Home / โรแมนติก / มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก / ตอนที่ 17 รับน้องชมรมกีฬา

Share

ตอนที่ 17 รับน้องชมรมกีฬา

last update Last Updated: 2025-12-16 13:49:04

รถบัสมินิวีไอพีที่ถูกเพ้นท์ลวดลายการ์ตูนในเกมสุดคูลสีสันสะดุดตา จอดรอหนุ่มสาวอยู่ข้างสวนสาธารณะ ดึงดูดสายตาจากผู้คนที่ผ่านไปมาให้ชะเง้อมอง สำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัดสู่กิจกรรมรับน้องที่ชมรมกีฬาจัดขึ้น เสียงประกาศที่ดังมาจากโทรโข่งในมือรุ่นพี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูรถ แจ้งตารางการเดินทางพร้อมกฎระเบียบและการปฏิบัติให้นักศึกษาได้รับทราบในกิจกรรมครั้งนี้ดังแว่วอยู่เป็นระยะ

หนุ่มสาวมากหน้าหลายตาที่มีป้ายกระดาษระบุชื่อเล่นของเจ้าตัวห้อยคออยู่ พร้อมสะพายกระเป๋าเป้ใบโตเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งแคมป์กิจกรรมในคืนนี้ กำลังทยอยเดินขึ้นรถพร้อมกับเสียงพูดคุยจอแจเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ

“แกไม่เอาเสื้อผ้าไปเลยเหรอเอวา?” จิวารีเอ่ยถามเพื่อนอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเธอสะพายแค่กระเป๋าใบเล็กสำหรับใส่เครื่องสำอางและของจุกจิกเท่านั้น

“อยู่ในรถคุณแม่ถึงที่เดี๋ยวลุงบรรจงเขาเอามาให้”

“แม่เธอก็ไปด้วยเหรอ?”

“เปล่า...แม่ฉันเขานัดเพื่อนไว้ที่พัทยาน่ะ ใกล้กับรีสอร์ตที่เรากำลังจะไปฉันก็เลยฝากกระเป๋าไปด้วยขี้เกียจหิ้วมา”

อิทธิพลสอดส่ายสายตามองหาร่างใครบางคน ทันทีที่เจอก็ตรงดิ่งมาหาพร้อมขวดเครื่องดื่มในมือยื่นให้สองสาว เอวาและจิวารีเดินขึ้นรถหาที่นั่ง ส่วนชายหนุ่มทำหน้าที่เป็นลีดเดอร์กิจกรรมต้องคอยอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อน ๆ และน้องใหม่ในการเดินทาง

เมื่อจำนวนคนครบตามรายชื่อผู้ที่ลงทะเบียนไว้ รถก็เคลื่อนตัวออกเดินทาง หลังจากรุ่นพี่กล่าวทักทายต้อนรับสมาชิกเรียบร้อย กิจกรรมก็เริ่มขึ้นทันที

เสียงเพลงจังหวะคึกคักดังกระหึ่มทั่วทั้งคันรถ รุ่นพี่หัวโจกที่เติมเครื่องดื่มลงร่างระหว่างรอเดินทางจนได้ที่ รวมตัวกันอยู่เบาะยาวด้านหลังโยกตัวปลอดปล่อยอารมณ์อย่างผ่อนคลายตามจังหวะเพลง ขณะที่การเล่นเกมในรถก็ดำเนินไปพร้อมกัน

ส่วนน้องใหม่นั้นยังคงเหนียมอายอยู่ แต่ต้องลุกตอบคำถามในการเล่นเกมทุกครั้งที่ถูกรุ่นพี่ชี้ตัว เพียงไม่นานในการเริ่มกิจกรรมเหล่าหนุ่มสาวนิสิตรุ่นน้องก็เริ่มปรับตัว ผ่อนคลายสนุกสนานในบรรยากาศที่เป็นกันเองของรุ่นพี่ เสียงปรบมือบวกกับเสียงหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจดังก้องประสานกันอยู่อย่างนั้น สลับกับการเปิดและปิดเพลงของดีเจอยู่เป็นระยะ เพียงไม่นานก็ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

รีสอร์ตในพื้นที่หาดส่วนตัว ที่มีลานกว้างสำหรับการตั้งแคมป์กิจกรรม อีกมุมคือห้องพักเป็นแถวยาวรองรับคณะทัวร์ที่มาเป็นกลุ่มแต่ไม่สะดวกในการนอนเต็นท์ ด้านหน้าไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาคือน้ำทะเลสีครามที่เล่นคลื่นกับแสงแดดระยิบระยับอยู่ตรงหน้าอย่างสวยงาม

“เราจะกางเต็นท์กันตรงจุดนั้นนะครับ” รุ่นพี่ส่งเสียงผ่านโทรโข่งและชี้มือไปที่ลานกิจกรรมตรงหน้า

“และพักทานอาหารกลางวันเป็นบุฟเฟ่ที่ห้องอาหารริมทะเลด้านหน้า”

