"พวกเจ้าออกไปให้พ้น" หานสวี่เดินเข้ามาที่เรือนของเสิ่นชิงเยียนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาหันไปตวัดสายตาไล่เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้สองสาวใช้ประจำตัวของเสิ่นชิงเยียนให้ออกจากห้องไปเสีย สาวใช้สองนางเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตนเองด้วยท่าทีหวาดหวั่นไม่น้อย
"พ่อบ้านมาลากตัวนังบ่าวสองคนนี้ออกไปโบยคนละห้าสิบไม้"หานสวี่เห็นทั้งสองไม่ยอมเชื่อฟังตนเองก็เกิดโมโหขึ้นมา เขาตะโกนสั่งพ่อบ้านด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขาสั่งให้ออกไปยังจะกล้าขัดคำสั่ง มองหน้าเจ้านายตนเองอย่างนั้นหรือ ช่างบังอาจเกินไปแล้ว ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไรกัน ถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเช่นนี้ไม่นานพ่อบ้านชราก็วิ่งเข้ามาเอาตัวเสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้ออกไป ทว่าเสิ่นชิงเยียนกลับไม่ยินยอม
"หยุดนะ!! ห้ามนำตัวพวกนางออกไป เหตุใดท่านจึงมาสั่งโบยสาวใช้ข้าเล่าเจ้าคะ นางทำอันใดผิดต่อท่านกันหรือ" เสิ่นชิงเยียนลุกขึ้นมองหน้าหานสวี่
ครั้งนี้เขาไร้เหตุผลเกินไปแล้ว นึกอยากจะโบยใครก็โบยได้อย่างนั้นหรือ ทั้งสองเป็นสาวใช้ของนาง หากนางไม่ปกป้องคนของตน แล้วจะให้ใครมาปกป้องกันเล่า
"ที่นี่คือจวนของข้า ข้ามีสิทธิ์จะโบยใครก็ได้ตามใจของข้า" หานสวี่หันไปตวาดเสิ่นชิงเยียนเสียงดังนางรู้สึกหวาดหวั่นกับสีหน้าและท่าทางของคนตรงหน้า ทว่าก็ยังทำใจกล้าสู้หน้าเขา ทั้ง ๆ ที่ขานางสั่นจวนเจียนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
"หากท่านไม่แจ้งแก่ข้า ว่าสาวใช้ข้าทำเรื่องใดที่ผิดต่อท่าน ข้าที่เป็นเจ้านายคงจะปล่อยให้ท่านลากคนของข้าออกไปโบยโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้เจ้าค่ะ" เสิ่นชิงเยียนจ้องหน้าหานสวี่กลับไปอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน
"ได้!! เสิ่นชิงเยียนหากเจ้ารนหาที่ก็ย่อมได้ ดี!! พ่อบ้านลากตัวนางออกไปโบยพร้อมกับสาวใช้ของนาง" เสิ่นชิงเยียนเบิกตากว้างอย่างตกใจ นางไม่เคยคิดเลยว่าหานสวี่จะเป็นบุรุษที่ไร้เหตุผลและจิตใจหยาบกระด้างถึงเพียงนี้
"อย่ามาแตะต้องตัวข้า ท่านมีเหตุผลอะไรถึงมาสั่งโบยพวกข้า ข้ามีสิทธิ์จะรู้ความผิดของตนเอง" นางเชิดหน้าขึ้นมองด้วยสายตาที่ปวดร้าว
