบพนักเบา ๆ จากความคับแค้นใจ
“ฉันไม่ได้จะให้มันเลวขนาดนี้มันแค่ต้องสั่งสอนนังร้อยดาว”
เสียงยิปซีเถียงอย่างคนไร้ทางออก น้ำตาคลอแต่ไม่ยอมไหล เธอยกมือจะปิดหูแต่เจ็บจนสะดุ้งเพราะเฝือกดามแขน
“เธอเคยเป็นนักแสดงนะ เธอเคยมีคนรักเธอ เธอเคยมีแฟนคลับ มีโอกาสดี ๆ เต็มมือ แล้วเธอเลือกทำลายมันด้วยวิธีสกปรกแบบนี้”
เอเอกัดฟันแน่น สายตานิ่งเหมือนจะไม่ใช่ผู้จัดการที่เอ็นดูดาราอีกต่อไป มองเธอเหมือนเห็นเพียงซากนางเอกที่ไม่มีค่าอะไรจะให้รักษาแล้ว
“งั้นจะทิ้งฉันใช่มั้ย ตอนฉันหมดสภาพแล้วจะโยนฉันทิ้งไปง่าย ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ!”
ยิปซีแหกปากลั่นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนในห้องพยาบาลหันมอง แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะมันน่าสมเพชมากกว่า
“ฉันไม่ต้องการโยนเธอทิ้งหรอกยิปซีเพราะเธอเลือกตกลงเหวด้วยตัวเองแล้ว”
เสียงเอเอขาดความอ่อนโยนจนเหลือเพียงน้ำเสียงเด็ดขาด เธอลุกขึ้นตรงประตู มองหน้าเด็กสาวในสังกัดที่ตอนนี้คือ อดีต
“หลังฉันออกไปจากห้องนี้ เธอจะไม่ใช่คนของฉันอีกต่อไป เราจะไม่เกี่ยวกันแล้วเรื่องที่เธอทำ ให้กฎหมายมันจัดการเถอะ” คำสุดท้ายเหมือนตัดโซ่บาง ๆ ที่เคยผูกกันไว้
ด้านนอกห้องพยาบาลนักข่าวรอเก็บภาพ
โถงทางเดินหน้าห้องพยาบาลมีทั้งไฟกล้องและไมค์สัมภาษณ์ คนข่าวจากหลายสำนักซุ่มรอเงียบ ๆ เสียงซุบซิบดังเป็นระยะเพราะทุกคนอยากได้คำตอบเรื่องที่ยิปซีตกเป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ ประตูเปิดออกเอเอก้าวออกมาด้วยสีหน้าอิดโรย ริมฝีปากยังเม้มแน่นเหมือนกลืนความจริงบางอย่างไว้
“คุณเอเอคะ ยิปซีจะเอายังไงต่อคะ จะฟ้องหรือจะเคลียร์กับอีกฝ่ายยังไง”
“ใช่ค่ะ มีข่าวว่าเธอจ้างเด็กกาวจริงหรือไม่คะ” เสียงนักข่าวยิงคำถามรัวใส่ ไมค์แทบชนหน้า แต่แอนนี่ยกมือห้ามก่อนพูดเสียงราบเรียบ
“ในฐานะผู้จัดการ ฉันขอให้ทุกคนรอฟังคำให้การตามทางกฎหมายค่ะ ยิปซีคือผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกปล้น ไม่ว่าจะมีเบื้องหลังยังไงก็ขอให้มันออกมาถูกต้อง…ฉันจะไม่พูดเรื่องอื่นนอกจากนี้ และหลังจากออกจากโรงพยาบาล เอเอคงไม่ขอร่วมงานกับน้องเขาอีกนะคะ”
เธอหายใจลึก พยักหน้าสั้น ๆ เหมือนหมดแรงจะปกป้องดาราคนเดิมแล้ว นักข่าวกดชัตเตอร์รัว ภาพแอนนี่น้ำตาคลอแต่ก็ไม่พูดคำเดียวเรื่องเลว ๆ ของยิปซี
บนเตียงในเฝือก ยิปซีขมับเต้นแรง มือกำผ้าห่มไว้แน่น เธอได้ยินเสียงแฟลช เสียงคนซุบซิบข้างนอก ทุกอย่างฟังดูห่างไกลเหลือเกิน ไม่มีใครรอจะเข้ามาเฝ้า ไม่มีใครจะยื่นมือช่วยเธอ เธอหมดสิ้นแล้วจริง ๆ
