Share

บทที่ 5

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
“ก็ช่วยไปแล้ว เหตุใดจะต้องมีเหตุผลด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉย

จากนั้นนางก็หันหลังและจากไป

เมื่อเห็นว่านางกำลังจะเดินจากไปไกล แม่นมเติ้งก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเรียกนางไว้ "พระชายาเจ้าคะ!"

ลั่วชิงยวนชะงักฝีเท้า แม่นมเติ้งรีบก้าวไปข้างหน้าทันที

“บ่าวขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องดูแลรับใช้ท่าน บ่าวก็คงได้ออกจากตำหนักไปนานแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่บ่าวรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยระบายความโกรธใส่ท่าน..." แม่นมเติ้งก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด

นางไม่คิดว่า พระชายาจะเข้ามาช่วยนาง มิเช่นนั้นนางคงถูกเมิ่งจิ่นอวี่ทุบตีจนตายเป็นแน่! แล้วนางยังช่วยต่อแขนของตนอีกด้วย ซึ่งนั่นแตกต่างจากข่าวลือที่ว่านางคือนางงูพิษโดยสิ้นเชิง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเหตุผล

แม่นมเติ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง "หากท่านต้องการอยู่ในตำหนักต่อไป ก็อย่าได้ทำให้เมิ่งจิ่นอวี่ขุ่นเคืองเลยเจ้าค่ะ นางเป็นสาวใช้ชั้นหนึ่งในตำหนัก แล้วยังเป็นลูกสาวของแม่บ้านของตำหนักนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ"

"ไม่ทันแล้วกระมัง" มาพูดเอาป่านนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

แม่นมเติ้งมองไปรอบ ๆ นางก้าวไปข้างหน้า และพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "บ่าวบังเอิญได้ยินมาว่า คุณหนูรองให้คำมั่นสัญญากับเมิ่งจิ่นอวี่ว่า หลังจากที่นางกลายเป็นพระชายา นางมิสามารถรับใช้ท่านอ๋องได้ เพราะสุขภาพไม่ดีนัก ดังนั้นนางจึงจะเลื่อนตำแหน่งเมิ่งจิ่นอวี่เป็นเมียบ่าว ให้นางปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้าง ๆ ท่านอ๋องแทนตนเจ้าค่ะ”

"ตอนนี้การแต่งงานระหว่างคุณหนูลั่วเยวี่ยอิงและท่านอ๋องไม่เป็นไปตามนั้น หากท่านต้องการเอาชนะเมิ่งจิ่นอวี่ ท่านสามารถให้นางได้ปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋อง เช่นนี้นางก็จะไม่มุ่งเป้ามาที่ท่านแล้วเจ้าค่ะ"

แม่นมเติ้งรู้สึกขอบคุณลั่วชิงยวนที่ช่วยนางเอาไว้ จึงอยากช่วยนางคืน ดังนั้นจึงได้แนะนำลั่วชิงยวนอย่างจริงจัง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย กล่าวคือ ลั่วเยวี่ยอิงมีข้อตกลงกับเมิ่งจิ่นอวี่ และข้อตกลงนั้นคือการเป็นสาวใช้อุ่นเตียงให้ท่านอ๋อง

งานแต่งงานนี้ถูกทำลาย ดังนั้นเมิ่งจิ่นอวี่จึงมองนางด้วยความเกลียดชัง

เมื่อลองคิดดูดี ๆ หากนี่เป็นแผนของลั่วเยวี่ยอิง เช่นนี้หัวใจของนางก็ชั่วร้ายมาก การที่นางให้ลั่วชิงยวนแต่งงานแทน และถูกฟู่เฉินหวนทรมาน แถมยังสร้างศัตรูจำนวนมากโดยมิรู้ตัว นี่มันไม่เหลือเส้นทางการมีชีวิตต่อให้นางเลย!

