Share

จับคนชนได้แล้ว

Author: Chalam whale
last update Last Updated: 2025-09-11 10:28:04

จับคนชนได้แล้ว

1856 คำ

ตอนเช้าในบ้านพักศิลปิน

“ยังไม่ตื่นอีกหรอ จะให้ปลุกแบบไหนดีนะ หืม" มาคินเสียงทุ้มของเขากระซิบบนกลุ่มผมของร้อยดาว มือใหญ่ลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

“ขออีกห้านาที ไม่เอา ไม่ไป" ร้อยดาวเธองึมงำตอบทั้งที่ยังขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ผมยุ่งนิด ๆ ตกลงมาปรกตา

“เด็กขี้เซา” มาคินเขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก้มลงหอมหน้าผากเธอหนึ่งที ก่อนจะค่อย ๆ ลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัว

เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเบา ๆ ข้างห้องน้ำแง้มประตูไว้ ร้อยดาวมองตามแผ่นหลังเขาด้วยสายตาง่วง ๆ ใจหนึ่งก็อยากดึงไว้ แต่อีกใจก็ชอบดูเขาดูแลตัวเองแบบนี้ มาคินเข้าไปอาบน้ำก่อน

“ลุกได้แล้วน่า ไม่งั้นฉันอุ้มไปส่งค่ายในสภาพชุดนอนนี่แหละ”

มาคินเขาเดินออกจากห้องน้ำด้วยผมเปียก ๆ ผ้าขนหนูพาดบ่า หันมายิ้มกวน

“จะบ้าหรอคนเขาจะมองว่าฉันเกาะแฟนดัง” ร้อยดาวเธอย่นจมูกเถียงกลับอย่างหมั่นไส้

“ก็จะเกาะจะทำไม ไหนใครมันเด็กเฮียสงครามนะ” มาคินเขาทิ้งตัวนั่งบนเตียง โน้มตัวลงมองหน้าเธอใกล้จนได้กลิ่นแชมพูบนหมอน

“มาคินอย่าแซวเรื่องนั้นอีกนะ ยัยยิปซีมันบ้า” ร้อยดาวเธอยกหมอนฟาดใส่อกเขาแก้เขิน

“ฉันก็มีเธอคนเดียว เธอก็มีฉันคนเดียว จะไปสนใจใครก็โง่แล้ว…” มาคินเขาจับมือเธอมากุมไว้ หลุดยิ้มอ่อน ๆ อย่างคนพูดจากใจจริง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขัดโมเมนต์หวานอย่างจัง พร้อมเสียงโวยวายแว่วเข้ามาก่อนตัว

“เปิดเปิดเดี๋ยวนี้ บ้านนี้อยู่กันสองคนหรือไงวะ" อ๊อฟเขาเคาะประตูรัว ยืนกอดอกหรี่ตามองประตูที่ยังไม่ยอมเปิด

“อะไรของแกวะอ๊อฟ” มาคินเขาตะโกนกลับ เสียงปนขำอย่างห้ามไม่อยู่

“เมื่อคืนได้ยินเสียงคุยกันด้วยจะซึ้งกันอะไรนักหนา”อ๊อฟเขาส่งเสียงแซวเต็มแรง ขยับตัวหลบแก๊ปเปอร์ที่โผล่มาด้วย

“จริง นี่ฉันจะเข้ามานอนด้วยแล้วนะเว้ย กลัวพี่คินปล้ำเขา ฮ่า ๆ ” แก๊ปเปอร์เจ้าตัวหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง เคี้ยวขนมปังในมือไปด้วย

“พวกแกมันเรื่องชาวบ้านตื่นเช้ากว่าตะวันอีก” ร้อยดาวเธอหน้าแดงก่ำ โยนหมอนอีกใบใส่สองหนุ่มทันที มาคินยื่นมือไปแตะหัวร้อยดาวเบา ๆ เหมือนจะบอกว่า

“ช่างเถอะ ไม่ต้องไปสนใจ พวกมันก็ปากหมาไปงั้นแหละ " เสียงหัวเราะกับหมอนปลิวว่อนในห้องพักยามเช้า

บ้านพักศิลปินเต็มไปด้วยความวุ่นวายที่น่ารัก รอยยิ้มของทุกคนแทนคำปลอบได้ดีกว่าคำพูดใด ๆ

