Home / โรแมนติก / มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก / ตอนที่ 27 เปิดตัวหรือเปล่า?

Share

ตอนที่ 27 เปิดตัวหรือเปล่า?

last update Last Updated: 2025-12-16 13:59:39

จิวารีนั่งเก็บของลงกล่องเตรียมย้ายออกจากบ้านเช่า เสียงเทปใสที่ถูกดึงออกจากม้วนมาปิดกล่องดังทะลุเข้าไปในโทรศัพท์ที่เปิดลำโพงคุยสายกับเอวาค้างไว้

(“แกย้ายมาอยู่กับฉันก่อนก็ได้นะจิ๋วระหว่างที่หาบ้านเช่ายังไม่ได้น่ะ”) เสียงจากปลายสาย

“ไม่เป็นไรหรอกยังเหลือเวลาอยู่ พี่แจ็คก็ดูไว้หลายที่แล้ว คงหาใกล้ ๆ แถวมหาวิทยาลัยนี่แหละจะได้เดินทางสะดวก ช่วงนี้ก็ถือว่าพักผ่อนไปก่อน ย้ายบ้านเสร็จก็กะว่าจะหางานพาร์ทไทม์ทำ เพราะพี่แจ็คไม่ให้ฉันไปทำงานที่เก่าแล้ว” จิวารีร่ายยาวให้เพื่อนสาวฟัง

(“อย่าเพิ่งคิดอะไรให้ปวดหัวเลยพักก่อนแล้วค่อยว่ากัน”)

“อือ”

(“ดินเล่าให้แกฟังหรือยังว่าน้ายี่หวาจัดการเรื่องยัยนั่นเรียบร้อยแล้วนะ”) ยัยนั่นของเธอหมายถึงขวัญข้าว

(“แล้วนางก็เป็นเด็กฐากูรด้วย”)

“จริงดิ”

(“อือ การหมั้นหมายปลอม ๆ ของฉันกับดินสิ้นสุดลงซะที...ดีใจจัง”)

เสียงปรบมือของเอวาทะลุออกมาด้านนอก ถึงแม้จะบอกว่าหมั้นปลอมก็เถอะ พูดไม่ทันขาดคำคนที่กำลังพูดถึงก็โทรเข้ามาทันที

“แก...ดินโทรเข้าอ่ะ ขอรับสายแป็บนะ” จิวารีบอกเอวา

(“แหม๋....”) เสียงกระแนะกระแหนจากปลายสาย

“ขอรับก่อนเผื่อมันมีธุระอะไร”

(“โอเค โอเค แล้วไม่ต้องโทรมาหาฉันแล้วนะ ฉันจะนอนแล้ว”) และเอวาก็วางสายไป

ยังไม่ทันได้รับสาย คนที่โทรเข้าก็วางไปเสียแล้ว และตามมาด้วยเสียงข้อความเข้า จิวารีวางมือจากการเก็บของ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความอ่าน

(“พรุ่งนี้ไปหาแม่เป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม?”)

“ทำไม?”

(“ไปคนเดียวเดี๋ยวแม่บังคับให้อยู่นาน ถ้าเธอไปด้วยใช้เป็นข้ออ้างได้”)

“....” เงียบ ข้ออ้างอะไรของเขา

(“แม่อยากเจอเธอด้วย”)

หมายความว่าไง แม่อยากเจอ ไม่ใช่พาไปเปิดตัวหรอกนะ ไม่หรอกมั้ง เจอตั้งหลายครั้งแล้วจะเปิดตัวได้ไงไม่ใช่แฟนสักหน่อย ก็คงจะถามถึงเพื่อนของลูกเป็นเรื่องธรรมดากระมัง

(“ว่าไง?”)

(“งั้นพรุ่งนี้สาย ๆ ไปรับนะ)” เมื่อไม่ตอบรับชายหนุ่มก็สรุปเอาเอง

“ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลย”

(“ก็ตอบตกลงสิ”)

และโต้ตอบข้อความกันไปมาอยู่อย่างนั้นจนดึกดื่น พร้อมกับรอยยิ้มของคนสองคน ที่ไม่รู้หาเรื่องราวมากมายจากไหนมาเล่าสู่กันฟังผ่านทางตัวหนังสือ ทั้งที่โทรคุยก็น่าจะง่ายกว่า แต่การมองไม่เห็นหน้ามันช่วยปกปิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง

“สวัสดีค่ะคุณดิน”

พนักงานต้อนรับหน้าร้านกล่าวทักทายชายหนุ่มพร้อมกับยกมือไหว้ ด้วยรอยยิ้มสยาม และหันมาไหว้จิวารีที่เดินเข้าร้านมาพร้อมกัน

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ” สองหนุ่มสาวรับไหว้และส่งยิ้มตอบ

“คุณยี่หวารออยู่ด้านในค่ะ” พนักงานสาวสวยผายมือไปที่ด้านใน อิทธิพลพยักหน้ารับรู้

ดวงยี่หวาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อสองหนุ่มสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ในมุมพักผ่อนและส่งยิ้มให้

“สวัสดีค่ะคุณน้า” จิวารียกมือไหว้ผู้อาวุโส

“สวัสดีจ้า” รับไหว้และส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“สวัสดีครับคุณนาย” อิทธิพลแกล้งกระเซ้าผู้เป็นแม่

“นั่งสิลูก”

ดึงมือจิวารีลงนั่งที่มุมเดิมของเธอ

หัวข้อสนทนาในวันนี้คือเรื่องราวความวุ่นวายทั้งหมดที่เธอได้จัดการเรียบร้อยแล้ว และบอกข่าวดีให้ลูกฟัง

“ต่อไปดินก็ย้ายกลับบ้านได้อย่างสบายใจแล้วนะลูก”

หลังจากเข้าพบทรงศักดิ์ในวันนั้นแล้ว เธอก็กลับไปที่บ้านของทรงกลดที่เคยเป็นเรือนหอของเธอและเขา จัดการให้ขวัญข้าวย้ายออกโดยเร็วที่สุด ส่วนขวัญชนกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทรงศักดิ์เองว่าจะจัดการกับเธออย่างไร

“จะไปไหนกันต่อหรือเปล่ากินข้าวกับแม่ก่อนนะ แม่ให้แม่ครัวเขาเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว อีกแป็บเดียวก็คงจะเสร็จ”

โต๊ะอาหารมุมส่วนตัวถูกจัดเตรียมเรียบร้อยสำหรับอาหารกลางวัน ที่เต็มไปด้วยเมนูโปรดของสองหนุ่มสาว จิวารีแอบคิดในใจนี่ใช่ความบังเอิญหรือเปล่านะ ที่แม่ครัวจัดเตรียมอาหารจานโปรดของเธอและอิทธิพลไว้

“เห็นดินบอกว่าจิ๋วว่างงานไม่ใช่เหรอลูก มาช่วยแม่ดูแลร้านหน่อยไหม” ดวงยี่หวาเอ่ยถามบนโต๊ะอาหาร ขณะที่อิทธิพลตักข้าวใส่จานให้แม่และเพื่อน

“เอ่อ...” มองหน้าเพื่อนชายที่กำลังตักข้าวอยู่เป็นการขอความเห็น แต่ชายหนุ่มยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“แม่อยากไปทำธุรกิจความสวยความงามของแม่ ถ้าจิ๋วมาช่วยแม่ดูแลร้านอีกแรงแม่จะได้สบายใจ แล้วผู้จัดการคนเก่าก็เพิ่งลาออกไปยังหาคนไม่ได้เลย” ดวงยี่หวากินไปคุยไปอย่างเป็นกันเอง

ถึงแม้หญิงสาวจะเรียกเธอว่าน้า แต่ดวงยี่หวาก็แทนตัวเองว่าแม่

“แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ?”

“ก็ทำหน้าที่ผู้จัดการดูแลร้านแทนแม่ไง ขอให้ตาดินมาช่วยดูจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว อ้างแต่ขี้เกียจเอาใจลูกค้าอยู่นั่น จิ๋วมาช่วยแม่นะ” ส่งยิ้มและรอคำตอบ

“หนูขอเริ่มจากในครัว หรือไม่ก็เสิร์ฟก่อนดีกว่าไหมคะ ผู้จัดการน่าจะยังไม่เหมาะ และอีกอย่างหนูก็ยังเรียนอยู่คงทำเต็มเวลาไม่ได้อะค่ะ”

“อือ...ก็ได้จ้ะ”

“เธอหาบ้านเช่าได้หรือยัง?” อิทธิพลถามเพื่อนสาว

“ยังเลย”

“พี่แจ็คติดต่อไว้หลายที่ ว่าหลังเลิกเรียนจะไปดูกันน่ะ”