"สาวใช้ของเจ้าแข็งข้อไม่ฟังคำสั่งของข้า เหตุผลข้อนี้ข้าสั่งโบยได้หรือไม่ ที่นี่คือจวนของข้า หากไม่เชื่อฟังข้าจะอยู่ร่วมกับข้าได้อย่างไร ส่วนเจ้าเสิ่นชิงเยียน เจ้าสั่งสอนให้สาวใช้แข็งข้อกับข้า และที่สำคัญเจ้ามีสิทธิ์อันใดไปหาเรื่องคนรักของข้า นางหาใช่คนที่เจ้าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้" หานสวี่จ้องหน้านางเหมือนอยากเข้ามาบีบคอบางให้หักคามือเมื่อช่วงบ่าย สาวใช้ของไป่อ้ายเหม่ยนำความมาบอกแก่เขาที่สำนักศึกษาหลวง เรื่องที่เสิ่นชิงเยียนประกาศกร้าวว่านางจะไม่ยอมให้ไป่อ้ายเหม่ยได้แต่งเข้ามาเป็นภรรยาเอกของหานสวี่ และยังบอกอีกว่าเสิ่นชิงเยียนด่าไป่อ้ายเหม่ยให้ได้รับความอับอาย หาว่าไป่อ้ายเหม่ยจะสวมหมวกเขียวให้นาง ผู้คนต่างก็ได้ยินกันทั่วร้านมู่ต๋านฮวา สร้างความอับอายให้ไป่อ้ายเหม่ยเป็นอย่างมาก
เมื่อหานสวี่ได้ฟังดังนั้นใจก็ร้อนเป็นไฟ ชายหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เขาเดินทางไปปลอบไป่อ้ายเหม่ยที่จวนอยู่เป็นนานสองนาน พร้อมกับรับปากว่าจะคืนความยุติธรรมให้แก่นางอย่างแน่นอน
"หึ...นางกล่าวเช่นนั้นท่านก็เชื่อเสียแล้ว ทำไมท่านไม่ถามข้าบ้างเล่า ว่านางกับข้าพูดจาอันใดกัน" เสิ่นชิงเยียนแสยะยิ้มออกมาใบหน้าหวานบูดเบี้ยว ใจร้าวระทมกับความใจดำของคนที่ได้ชื่อว่าสามี หากเขาจะถามนางสักครึ่งคำ หาใช่มาปรักปรำกันเช่นนี้
"ข้าต้องถามด้วยหรือ เหตุใดข้าต้องถามเจ้ากันเล่า เจ้าไม่ได้มีความสำคัญอันใดต่อข้าเลยแม้แต่น้อย มันก็แจ้งแก่ใจอยู่แล้วว่าเจ้ามันไร้ยางอายถึงเพียงใด พ่อบ้านยังไม่มาลากนางออกไปโบยอีก หรือว่าจะให้ข้าสั่งโบยเจ้าด้วยอีกคน"
พ่อบ้านชรารีบเข้ามาในห้อง สีหน้าของพ่อบ้านดูไม่ดีเอาเสียเลย เขาทำความเคารพเสิ่นชิงเยียนด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน ทว่าไม่กล้าที่จะยื่นมือออกไปโดนตัวของนาง
หานสวี่เห็นเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป เสียงทรงอำนาจของเถาฮวาก็ดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง
"ใครกล้าถูกตัวลูกสะใภ้ข้า ข้าจะขายมันออกไป บ่าวที่เลี้ยงไม่เชื่องโง่เขลาเบาปัญญา ก็หาได้มีความจำเป็นต้องอยู่ในจวนของข้าไม่ บ่าวชั่วเช่นนี้ข้าจะเลี้ยงไว้ทำประโยชน์อันใดกัน"เถาฮวาเข้ามาในห้อง นางกวาดสายตามองผู้คนในห้อง พ่อบ้านชรารีบก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว หากจะพูดตามความเป็นจริงแล้ว คนที่มีอำนาจอย่างแท้จริงก็หนีไม่พ้นฮูหยินใหญ่เถาฮวาคนนี้ ขนาดหานจี้กงยังต้องเกรงใจนางอยู่หลายส่วน
"ข้าไม่กล้าขอครับฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยไม่กล้า"พ่อบ้านชราได้โอกาสรีบหลบออกมาทันที เรื่องของนายหาใช่เป็นสิ่งที่บ่าวอย่างเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ไม่
"ช่างดีเหลือเกินบุตรชายข้า เจ้าเก่งกล้ามากสินะหานสวี่ เชื่อนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไป่อ้ายเหม่ยอย่างไม่ลืมหูลืมตา ช่างโง่เขลาเบาปัญญาเสียจริง ๆ "ฮูหยินเถาฮวาปรบมือเสียงดัง นางหันไปมองหน้าบุตรชายตนเองใบหน้าของนางที่จ้องมองบุตรชายนั้นบูดบึ้ง สองแม่ลูกยืนมองหน้ากัน ก่อนที่หานสวี่จะก้มหน้าลง
