Share

บทที่ 682

Author: หูเทียนเสี่ยว
แต่จั๋วซือหรานสัมผัสได้ ว่าสถานการณ์ภายในเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อยแล้ว

นางออกจากเรือนนี้อย่างไร้ซุ่มเสียง

วิชาอันคล่องแคล่วถูกใช้ถึงระดับสูงสุด แต่ขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็ออกจากกำแพงเรือนบ้านตระกูลเฟิงแล้ว

พริบตาที่ร่อนลงพื้น จูมกของนางก็ทำท่าฟุดฟิด มีกลิ่นที่คุ้นเคย เหมือนจะอยู่ใกล้ๆ นี้เอง

ต่อให้จั๋วซือหรานที่เป็นคนเดินหนึ่งก้าวคำนวณไปห้าก้าวก็ยังคิดไม่ถึง ว่าระหว่างคนด้วยกันจะมีบุพเพเช่นนี้อยู่

ตนเองกระโจนลงมาจากกำแพงเรือน ก็ดันลงมาอยู่...ตรงหน้าเฟิงเหยียนพอดี

“แม่...แม่นางจิ่ว?” ฉุนจวินเองก็ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้

จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หันมองมา และเห็นเข้ากับร่างงดงามชวนมองนั่น

เฟิงเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองนางสายตาเคร่งขรึม

สายตาของเขา จับจ้องบนใบหน้านาง เห็นถึงหน้าผากนางที่มีเหงื่อผุดซึม ใบหน้าซีดขาว และริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดได้อย่างชัดเจน

และค่อยๆ เลื่อนลงมา ก็เห็นมือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนาง

นางมีมือที่สวยงาม ขาวนวลอ่อนนุ่ม

ทว่าตอนนี้มือที่สวยงามขาวนวลอ่อนนุ่มนั้น...

ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย เหลืออยู่แค่...ความดำเกรียม

ตอนที่สายตาไปเจอเข้ากับความดำเกรียมราวกิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 683

    เฟิงเหยียนอุ้มนางเข้าไปในตำหนักสืบสวนพิเศษที่นี่เป็นสถานที่ที่กว้างกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิง แต่ก็ยังเย็นกว่าตำหนักเฝินเทียนของชิ่งหมิงจั๋วซือหรานเวลานี้ กลับไม่มีความคิดจะชื่นชมสถานที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งนี้เลยว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรนางมองใบหน้าด้านข้างของหน้ากากที่เฟิงเหยียนใส่อยู่รู้สึกเพียงว่า...มหัศจรรย์อยู่หน่อยๆอารมณ์ร้อนรนของเขา เหมือนว่าต่อให้สวมหน้ากากอยู่ก็ยังปิดไม่มิดนางถูกวางลงบนเตียงหินในตำหนักนอนของตำหนักสืบสวนพิเศษอย่างระมัดระวังหลังจากนอนลงไป จั๋วซือหรานก็ตัวสั่น นางเพิ่งรู้สึกว่า “นี่มันหินอะไรน่ะ...”“หินหยกเย็น” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มต่ำ “ทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นหน่อย”“เย็นจัง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“มือยังเจ็บไหม?” เฟิงเหยียนถาม“ดีขึ้นแล้ว” จั๋วซือหรานตอบมา ยกมือของตนเองขึ้นมามองดูจากนั้นจึงพบว่าสายตาของท่านอ๋องไม่กล้ามองมาที่มือของนางยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังสังเกตได้ว่าท่านอ๋องเหมือนจะมีอารมณ์ขุ่นมัวกำลังกลั่นตัวอยู่ในดวงตา คล้ายกับว่า...โกรธหรือ?จั๋วซือหรานเรียกหา “ท่านอ๋อง...”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงเหยียนตัดบทแล้ว “เจ้าบ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 684

    เฟิงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนไม่อยากจะตอบ คล้ายกับกำลังคิดคำพูดที่เหมาะสม จัดเรียงคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงตอบกลับมาเสียงต่ำว่า “ถึงอย่างไร ในอดีตเขาก็เป็นภาชนะของพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงรุ่นก่อน ต่อให้ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พลังที่ได้รับมาเมื่อตอนนั้นก็เพียงพอจะทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นได้”จั๋วซือหรานยิ้มๆ นิ้วมือยังคงบีบอยู่ที่คางของเฟิงเหยียน เอ่ยต่อว่า “เขาเป็นผู้แข็งแกร่งหรือไม่ จะแข็งแกร่งแค่ไหนข้าไม่สนใจ ข้ารู้แค่ว่า ข้าบอกกับเขาแล้ว ว่าท่านเป็นของข้า ถึงอย่างไรดวงใจหงส์แดงข้าจะเอามาไม่ได้ แต่ใจของเฟิงเหยียนเป็นของข้าแล้ว ท่านอ๋องอย่าให้ข้าต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อของท่านเชียวล่ะ...”เฟิงเหยียนก้มหน้ามองนางครู่หนึ่ง สายตาเปลี่ยนเป็นจำใจขึ้นมา “ได้”เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ฟังเจ้าแล้วกัน ข้าเป็นของเจ้าแล้วนี่”มือของจั๋วซือหราน ลูบไล้ลงมาจากคาง นิ้วไล่เบาๆ ผ่านคอหอยของเขาไล่ลงมาอีก คิ้วของเฟิงเหยียนขมวดแน่นขึ้น เพราะจั๋วซือหรานใช้มือข้างที่บาดเจ็บข้างนั้นดังนั้นนิ้วของนางจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายของเขาตั้งแต่คางลงมาทีละนิดทีละน้อย ในทุกวินาที ทุกมิลลิเมตรจนเขากังวล ว่านาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 685

    เฟิงเหยียนมองรอยยิ้มบนหน้านางครู่หนึ่ง จึงถามขึ้นเสียงต่ำว่า “เจ้าควรจะรู้ ว่าถ้าข้ากลับไป สัญญาหมั้นหมายของพวกเราก็จะถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะรีบจัดหาคนที่เชื่อฟังที่ควบคุมได้ง่ายกว่ามาแต่งกับข้า เจ้ากับตระกูลเฟิงจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป พวกเขากระทั่งจะเป็นศัตรูกับเจ้าด้วยซ้ำ”“ท่านจะเป็นศัตรูกับข้าไหม?” จั๋วซือหรานถามถามคำนี้ออกมา พลางยื่นมือไปปลดหน้ากากเขาออกจากนั้นจึงเห็นสภาพขมวดคิ้วของเฟิงเหยียน เขาจ้องมองนาง “ข้าไม่มีทางทำ”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้ม “เช่นนั้น ท่านจะแต่งงานกับคนที่เชื่อฟังควบคุมได้ง่ายกว่าที่พวกเขาหามาไหม?”เฟิงเหยียนมองนาง พอกำลังจะอ้าปากพูดแต่จั๋วซือหรานกลับไม่รอให้เขาตอบ เอ่ยขึ้นมาว่า “ช่างเถอะ นั่นมันไม่สำคัญ ต่อให้คนที่พวกเขาหามมาจะแต่งงานกับท่านก็ไม่เกี่ยวอะไรกัน วางใจเถอะ”จั๋วซือหรานพูดพลางลูบใบหน้าเขาเบาๆ “ข้าจะปล้นงานแต่งงานเสีย น่าสนุกจะตาย ชีวิตคนเราก็ต้องลองอะไรหลายๆ อย่าง แย่งเจ้าบ่าวหรือ...อืม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลว”เฟิงเหยียนพอได้ยินคำของนาง ก็ทั้งโมโหทั้งขบขันเขากระทั่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่ไม่น่าสนใจและในตระกูลก็มีเร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 686

    “แต่ข้าก็จะรับปาก” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา“ข้าจะให้หานกวงไปอยู่ข้างกายเจ้า นางทำงานได้ไม่เลว เจ้าแค่คอยใช้งานนางก็พอ” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้า นางยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ท่านอ๋อง ไม่นานนักหรอก...”จั๋วซือหรานยื่นมือไปกดหน้าอกเขาเบาๆ “ข้าจะคิดหาวิธี หลังกจากนั้นก็จะย่ำเมฆเจ็ดสีบินไปรับท่านเลย ดีไหม?””ไร้สาระ” เฟิงเหยียนขมวดคิ้วพ่นออกมาสองคำ แต่ในตาเขากลับมีรอยยิ้มที่ปิดบังไว้ไม่มิดอยู่จั๋วซือหรานเหนื่อยแล้ว ฝืนไว้ได้ไม่นานนัก ไม่นานก็หลับตาเข้าสู่ภวังค์ไปเฟิงเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงฉุนจวินกดเสียงต่ำจนแทบจะเหลือแค่เสียงลมถามขึ้นว่า “นายท่าน แล้วพวกเรา...ตอนนี้กลับไปเลยไหม?”เฟิงเหยียนถลึงตามองฉุนจวิน ไม่พูดอะไรสายตาของเขาแสดงออกถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจนแล้วฉุนจวินรู้สึกจนใจ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วว่า “เดี๋ยวพอแม่นางจิ่วตื่นขึ้นมา นายท่านจะยิ่งอาลัยอาวรณ์ขึ้นหรือเปล่า? สู้ไปตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ...”เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าฉุนจวินพูดมีเหตุผลเขาก้มลงมองใบหน้าจั๋วซือหราน ที่ต่อให้หลับไปแล้วก็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 687

