Share

บทที่ 637

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ยอมยกราชาแมงมุมหน้าผีให้ข้าก่อน จากนั้นจึงถามชื่อข้า จดจำชื่อข้าไว้ หลังจากพ้นสถานการณ์ล่อแหลมค่อยให้คนในตระกูลกลับมาหาเรื่องข้าสินะ...”

คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานทำเอาซางเหลยหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มบนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อขึ้นมา

เขาเอ่ยขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นาง...เข้าใจผิดแล้ว ดูจากที่แม่นางควบคุมหมาป่าเข้ามา เดาได้ไม่ยากว่าแม่นางเองก็เป็นนักควบคุมสัตว์ ในเมื่อเป็นนักควบคุมสัตว์ ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อตระกูลซางของพวกเราบ้าง ตระกูลพวกเราทำกิจการใหญ่โต ไม่ใช่คนใจแคบที่จะทำร้ายผู้มีพระคุณแน่นอน”

จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา “ข้ากลับรู้สึกว่า คนตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้านี่ล่ะ ที่เป็นพวกใจแคบทำร้ายผู้มีพระคุณ เรื่องนี้ทำกันน้อยเสียที่ไหน ลูกไม้พวกนี้ข้ารู้ไต๋หมดแล้ว”

สีหน้าซางเหลยยิ่งแข็งขึ้นอีก เขาเพิ่งคิดจะพูดอะไร

แต่ก็ได้ยินเสียงเรียบๆ ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะบอกชื่อกับพวกเจ้าหรอกนะ”

ซางเหลยลิงโลดขึ้นมาในใจ คนอื่นๆ เองก็หัวเราะเย็นชาในใจ รู้สึกแค่ว่าหญิงสาวคนนี้ติดเบ็ดเข้าแล้ว นางตอนนี้ต่อห้จะอหังการแค่ไหน แต่คนตัวเล็กมีหรือจะมา
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 638

    อันที่จริงลูกหลานตระกูลชั้นสูงอีกหลายคน ตอนนี้ล้วนมีความคิดเช่นเดียวกันต่อจั๋วซือหราน คือเกลียดชังจนอยากจะควักเนื้อเถือกระดูกนางออกมาง่ายมาก น่าจะเพราะจั๋วซือหรานทำในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าทำ ทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้และพวกเขากลับคงคงไม่กล้าไปทำ และทำไม่ได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจยอมรับว่าสิ่งที่นางทำเป็นสิ่งถูก และไม่สามารถยอมรับความสามารถและพลังที่แท้จริงของนางทำได้แค่ปฏิเสธจั๋วซือหรานอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้ตนเองไม่รู้สึกไร้ค่าน่าจะเพราะด้วยความรู้สึกเช่นนี้เหล่าลูกหลานตระกูลซางพวกนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นซางเหลยส่งสายตาให้กับพวกเขา ทุกคนทยอยกันตอบรับ ในมือมีการเคลื่อนไหว!“คุณหนู! ท่านดูพวกเขาสิ...!” ฝูซูเองก็เห็นการเคลื่อนไหวนี้ของพวกเขา น้ำเสียงตกตะลึงเล็กน้อยจั๋วซือหรานหรี่ตาลง สายตาเหลือบมองอย่างเย็นชาลูกหลานตระกูลซางเหล่านี้ ล้วนทยอยกันกรีดมือตนเอง เลือดสดหยดลงพื้นดิน จากนั้นพวกเขาก็ใช้ฝ่ามือทั้งคู่ ออกแรงกดลงไปบนพื้นสีหน้าที่อ่อนแอแต่เดิมของพวกเขา ยิ่งดูอ่อนแรงลงไปอีก ขาวซีดจนไม่เห็นสีเลือดแล้วบนพื้นดิน เหมือนมีลวดลายไร้รูปร่างอะไรอยู่ เปล่งแสงขึ้นมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 639