"นางพูดอันใดเจ้าก็เชื่อนางไปเสียหมด หากวันใดนางมาบอกเจ้าว่าแม่ไปหาเรื่องนาง เจ้าก็คงจะสั่งคนมาโบยแม่สินะ" หานสวี่เงยหน้าขึ้นมองมารดาตนเองอย่างตกใจ
"ท่านแม่ข้าไม่บังอาจ ข้าจะกล้าทำอย่างนั้นได้เช่นไรกันขอรับ" หานสวี่เอ่ยตอบมารดาตนเองทันที
"ไม่กล้าหรือ แล้วเหตุใดจึงกล้าสั่งโบยฮูหยินของเจ้า นางผิดอันใด เจ้ารู้แจ้งแล้วหรือ ข้ายังไม่ได้ยินเจ้าถามนางสักครึ่งคำ ก็จะสั่งโบยคนต่อไปภายภาคหน้าเจ้าจะปกครองบ่าวไพร่ในจวนได้เยี่ยงไร หากหูเบาเช่นนี้"เถาฮวาได้โอกาสสั่งสอนบุตรชายตนเอง ที่นับวันจะโง่เขลาเบาปัญญามองมารยาของสตรีเช่นไป่อ้ายเหม่ยไม่ออก
"ข้าผิดไปแล้วขอรับ แต่เสิ่นชิงเยียนก็มิควรไปหาเรื่องเหม่ยเอ๋อร์ นางบอบบาง คุณหนูเช่นนางคงจะสู้ปากลูกสาวพ่อค้าอย่างนางไม่ได้ ท่านแม่ไม่ชอบนางก็แล้วไป หากไม่ให้ความเป็นธรรมกับนางบ้าง ผู้อื่นจะมองว่าตระกูลหานรังแกผู้คนเอาได้นะขอรับ" หานสวี่หันไปมองเสิ่นชิงเยียนที่ยืนหลบอยู่หลังมารดาของตนอย่างเกลียดชัง ท่านแม่ต่างหากเล่าที่มองมารยาของสตรีนางนี้ไม่ออก หาใช่เขาไม่
"เจ้าไปหาเรื่องไป่อ้ายเหม่ยหรือเยียนเอ๋อร์" เถาฮวาหันไปถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงเบาลงไปหลายส่วน
"เปล่าเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเพียงบอกนางว่าข้าโชคดีที่มีแม่สามีรักใคร่ หากนางได้แต่งเข้าจวนใดก็ขอให้มีแม่สามีที่ดีเช่นข้า เพียงเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"
"เจ้าบอกว่าจะให้นางมาเป็นอนุของข้า เจ้าดูถูกนางที่เป็นบุตรสาวท่านกงซุนถึงเพียงนี้ เจ้าจะว่าอย่างไร" หานสวี่พูดแทรกขึ้นมาเสียงดัง เสิ่นชิงเยียนขมวดคิ้วเรียวเข้าด้วยกัน
"ข้าหาได้พูดเช่นนั้นไม่เจ้าค่ะ ข้าเพียงบอกว่า วันนี้ข้าไม่มีเวลาสนทนาด้วย หากเจ้าแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรอง เราอาจจะมีเวลาสนทนากันมากขึ้น ก็เพียงเท่านี้ ข้าหาได้ให้นางมาเป็นอนุท่านไม่" ไม่คิดว่าบุตรสาวเจ้านายเช่นไป่อ้ายเหม่ยจะปั้นน้ำเป็นตัวเก่งถึงเพียงนี้ ในใจเสิ่นชิงเยียนอดจะนับถือในการสร้างเรื่องสร้างราวของอีกฝ่ายไม่ได้เลยจริง ๆ
"เจ้าโกหก" หานสวี่ตวาดออกไป
"พอได้แล้ว เยียนเอ๋อร์บอกว่าไม่ได้พูด เหตุใดเจ้าจึงไม่เชื่อนาง เจ้าไปหาหลักฐานมาหานสวี่ หากจะมาปรักปรำคนในจวนของข้า ก็ต้องหาหลักฐานมาให้ข้า ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ แล้วไป่อ้ายเหม่ยคือผู้ใดจึงกล้ามากล่าวหาลูกสะใภ้ของข้าเช่นนี้"
หานสวี่ไม่พูดสิ่งใดอีก ใบหน้าหล่อเหลาเขียวคล้ำไปด้วยโทสะ เขาก้มศีรษะคำนับมารดาตนเองก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง
ตอนพิเศษ 2 หานจุ้นเสิ่นชิงเยียนเดินหน้าบึ้งตึงไม่ยอมรอหานสวี่ ชายหนุ่มรีบเดินตามหลังนางไปติด ๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ผิดกับร่างอรชรที่เดินอย่างไม่สนใจเขา"ฮูหยินเจ้าอยากกินบะหมี่เกี๊ยวใช่หรือไม่ ไปกันเถอะพี่ให้บ่าวไปจองโต๊ะรอไว้แล้ว" หานสวี่ยื่นมือไปจับข้อมือบางของเสิ่นชิงเยียนเอาไว้ ทว่านางก็บิดข้อมือออกอย่างไม่ยินยอม นางบิดออกเพียงน้อย หากไม่สังเกตก็คงจะไม่มีผู้ใดได้เห็น หานสวี่หาได้ยอมให้ฮูหยินของเขาทำเช่นนั้น มือหนาสอดกุมมือบางเอาไว้ พลางส่งยิ้มใบหน้าหล่อเหลาไปให้อย่างเอาใจ เสิ่นชิงเยียนเขินอายทว่ายังแสร้งทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น"ปล่อยข้า ไม่ต้องมาจับ!!" นางพูดออกมาเสียงเบา "ปล่อยได้อย่างไร หากพี่ปล่อยเจ้าก็เดินหนีพี่ไปอีก ภรรยาไม่พอใจสามีเรื่องใดหรือ บอกสามีได้หรือไม่" หานสวี่เอ่ยเสียงเย้า ยิ่งทำให้ฮูหยินน้อยทั้งมีโทสะปนเขินอายไปกันใหญ่"ท่านพี่!!...เหตุใดท่านจึงเป็นคนหน้าไม่อายเช่นนี้ ข้าไม่อยากจะพูดกับท่านพี่แล้ว" เสิ่นชิงเยียนหันหน้าหนี เสี่ยวเจียงและเสี่ยวอวี้มองหน้ากันพลางก้มหน้ายิ้ม"เรื่องใดกัน พี่หน้าไม่อายตรงไหนหรือเยียนเอ๋อร์บอกแก่พี่สิ ไหนเจ้าเคยให้
ตอนพิเศษ 1 เทศกาลโคมไฟ"เยียนเอ๋อร์คืนนี้แม่จะพาเจ้าไปลอยโคมที่งานโคมไฟกันดีหรือไม่"เสิ่นชิงเยียนหันไปยิ้มให้แม่สามีก่อนจะพยักหน้าตกลง"เจ้าค่ะท่านแม่ เยียนเอ๋อร์อยากไปกินบะหมี่ร้านริมแม่น้ำเจ้าเดิมนั่นอีกเจ้าค่ะ"นางจำได้ดีร้านบะหมี่หยกร้านนั้นจะขายแค่ปีละครั้ง ในงานเทศกาลโคมไฟเท่านั้น ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดร้านอร่อยเช่นนั้นถึงได้เปิดขายแค่ปีละครั้ง ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย"เฮ้อ...นึกถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้วข้าก็โมโหยิ่งนัก ดีนะที่แม่นางไป่ผู้นั้นไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับเจ้าอีก หากไม่เช่นนั้นแล้วข้านี่แหละที่จะจัดการนางเองคอยดูเถอะ" เถาฮวาทุบกำปั้นลงมาที่ฝ่ามือตนเองอย่างแค้นเคืองหลังจากที่หานสวี่กับเสิ่นชิงเยียนคืนดีกันแล้ว ไป่อ้ายเหม่ยก็ยังคงมาหาหานสวี่เพราะหมายอยากจะกลับมาคืนดีกับเขา ทว่าเถาฮวาจัดการอย่างเด็ดขาดหลังจากนั้น ไป่อ้ายเหม่ยก็ไม่เคยมาหาอีกเลยเสิ่นชิงเยียนนึกย้อนกลับไปวันที่ไป่อ้ายเหม่ยตั้งใจมาหาเรื่องนางที่จวน นางกำลังนั่งทำถุงหอมให้กับสามีอยู่ที่ศาลาริมสระบัว บ่าวรับใช้ในจวนปล่อยให้ไป่อ้ายเหม่ยเข้ามา และนางพยายามจะพูดจายุแยงให้เสิ่นชิงเยียนและหานสวี่ผิดใจกันท