“กิจกรรมต่อไปจะเริ่มในช่วงค่ำตามแผ่นพับที่แจกให้ ช่วงนี้ให้ทุกคนพักผ่อนกันตามอัธยาศัยได้เลย อย่าลืมกฎกติกามารยาทในการอยู่ร่วมกัน สำหรับนักดื่มที่สร้างปัญหาและความวุ่นวายเรามีบทลงโทษไว้รอท่านแล้ว และจะตัดท่านออกจากกิจกรรมนี้ทันที ขอให้ลีดเดอร์ที่รับผิดชอบส่วนความปลอดภัยดูแลให้ทั่วถึงด้วยนะครับ ส่วนใครที่มีปัญหาอื่น ๆ สามารถติดต่อลีดเดอร์ที่รับผิดชอบแต่ละส่วนได้เลย แล้วเจอกันนะครับ”

นักศึกษาแยกย้ายกันไปพักผ่อน เดินเล่นชมวิวทิวทัศน์และเซลฟี่ บ้างก็เริ่มกางเต็นท์รอไว้แล้ว

“จะกางตรงไหนเหรอ?” อิทธิพลหันไปถามสองสาว

“กางติดกันเลยนะดินวาจะได้สบายใจ” เอวาตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดรับสายโทรเข้า พูดคุยอยู่สักพักก่อนจะวางสายไป

“ฉันออกไปหาแม่ที่หน้ารีสอร์ตแป็บนึงไม่ได้ช่วยกางเต็นท์นะ”

“ไปเถอะฉันกางกับดินก็ได้ไม่เป็นไร”

เทวฤทธิ์ยืนมองสองหนุ่มสาวที่ช่วยกันกางเต็นท์พร้อมกับหยอกล้อกันอยู่เป็นระยะ คนที่ยืนข้างเธอตรงนั้นควรจะเป็นเขาไม่ใช่ผู้ชายคนไหนทั้งนั้น และวันนี้เขาจะต้องเคลียร์ทุกอย่างที่คาใจกับหญิงสาวให้หมด หลังจากที่เคลียร์ตัวเองจบแล้วจากเมวิกา

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอากาศก็เริ่มเย็น เสียงอื้ออึงของลมทะเลกระทบใบมะพร้าวริมหาดให้โอนเอนลู่ตามลม คล้ายเสียงปรับแต่งสายพิณก่อนการบรรเลง คลื่นซัดสาดน้ำทะเลเข้าฝั่งเป็นละอองสีขาวสาดกระเซ็นก่อนจะหายไปกับเม็ดทรายในความมืด ประสานกับเสียงหนุ่มสาวที่กำลังสนทนากันที่ลานกิจกรรม เพื่อจัดเตรียมพื้นที่สำหรับคืนนี้

กว่าทุกอย่างจะลงตัวดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าก็ส่องสว่างในคืนที่ท้องฟ้าโปร่งสดใส ท่ามกลางแสงจันทร์ครึ่งค่อนดวง กลุ่มเมฆที่เคลื่อนตัวผ่านเงาจันทร์คล้ายว่าดวงจันทร์กำลังเคลื่อนที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยังคงความสวยงามไว้ไม่จางไป

หนุ่มสาวนั่งกอดคอเป็นวงกลมโดยมีกองไฟเป็นจุดศูนย์กลาง และมีรุ่นพี่เดินคุมเกมอยู่ด้านในและด้านนอกรอบบริเวณเหมือนทหารเฝ้ายาม เปลวไฟแดงฉานแตกปะทุอยู่เป็นระยะประหนึ่งดอกไม้ไฟที่จุดเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลสำคัญ เสียงเพลงที่ร้องประสานขึ้นพร้อมกันบวกเสียงปรบมือดังเซ็งแซ่เมื่อเพลงสร้างความผูกพันจบลง

“เราจะไม่แบ่งรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ในการเล่นเกม ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยกันทั้งหมด” เสียงดังฟังชัดจากรุ่นพี่ที่เดินไปมาอยู่ในวงรัศมีของน้อง ๆ รอบกองไฟ

“เกมแรกมีชื่อว่า...แดนเซอร์เท้าไฟ”

“กติกา คือ...หากปลายขวดชี้ไปที่ใคร คนนั้นจะต้องออกมาเต้นที่หน้ากองไฟ และสามารถเลือกเพื่อนออกมาเต้นด้วยกันได้อีกสองคนภายในเวลาที่กำหนด”

“เริ่ม”

สิ้นเสียงจากรุ่นพี่ขวดเครื่องดื่มที่วางนอนอยู่กับพื้นถูกปั่นให้หมุนตามเข็มนาฬิกา ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่มันและลุ้นตามว่าใครจะเป็นผู้โชคร้ายคนแรกในคืนนี้ เกมดำเนินไปอย่างสนุกสนานท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ดังแข่งกับลมหนาวอยู่เป็นระยะ

