Share

บทที่ 645

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเองก็สนใจจริงๆ

ถ้าหากถึงตอนนั้น ลูกหลานที่ร้ายกาจตระกูลซาง ที่ซ่อนในความมืดและตนเองไม่ได้เจอเข้าในวันนี้คนนั้น

รู้ว่าคนที่แย่งผลประโยชน์ของเขาวันนี้ไปคือจั๋วซือหราน

ก็คงจะใช้เรื่องนี้สาดน้ำสกปรกใส่นางต่อหน้าระดับสูงของตระกูลซาง

ส่วนนางก็จะบอกระดับสูงของตระกูลซางว่าตนเองมีพรสวรรค์นักภาษาสัตว์ และตอนนี้เป็นคนที่ไม่มีพันธะไม่มีที่พึ่งพาล่ะก็...แว้งกัดย้อนไปอีกสักคำ บอกว่าคนผู้นี้สังหารคนในตระกูลเดียวกันเหล่านั้น แล้วยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่นางให้นางต้องมาแบกรับความผิดนี้

แล้วระดับสูงตระกูลซางจะเลือกไม่พอใจนางเพราะคนนั้นใส่ร้ายใส่ หรือจะเลือกไม่พอใจคนผู้นั้นเพราะการกระทำของนางกันแน่

ตระกูลเน่าเฟะพวกนี้ ระดับสูงของพวกเขา จะมีท่าทีอะไร จะมีพฤติกรรมแบบไหนกันแน่...

จั๋วซือหรานอยากจะรู้จริงๆ

ฝูซูยังคงกังวลอยู่หน่อยๆ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลใจและเตือนสติจั๋วซือหราน ว่าศัตรูอยในที่มืด นางนั้นอยู่ในที่แจ้ง ต้องระวังตัวไว้ก่อนเป็นดี

จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร

ใครจะอยู่ในที่แจ้งมันก็ยังไม่แน่หรอกนะ

......

ต่อมาไม่นานนัก ที่หอฟ้าดาว

เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วถามขึ้น “ข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 646

    เจี่ยงเทียนซิงมองนาง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ก็แค่ถามดู”“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าถามอะไรส่งเดชเสียที!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานกระพริบตาปริบๆ “ดังนั้นมันตอนไหนกัน?”“พรุ่งนี้” เจี่ยงเทียนซิงถอนใจ “เจ้าคิดจะทำอะไรก็ระวังหน่อย”“อืม รู้แล้ว” จั๋วซือหรานเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เช่นนั้นไม่ต้องพูดเรื่องตระกูลซางแล้ว พูดเรื่องอื่นดูบ้าง”“อะไรล่ะ?” เจี่ยงเทียนซิงถามจั๋วซือหรานครุ่นคิด มองเจี่ยงเทียนซิง “เจ้ารู้เรื่องสวนหลอมกระบี่ของตระกูลเฟิงไหม?”เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยิน หางตาก็เลิกขึ้นเล็กน้อย “นั่นเป็นความลับของตระกูลเฟิง เจ้านี่กล้าถามไปเรื่อยจริงๆ”จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นทีหนึ่ง “ความลับตระกูลเฟิงเองข้าก็รู้มาไม่น้อย ตระกูลเฟิงเองก็มีความลับที่หน้าตาดีอยู่ด้วยนะ ตอนนี้ยังถูกข้าเลี้ยงดูในห้องทองอย่างดีที่กรมสอบสวนพิเศษอยู่เลย”“เจ้า...” เจี่ยงเทียนซิงอดมองบนขึ้นมาไม่ได้จั๋วซือหรานรู้สึกว่าถ้าการมองบนของเจี่ยงเทียนซิงพูดได้ คงจะเขียนคำว่า...ข้ายอมเจ้าแล้วจริงๆ เอาไว้แน่เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “สำหรับเรื่องของตระกูลเฟิงที่สืบทอดกันมาก็มีอยู่มากมายจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 647