“นี่มันบ้านพักศิลปิน หรือบ้านพักคนบ้า” อ๊อฟเขาตะโกนเสียงดังหลังถูกหมอนของร้อยดาวฟาดใส่รัว ๆ พยายามเอามือปัดหมอนแต่ก็ยังโดนซ้ำอีก

“ใครใช้ให้แกปากหมาล่ะ หะ” ร้อยดาวเธอโวยกลับด้วยแก้มแดงจัด ความเขินเมื่อคืนที่เพิ่งโดนแซวเหมือนจะยิ่งชัดกว่าเดิม

“เฮ้ย อย่าเพิ่งกัดกัน พี่คิน กินขนมปังก่อน เดี๋ยวแก๊ปเปอร์ป้อน” แก๊ปเปอร์เจ้าตัววิ่งมาพร้อมขนมปังสองแผ่น ยื่นให้มาคิน แต่ก็โดนมาคินผลักหัวเบา ๆ

“จะบ้าเหรอวะ ใครให้ป้อน อยู่กันดี ๆ นี่แฟนกูนะ ไม่ใช่ลูกหมา” มาคินเขาหัวเราะพรืด ดึงร้อยดาวมากอดไว้ข้าง ๆ เหมือนกันให้สงบ

“อ๊อฟ เมื่อคืนได้ยินก็เงียบไป ไม่ต้องทำเป็นรู้ดีไปหมด” ร้อยดาวเธอหันไปแว้ดใส่อ๊อฟอีกรอบ ดวงตาแดงนิด ๆ แต่แก้มยังขึ้นสีเพราะอาย

“เงียบไม่ได้โว้ย นี่ผมเสียความเป็นส่วนตัวไปตั้งแต่พวกพี่เป็นแฟนกันแล้ว รู้มั้ย” อ๊อฟเขาแสร้งถอนหายใจแรง ๆ ประหนึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียสละ

“เอาน่า ๆ บ้านนี้มันก็เป็นบ้านพักศิลปิน ไม่ใช่บ้านฮันนีมูนสักหน่อย” แก๊ปเปอร์ยกมือขึ้นล้อเลียน แต่ก็หลบหมอนอีกใบได้อย่างว่องไว

เสียงหัวเราะ เสียงหยอก เสียงบ่นสลับกันไปในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่ตอนนี้ดูจะคึกคักเหมือนหอพักนักเรียนมากกว่าบ้านพักศิลปิน มาคินยิ้ม มองเพื่อนทั้งสองคนที่ยังแกล้งกันไม่เลิก ก่อนจะหันมาลูบหัวร้อยดาวเบา ๆ

“กินข้าวเช้าก่อนไปค่ายนะ จะได้มีแรงโดนแฟนคลับด่าอีก… อย่าเพิ่งคิดมาก เข้าใจมั้ย?” มาคินเขาก้มลงกระซิบที่ข้างหูร้อยดาว เสียงทุ้มแต่โทนนุ่มจนเธอใจอ่อน

“เข้าใจแล้วน่า” ร้อยดาว เธอบ่นอุบแต่ยอมซบไหล่เขาเหมือนเด็กดี

“เฮ้ จะสวีทกันอีกนานมั้ยวะ หิวแล้วนะพวกผมน่ะ” อ๊อฟเขาโวยลั่นเหมือนคนหิวจัด ก่อนจะคว้ากล่องนมขึ้นมาดูดเสียงดัง

“อย่าดูดนมเสียงดังสิวะ สงสารนม” แก๊ปเปอร์เขาแซวต่อทันที ทำเอาทั้งห้องหัวเราะพรืด

เสียงหัวเราะ วุ่นวาย หยอกกันเหมือนเด็กในบ้านหลังเล็ก

เป็นความวุ่นวายที่ทำให้เช้าอึมครึมกลายเป็นเช้าอุ่น ๆ ก่อนต้องเผชิญงานหนักที่ค่ายเพลงอีกวัน