    ราชาแมงมุมผีย่างเข้าหาจั๋วซือหรานทีละก้าวๆ เพราะร่างกายที่ใหญ่โต จึงรู้สึกว่าแค่ไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้าจั๋วซือหรานแล้วจากการเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ของราชาแมงมุมหน้าผี ราชาหมาป่าน้ำแข็งกับคู่ของมัน ก็อยู่ในท่วงท่าระแวดระวังเตรียมพร้อมขนของพวกมันตั้งชัน หลังโก่งขึ้น กรงเล็บแหลมออกแรงจิกพื้นกล้ามเนื้อทั่วตัวเหมือนตึงเกร็ง ราวกับขอแค่ราชาแมงมุมหน้าผีโจมตีอะไรมา พวกมันก็จะพุ่งเข้าโจมตีทัดทานทันที!ฝูซูแทบจะเยี่ยวราด สองขาเขาสั่นยวบ แต่ก็ยังฝืนยืนอยู่ที่เดิม ยกหน้าไม้ในมือขึ้น เล็งไปที่ท้องป่องๆ ของราชาแมงมุมหน้าผีอดพูดไม่ได้เลย จั๋วซือหรานมองคนเก่งจริงๆ วันนี้จึงจงใจเลือกฝูซูมาเป็นพิเศษคนคนนี้แม้จะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่จั๋วซือหรานมองออกว่าเขามีความพิเศษ ในตอนที่ยิ่งลนลาน เขาก็จะยิ่งหนักแน่นขึ้นมามั่นคงยามอันตรายมาถึง เช่นเดียวกันตอนนี้ ในใจลนลานจนเยี่ยวแทบจะราด แต่มือกลับมั่นคงไม่ไหวติง ดวงตาไม่กระพริบ ราวกับขอแค่เจ้าแมงมุมสกปรกนี่กล้าทำอะไรคุณหนูของเขาล่ะก็แมงมุมตัวนี้ต่อให้จะตัวใหญ่น่าตกใจแค่ไหน เขาก็จะยิงหน้าไม้ออกไปทันที จะแทงพุงของมันให้แตกไปเลย!เขาในตอนนี้กระทั่งยังจำได้อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 640

    จากเนื้อหาที่นางพูดออกมาเมื่อครู่นี้ พวกเขาไม่สงสัยแม้แต่น้อย จั๋วซือหรานพูดกับราชาแมงมุมหน้าผีจริงๆๆ จนได้รู้ถึงสาเหตที่ราชาแมงมุมหน้าผีลงมือกับพวกเขาและพวกเขา ก็เข้ามาเพื่อจับลูกน้อยของราชาแมงมุมหน้าผีนี้จริงๆเพราะราชาแมงมุมหน้าผีแม้จะเป็นแมงมุม แต่กลับแตกต่างกับแมงมุมธรรมดา เนื่องจากพลังการต่อสู้แข็งแกร่งมากเกินไป ซึ่งทุกสรรพสิ่งล้วนมีสมดุลอยู่ในเมื่อพลังต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป เช่นนั้นพลังในการคลอดจึงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแมงมุมทั่วไปหนึ่งรังจะมีไข่อยู่ไม่น้อย แต่แมงมุมหน้าผี ครึ่งหนึ่งสามารถวางไข่ได้แค่สิบใบเท่านั้นและถ้าหากเป็นราชาแมงมุมหน้าผี ครั้งหนึ่งสามารถวางไข่แมงมุมได้สี่ห้าใบก็ถือว่าสุดยอดแล้วแล้วจะยอมให้คนอื่นมาแย่งลูกของตัวเองไปได้อย่างไรแต่แมงมุมหน้าผีนั่นก็นำมาใช้ควบคุมสัตว์ได้ดี มีพลังโจมตี มีพลังในการควบคุมเป็นสัตว์ควบคุมขั้นต้นที่เหล่านักควบคุมสัตว์เลือกมาโดยตลอดแมงมุมหน้าผีเองก็เป็นเช่นนี้ ราชาแมงมุมหน้าผีก็ยิ่งเป็นไปตามนั้นดังนั้นพวกเขา เนื่องจากอีกไม่นานนักจะเป็นงานฉลองครบรอบสิบห้าปีของคุณหนูสี่ซางเชวี่ยของตระกูลซางคุณหนูสี่คนนี้ มีความสามารถ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 641