    แดนเหนือที่หนาวเหน็บ การไม่กลัวต่อความเหน็บหนาว...คือเหตุผลของพลังแห่งหงส์แดงที่เอวมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแขวนไว้ตลอด...กระบี่ประจำตระกูลเฟิงไม่มีเครื่องมือแต่กลับจับปลาได้...กระโจนลงไปจับปลาในน้ำทะเลน้ำแข็ง สำหรับคนปกติแล้ว ทะเลน้ำแข็งนั้นทำเอาคนตายได้เลยแต่จั๋วซือหรานคิดๆ ตอนแรกที่ตนเองเข้าไปสำรวจจวนตระกูลเฟิงกลางดึกครั้งแรก ก็เจอกับเฟิงเหยียนที่มีอักขระคำสาปสีดำแปลกประหลาดอยู่เต็มตัว แช่อยู่ในบ่อน้ำที่เย็นจัดและด้วยอุณหภูมิของบ่อน้ำเย็นนั่น ก็ไม่แน่ว่าจะอุ่นกว่าทะเลน้ำแข็งที่เย็นจัดของแดนเหนือสักเท่าไรใครจะรู้ล่ะ? ไม่แน่สำหรับคนธรรมแล้วทะเลน้ำแข็งที่พร้อมจะเอาชีวิตคน สำหรับคนของตระกูลเฟิงแล้วอาจจะเหมือนกับว่ายน้ำอย่างสบายอุรากลางวันที่ร้อนระอุก็เป็นได้ยิ่งไปกว่านั้น ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะอะไรคนของตระกูลเฟิงจึงปรากฎตัวที่แดนเหนือในใจจั๋วซือหรานร้อยเรียงกันเป็นเส้นเดียวเจี่ยงเทียนซิงยังพูดต่อว่า “พ่อของข้าตอนนั้นก็ยังหนุ่ม แล้วยังเป็นคุณชายน้อยที่มีเงินอีกด้วย แล้วงานอดิเรกของพวกคุณชายน้อยเศรษฐีที่ไม่ขัดสนเรื่องเงิน นั่นก็คือชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”“เขาอยู่ที่ท่าเรือแด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 648

    “ดังนั้นเจ้าจะถามว่าข้ารู้ข้อมูลอะไรของตระกูลเฟิงบ้าง? ข้าบอกไม่ได้ว่าข้ารู้ แต่ข้าบอกได้แค่ ข้ารู้ถึงเรื่องราวในช่วงนี้เท่านั้น ส่วนหลังจากนั้น ถ้าหากคนในเรื่องราวนี้ เป็นคนของตระกูลเฟิงจริงๆ ล่ะก็ คงพูดได้แค่ว่า...”เจี่ยงเทียนซิงจ้องมองจั๋วซือหราน เอ่ยต่อว่า “คงอธิบายได้ถึงอันตรายของตระกูลนี้ เพราะพวกเขาน่าจะมีวิธีการบางอย่างในการควบคุมคนในตระกูล”เจี่ยงเทียนซิงเสนอขึ้นมา “ดังนั้นเจ้าลองพิจารณาดูไหม...ว่าจะไม่ไปยั่วโมโหตระกูลนี้? คนที่เล่นกับไฟมันเป็นคนบ้า เจ้าก็ดูเอาแล้วกันว่าตระกูลนี้ถึงกับเอาคำว่าสบ้าคลั่ง(เฟิง)เขียนไว้ในสกุลตนเองเลยทีเดียว”จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “มองไม่ออกเลย ว่าเจี่ยงเทียนซิงอย่างเจ้าก็มีอารมณ์ขันด้วย”“ข้ากำลังพูดอย่างตั้งใจกับเจ้านะ!” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้วจั๋วซือหรานพยักหน้า “ได้ๆๆ รู้แล้ว วางใจเถอะ ข้าไม่ทำอะไรมั่วซั่วหรอก”“ถ้าเจ้าทำอะไรมั่วซั่วขึ้นมา ก็รีบส่งตัวความลับของตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้ในหน่วยสืบสวนพะเศษคนนั้นกลับไปเสีย!!!” เจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานรู้สึกว่าตนเองแทบจะได้ยินเสียงถอนหายใจในน้ำเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 649