    “นายท่าน ท่านมาแล้ว”พริบตาที่จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็ยกระดับความระแวดระวังขึ้นมาทันทีแต่เพียงไม่นานความระแวดระวังนี้ก็ผ่อนคลายลง นี่มันในมิติของตนเอง เป็นอาณาเขตของตนเอง ไม่มีอะไรต้องตึงเครียดนี่นาที่สำคัญที่สุดก็คือ นางตั้งตัวได้แล้ว เสียงคำพูดนี้เหมือนจะเป็นเสียงของราชาแมงมุมหน้าผีเพียงแต่ฟังแล้ว เสียงของราชาแมงมุมหน้าผี ดูจะแตกต่างกับตอนที่นางเจอมันในป่าลึกลับก่อนหน้านี้ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และในคำพูดก็เหมือนจะต่อเนื่องกันมากขึ้นแล้วด้วยจั๋วซือหรานเดินมาตรงหน้าราชาแมงมุมหน้าผี พิจารณาดูตัวมันเจ้าตัวใหญ่นี่ พอมาอยู่ในมิติ ร่างกายกลับดุเล็กมาก ขนาดประมาณอ่างล้างหน้าเท่านั้นแม้พอเทียบกับพวกเจ้าก้อนเนื้อแมลงกู่ร้อยไหมที่ขนาดประมาณกำปั้นแล้วจะยังดูตัวเขื่องอยู่ก็ตามที แต่ถ้าเทียบกับตอนที่มันอยู่ข้างนอกตัวขนาดเท่าช้างแล้ว นี่ก็ดูเล็กจ้อยไปเลยทีเดียวนี่ถือว่าเล็กจิ๋วแล้วจริงๆ“บาดเจ็บหรือ?” จั๋วซือหรานถาม ยื่นมือไปกดบนหลังของราชาแมงมุมหน้าผีมันเหมือนดูจะสบายขึ้นหน่ยอ ขาขนปุกปุยทั้งแปดก็ทยอยกันกางออก“ก่อนหน้านี้ มีพลังที่น่ากลัวมากโจมตีเข้ามา...” ราชาแมงมุมหน้าผีเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 688

    ยิ่งไปกว่านั้น บนมือนางยังมีสิ่งที่มันชอบเอามากๆ อยู่ด้วย พลังวิญญาณที่สบายสุดๆสบายจนหนวนทั้งหมดลองมันยังห้อยลงมา กระทั่งเสียงก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนว่า “พวกมันมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นพอโดนพลังเมื่อครู่ไปผลกระทบเลยมากขึ้นตามไปด้วย ผลกระทบที่ข้าได้รับน้อยลงมาหน่อย”จั๋วซือหรานมองขนมถั่วแดง “เจ้ารู้ด้วยหรือว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร?”ขนมถั่วแดงรู้สึกเหมือนถูกดูถูก เสียงที่อ่อนยวบแต่เดิมก็เหมือนจะแข็งขึ้นมา ขนาดหนวดก็ยังชี้ขึ้นด้วยเขียนไว้ทั้งตัว...ว่าข้าเก่งมากนะ!ขนมถั่วแดงพูดมาว่า “แน่นอนสิ! พวกเราไวต่อพลังมากกว่ามนุษย์อีกนะ แน่นอนว่าต้องรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคุณสมบัติอะไร!”ราชาแมงมุมหน้าผีที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง “เดิมทีก็ไม่ได้ไวขนาดนี้หรอก แต่พอผ่านการหล่อหลอมจากพลังนั่นวันนี้ไปไวขึ้นมาแล้ว”ราชาแมงมุมหน้าผีไม่รู้ว่าสำหรับขนมถั่วแดงที่มีนิสัยหยิ่งทะนงหน่อยๆ คำพูดนี้กระชากมันลงมาจากเวทีอย่างไม่ปราณีเลยทีเดียวหนวดของขนมถั่วแดงก็ห่อเหี่ยวลงมาเหมือนกันจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมา เล่นกับหนวดของมัน “เจ้าถั่วแดงไหนบอกมาหน่อย ว่าเจ้าม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 689