ตอนที่ 35 เข้าหอ (จบ)หานสวี่ใช้นิ้วหนาแบะกลีบบุปผางามสองกลีบให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดเกสรสีสวยด้านในที่รอให้เขาเชยชมหานสวี่ไม่รอช้าเขาแลบลิ้นเลียร่องหลืบสวาทของนางอย่างช้าๆ แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่เร้ามากยิ่งขึ้น ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินเม็ดรักสีชมพูของนางพร้อมกับดูดดึงขบเม้มมันอย่างหื่นกระหาย เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนแทบทนไม่ไหว นางส่งเสียงหวานครวญครางด้วยความเสียวซ่านจนเกินจะทานทน"อ๊ะ...ทะ...ท่านพี่เจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนตัวกระตุกเกร็งขึ้นมา มือบางกำผ้าปูเตียงแน่น"หวานเหลือเกินเยียนเอ๋อร์" เสียงร้องครวญครางของฮูหยินตัวน้อยสร้างความปั่นป่วนให้ชายหนุ่มไม่น้อย หานสวี่กระดกลิ้นร้อนให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น เสิ่นชิงเยียนเสียวสะท้านเสียจนต้องยกเอวลอยหวือขึ้นมากลางอากาศไม่นานนักน้ำหวานจากดงดอกไม้ไหลเยิ้มออกมาอย่างไม่ขาดสาย หานสวี่แลบลิ้นดูดเลียน้ำหวานของนางจนสะอาดหมดจดโดยไม่นึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาใช้นิ้วหนาสอดแทรกเข้าไปในรูสวยของนางทีละนิ้วเพื่อเบิกทางไม่ให้ร่างบางได้รับความเจ็บปวดจนเกินไป"ท่านพี่...อื้อ...เยียนเอ๋อร์ไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเสียงร้องของฮูหยินตัวน้อย พ
ตอนที่ 34 กลับจวนสกุลหานเสี่ยวเจียงกับเสี่ยวอวี้นั่งมองเจ้านายตนเองยิ้มพลางทำถุงหอมไปพลางอย่างมีความสุข ใบหน้าหวานเบิกบานไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีแต่ความหมองเศร้าทว่าตอนนี้กลับไม่หลงเหลือความเศร้านั้นอีกเลย สาวใช้ทั้งสองชอบใบหน้าของเจ้านายตนเองเช่นนี้มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก พวกนางไม่รู้ว่าฮูหยินน้อยไปคืนดีกับคุณชายใหญ่ตอนไหน ทว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่ฟื้นขึ้นมาในรุ่งเช้า นางก็เห็นว่าฮูหยินน้อยใจอ่อนลงแล้ว หรืออาจจะเพราะว่าฮูหยินน้อยไปเฝ้าไข้คุณชายใหญ่ทั้งคืน ทั้งคู่อาจจะได้ปรับความเข้าใจกันในตอนนั้นก็ย่อมได้"เอ๋!!...ถุงหอมที่เจ้าทำมีสิ่งใดดีหรือ เจ้าถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับถุงหอมเช่นนั้น" เสิ่นจื่อเหนียงเดินเข้ามานั่งตรงหน้าบุตรสาวได้สักพักแล้ว ทว่าบุตรสาวนางก็ไม่เห็นเสียที คนเป็นมารดาจึงได้พูดแกมหยอกล้อออกมาเสิ่นชิงเยียนเงยหน้าขึ้นมองหน้ามารดาตนเองพลางยิ้มเขิน"ท่านแม่อย่าล้อเยียนเอ๋อร์เล่นสิเจ้าคะ" เสิ่นชิงเยียนขยับเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน"แกล้งที่ใดกัน แม่ก็แค่เห็นว่าเจ้ามีความสุขกับการทำถุงหอมเสียจริง คงจะทำให้คนสำคัญกระมัง"เสิ่นจื่อเหนียงยกมือลูบศีรษะมนของบุตรสาวอย่างเอ็นดู"ใช่แล