การที่ลั่วชิงยวนแต่งงานเข้ามาในตำหนักอ๋องแทน ที่แท้มันคือแผนร้าย! เมื่อนึกถึงหมั่นโถวอาบยาพิษ และผงมหาสุข คนที่ทำอาจจะเป็นเมิ่งจิ่นอวี่ หรือไม่ก็ลั่วเยวี่ยอิง

ลั่วชิงยวนชำเลืองไปที่แม่นมเติ้ง หากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้สมเหตุสมผล แม่นมเติ้งก็เป็นคนที่มีประโยชน์คนหนึ่ง

“เจ้าเชื่อข้าหรือไม่? ข้าสามารถช่วยแม่ของเจ้าได้”

ใบหน้าของแม่นมเติ้งเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และนางก็นึกถึงคำพูดของลั่วชิงยวนเเมื่อเช้านี้ได้ว่า จะต้องมีงานศพเกิดขึ้นภายในสามวัน

ดวงตาสีดำของลั่วชิงยวนลึกล้ำที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ซึ่งนั่นทำให้แม่นมเติ้งรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงกระดูกสันหลัง นางมักจะรู้สึกว่า ดวงตาและท่าทางการแสดงออกแบบนั้น ช่างมิเข้ากันกับร่างกายที่อ้วนท้วนนี้เอาเสียเลย

“บ่าวเชื่อเจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งตอบออกไปอย่างไม่รู้ตัว

"เช่นนั้นเจ้าไปเอาของกินมาอย่างเงียบ ๆ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ห้อง" หลังจากพูดจบ ลั่วชิงยวนก็เดินกลับไปที่ห้องทันที

แม่นมเติ้งรู้สึกงุนงง

รอไม่นานนัก แม่นมเติ้งก็กลับมาอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ นางหยิบไก่ย่างที่ห่อด้วยกระดาษซับน้ำมันออกมาจากอก แล้วยื่นให้ลั่วชิงยวน "รีบกินเถิดเจ้าค่ะ กลิ่นไก่ค่อนข้างแรง หากพวกนั้นได้กลิ่น แล้วเดินมาตรวจจะแย่เอา”

แม่นมเติ้งช่วยนางเฝ้าระวังที่ประตู ส่วนลั่วชิงยวนทานไก่ย่างหมดทั้งตัว ก่อนจะเรอออกมา

จากนั้นแม่นมเติ้งก็เดินไปที่มุมเตียง และถามขึ้นอย่างลังเล "พระชายา... มีวิธีแก้จริง ๆ หรือเจ้าคะ" หลังจากกินจนอิ่มแล้ว พลังของลั่วชิงยวนก็กลับมา นางถามกลับไปทันที "แม่ของเจ้าป่วยเป็นโรคอะไร? เคยไปหาหมอหรือไม่? แล้วได้ใบสั่งยาอะไรมา? ”

“ตอนแรกก็แค่มีอาการปวดหัว มีไข้ พอไปหาหมอก็กินยาแก้ลม แก้หวัดสองสามเม็ด แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยเจ้าค่ะ ครึ่งเดือนต่อมา อาการแย่ลงเรื่อย ๆ หมอบอกว่ามิสามารถทำอะไรได้ เขาบอกว่า ถ้ามีคนคอยดูแลจะดีกว่า เพราะอาจจะมีวิญญาณชั่วร้าย... " วิญญาณชั่วร้าย? สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกาย

“นอกจากปวดหัวและมีไข้แล้ว ยังมีอาการอะไรอีกหรือไม่?”

“ในช่วงสองสามวันที่บ่าวคอยดูแล นางจะหมอบอยู่ที่ประตูในช่วงเวลากลางดึกอย่างแปลกประหลาด พลางพูดอะไรพึมพำ ข้าได้ยินไม่ชัดว่านางพูดว่าอะไร”

ฟังดูแปลกมาก นางจึงถามอีกครั้งว่า "ก่อนแม่เจ้าจะป่วย มีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นหรือไม่?"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตาของแม่นมเติ้งก็เป็นประกาย และรีบพูดว่า "ในช่วงสองวันก่อนที่แม่บ่าวจะป่วย ดูเหมือนว่า นางจะบอกว่ามีครอบครัวใหญ่ใช้เงินเซ่นไหว้ต่อคนตาย นางรู้สึกเสียดาย จึงไปที่หลุมฝังศพและหยิบเงินสองใบที่ยังไม่ไหม้กลับมาเจ้าค่ะ"

ลั่วชิงยวนตกใจ "เงินคนตายยังกล้าเอามาอีกรึ?"

แม่นมเติ้งเองก็ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง "หรือว่าจะมีวิญญาณชั่วร้ายตามมาจริง ๆ เจ้าคะ?"

ลั่วชิงยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบปากกาและกระดาษออกมา ก่อนจะมอบใบสั่งยาให้กับแม่นม

"เจ้านำไปซื้อยาตามนี้ มันจะสามารถยื้อชีวิตแม่ของเจ้าได้ชั่วคราว จากนั้นเจ้าจงนำเงินสองใบที่แม่เจ้าหยิบมา นำกลับไปที่หลุมศพนั่น และเผามันทิ้งซะ ทางที่ดีควรเผากระดาษเงินกระดาษทองไปด้วย"

แม่นมเติ้งดูใบสั่งยาก่อนจะพยักหน้ารับ "เจ้าค่ะ"

นางไม่สามารถรับประกันได้ว่าใบสั่งยาที่ลั่วชิงยวนให้มานั้นจะสามารถช่วยแม่ของนางได้ แต่ก็ลองดูก็แล้วกัน!

แต่พอสติกลับมา "แต่บ่าว... ออกไปนอกตำหนักมิได้..."

ลั่วชิงยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า "เจ้ารอฟังเสียงความเคลื่อนไหวในคืนนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นในตำหนัก เจ้าจงหาข้ออ้างออกจากตำหนักไปซะ ไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเมิ่งจิ่นอวี่ เมื่อทำธุระเสร็จก็จงรีบกลับมา"

แม่นมเติ้งมองไปที่ดวงตาของลั่วชิงยวนที่ดูเหมือนจะอ่านใจผู้คนได้ และให้ความรู้สึกยากที่จะหยั่งถึง

หลังจากที่พระชายาปลิดชีพตนเอง ก็ดูเหมือนกลายเป็นคนละคน ดวงตาคู่นั้นทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก

"แต่ถ้าเมิ่งจิ่นอวี่นำไปทูล..." แม่นมเติ้งยังคงกังวลเล็กน้อย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็ยกมุมปาก และพูดขึ้นอย่างเป็นนัย "นางน่ะรึ? คืนนี้นางจะปกป้องตัวเองได้หรือไม่ก็ยังมิรู้"

รวมหัวกันรังแกนางใช่ไหม? นางอยู่ตรงนี้แล้ว มาดูกันว่าใครจะรังแกใครกันแน่

ตกกลางคืนอันเงียบสงัด ลั่วชิงยวนนั่งเงียบ ๆ บนม้านั่ง เพื่อรอใครสักคนที่จะมาในคืนนี้

คืนนี้ไม่มีดวงจันทร์หรือดวงดาว ท้องฟ้ามืดครึ้มมีเมฆหนาปกคลุม ซึ่งเป็นสัญญาณของฝน

เมื่อยามไห้(1)มาถึง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก

ไม่นานก็เห็นเงาดำเกาะอยู่ที่ประตู ราวกับกำลังฟังการเคลื่อนไหวภายในห้อง

จากนั้นเสียงของเมิ่งจิ่นอวี่ก็ดังขึ้นเบา ๆ "วันนี้นางกินหมั่นโถวไปสามลูก น่าจะเพียงพอที่จะทำให้นางได้รู้ว่าโลกนี้เป็นอย่างไร และเมื่อนางตื่นขึ้นมา มันจะเหมือนช่วงเวลาแห่งความตาย!"

เมื่อคืนท่านอ๋องมิได้ส่งคนมาทำลายความบริสุทธิ์ของลั่วชิงยวน เขาเพียงแค่ส่งคนมาทำให้นางเข้าใจผิดเท่านั้น

และคืนนี้ลั่วชิงยวนจะได้หลับนอนกับผู้ชายอีกสองสามคน นางจะสูญเสียความบริสุทธิ์ และท่านอ๋องจะไม่ไว้ชีวิตนางอย่างแน่นอน! ชิวิตของผู้หญิงน่าเกลียดผู้นี้ จะต้องเลวร้ายยิ่งเสียกว่าการถูกฝังทั้งเป็น!

ลั่วชิงยวนเห็นร่างของเมิ่งจิ่นอวี่ด้านนอก แต่ไม่เห็นว่าใครยืนอยู่ตรงข้ามนาง

เมิ่งจิ่นอวี่กำลังคุยอยู่กับใคร? ลั่วเยวี่ยอิงหรือ?

"มา พวกเจ้าเข้าไปพร้อมกันเลย" เมิ่งจิ่นอวี่กวักมือเรียกชายหลายคน

ประตูจึงถูกผลักออก ชายหลายคนค่อย ๆ เดินเข้ามา เนื่องจากในห้องไม่ได้จุดไฟ ภายในห้องจึงมืดสนิท พวกนั้นทำได้เพียงเดินคลำในความมืดเข้ามาเท่านั้น

ประตูปิดลง ด้านนอกเหลือเพียงเมิ่งจิ่นอวี่ที่รอดักฟัง

โดยมิรู้เลยว่า ลั่วชิงยวนได้ปีนหน้าต่างออกมา แล้วเดินไปทางด้านหลังเมิ่งจิ่นอวี่อย่างเงียบ ๆ ...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (2)
goodnovel comment avatar
ชนัฐฐา แซ่เอี้ย
อยากอ่านต่อ
goodnovel comment avatar
ชนัฐฐา แซ่เอี้ย
สนุกดี อ่านต่อไ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1540

    “เจ้าอยู่ในตระกูลฉีนานเท่าใดแล้ว คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลฉีหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามจูลั่วตอบว่า “คุ้นเคย”จากนั้นจูลั่วก็วาดแผนที่เมืองอวิ๋นโจวแบบง่าย ๆ และแผนที่ของจวนตระกูลฉีแบบละเอียด แล้วมอบให้ลั่วชิงยวนหลังจากลั่วชิงยวนจดจำแผนที่ได้แล้วก็มอบแผนที่ให้โฉวสือชี“วันพรุ่งเมื่อเข้าไปในเมืองอวิ๋นโจวแล้ว จงติดต่อคนของเราให้พร้อมก่อน สือโท่วเป็นคนในเมืองอวิ๋นโจว เขาย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ ถึงเวลานั้นก็ให้เขาพลิกแพลงตามสถานการณ์”“ต้องช่วยฉีอวี้ออกมาให้ได้”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็รอจนฟ้าสาง แล้วจึงตามขบวนคาราวานของเถ้าแก่จี้เข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวคืนนั้นอวิ๋นเฟิงก็มิกลับมา การที่ฉีอวี้ถูกจับตัวไปย่อมเป็นฝีมือเขาแน่นอนคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวได้อย่างราบรื่นบนถนนคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงฆ้องกลองดังขึ้นและมีขบวนเจ้าสาวกำลังเดินสวนมาท่าทางโอ่อ่าสง่างาม ผู้คนตามท้องถนนต่างหลีกทางไปสองข้างกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ขบวนทั้งหมดมีคนนับร้อยเกี้ยวเจ้าสาวหรูหราอลังการ ผ้าคลุมหน้าประดับลูกปัดระยิบระยับแกว่งไกวส่งเสียงกังวานเพียงแต่มองเห็นเงาร่างในเกี้ยวได้มิชัดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1539

