ホーム / โรแมนติก / มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก / ตอนที่ 28 งานกีฬาสีกับคนขี้หึง

共有

ตอนที่ 28 งานกีฬาสีกับคนขี้หึง

last update 最終更新日: 2025-12-16 14:00:27

เช้าวันท้องฟ้าเปิด บรรยากาศแจ่มใสในวันพิเศษของการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย เสียงกลองที่ตีกระหึ่มดังไปทั่วสนาม และเพลงปลุกใจที่ออกจากลำโพงรอบทิศทางดังก้องกังวานอยู่ ขบวนนางรำ มโนราห์ เทพเทวา กินรี หรือแม้กระทั่งการคอตเพลย์ย้อนยุค เดินนำหน้าขบวนพาเหรดอย่างสวยงาม กำลังเคลื่อนไปตามลานสนามกว้างที่เนืองแน่นไปด้วยกลุ่มนักศึกษาที่แต่งกายตามสีประจำของคณะ สร้างความตื่นตาตื่นใจกันอย่างคึกคัก

บนอัฒจันทร์สูงก็เช่นเดียวกัน กลุ่มหนุ่มสาวที่ส่งเสียงโห่ร้องบวกกับเสียงปรบมือที่เต็มไปด้วยพลังแห่งมิตรภาพเมื่อขบวนพาเหรดเคลื่อนผ่าน ธงสีถูกโบกสะบัดพัดพลิ้วไหวกระทบแสงแดดที่สาดส่องลงมาท่ามกลางจังหวะดนตรี กลุ่มนักศึกษามากมายกำลังถ่ายภาพและบันทึกวิดีโออยู่เพื่อเก็บไว้ในภาพความทรงจำ เสียงประกาศตารางการแข่งขันดังอยู่เป็นระยะ เพื่อให้นักกีฬาได้เตรียมความพร้อม

การแข่งขันกีฬาหลายประเภทเริ่มขึ้นพร้อมกัน เสียงกลองเสียงแตรประสานกับจังหวะดนตรีคึกคักของกองเชียร์ก็เริ่มขึ้น

เอวา จิวารี นั่งอยู่บนมุมสูงของอัฒจันทร์ ข้าง ๆ คือหนุ่มตี๋ตะวัน ขอบสนามสองฝั่งคือนักกีฬาฟุตบอลที่จะลงแข่งขันกันในวันนี้

กลุ่มนักฟุตบอลในชุดกีฬาสีฟ้าสดใสกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ข้างสนาม โดยมีนักศึกษาสาวรุ่นน้องหน้าตาจิ้มลิ้มที่คอยส่งขวดน้ำดื่มและผ้าเช็ดหน้าให้กับนักกีฬาอยู่ข้าง ๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะดูแลจิวากรเป็นพิเศษมากกว่าใครในทีม แม้กระทั่งคอยซับเหงื่อให้ ส่งยิ้มหวานเหมือนข้างสนามมีแค่เขาและเธอเท่านั้น เอวานั่งมองสองหนุ่มสาวที่สร้างฉากหวานจนมดในสนามเริ่มเอียนแล้ว รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าจนเผลอเบะปากอย่างลืมตัวกับภาพนั้น

“นั่นเด็กพี่แกเหรอ?” เอ่ยถามจิวารีแต่ตายังจับจ้องอยู่ที่สองหนุ่มสาวด้านล่าง

“ใคร?” จิวารียัง งง ๆ อยู่ พร้อมกับกวาดสายตาไปทั่วบริเวณเมื่อไม่รู้ว่าเพื่อนสาวกำลังเอ่ยถึงใคร

“นั่นน่ะ” เอวาใช้ปากชี้ลงไปที่สนาม

“ไม่รู้สิ...ดูแล้วก็น่าจะ” ขมวดคิ้วมองผู้เป็นพี่กับสาวน้อยที่กำลังพูดถึงและปฏิกิริยาที่เขาและเธอแสดงต่อกันก็มีความเป็นไปได้

“มาเติมกำลังใจให้กันถึงขอบสนามเลยนะ ดูท่าวันนี้แล้วสีแดงของเราคงแพ้สีฟ้ากระมัง” น้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อยอย่างลืมตัว ก่อนจะเบือนหน้าหนีหันไปทางอื่น และหยุดสายตาอยู่ที่กลุ่มนักกีฬาสีแดงของคณะตัวเอง

“หรือไม่ก็คงสู้ขาดใจ...แกดูนั่น”