    ฝูซูกลอกตา จากนั้นจึงประจันเข้ากับดวงตาดำขลับขนาดระฆังทองสัมฤทธิ์คู่หนึ่ง“อ๊า...!”ฝูซูกรีดร้องแหลม กระทั่งหมุนตัวถึงสองรอบ ลากเสียงเย้ายวนใจออกมา!จั๋วซือหรานแทบจะได้ยินเส้นคลื่นเสียงในน้ำเสียงเขาจึงขมวดคิ้ว “จะร้องทำไมกัน”“คุณหนู!” ฝูซูถลึงตามองฉากตรงหน้า “ท่าน ท่านท่านท่าน...” จั๋วซือหรานนั่งอยู่บนหลังราขาแมงป่องหน้าผี มองจากมุมสูงลงมายังตัวฝูซู “เลิกพูดมากได้แล้ว รีบขึ้นมา”“ข้าข้าข้าข้า...” ฝูซูแต่พูดแต่ละคำออกมาอย่างยากลำบากเจ้าไม่ใช่บอกว่าชอบขนนุ่มฟูหรอกหรือ? ขนมันนุ่มฟูมากเลยนะ” จั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเย้าแหย่เป็นเส้นโค้งฝูซูรู้สึกเสียใจขึ้นมา!แต่เขาก็ยังกัดฟัน ขึ้นไปนั่งบนหลังราชาแมงมุมหน้าผีด้านล่างของก้น แผ่นหลังของราชาแมงมุมหน้าผี ยังมีลายสีขาวที่ดูเหมือนหน้าผีอยู่แต่ความรู้สึกที่แท้จริง กลับพิเศษอย่างมาก ขนพวกนั้นไม่แข็งไม่นิ่ม ปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง พอลูบลงไปยังลื่นมือดีด้วย ลื่นสลวยเป็นพิเศษเอาจริงๆ ยังให้สัมผัสที่ดีกว่าขนของราชาหมาป่าน้ำแข็งเสียอีกแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยว่าฝั่งไหนสัมผัสดีกว่า!“คุณหนูกล่อมมันได้ไวขนาดนี้เชียว!” ฝูซูก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 642

    ถุงเก็บสัตว์จากปากของฝูซู เป็นภาชนะที่เหล่านักควบคุมสัตว์เอาไว้ใช้เก็บสัตว์ประหลาดของตนเองอันที่จริงแล้วดูโหดร้ายอยู่ เพราะถุงเก็บสัตว์กับภาชนะมิตินั้นเหมืนอกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับมิติ ดังนั้นต้นทุนจึงสูงมาก กระทั่งมีแค่นักกลั่นอาวุธเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังคงดูโหดร้ายมาก เพราะต้องนำสัตว์ประหลาดที่เก็บมา ขังเอาไว้ในมิติที่คับแคบสุดๆ แห่งหนึ่งนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักควบคุมสัตว์ จึงมักจะเอาสัตว์ที่ตนเองรัก เอาไว้ข้างกายพาไปไหนมาไหน ไม่ใส่เข้าไปในถุงเก็บสัตว์ เพราะไม่อยากให้เหล่าสัตว์ประหลาดที่ตนรักต้องลำบากแต่ถ้าเป็นพวกที่ไม่ได้รักเหล่านั้น...ก็ไม่ต้องสนใจอะไรมาก สัตว์เลี้ยงที่ถูกใส่ไว้ในถุงเก็บของเป็นเวลานาน ความซื่อสัตย์ต่อนักควบคุมสัตว์ก็จะลดต่ำลงนี่เป็นเรื่องปกติ เอาใจแลกใจ ใครที่ถูกขังเอาไว้ในห้องมืดแคบๆ ที่แค่จะขยับก้นหันตัวก็ยังลำบาก เฝ้ารอไม่เห็นเดือนเห็นตะวันวันแล้ววันเล่า ก็ล้วนบ้าคลั่งกันได้ทั้งนั้นแค่ไม่ล้างแค้นกับโลกก็นับว่าดีแล้ว นับประสาอะไรจะให้มาซื่อสัตย์ด้วย?ภาชนะมิติเช่นนี้ เป็นคนละแบบกับมิติน้ำพุวิเศษแหวนเสวียนเหยียนขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 643

    ขณะเดียวกัน“ฮัดชิ่ว...!” จั๋วซือรหานนั่งอยู่บนราชาแมงมุมหน้าผี หนาวจนจามออกมาทีหนึ่ง“คุณหนูเป็นหวัดหรือ?” ฝูซูถามขึ้นอย่างเป็นห่วงจั๋วซือหรานยิ้มๆ ร่างกายของนาง การเป็นหวัดสำหรับนางแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้ว“ไม่หรอก แค่คันจมูกหน่อยๆ” จั๋วซือหรานตอบ “น่าจะมีคนกำลังด่าข้าอยู่”“ใครมาด่าคุณหนูกัน...” ฝูซูหลังจากพูดคำนี้ เสียงก็อ่อนลงมา แอบคิดในใจ ก็น่าจะมีคนแอบด่าอยู่มากจริงๆ นั่นล่ะเอาแค่คิด ในใจฝูซูก็สั่นระริก ตระกูลใหญ่ๆ ในเมืองหลวง คุณหนูเองก็ไปผิดใจกับเขาจนเกือบครบแล้ว....ตระกูลจั๋ว ตระกูลเฟิง ตระกูลเหยียนก็ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้ขนาดตระกูลซาง! ก็ยังไปผิดใจด้วยแล้ว จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงของฝูซูแผ่วลงมา รอยยิ้มที่มุมปากก็กว้างขึ้นอีก“คนที่ด่าข้าหรือ? เยอะแยะไปหมดเลย” จั๋วซือหรานตอบมาและฝูซูก็เอ่ยเสียงแผ่วกลับมา “ยังดีที่พวกตระกูลซางเมื่อครู่ตายกันหมด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คุณหนูคงได้เจอศัตรูเข้าอีกตระกูลแน่...”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยกลับมาเสียงต่ำ “ข้ารู้สึกว่า คนของตระกูลซางเมื่อครู่ยังไม่ได้ตายทั้งหมด” ดวงตาของซูฝูกลมโตขึ้นทันที “อะ อะไรนะ?! เป็นไปไม่ได้! พ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 644