ในห้องประชุมค่ายเพลงหลังเหตุเฉี่ยวชน

“ไม่ต้องกังวลกันแล้วนะ กูจัดการเรื่องแจ้งความให้เรียบร้อยแล้ว” โปเต้เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเสียงหนัก มองหน้ามาคิน ร้อยดาว อ๊อฟ และแก๊ปเปอร์ที่นั่งล้อมอยู่

“พี่โปเต้ หมายความว่าตำรวจเจอตัวคนทำแล้วเหรอครับ”

มาคินเสียงเขายังสั่นนิด ๆ เพราะโกรธมากกว่ากลัว

“เออ ไอ้เด็กกาวที่ตลาดนั่นแหละ” โปเต้เขาพยักหน้า ช้อนตามองไปทางสงครามที่ยืนพิงโต๊ะอยู่เงียบ ๆ

“ผมบอกแล้วว่ามันไม่ได้จบแค่ใครขับแว้นเฉี่ยวเล่น มันตั้งใจใครอยู่เบื้องหลัง ผมจะลากหัวออกมาเอง” สงครามเสียงเขาเรียบเย็น ริมฝีปากยกยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจนิดเดียว

โปเต้หันมามองเด็กในสังกัดทีละคน พยายามให้ทุกคนใจเย็นแม้จะพยายามยิ้ม แต่แววตาพี่ชายคนโตในค่ายเพลงก็ยังมีแววกังวล

“ตำรวจบอกว่าเด็กมันร้อนเงินมาก ช่วงนี้ไม่มีใครจ้างมัน มันก็เลยรับงานเถื่อน" โปเต้เขาพูดเสียงเครียด ปากกาหมุนไปมาในมือ

“มันวางแผนดักในซอยเปลี่ยวขนาดนั้น ถ้าแค่เฉี่ยวโชคดีไป ถ้าหนักกว่านี้ล่ะ” มาคินน้ำเสียงเขาแฝงแรงโมโห ยิ่งพูด ยิ่งกำหมัดแน่น

ร้อยดาวที่นั่งข้าง ๆ สะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะวางมือลงบนหลังมือเขาให้ใจเย็น

“ฉันจะจัดการคนพวกนี้เอง อย่าให้มันได้ใจใครคิดจะหักหลังกู คิดให้หนัก” สงครามเขายื่นตัวไปหยิบไฟแช็กมาหมุนเล่น พลางสบตาโปเต้

โปเต้พยักหน้ารับสัญญาณนี่ไม่ใช่แค่การแจ้งความธรรมดา แต่เป็นคำประกาศศึกของเฮียสงคราม

เสียงหายใจของทุกคนในห้องเหมือนดังขึ้นในความเงียบ

ไฟห้องประชุมส่องหน้าพวกเขาแต่ละคนที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน

“จากนี้ไป ถ้าใครต้องออกไปไหน ออกพร้อมคนในค่าย อย่าไปคนเดียว เข้าใจมั้ย" โปเต้เขามองร้อยดาวด้วยแววตาอ่อนลงนิดหนึ่ง ก่อนจะกวาดสายตาไปทางมาคิน

“เข้าใจแล้วครับพี่ แต่ถ้าเจอหน้าอีก ผมไม่ใจเย็นแบบนี้แล้วนะ” มาคิน เขาตอบเสียงนิ่ง แต่สายตาแข็งกร้าว เสียงไฟแช็ก ‘แกร๊ก’ ในมือสงครามยังดังแทรก

โปเต้ถอนหายใจแรง เขาลูบหลังมาคินกับร้อยดาวเบา ๆ

เพื่อให้ทั้งคู่คลายกังวล แม้จะรู้ว่าเรื่องมันยังไม่จบง่าย ๆ

ในห้องประชุมที่อากาศเย็นด้วยแอร์กลับรู้สึกร้อนเพราะไฟแค้นของคนทั้งสองฝั่ง เฮียสงครามที่ยิ้มเย็น แววตาดุดันกว่า โปเต้ที่พยายามคุมอารมณ์คนในค่าย กับเด็กในสังกัดที่ไม่มีใครยอมถูกทำร้ายโดยที่อีกฝ่ายลอยนวล