พยักพเยิดไปที่ขอบสนามด้านล่าง จิวารีมองทะลุผู้คนลงไปในกลุ่มนักฟุตบอลสีแดงตามที่เอวาบอก อิทธิพลกำลังยืดเส้นยืดสายอบอุ่นร่างกายอยู่ โดยมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยหุ่นสะโอดสะองดึงดูดสายตา ยืนอยู่ปะปนกับกลุ่มทีมและโค้ช พูดคุยกันอย่างสนิทสนมกับอิทธิพล ไม่ยอมออกห่างชายหนุ่มเหมือนเป็นเงาของเขาเสียอย่างนั้น หล่อนหยิบโทรศัพท์มือถือกดถ่ายภาพอิทธิพลยิ่งกว่าตากล้องมืออาชีพเสียอีก

“ใครอ่ะ?” เอวาเอ่ยถาม

“คนนี้ดาวชมรมกีฬาฉันเคยเจอ” จิวารีตอบคำถามเพื่อนโดยยังไม่ละสายตาไปจากสองหนุ่มสาวที่กำลังพูดถึง

“มีด้วยเหรอดาวชมรม?”

“ไม่รู้สิ...ก็เวลามีงานประชาสัมพันธ์อะไรเกี่ยวกับชมรมนางก็จะเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้ตลอด คู่กับภูผาไงที่ฉันเคยเล่าให้แกฟัง”

“นางสวย เก่ง และเป็นนักกีฬาในชมรมด้วยนะ” สายตายังคงจับจ้องที่สาวสวยด้านล่าง ที่จูงมืออิทธิพลลากไปถ่ายรูปคู่อย่างสนิทสนมและหัวเราะสดใสเมื่อกดดูภาพที่หน้าจอมือถือในระยะใกล้ชิด

“จีบดินหรือเปล่า?” เอวามองและคาดเดา

“หรือว่าดินจีบนาง” หันมามองหน้าจิวารี

“ฉันจะไปรู้เหรอ” ทันทีที่ตอบเอวา รู้สึกเหมือนในใจมันหน่วง ๆ รับรู้ถึงการกระตุกวูบในความรู้สึกก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นเสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเป็นการส่งสัญญาณ พร้อมกับเสียงประกาศมาตามสาย นักกีฬาทีมสีฟ้าและสีแดงวิ่งเหยาะ ๆ ลงสนาม จิวากรและธีธัชที่เป็นคู่ต่อสู้ของอิทธิพลในการแข่งขันวันนี้ ยื่นมือตบไหล่แกล้งข่มขู่เพื่อนพร้อมรอยยิ้ม

การแข่งขันเริ่มขึ้นท่ามกลางเสียงเชียร์ที่แข่งกับเสียงบรรยาย กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายผลัดกันลุกกระโดดขึ้นโห่ร้องปรบมือเกรียวกราวเมื่อนักกีฬาฝั่งของตนทำสกอร์ได้

พักครึ่งแรกนักกีฬาเดินออกไปข้างสนาม มุมสีแดงหญิงสาวคนเดิมส่งน้ำพร้อมผ้าเช็ดหน้าให้อิทธิพลอยู่ข้าง ๆ เช่นเดียวกับสีฟ้าหญิงสาวคนเดิมก็ดูแลจิวากรอยู่ไม่ห่างเช่นกัน ส่วนสองสาวบนอัฒจันทร์ก็กำลังจับจ้องคู่รักหวานหยดย้อยทั้งสองคู่อย่างไม่วางตา เป็นเอวาที่ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าบึ้งตึงปนความหงุดหงิด

“ฉันหิวไปหาอะไรกินดีกว่าไม่อยากดูฟุตบอลแล้ว”

“ฉันก็หิว” จิวารีเบือนหน้าหนีจากภาพบาดตา สองสาวลุกจากอัฒจันทร์ทันที

“เดี๋ยวมานะตะวัน” เอวาหันไปบอกเพื่อนชาย

“ไปไหนกันละครับ?”