    จั๋วซือหรานถลึงตามองเจี่ยงเทียนซิง “อย่าหยาบคายขนาดนี้สิ...”จั๋วซือหรานคิดๆ น่าจะเพราะเจี่ยงเทียนซิงยังไม่เคยเจอคนที่ได้ของมาโดยไม่ต้องลงทุนแบบนางมาก่อนนั่นล่ะดังนั้นจึงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้จั๋วซือหรานยิ้มๆ เอ่ยขึ้นว่า “ยังไม่ทันจะลองก็ถอยเสียแล้ว...”เจี่ยงเทียนซิงเห็นนางพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไป และเห็นสายตาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มในดวงตานางและรู้สึกขึ้นมาทันที...ในใจนางจะต้องรู้ดีอยู่แล้วแน่นอน หญิงสาวคนนี้ เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ ตนเองก็เหมือนว่าจะไม่เคยเห็นนางต้องขาดทุนอะไรมาก่อนเลยจริงๆจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ “...ถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่ามาโทษข้าที่หาเงินได้แล้วไม่ชวนเจ้าก็แล้วกัน”เจี่ยงเทียนซิงแก้มตึงเปรียะ มองออกไม่ยาก ว่าคงแทบจะขบฟันจนแตกละเอียดไปแล้วเสียงของเขาดังขึ้นมา ลอดออกมาจากไรฟันเอ่ยขึ้นว่า “...ไหนว่ามา จะทดลองอย่างไร”จั๋วซือหรานฟังคำพูดเขา ก็รู้ว่าเขายอมแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก “เรื่องนี้พูดแต่ปากไม่ได้ เอาอย่างนี้ เจ้าลองดูว่าจะไปหาคุณชายน้อยฮั่วจือโจวจากตระกูลฮั่วออกมาได้อย่างไรดีกว่า”“หาตัวเขา? แล้วจากนั้นล่ะ? เจ้านี่ก็ช่างสรรหาเลือกคนเสียจริง” เจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 650

    เจี่ยงเทียนซิงตกตะลึง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมาจากด้านใน เขาหดม่านตาลงนี่มัน...ขั้นสี่? ไม่ ยาลูกลอนนี้น่าจะไม่ได้อยู่แค่ระดับสี่รู้สึกเหมือนจะ...เข้าสู่ธรณีประตูของขั้นห้าแล้ว!นาง...ให้เขาอย่างนี้เลยหรือ?เจี่ยงเทียนซิงจู่ๆ ก็คิดถึงประโยคก่อนหน้านั้นของนาง...เจี่ยงเทียนซิงเจ้าวางใจเถอะ ติดตามข้ามา ขอแค่ข้ายังไม่ตาย ไม่มีทางขาดทุนถึงเจ้าแน่สายตาเจี่ยงเทียนซิงงงงันไป อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เลย “ฮ่า...” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จั๋วจิ่วคนนี้ พูดแล้วทำได้จริงๆ ไม่เคยกลืนคำพูดที่พูดออกมาเลยจั๋วซือหรานหลังออกมาจากตลาดมืด เดิมทีคิดจะไปตระกูลซางเสียรอบหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้เทียบกับศัตรูในเงามืดที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรของตระกูลซางแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกว่า ความลับตระกูลเฟิงหน้าตาดีที่ตนเองเลี้ยงไว้ในหน่วยสืบสวนพิเศษคนนั้น ทำให้นางไม่วางใจได้มากกว่าดังนั้น จั๋วซือหรานจึงตรงไปยังหน่วยสืบสวนพิเศษตอนที่ไปถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ ฟ้าก็มืดแล้ว ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวก็เหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอกมาทั้งวันเสียแล้วในสมองจั๋วซือหรานคิดถึงสูตรอาหารในวันนี้ แล้วก็ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 651

    จั๋วซือหรานเพียงไม่นานก็ทำหม้อไฟเสร็จ ยังคงให้ชิ่งหมิงนำส่วนหนึ่งไปกินกับลุงของเขาครั้งที่แล้วนางให้ชิ่งหมิงเอาไปกินด้วยกันกับเวินป๋อยวน ชิ่งหมิงจึงนำยาลูกกลอนยาพิษที่เวินป๋อยวนให้บางส่วนเข้ามา...การซื้อขายนี้ถือว่าคุ้มค่าอยู่มูลค่าคนละระดับกัน จนทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมาเลย ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ลืมส่วนของเวินป๋อยวนชิ่งหมิงรีบยกเดินออกไป เดินไปด้วยท้องก็ร้องจ้อกไปด้วย หม้อใบเล็กเองก็ตุ๋นจนหอมหวน หลังจากนี้ต้องทำหม้อเล็กหลายๆ ใบมาให้จั๋วซือหรานเสียแล้ว เอามาใส่ของอร่อยโดยเฉพาะ จั๋วซือหรานเองก็ดีอกดีใจ หลังจากนั้นตนเองจึงยกหม้อไฟเล็กใบหนึ่ง จัดการผักเคียงให้เรียบร้อย เตรียมจะยกไปเสวยสุขด้วยกันกับสาวในกรงทองของนางจั๋วซือหรานอารมณ์ดีมาก หลักๆ คือ นางยังอยากจะอวดต่อหน้าเฟิงเหยียนอีกสักหน่อย ว่าตนเองจับแมงมุมตัวใหญ่มาได้นางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงอยากไปอวดกับเฟิงเหยียน...ถ้าเป็นกับคนอื่น คงไม่มีความคิดอยากจะอวดเช่นนี้เลยแม้แต่ตัวจั๋วซือหรานเองก็ยังไม่รู้ตัวว่า สัตว์นั้นมีแค่ตอนที่ต้องการจะหาคู่เท่านั้น จึงมีความคิดอยากจะอวดตนเองกับเพศตรงข้ามแม้จะบอกว่าปกติจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 652