    “แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้นี้ด้วย” จั๋วซือหรานยกมุมปากแต่ฝูซูเองก็ถือว่าเข้าใจคุณหนูของตนเองอยู่ พอได้ยินคำพูดนี้ของคุณหนูบวกกับเห็นสีหน้าของคุณหนู ฝูซูก็รู้สึกว่า คุณหนูน่าจะไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ไม่ คุณหนูจะต้องไม่คิดเช่นนี้แน่ฝูซูกระพริบตาปริบๆ มองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานยิ้มๆ “แต่ว่านะ ความคิดของคุณหนูเจ้าไม่ได้บื้อๆ ใส่ซื่อบริสุทธิ์แบบของเจ้าหรอก คุณหนูของเจ้าน่ะ ผ่านเรื่องเลวๆ คนเลวๆ มาเยอะ ดังนั้นจึงชอบคิดไปในทางร้ายๆ ก่อน”จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “เอาจริงๆ ตอนที่พวกเราไปถึง อันที่จริงก็เป็นช่วงที่ช่วงชิงผลประโยชน์จริงๆ ข้าคิดว่าไม่แน่นะ เจ้าเพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนั้น ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันไหม? แค่ข้าโชคดี ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนเท่านั้น”ฝูซูตาถลึงกว้างฉับพลันเขารู้สึกว่า ความคิดนี้ของคุณหนูเป็นไปได้เอามากๆ !จั๋วซือหรานกดลงบนบ่าเขา “ไม่ต้องลนลานไป กลับเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”ฝูซูกังวลจั๋วซือหรานหน่อยๆ “คุณหนู! ถ้าหากท่านบนการประลองไกล่เกลี่ยการตัดสินใช้ราชาแมงมุมหน้าผีขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนที่ร้ายกาจของพวกเขาคนนี้นบางที คงจะรู้ว่าท่านเป็นคนที่ชิงผลประโยชน์ที่เดิมทีเป็นขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 645

    จั๋วซือหรานเองก็สนใจจริงๆถ้าหากถึงตอนนั้น ลูกหลานที่ร้ายกาจตระกูลซาง ที่ซ่อนในความมืดและตนเองไม่ได้เจอเข้าในวันนี้คนนั้น รู้ว่าคนที่แย่งผลประโยชน์ของเขาวันนี้ไปคือจั๋วซือหรานก็คงจะใช้เรื่องนี้สาดน้ำสกปรกใส่นางต่อหน้าระดับสูงของตระกูลซางส่วนนางก็จะบอกระดับสูงของตระกูลซางว่าตนเองมีพรสวรรค์นักภาษาสัตว์ และตอนนี้เป็นคนที่ไม่มีพันธะไม่มีที่พึ่งพาล่ะก็...แว้งกัดย้อนไปอีกสักคำ บอกว่าคนผู้นี้สังหารคนในตระกูลเดียวกันเหล่านั้น แล้วยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่นางให้นางต้องมาแบกรับความผิดนี้แล้วระดับสูงตระกูลซางจะเลือกไม่พอใจนางเพราะคนนั้นใส่ร้ายใส่ หรือจะเลือกไม่พอใจคนผู้นั้นเพราะการกระทำของนางกันแน่ตระกูลเน่าเฟะพวกนี้ ระดับสูงของพวกเขา จะมีท่าทีอะไร จะมีพฤติกรรมแบบไหนกันแน่...จั๋วซือหรานอยากจะรู้จริงๆ ฝูซูยังคงกังวลอยู่หน่อยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลใจและเตือนสติจั๋วซือหราน ว่าศัตรูอยในที่มืด นางนั้นอยู่ในที่แจ้ง ต้องระวังตัวไว้ก่อนเป็นดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรใครจะอยู่ในที่แจ้งมันก็ยังไม่แน่หรอกนะ......ต่อมาไม่นานนัก ที่หอฟ้าดาวเจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วถามขึ้น “ข

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status