“หาอะไรกิน”

สองสาวหิ้วถุงของกินพะรุงพะรังเต็มสองมือจากซุ้มอาหาร เดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ แกะถุงขนมออกนั่งกินกันอย่างเหงา ๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน

“แกแข่งวิ่งผลัดกี่โมง” เอวาถามขึ้น

“ช่วงบ่าย หลังเที่ยงก็ต้องไปรวมตัวกับทีมแล้ว กินเสร็จก็เข้าไปดูบอลต่อดีกว่าเดี๋ยวไอ้ตี๋มันรอนาน”

“ฉันไม่เข้าไปดูแล้วนะรอดูแกแข่งทีเดียวเลย”

“อีกตั้งนาน เข้าไปเถอะฉันอยากดูว่าผู้หญิงคนนั้นใช่เด็กที่แจ็คหรือเปล่า” จิวารีพูดอย่างไม่คิดอะไร

“แต่ฉันไม่อยากรู้” สวนกลับทันที

“แกเป็นอะไร?” ขมวดคิ้วถาม

“เปล่า” ถอนลมหายใจอย่างหงุดหงิดหยิบขนมเข้าปากเคี้ยวแบบไม่รู้รสชาติ

“เปล่าได้ไง แกดูหงุดหงิดนะ”

“ก็อากาศมันร้อน” หยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาดูดและวางลง

“ไม่ใช่แกหึงพี่แจ็คหรอกนะ” มองหน้าและจับผิด

“แกจะบ้าเหรอ” หน้าแดงก่ำ แต่ลมออกหู

“ใช่แน่ ๆ” จิวารีชี้หน้า จ้องตาเพื่อน

“แกชอบพี่แจ็ค”

เอวาโดนอึ้งกินไปชั่วขณะ ชอบงั้นเหรอ? เธอถามตัวเองในใจ

ไม่...เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ใช่สเป็กเธอสักหน่อย ชายในมโนของคุณหนูเอวาคือสายเกา โอปป้า หน้าตี๋ หล่อละมุน สุภาพและอ่อนโยน แต่จิวากรไม่ใช่

“จริง ๆ ด้วย เอวา...แกชอบพี่แจ็ค” ทันทีที่จิวารีพูดจบหัวใจดวงน้อย ๆ ของคุณหนูก็หล่นวูบลงตาตุ่ม

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?” จิวารีจี้ต่อ

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง...จิ๋วแกอย่ามาหาเรื่อง”

“หูย...โกรธขนาดนี้ไม่ชอบ...ไม่หึง ดูไม่ออกเลยนะเอวา”

ความหงุดหงิดของเพื่อนสาวแต่ทำให้จิวารีหัวเราะได้ จับไหล่เอวาให้หันมามองหน้า ส่งยิ้มเห็นฟันขาว จ้องหน้าจริงจัง แต่แล้วหน้าตาก็หมองลงทันที ปล่อยมือจากไหล่เพื่อน

“ไม่ดีหรอก ถ้าแกชอบผู้ชายแบบพี่แจ็คอะนะ น้ำตาจะเช็ดหัวเข่าฉันบอกไว้เลย พี่แจ็คเจ้าชู้จะตายแกก็รู้นี่”

“ฉัน...เอ่อ...”

“ไม่รู้ว่า...ใช่หรือเปล่า” หลบตาเพื่อนไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“แล้วแกคิดว่าคนอื่นจะรู้ไหม?” ถามออกไปด้วยความกังวล

“หมายถึงใคร?”

“ก็เพื่อน ๆ แล้วก็...พี่แจ็ค”

“โอ๊ย...ไอ้ตี๋มันบื้อจะตาย...ไอ้ธีก็โง่ขนาดนั้น ส่วนพี่แจ็คอ่ะนะ...เขาคงไม่ได้โฟกัสหรอกเพราะรู้ว่าแกเป็นเพื่อนรักฉัน เขาไม่กล้ามีเรื่องกับฉันหรอก”

จิวารีโม้ไปเรื่อย และไม่อยากเอ่ยถึงเพื่อนสนิทอีกคน

“แต่ถ้าแกชอบไปแล้วฉันจะช่วย”

“ไม่เอาอ่ะ เขาไม่ได้ชอบฉันจะให้ฉันไปแย่งผู้ชายของคนอื่นฉันคงทำไม่ได้หรอก” หน้ามุ่ยทันที

“ชอบไม่ชอบก็ให้ได้รู้ไง”

“คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ฉันต้องผ่านความเห็นชอบจากฉันก่อนเท่านั้น ไม่งั้นอย่าหวัง และแกผ่านแล้ว ฉันชอบพี่สะใภ้รวยสายเปย์อย่างแก” ตบไหล่เพื่อนเบา ๆ เป็นการหยอก

“บ้าเหรอ?” เอวาที่สีหน้ายังเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนอยู่

“แกไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง...โอเค๊?”