เอวาและจิวารีที่กอดคอกันขำจนตัวงอกับท่าเต้นที่รุ่นพี่ออกแบบให้รุ่นน้องหลังจากได้รับเกียร์ติจากปลายขวดที่ชี้ไปหา  เทวฤทธิ์ที่เติมแอลกอฮอล์เข้าร่างจนได้ที่แล้ว ไม่สามารถละสายตาจากหญิงสาวในดวงใจได้เลย อิทธิพลมองภาพชายหนุ่มที่เอาแต่จ้องหญิงสาวคนเดียวกันกับเขาไม่วางตา พลันหัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันอย่างลืมตัว

ได้เทมันจะมองอะไรกันหนักกันหนา ตั้งแต่ขามายันขากลับเลยหรือยังไง? พึมพำคนเดียวในใจ

“เกมต่อไป มีชื่อว่า จริงหรือเท็จ”

“กติกาคือ หากปลายขวดชี้ไปที่ใคร ให้คนนั้นเลือกเพื่อนมาหนึ่งคนและพูดความในใจมาหนึ่งเรื่อง”

ถือเป็นเกมที่ละลายพฤติกรรมและสร้างทรงจำที่ดีได้ไม่น้อย โดยมีเปลวไฟและสายลมเป็นพยานของความเท็จและความจริง คำสารภาพที่ซึ้งใจจนเรียกหยดน้ำตาให้ไหลรินพร้อมกับรอยยิ้ม อีกทั้งคำขอโทษ และการขายความลับที่แสนตลกโปกฮาของกันและกันที่ทำให้หัวเราะจนน้ำตาไหล

จนกระทั่งปลายขวดที่ถูกหมุนชี้เข้าไปที่กองไฟ

“อ้าว ชี้ไปที่กองไฟเฉย” เสียงจากรุ่นพี่ที่หมุนขวด เดินไปจับปลายขวดหันไปหาเทวฤทธิ์

“คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้” พร้อมผายมือไปที่ชายหนุ่มท่ามกลางเสียงปรบมือของหนุ่มสาว เทวฤทธิ์ลุกขึ้นยืนทันทีสายตามองตรงไปที่จิวารีที่อยู่ตรงข้าม

“รุ่นพี่เทเลือกใครครับ?” เพื่อนชายของเทวฤทธิ์ชงให้ทันที ผู้ถูกถามชี้มือไปที่จิวารีที่ยังเหลอหลาอยู่แบบงง ๆ

“เลือกจิ๋วครับ”

“อ้าวน้องจิ๋ว เชิญครับ”

เจ้าของชื่อหันซ้ายแลขวาเพราะไม่คิดว่าเป็นตัวเอง แต่ทำได้แค่ลุกขึ้นยืน เทวฤทธิ์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ จ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างจริงจังด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าแต่เด็ดเดี่ยวอยู่ในที

“พี่ขอโทษ พี่อยากขอโอกาสจากจิ๋วอีกครั้ง เพื่อพิสุทธิ์ตัวเองว่าพี่จริงจังกับจิ๋วไม่ใช่แค่เล่น ๆ พี่เคลียร์ตัวเองทุกอย่างแล้วเพื่อจิ๋ว ที่ผ่านมาพี่ทำผิดไปและพี่เสียใจมาก แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกพี่สัญญา จิ๋วให้โอกาสพี่สักครั้ง ได้ไหมครับ?” สายตาจ้องมองใบหน้าสวย กลิ่นแอลกอฮอล์ที่กระจายคละคลุ้งออกจากปากเขาบวกกับคำพูดเมื่อครู่ ที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้เธอไม่ใช่น้อย

ทุกสายตาจับจ้องไปที่สองหนุ่มสาวที่กำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่ ต่างเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่านี่คือจริงหรือเท็จ

เอวาอ้าปากหวอมองเพื่อนที่ยังยืนนิ่งอยู่

อิทธิพลรับรู้ถึงความหวิว ๆ ที่เกิดขึ้นมาในความรู้สึกข้างในอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินคำสารภาพของเทวฤทธิ์ และเขามั่นใจว่านี่คือความจริง

“นี่จริงหรือเท็จครับ? คำถามจากรุ่นพี่คนเดิม

“จริงครับ” เทวฤทธิ์ตอบคำถามเพื่อนแต่ไม่ละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้าเลย จิวารีไม่รู้จะปั้นหน้ายังไง กวาดสายตามองเพื่อน ๆ ร่วมเกมที่จ้องเธอเป็นตาเดียว

ก่อนที่คนชงเข้มจะทำมากไปกว่านี้ อิทธิพลก็ยืนขึ้นและปรบมือเสียงดังรัว ๆ

“เกมต่อไปครับ” เขาพูดตัดจบเพื่อให้เริ่มเกมใหม่

คนอื่น ๆ ปรบมือตาม พร้อมกับคำสารภาพของเทวฤทธิ์ที่สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status