    ก็ไม่ใช่จะไม่มีข้อยกเว้น สองตัวที่เหลืออย่างขนมหยกขาวกับขนมปุยเมฆที่จับออกมาจากแม่ทัพอิงเซ่าและแม่ทัพฉีฮ่าว ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสูดรับไฟวิเศษมาหรือเปล่าพอรับการหล่อหลอมที่น้อยหน่อย ดังนั้นการตื่นของพวกมันจึงช้าไปบ้าง การพูดจาก็ยังดูเชื่องช้าแต่พอเทียบกับก่อนหน้านี้ที่รู้จักแต่งอตัวไปมาบนมือจั๋วซือหราน ก็ยังดูสนุกสนานขึ้นมากเลยสัตว์เลี้ยงในบ้านพัฒนากันหมดแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้สิ่งเดียวที่ยังรู้สึกเสียดายก็คือ แมลงกู่ร้อยไหมตัวนั้นที่จับกลับมาจากตัวเฮยหลิง เพรานางวางเอาไว้บนตัวชิ่งหมิงเพื่อรักษาโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นจากการติดพิษและยังมีแมลงกู่ร้อยไหมอีกตัวที่เด็ดออกมาจากในชีพจรหัวใจเฟิงช่านอีกตัว เจ้าขนมชามก่อนหน้านี้ตอนที่นางอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิง ขณะที่ปะทะกับเฟิงจื๋อ จับยัดเข้าไปในปากของเฟิงจื๋อแล้วดังนั้น สองตัวนี้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในมิติน้ำพุวิเศษ จึงไม่ได้มาเจอกับคลื่นหล่อหลอมนี้ขาดทุนไปเสียแล้วจั๋วซือหรานเดินมาที่ริมน้ำพุวิเศษ ล้างมือของตนเองด้วยน้ำพุวิเศษ น้ำพุวิเศษนี้แม้จะยังไม่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้โดยตรงอย่างเช่นถ้าหากใครได้รับอาการบาดเจ็บแบบถึงชีวิต น้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 690

    เพิ่งกลับมาถึงจวนของตนเอง อิ๋นไห่ก็ตรงเข้ามาหานาง“แม่นางจิ่ว!” อิ๋นไห่คารวะอย่างนอบน้อม“อื๋อ? มีอะไรหรือ?” จั๋วซือหรานมองเขา “เรื่องการทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่หรือ?”อิ๋นไห่พยักหน้า “ใช่แล้ว แม่นางจิ๋ว เวลาของการทดสอลไกล่เกลี่ยตัดสินใหม่ เจ้าสำนักจันทร์เงินมาแจ้งกับเจ้านักแล้ว กดหนดให้เป็นคืนนี้ตอนค่ำ”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คืนนี้? ได้ กลับไปบอกเจี่ยงเทียนซิงด้วย ว่าข้ารู้แล้ว”“เจ้าสำนักให้ข้าน้อยมาบอกต่อแม่นางจิ่ว ว่าเจ้าสำนักเฟิ่งเสวี่ยทั้งสองคนจะมาชมการประลองด้วย”จั๋วซือหรานคิดถึงพี่น้องหอเฟิ่งเสวี่ยสองคนนั้น จึงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”อิ๋นไห่พอนำคำพูดมาบอกต่อเสร็จ ก็เตรียมจะออกไปแต่จั๋วซือหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ร้องเรียกเขาไว้ “ช้าก่อน”“แม่นางจิ่วมีอะไรจะกำชับหรือ?” อิ๋นไห่ถือว่าศิโรราบทั้งกายใจต่อจั๋วซือหรานแล้ว ดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมอย่างมากจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “ให้คนคอยจับตาดูสถานการณ์ของบ้านตระกูลเฟิงไว้ด้วย”“บ้านตระกูลเฟิง?” อิ๋นไห่ประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็พยักหน้ากลับอย่างรวดเร็ว “ขอรับ แม่นางจิ่วโปรดวางใจ”เฮยหลิงทำตามที่จั๋วซือหรานกำชับไว้ ‘ชี้แนะ’ ใ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status