    “ข้ายังค่อนข้างชองให้ท่านเรียกข้าว่าจั๋วเสี่ยวจิ่วมากกว่านะ...ท่านอ๋อง” จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “หรือจะบอกว่า ควรเรียกท่านว่า...นายท่านซือเจิ้ง?”พอสิ้นเสียงนาง หน้ากากลายเปลวเพลิงสีแดงก็ถูกนางปลดลงมาใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเฟิงเหยียน ขาวซีด บนคางมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เต็ม ปรากฎขึ้นมาต่อนห้าจั๋วซือหรานนางกัดฟันแน่นปวดใจขึ้นมาเลยทีเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้พริบตาที่เห็นเขาใส่หน้ากากก็เดาเอาไว้แล้วแต่ตอนที่ได้เห็นกับตา ก็ยังรู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกันในสมองก็แทบจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นพลิกขึ้นมาทันทีตอนนั้น การทรมานเหล่านั้น ความเจ็บปวดนั่น...นางคำนวณเอาไว้หลายเรื่อง พวกเขาล้วนพูดกันว่านางเดินหนึ่งก้าวจะคำนวณไว้ถึงห้าก้าว ทุกก้าววางไว้อย่างรอบคอบแต่นางก็คำนวณไม่ถึงสิ่งนี้ กระทั่งคิดไม่ถึงมาก่อนด้วยซ้ำนางไม่เคยคิด ว่าชายสวมหน้ากากที่เห็นนางถูกทรมานกับตาในตอนนั้น จะเป็นท่านอ๋องเฟิงเหยียน...นางคิดไม่ถึงมาก่อน และไม่รู้สึกถึงความเป็นไปได้นี้ตอนนี้นางจ้องมองหน้าเฟิงเหยียนนิ่งเฟิงเหยียนเองก็ก้มหน้ามองนาง “จั๋วเสียวจิ่ว” เขาหอบหายใจเบาๆ เรียกนางแบบนี้คิ้วของจั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 653

    “พวกเขาต่อให้จะหยิบยืมสิ่งนี้มาเล่นงานข้าให้ตาย เช่นนั้นก็ต้องสนองให้บรรลุหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น...ก็ถือโอกาสมากระตุ้นให้เจ้าโกรธได้พอดี แล้วยังยืมมือเจ้า ไปรับมือกับผู้อาวุโสพวกนั้นให้อีก ยิ่งนัดเดียวได้นกสองตัวเลย”เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น เขานอนอยู่ตรงนั้น ลมหายใจค่อนข้างหนักหน่วงจั๋วซือหรานล้วงหยิบเข็มทองาวๆ แถวหนึ่งออกมาและไม่รอให้เฟิงเหยียนพูดอะไร นิ้วของนางก็วาดลงไป กระชากชุดบนตัวเขาจนขาดเผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาม่านตาเฟิงเหยียนหดลง ดวงตากระพริบปริบๆ สองครั้ง“จั๋วเสียวจิ่ว...”“หุบปาก” สายตาของจั๋วซือหรานระมัดระวังอย่างมาก ในมือถือเข็มทองอยู่ “อย่าเพิ่งพูดกับข้า รอให้ข้าจัดการกับชีวิตท่านก่อน แล้วค่อยไปรับมือกับตาเฒ่าพวกนั้น”เฟิงเหยียนเม้มริมฝีปาก เขากลอกตาเล็กน้อย มองใบหน้าด้านข้างที่กำลังตั้งใจของจั๋วซือหรานครู่ต่อมา เขาจึงเอ่ยขึ้นมาเสียงต่ำ “ข้ายังไม่ตายหรอก”“...” จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร เพียงแหงนตาถลึงมองเขาผาดหนึ่งเฟิงเหยียนพูดต่อ “ดังนั้น เจ้าสามารถทำให้ข้าต้องทรมานได้อยู่ ถ้าหากเจ้าระบายอารมณ์ได้ล่ะก็นะ”จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว นางฟังคำพูดของเขาไม่ออกเสี

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status