ตอนที่ 33มอบใบหย่าให้ข้าเถอะฮูหยินเถาฮวาและหานจี้กงรีบเดินทางมายังจวนสกุลเสิ่นเมื่อรู้ข่าวการล้มป่วยของบุตรชาย เสิ่นชิงเยียนก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เมื่อครั้งตอนที่นางไปอาศัยอยู่ในจวนสกุลหาน แม่สามีผู้นี้ดูแลนางเป็นอย่างดี หากนางเจ็บป่วยแม่สามีก็จะเป็นผู้ต้มยามาให้นางได้ดื่มด้วยตนเองทุกครั้งเมื่อนึกถึงตรงนี้น้ำตานางก็ไหลออกมา ทว่าหานสวี่มาจวนนางแค่เพียงหนึ่งเดือนนางกลับทำให้เขาล้มป่วยหนักถึงเพียงนี้ นางจะกล้าสู้หน้าแม่สามีได้อย่างไร"เยียนเอ๋อร์เจ้าอย่าร้องไปเลย ท่านพี่ของเจ้าหาได้เป็นอันใดไม่" เถาฮวาดึงมือลูกสะใภ้มากุมไว้ พลางลูบหัวอย่างปลอบใจ ท่ามกลางสายตาของทั้งสองตระกูลที่มองไปยังแม่สามีและลูกสะใภ้ที่รักใคร่กลมเกลียวกัน พลันในใจของเสิ่นจื่อเหนียงก็รู้สึกยินดียิ่งนัก นับว่าหายากที่แม่สามีจะเอ็นดูลูกสะใภ้เช่นนี้ ถือว่าเยียนเอ๋อร์ของนางวาสนาดีไม่น้อยเลยทีเดียว"ลูกก็อย่าได้ร้องไห้อีกเลยเยียนเอ๋อร์ เดี๋ยวแม่สามีเจ้าจะไม่สบายใจ" เสิ่นจื่อเหนียงดุบุตรสาวตนเองออกมาอย่างไม่จริงจังนัก "ข้าเสียใจเจ้าค่ะท่านแม่ เพราะข้าท่านพี่จึงได้ล้มป่วยเช่นนี้" เสิ่นชิงเยียนร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจทนต
ตอนที่ 32 สลบหานสวี่หันกลับไปมอง เมื่อเห็นหญิงคนรักเขาก็ยิ้มอ่อนโยนออกมา ความพยายามเขาสำเร็จแล้วใช่หรือไม่ เขาก้าวขาเดินเข้าไปหาเสิ่นชิงเยียนอย่างดีใจ มือหนายื่นออกไปหมายจะสัมผัสกับมือบางของนาง ทว่าไม่ง่ายอย่างนั้นเสิ่นชิงเยียนส่ายหน้าและเดินถอยหลังออกไปไม่ยินยอมให้หานสวี่สัมผัสมือของนางได้"เยียนเอ๋อร์..." เสียงแหบพร่าของหานสวี่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา "อย่าถอยจากข้า..."เสียงเว้าวอนของหานสวี่ สร้างความปวดใจให้กับนางไม่ใช่น้อย ทว่าหัวใจนางไม่อาจจะทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป"ข้าถาม...เหตุใดท่านต้องมาทนทรมานตนเองทำไมกัน ที่นี่ไม่มีอะไรที่ท่านต้องการอีกต่อไปแล้ว กลับไปได้แล้ว!!" เสิ่นชิงเยียนตวาดออกมาเสียงสั่นเครือ นางมองหน้าหานสวี่ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา"เยียนเอ๋อร์ เจ้าจะอภัยให้ข้าไม่ได้หรือ ขอเพียงครั้งเดียวข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจอีก ที่ผ่านมาข้ารู้แล้วว่าข้าทำผิดต่อเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ได้โปรดอภัยให้เถอะนะ อภัยให้กับความโง่เง่าของข้าเพียงครั้ง" หานสวี่อ้อนวอนเสียงเบา เขามองใบหน้าหวานที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาราวไข่มุกอย่างปวดใจ เขาทำให้นางร้องไห้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาย