หลาย ๆ คน อาจจะยังสงสัยทำไมสองคนที่ดูจะไม่ค่อยชอบกันทำไมถึงมาเป็นมิตรกัน เราจะเล่าให้ฟังคร่าว ๆ
วันแรกที่ร้อยดาวมาทำงานที่นี่ เธอเองที่เคยมีปัญหากับประชาสัมพันธ์อีกครั้ง แต่เพราะว่าเขายังไม่ได้แจ้งเรื่องที่เธอเป็นพนักงานที่นี่แล้ว ทำให้เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดอีกครั้ง เธอเข้ามาทำงานที่นี่ แต่เพราะเธอเพิ่งเข้ามายังไม่มีบัตรพนักงานติดที่เสื้อ
"คุณค่ะ คุณ" เจ้าหน้าที่ตรงประชาสัมพันธ์ที่เห็นว่าร้อยดาวจะเดินเข้าไปในลิฟต์
"ค่ะ เรียกดิฉันหรือเปล่าคะ " ร้อยดาวหยุดชะลอฝีเท้าลงจนหยุดเดินแล้วหันมาทางเสียงเรียก
"ติดต่อเรื่องอะไรคะ รบกวนแลกบัตรก่อนนะคะ" เจ้าหน้าที่ที่พูดดี ๆ ด้วย เพราะคิดว่าเธอลืมจริง ๆ
" ฉันเป็นพนักงานในค่ายนี้ค่ะ ฉันก็มาทำงาน" ร้อยดาวพูดตอบกลับมา เจ้าหน้าที่เลยมองสำรวจชุดของเธอไม่เห็นมีบัตรพนักงานที่ตัวเลย
"ขอดูบัตรพนักงานหน่อยค่ะ " เจ้าหน้าที่ที่ขอบัตร และมองใบหน้าเธออีกครั้ง จำได้ว่าเธอคือเด็กเมื่อครั้งก่อนที่เธอเคยเรียก ร.ป.ภ. มาจับเธอออกไป ร้อยดาวที่เงอะงะ เพราะเธอไม่มีบัตรอะไรเลยและวันนี้ก็มาทำงานวันแรก
"เอ่อ ฉันยังไม่ได้เอามาจากพี่โปเต้เลย" ร้อยดาวเอาชื่อของโปเต้มาแอบอ้างอีกครั้ง
"นี่เธอจะมาสมอ้างอะไรอีก รอบที่แล้วเธอแต่งเพลงเขียนเพลง คราวนี้เพิ่มเลเวลหรออัพมาเป็นพนักงาน" เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ยื้อเธอเอาไว้
"ฉันไม่ได้สมอ้างค่ะ เพียงแค่ฉันเพิ่งมายังไม่ได้มีบัตร พี่ไม่เชื่อพี่ก็โทรเช็กกับพี่โปเต้ดูสิคะ"
ช่วงระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังโต้แย้งกัน มาคินที่กำลังเดินเข้ามาในค่ายเพลง เห็นร้อยดาวกำลังมีปัญหา เขาเองยืนฟังการเจรจาของทั้งสองคนมาสักพัก เรื่องที่เธอโดนเจ้าหน้าที่ว่าเรื่องสมอ้างเป็นพนักงาน เขาเลยเดินเข้ามาเพื่อที่จะช่วยเธอ เจ้าหน้าที่เห็นมาคินเดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะน้องคิน มาซ้อมเพลงหรอค่ะ" เจ้าหน้าที่เอ่ยทักทาย มาคินเองยกมือไหว้พี่เขาไปหนึ่งที
"มีอะไรกันครับ อ้าวร้อยดาวมีอะไรหรือเปล่า" มาคินหันไปถามเธอหลังจากที่หันไปทางหญิงสาวที่กำลังเล่นงานเธอ
"นายมาก็ดีเลย ช่วยยืนยันให้ฉันหน่อยสิ ว่าฉันเป็นพนักงานที่นี่ ฉันต้องมาดูแลนาย" ร้อยดาวที่เห็นเขารู้สึกดีใจมาก ๆ จนลืมตัวเธอเข้าไปจับมือเขาเอาไว้ด้วยสองมือของเธอเขย่ามือเขาเบา ๆ ทำเอามาคินหันมาสนใจเธอ เขาที่คิดอะไรออกถึงยอมช่วยเธอ
"พี่ครับ เธอมาทำงานที่นี่จริง ๆ ครับ เธอเป็นนักแต่งเพลงของทีมพี่โปเต้ครับ และเธอทำงานคู่กับผม" มาคินออกปากช่วยยืนยันอีกครั้ง
"เธอนี่ห้อยพระอะไร มีคนช่วยถึงสองครั้งสองครา"
"ไม่ต้องห้อยพระค่ะพี่ ฉันพูดเรื่องจริง" ร้อยดาวยังคงยืนเกาะแขนของมาคิน ซึ่งก็มีคนแอบถ่ายภาพนี้เอาไว้
"ไม่ต้องให้เธอแลกบัตรก็ได้มั้งครับ วันนี้เธอก็ได้บัตรพนักงานครับ คุณปล่อยมือผมก่อนคนเยอะ" มาคินบอกเธอ ซึ่งเธอเองก็ลืมตัวจนต้องรีบปล่อย
"อุ้ย"
"ผมขอตัวก่อนนะครับ มีเข้าห้องอัด ไปร้อยดาว หรือจะยืนอยู่ตรงนี้" มาคินบอกเธอแล้วเดินนำเธอออกมา จนเธอเองหันมามองยิ้ม ๆ พี่ประชาสัมพันธ์แล้วเดินตามมาคินมาจนเข้าไปในลิฟต์ด้วยกันสองคน เธอยืนเว้นระยะห่างกับมาคินเล็กน้อย มาคินที่คิดอยากจะแกล้งเธอ
"ร้อยดาว ร้อยดาว" มาคินเอ่ยเรียกเธอ จนเธอหันมามองเขาแต่ไม่ทันระวังตัว เอายื่นใบหน้ามาที่ข้าง ๆ กกหูของเธอช้า จนเธอรู้สึกลมหายใจทีีสัมผัสลงตรงข้างหูของเธอ
"เธอคิดว่าเมื่อกี้ฉันช่วยเธอฟรี ๆ หรือเปล่าร้อยดาว" มาคินเอ่ยออกมา
"ห๊ะ นายช่วยฉันหวังผลงั้นหรอ โหนี่ก็นึกกว่าเป็นสุภาพบุรุษ นายนี่นะ โหนี่ก็นึกว่าช่วยเพราะเห็นว่าทำงานด้วยกัน นี่อะไร " ร้อยดาวที่โวยวายใส่ทันที
" ฉันไม่ได้บอกนะว่าจะช่วยฟรี ๆ " มาคินเอามือมาปัดปอยผมของเธอ
"ช่วยผมถ่ายคลิปหน่อยสิ ผมคิดอยากจะทำคอนเทนต์ ผมยังไม่มีเพื่อน ๆ ในค่ายสักเท่าไหร่ นอกจากคุณอะ" มาคินที่ชอบถ่ายคลิป ไลฟ์สดตามสื่อต่าง ๆ ยื่นข้อเสนอในการช่วยเธอเอาไว้
"คอนเทนต์อะไร ทำไมต้องเป็นฉัน" ร้อยดาวตอบโต้จนเสียงลิฟต์เปิดออก ก็มีคนเดินเข้ามาด้านใน ทำเอามาคินต้องขยับตัวยืนเบียดร้อยดาวมากขึ้น
"ขยับออกไปสิ มายืนเบียดทำไม" ร้อยดาวบ่น มีคนเดินเข้ามาอีกสองคน
"เห็นไหมหละว่ามีคนเข้ามา เขยิบไปอีกนิดสิ" ร้อยดาวที่รู้สึกใกล้ชิดเขา จนกลิ่นน้ำหอมมันลอยมาเข้าจมูกตนเอง
คนที่เดินเข้ามาในลิฟต์ มีพื้นที่น้อยเลยกระแทกเข้าที่ตัวมาคินเล็กน้อยจนมาคินเซนิด ๆ แต่โอบกอดร้อยดาวเอาไว้ในอ้อมแขน คนที่เดินชนหันมาขอโทษ
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ทันมอง อ้าวมาคิน" เสียงของพี่สแปลชและทีมงานที่จะขึ้นไปพบพี่ครามที่ฝ่ายบริหาร
"อ้าว พี่สวัสดีครับ "
"มาซ้อมร้องเพลงหรอ ขยันเข้านะ สักวันจะต้องเป็นวันของเรา " พี่สแปลชให้กำลังใจน้อง เขาเห็นน้องขยันซ้อมทุกวัน