“หือ หาทำไมให้ยุ่งยาก ย้ายมาอยู่ที่คอนโดสิ ใกล้ที่ทำงาน ใกล้มหาวิทยาลัยด้วยจะได้เดินทางสะดวก” ดวงยี่หวาเสนอให้

“ขอบคุณค่ะคุณน้า แต่ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”

“ถือว่าเป็นสวัสดิการของร้านจ้ะ แม่ใช้เก็บของเฉย ๆ เดี๋ยวให้คนทำความสะอาดให้ หนูก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย”

เธอสรุปตัดจบ

“เอ่อ...คือว่า”

“หนูพร้อมทำงานวันไหนก็มาได้เลยนะ แม่จะบอกเด็ก ๆ ไว้” เปลี่ยนเรื่อง

“เริ่มได้ทันทีอยู่แล้วนี่ เห็นนั่งหางานออนไลน์อยู่ทุกวัน...ใช่ไหม” อิทธิพลพูดแทนหญิงสาว

“ดีเลยจ้ะ” ดวงยี่หวาปรบมือหนึ่งครั้งเป็นบทสรุปปิดท้าย และหยิบโน่นตักนี่ใส่จานให้สองหนุ่มสาว

“กินเยอะ ๆ นะลูกมีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย นาน ๆ แม่จะมีเพื่อนกินข้าวด้วย”

“ขอบคุณค่ะ”

พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มคล้อยต่ำ แสงสีส้มทองทาบทับสะท้อนลงพื้นสนามกว้างของมหาวิทยาลัย ที่ตอนนี้คึกคักกึกก้องไปด้วยเสียงนกหวีดและเสียงกลอง ดังผสมผสานกับเสียงหัวเราะอย่างมีชีวิตชีวา สำหรับการเตรียมฝึกซ้อมก่อนวันแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย ธงสีของคณะถูกซ้อมโบกสะบัดเล่นลมอยู่เหนือศีรษะของทีมซ้อมเชียร์ บวกกับเสียงตะโกนนับของหัวหน้าเชียร์กับการออกแบบท่าเต้นกันอย่างเข้มข้น

ข้างสนามกีฬาคึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะของนักศึกษาที่เพิ่งเลิกซ้อม เสียงฟุตบอลกระทบพื้นบวกกับเสียงหัวเราะสดใสก้องกังวานประสานอยู่เป็นระยะ จนตะวันเริ่มลับขอบฟ้าผู้คนข้างสนามก็เริ่มบางตา นักศึกษาบางกลุ่มนั่งพักที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ บางรายกำลังเก็บสัมภาระเตรียมกับบ้าน

เอวาและตะวันนั่งเล่นเกมรอเพื่อนอยู่ที่ข้างสนาม สองหนุ่มจิวากรและธีธัชในชุดนักกีฬาที่เปียกชุ่มไปทั้งร่างกำลังเดินตรงมาหา จิวารีเพิ่งแยกออกจากกลุ่มซ้อมวิ่งผลัด และต่อด้วยการวิ่งรอบสนามอยู่คนเดียวอีกหลายรอบ ก่อนจะค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อใกล้ถึงเอวา กรอบหน้าของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ หายใจทางปากเสียงดังจนตัวโยน ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอน้อย ๆ เอวาวางโทรศัพท์ในมือลงหยิบขวดน้ำส่งให้เพื่อนสาว

“ขอบใจจ้ะ” รับขวดน้ำมาเปิดและดื่มดับกระหายอึกใหญ่

“เราไปหาอะไรกันกินดีกูหิวมากเลย” ธีธัชเอ่ยปากชวนเพื่อน

“หมูกระทะไหม?” เอวาตื่นเต้น

“อีกแล้ว...คุณหนูหมูกระทะ” ตะวันเอ่ยขึ้นและมองหน้าเอวา

“เดี๋ยวโทรตามดินดีกว่า” ว่าแล้วก็โทรหาอิทธิพลทันที

สายลมเย็นเอื่อย ๆ พัดมาปะทะลานโล่งในร้านหมูกระทะที่เนืองแน่นไปด้วยกลุ่มนักศึกษาหลังการฝึกซ้อม กลุ่มควันจากการปิ้งย่างคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ กลิ่นหอมหมูย่างโชยเข้าจมูกชวนน้ำลายไหล เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ดังแข่งกับเสียงหัวเราะพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ประสานกันไป