นี่มันเพิ่งเริ่มต้นและครั้งหน้าถ้ามือคนสั่งการโผล่ขึ้นมา จะไม่มีใครรอดอีกแล้ว

ที่สถานีตำรวสงครามลงมาจัดการเอง ห้องสอบสวนเงียบเด็กกาวยังไม่ยอมปริปาก

“กูถามอีกรอบใครจ้างมึง” สงครามเสียงนิ่งชัด ชัดเจนราวกับมีน้ำแข็งแฝงอยู่ในอก เด็กกาวสภาพมอมแมม ศีรษะปูดรอยโดนซัดมาก่อนหน้านิดหน่อย มันหัวเราะแห้งจนได้กลิ่นกาวคละคลุ้งเต็มห้อง

“กูบอกแล้วกูหาแดกเอง เห็นพวกมึงรวยก็ลองเสี่ยงดู” โปเต้ที่ยืนกอดอกมอง มุมปากกระตุก เหยียดหยันชัด

“หาแดกเอง หน้าค่ายนั้นมันไม่ใช่ทางผ่าน แก๊งพวกมึงไม่เคยโผล่แถวนั้น แล้วเงินที่ยัดปากมึง ใครให” เด็กกาวยักไหล่ ก้มหน้า ขยี้มือตัวเองไม่หยุด

“กูไม่รู้เรื่องว่ะมันให้เงินมา กูแค่ขับรถเฉี่ยวเล่น” สงครามขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้กว่าเดิม เสียงขาเก้าอี้ขูดกับพื้นปูนดังจนคนในห้องเงียบกริบ

“มึงอย่าให้กูต้องใช้วิธีเดิม ๆ เลยพวกขี้ยาอย่างมึงน่ะ ถ้ากูอยากเชือด กูเชือดได้กลางตลาดเลยด้วยซ้ำ” สงครามแววตานิ่งราวนักล่า ไม่มีร่องรอยปรานี เด็กกาวเงยหน้าสบตาเขาแล้วกลืนน้ำลาย หน้าซีดวูบ

“กะ กูไม่ได้กลัวมึงนะเฮีย” โปเต้หัวเราะหยัน พึมพำเสียงเย็นข้างหูมัน

“ไม่ต้องกลัวกู กลัวคนที่จ้างมึงดีกว่าถ้ามึงไม่พูด คนที่สั่งมึงมันก็จะฆ่าปิดปากมึงวันไหนก็ได้ รู้ตัวใช่มั้ย”

เด็กกาวหายใจแรง เหงื่อไหลซึมข้างขมับ มันกัดปากแน่น

แววตาล่อกแล่ก รู้ว่าหากพูดชื่อยิปซีตอนนี้ มันอาจไม่รอดจากทั้งสองทาง

“กู กูไม่รู้อะไรมากจริง ๆ เฮีย กูแค่เห็นผู้หญิงคนนึงเอาเงินมาโยนใส่ใส่แมสก์ ใส่หมวก กูจำหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำ” โปเต้สบตาสงคราม พลางพยักหน้านิดเดียว เขารู้ดีว่ามันโกหก แต่ยังไม่ใช่เวลาจะบีบคอให้พูดออกมาตอนนี้

สงครามหัวเราะในลำคอ ก่อนเอื้อมมือแตะไหล่มันเบา ๆ

ท่าทางที่อาจเหมือนปลอบ แต่กลับทำให้มันเย็นวาบจนสันหลังชื้นเหงื่อ

“ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวถ้ากูรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง มึงก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เข้าใจมั้ย” เด็กกาวกลืนน้ำลายอีกครั้ง เสียงสั่น

“เข้าใจครับ…เฮีย"

“เด็กกาวนั่นเสียค่าปรับแล้วก็ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันก็กลับไปหาตัวต้นเหตุอีกเองฉันจะรอซ้ำ”

สงครามที่ขู่ให้มันกลัว คนจ้างกล้าทำขนาดนี้ แค่หลอกว่ามันเก็บกันเองทำให้เด็กเดินกาวยิ่งข่มอารมณ์ อยากจะไปเอาเรื่องยิปซีให้ได้

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   เก็บหมอกใส่หัวใจ (ตอนจบ)

    ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   สองคน สองหมา

    ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   After Party

    AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   เวทีใหญ่ที่ภาคภูมิใจ

    เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   กำลังใจจากครอบครัว

    กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   วันแถลงข่าว (สถานะที่ต้องตอบ)

    วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status