“พี่สะใภ้” แตะคางเพื่อนสาวเป็นการหยอกเย้า

เอวาฟาดเบา ๆ ที่แขนเพื่อนเมื่อโดนล้อ

“จิ๋ว” เสียงเรียกอยู่ใกล้ ๆ ทำให้บทสนทนาของสองสาวสิ้นสุดลง

“ภูผา”

ภูผาในชุดนักกีฬาที่เปียกชุ่มไปทั้งตัวสะพายกระเป๋าเป้เดินคู่มากับหนุ่มหล่อในชุดนักกีฬาเช่นกัน และหยุดยืนอยู่ตรงหน้าสองสาว

“ผมส่งข้อความหาจิ๋วไม่ตอบเลย มองหาทั่วสนามก็ไม่เจอ มานั่งอยู่นี่เอง” ภูผาทักทายด้วยรอยยิ้ม จิวารียกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความ

“ขอโทษทีปิดเสียงไว้น่ะ” ก่อนสองสาวจะลุกขึ้นยืนและแนะนำเพื่อนให้รู้จักกัน

“กีตาร์ครับ” ชายหนุ่มเพื่อนภูผาแนะนำตัวพร้อมส่งยิ้ม

“นี่เอวาเพื่อนจิ๋ว”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

หนุ่มสาวพูดคุยสัพเพเหระอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่ภูผาจะชวนเดินไปหาของกินเพิ่ม

“ซุ้มขนมไทยที่จิ๋วเคยบอกอยากกินอยู่ทางโน้น แล้วก็พวกเครื่องดื่ม” ภูผาชี้มือบอก

“ที่บริษัทของพ่อนายให้สปอนด์เซอร์มานะเหรอ?” ภูผาพยักหน้า

สองหนุ่มและสองสาวเดินสำรวจโซนอาหารอีกครั้ง สนทนากันไปเรื่อยแม้ยังไม่ได้สนิทแต่ดูเหมือนจะถูกคอกันเสียแล้ว อาหารหลากหลายมีทั้งแบบฟรีที่มีผู้ใหญ่ใจดีส่งมาสนับสนุนการกีฬากับทางมหาวิทยาลัย และมีแบบเปิดบูทขายของหาทุนเข้าชมรมของแต่ละคณะอีกด้วย

บรรยากาศคึกคักท่ามกลางแสงแดดและเสียงเชียร์ เมื่อกีฬาหลายประเภทแข่งขันจบผู้คนก็ทยอยเดินเข้าโซนอาหารกันอย่างคึกคัก ในขณะที่แดดจ้าบนท้องฟ้าสีครามสดใสนั้น เมฆก้อนใหญ่ก็บดบังแสงอาทิตย์ไว้และตั้งเค้าทะมึนดำเหมือนห่าฝนใหญ่กำลังจะโปรยปรายความชุ่มฉ่ำให้หนุ่มสาวได้คลายร้อน

จิวารีและเอวายืนอยู่หน้าซุ้มขนมและเครื่องดื่ม ช่วยภูผาและกีตาร์แจกให้หนุ่มสาวที่เดินผ่านไปมาอย่างไม่รู้จักเหนื่อยเหนื่อย ภายใต้ผู้สนับสนุนคือบริษัทของที่บ้านภูผา ถือเป็นการพีอาร์ประชาสัมพันธ์ไปในตัว

“พี่ดิน ฝนอยากกินขนมไทยเห็นพี่จีนบอกว่าอยู่โซนนั้นเราเดินไปดูกันเถอะค่ะ” น้ำฝนเดินเกาะแขนชายหนุ่มลากไป หลังจากเสร็จการแข่งขันอิทธิพลก็ปลีกตัวเดินออกมาตามหาเพื่อนสาวหลังจากที่ตะวันถ่ายรูปและส่งเข้าไลน์กลุ่ม

ตะวัน : “หลอกให้ผมนั่งรอแต่แอบยืนแจกขนมอยู่กับหนุ่มหล่อนี่เอง”

ตะวัน : “เอวามีแฟนแล้วเหรอครับ?” ส่งภาพเอวากับกีตาร์เข้ามา

ตะวัน : “แล้วคนนี้แฟนจิ๋วเหรอครับ?” ส่งภาพจิวารีกับภูผาเข้ามา

ตะวัน : “ไม่เห็นพามาแนะนำบ้างเลยถึงหล่อสู้ผมไม่ได้แต่ก็โอเค...ผ่าน” ตะวันแซวผ่านไลน์กลุ่มแต่คนอ่านไม่ขำด้วย

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status