หนุ่มสาวเลือกโต๊ะริมสุด กระทะเริ่มตั้งไม่นานน้ำซุปก็เริ่มเดือดปุด ๆ วัตถุดิบเตรียมย่างก็เต็มโต๊ะ พร้อมกับอิทธิพลที่เดินเข้ามาในร้าน ตะวันยกมือส่งสัญญาณให้เพื่อนชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งลงที่ว่างข้างจิวารี

“หลังงานกีฬาพวกมึงไปช่วยกูขนของย้ายบ้านด้วยนะ” จิวากรเอ่ยขึ้นมือก็คีบพลิกหมูย่างในเตาไปด้วย

“มึงหาบ้านได้แล้วเหรอ?” ธีธัชเอ่ยขึ้น

“อือ...เช่าต่อจากเด็กที่ร้านเขาลาออกกลับไปต่างจังหวัด ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องไปตระเวนดูหลาย ๆ ที่”

หนุ่มสาวพูดคุยกันไปกินไป เรื่องราวมากมายถูกนำมาแชร์เป็นหัวข้อสนทนาในวงหมูกระทะ สร้างเสียงหัวเราะกันในกลุ่มอย่างสนุกสนาน

“นายไม่กินเหรอ?” จิวารีเอ่ยถามคนข้าง ๆ ที่เอาแต่ยกแก้วเครื่องดื่มน้ำสีอำพันขึ้นจิบโดยไม่แตะอาหาร

“เพิ่งกินข้าวมายังอิ่มอยู่เลย”

“กินไม่กินก็ต้องหารนะมึง?”

ธีธัชชี้ตะเกียบมาที่อิทธิพล อาหารเต็มกระพุ้งแก้มจนตาเหลือก และเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

“ไอ้เหี้ยธีมึงย่างเองบ้างดิวะ” จิวากรขมวดคิ้วบ่นมองหน้าธีธัชอย่างเหนื่อยใจ

“ก็มึงไม่แดกนี่”

“กูจะย่างให้มันเกรียม แม่งก็ไม่เกรียมสักชิ้น มึงก็แดกก่อนอยู่เรื่อย” สองเพื่อนทะเลาะกันเพราะชิ้นหมูย่าง

“พี่แจ็คมาย่างหม้อนี้ก็ได้ค่ะ” เอวาเอ่ยชวนพร้อมบุ้ยปากไปที่นั่งว่างหัวโต๊ะข้างเธอ

“เออ...ไปเลย” ธีธัชไล่ส่ง

อิทธิพลอมยิ้มจิบเครื่องดื่มพร้อมกับย่างกุ้งไปด้วย แกะกุ้งที่ย่างสุกแล้วใส่จานให้คนข้าง ๆ

“ไม่กินเหรอ?” จิวารีถาม ชายหนุ่มส่ายหน้า

“ขอบคุณนะ”

“ร้านนี้คนเยอะตลอดเลยนะ และก็อร่อยกว่าร้านหรู ๆ ที่ไปกินกับแม่อีก”

เอวาพูดขึ้นมา กวาดสายตามองไปรอบบริเวณร้าน มือคว้าแก้วน้ำอัดลมที่หลอดเสียบอยู่ขึ้นมาดูดอย่างชื่นใจ จิวากรเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวค้างอยู่

“มีอะไรเหรอคะ?” ยกคิ้วถามจิวากรเมื่อเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอ

“แก้วพี่”

“อ้าว...ขอโทษค่ะ”

หันไปมองแก้วตัวเองที่วางอยู่และรีบวางแก้วในมือลงทันที จิวากรยกแก้วที่เอวาเพิ่งวางลงเมื่อครู่มาดูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอวาเมินหน้าหนีพร้อมกับเม้มปาก

จิวารีสนุกกินกุ้งที่มีคนแกะไว้รอให้จนเต็มจาน หัวเราะเรื่องตลกที่ตะวันเล่าจนแทบสำลักจนมันกุ้งเลอะขอบปาก อิทธิพลเอื้อมมือไป เกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดขอบปากให้เธออย่างลืมตัว สองสายตาสบกันและมองค้างอยู่อย่างนั้น จิวารีอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าเพื่อน ๆ อีกทั้งธีธัชและตะวันก็อ้าปากหวอมองอยู่เช่นกัน ส่วนเอวาและจิวากรเดินไปตักอาหารมาเพิ่ม

ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศในโต๊ะชั่วขณะก่อนที่ธีธัชจะแกล้งไอแห้ง ๆ

อิทธิพลเบือนหน้ามองไปทางอื่น ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบแก้เก้อ ส่วนจิวารีหยิบแก้วและลุกไปเติมเครื่องดื่มทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status