ข่าวออกอากาศ แทบจะทุกสื่อ และการให้สัมภาษณ์
“ดาว…ดูนี่สิ ข่าวเขาออกเพิ่มอีกแล้ว”
เสียงมาคินพูดขึ้นข้าง ๆ เมื่อเห็นร้อยดาวที่เพิ่งวางกีต้าร์แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู ในหน้าจอเป็นภาพคลิปใหม่ของนักข่าวที่พยายามเก็บรายละเอียดอาการยิปซีที่โรงพยาบาล
“เธอเจ็บหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ร้อยดาวพึมพำแผ่ว ๆ ใบหน้าซีดลงทันตา ดวงตาที่แดงเพราะไม่ได้นอนดีนักฉายความกังวลชัด
“เขาก็คนเหมือนกัน ดาวฉันไม่อยากให้ใครเจ็บแบบนั้น ถึงจะทำไม่ดีกับฉัน แต่ฉันไม่เคยคิดอยากให้เขาพังขนาดนี้เลยนะ”
เสียงเธอสั่นเพราะจริงใจ ร้อยดาวยังมีเศษเสี้ยวของความเชื่อว่ามันคงไม่เลวร้ายถึงขั้นยิปซีจะทำร้ายใครด้วยมือจริง ๆ
“ดาว เธอเป็นคนดีเกินไป” เสียงมาคินนุ่มแต่หนักแน่นขึ้น ดวงตาคมสบเธอแล้วจับมือเธอมากุมไว้แน่นกว่าปกติ
“ฟังฉันนะ คนเราถ้าไม่ได้เริ่มคิดทำร้ายเอง มันจะไม่มีใครจ้างใครมาทำอะไรต่ำ ๆ แบบนั้นหรอก เรื่องทั้งหมดมันมีแต่เธอที่เกือบต้องเจ็บ” เขาหยุดเพื่อไม่ให้เสียงแข็งจนไปกดร้อยดาว แต่แววตาเขาสะท้อนความจริงที่อยากให้เธอยอมรับ
“แต่เธอเห็นใช่มั้ย สุดท้ายเขาก็โดนกลับเพราะมือเขาเอง คนเราทำอะไรไว้ มันย้อนกลับมาหมดนั่นแหละดาว”
ร้อยดาวเงยหน้ามองคนรัก สองมือสั่นน้อย ๆ แต่ยังจับมือเขาตอบ เธอเม้มปากอยากเถียงเพื่อให้ใจตัวเองสบายขึ้น แต่ก็รู้ว่ามาคินพูดถูก
“แต่ฉันสงสารเขาจริง ๆ นะคินเขาเคยอยู่ตรงนี้ เคยมีคนรักเขา เคยมีแสงไฟ เคยมีฝันเหมือนเราแท้ ๆ”
เธอพูดเสียงเครือ เหมือนเศษมิตรภาพที่เคยพัวพันกันมันยังมีอยู่ ไม่ว่าจะด้วยความเป็นคู่แข่งหรือเพื่อนร่วมค่ายก็ตามมาคินยกมืออีกข้างลูบหัวเธอแผ่ว ๆ เหมือนปลอบใจเด็กดื้อที่ยังไม่ยอมโกรธใครสุดหัวใจ
“คนเราเลือกทางเองนะดาว เธอเลือกมาด้วยกันกับฉัน เธอซื่อสัตย์กับสิ่งที่ทำมาตลอด เธอถึงนั่งตรงนี้ได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร” เสียงเขาต่ำลงคล้ายคำสัญญาที่ฝังอยู่ในใจมานาน
“ฟังฉันนะ ถ้าวันนึงเธอล้มเพราะใคร ฉันจะดึงเธอขึ้นมาเอง แต่ฉันจะไม่ให้ใครมาใช้วิธีสกปรกใส่เธอได้อีก เข้าใจมั้ย”
ร้อยดาวพยักหน้าช้า ๆ น้ำตาปริ่มเพราะไม่รู้จะขอบคุณคนตรงหน้ายังไงดี เธอเอียงตัวซบไหล่มาคิน ปล่อยให้เสียงข่าวยังดังต่อเนื่องในทีวี
แสงแดดช่วงบ่ายลอดม่านมาบางเบา สองหมาตัวเล็กยังนอนกองอยู่ปลายเท้าเหมือนคอยเฝ้าหัวใจเจ้าของ และต่อให้เรื่องร้ายจะใหญ่แค่ไหน คนสองคนนี้ก็ยังมีมือของกันและกันเป็นที่พัก
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็