ซึ่งยุคสมัยที่เปลี่ยนไปโลกวงการมายาเปลี่ยนไป กว่าที่จะเป็นศิลปิน ด้วยต้นทนที่บ้านของมาคินไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีเงินเอามาซื้อชื่อเสียงให้มาคินได้ เขาจะต้องพยายามมากขึ้น กว่าจะมีผลงาน กว่าจะมีงานถึึงจะมีรายได้ มาคินเลยคิดที่จะใช้สื่อออนไลน์เข้าช่วย และเขาก็ต้องคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรให้คนมาชอบ และรักในตัวศิลปินคนนี้ สิ่งที่เขาจะสร้างตัวตนขึ้นมาได้ มันไม่ได้ง่ายที่จะทำให้คนหลายร้อยหลายพันคน มารักและติดตามตนเองไปตลอดกาล
"ครับพี่ สักวันหนึ่งผมจะทำความฝันนี้ให้สำเร็จ" มาคินมักจะพูดคำนี้เพื่อให้กำลังใจตนเองเสมอ ทำให้ร้อยดาวหันมามองมาคินใหม่อีกครั้ง เขาต้องพยายามมากกว่าทุก ๆ คน เพราะโอกาสที่คนอื่นหยิบยื่นให้ ไม่ได้เท่ากัน
" โอเคที่นายอยากให้ฉันช่วย ฉันจะช่วยนายคิดสร้างงาน สร้างตัวตนของนาย" ร้อยดาวที่ยอมตกลง หลังจากวันนั้นมาเขาและมาคินเริ่มที่จะสนิทกัน และมีเพื่อน ๆ พี่ น้องในทีมของพี่โปเต้เข้ามาทำความ รู้จักกันและเริ่มที่จะสนิทกันบ้างแล้ว
สองวันมานี้พอมาคินจะไลฟ์ก็จะมีร้อยดาวที่นั่งฟังเพลง ของเขา หรืออยู่ในมุมของกล้องเสมอ รวมถึงกลุ่มเพื่อน ๆ นักร้อง ที่มีผลงานกับที่นี่มา แต่อายุไล่ๆ กัน พอขึ้นไลฟ์ถ้าขาดร้อยดาว พี่ ๆ ที่เข้ามาดูก็จะถามหาร้อยดาว ความคิดเห็นจะมีคำถามมากมาย
"ร้อยดาวไปไหนแล้ว"
"พี่ ๆ ร้องเพลงด้วยกันได้ไหม "
"พี่มาคินแอบชอบพี่ร้อยดาวแน่ ๆ " คอมเม้นท์นี้ที่ทำหลาย ๆ เสียงฮือฮา ความคิดเห็นทำเอามาคินเองหันกลับมามองหน้าร้อยดาว แต่เธอเองยังไม่รู้ เลยเดินไปล้างจานตรงที่ล้างจาน มาคินเดินตามเข้ามาพร้อมกับถ่ายคลืป
"เนี่ยดูสิครับ แม่บ้านของผม ล้างจานเรียบร้อยมาก " มาคินถ่ายคลิปเดินมาทางร้อยดาวที่ล้างจาน
"โอ๊ย แม่บ้าน ชีวิต นายมาคิน" ร้อยดาวที่เน้นเสียงแบบรำคาญ ๆ กับคำพูดของเขา
"เธออายุเท่าไหร่ มาเรียกชื่อฉันเฉยเฉย"
" 21 ทำไมหรอ"
" นี่แหนะ ฉันอายุ 22-23 แล้ว เรียกพี่สิ มาเรียกนาย ดูสิครับแม่บ้านผม" เขาเอามือมาขยี้ผมร้อยดาวจนผมฟู
" โอ๊ยชีวิต หยุดถ่ายเลย ไม่ต้องตามมานะ " ร้อยดาวที่รีบล้างรีบเดินหนี เหมือนเธอจะโดนเขาแกล้ง เอามือมาจัดแต่งทรงผมตัวเองใหม่
มาคินก็ตัดคลิปอันนี้ใส่ลงในช่อง tiktok ไม่ถึงสิบนาที คนก็แห่เข้ามาชม เข้ามาคอมเม้นท์กันเยอะแยะ บางคนก็ชื่นชอบอยากให้ทั้งสองคนคบกันจริงจัง บางคนอิจฉาร้อยดาว บางคนที่ชอบมาคินมาก ๆ ก็กลายเป็นเกลียดร้อยดาวไปในทันที
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็