    โฉวสือชีพลันตื่นตระหนกขึ้นมา “นางมิได้อยู่กับเจ้าหรอกหรือ?”“นางมาช่วยดับไฟ!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วหลายคนรีบออกค้นหาคนในขบวนคาราวานปลอดภัยแล้ว สินค้าก็มิเสียหาย เถ้าแก่จี้จึงให้ทุกคนล้มเลิกการดับไฟ แล้วถอยห่างจากเปลวเพลิงลั่วชิงยวนถามเถ้าแก่จี้ “ท่านเห็นเด็กสาวอีกคนในคณะของเราหรือไม่?”เถ้าแก่จี้ส่ายหน้า “มิเห็นเลยขอรับ”จากนั้นลั่วชิงยวนและโฉวสือชีก็แยกกันค้นหา แทบจะพลิกค้นไปทั่วทั้งลานบ้านมิพบฉีอวี้!เพียงชั่วพริบตาเดียว ฉีอวี้ก็หายตัวไปแล้ว!โฉวสือชีกระวนกระวายใจยิ่งนัก “นางคงมิได้กระโจนเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยข้ากระมัง?”เมื่อกล่าวจบ โฉวสือชีก็แบกผ้าห่มที่เปียกชุ่มผืนหนึ่ง แล้วกระโดดเข้าไปในกองไฟทันทีเขามิได้ลังเลเลยแม้แต่น้อยคนที่อยู่ภายนอกยังคงสาดน้ำช่วยดับไฟลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด “ไม่สิ หากฉีอวี้หาคนมิเจอ นางคงมิอยู่ข้างในนานถึงเพียงนั้น”เมื่อนึกถึงสตรีในกำแพงที่เคยตรึงนางไว้ในคืนนี้ ลั่วชิงยวนก็ใจหายวาบมิได้มาเพราะนางแต่มาเพราะฉีอวี้!เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสำนักเทียนฉยงก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย“ออกไปค้นหา!”ลั่วชิงยวนและจูลั่วรีบวิ่งออกจากเรือน ไล่ตาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1538

    ลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่น เมื่อพลิกกายลุกขึ้นก็เห็นฉีอวี้กลิ้งตกจากเตียงนางรีบก้าวเข้าไปถาม “เจ้าเป็นกระไรไป?”ใครเล่าจะรู้ว่าฉีอวี้กลับแสดงท่าทีตอบโต้รุนแรง “อย่าแตะต้องข้า! อย่าแตะต้องข้า!”ฉีอวี้คว้าเก้าอี้แล้วลุกขึ้นเตรียมจะทุ่มใส่ลั่วชิงยวนแต่เมื่อเห็นใบหน้าของลั่วชิงยวน ฉีอวี้ก็หยุดมือใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวพร้อมหายใจถี่ และมองซ้ายมองขวาท่าทางหวาดระแวงอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นว่าฉีอวี้หวาดกลัวมาก แสดงว่าคงถูกอะไรบางอย่างทำให้ตกใจทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ถึงพลังหยินแต่มิได้ปรากฏอยู่ในห้องแล้วลั่วชิงยวนก้าวไปเปิดประตูหมายจะออกไป แต่ฉีอวี้ก็รีบคว้ามือของนางไว้ด้วยความหวาดกลัวลั่วชิงยวนหยิบยันต์แผ่นหนึ่งแปะลงบนตัวฉีอวี้ “เจ้าจงอยู่ในห้องนี้”“ข้าจะไปดูว่าเกิดกระไรขึ้น”ฉีอวี้พยักหน้า แล้วกำชับว่า “เช่นนั้นท่านระวังตัวด้วย”ลั่วชิงยวนเดินออกจากห้อง แล้วปิดประตูอย่างระมัดระวังในลานบ้านยังคงเงียบสงัด มิรู้ว่าคนอื่น ๆ เหนื่อยเกินไปจนมิตื่นเพราะเสียงร้องของฉีอวี้ หรือว่าถูกอะไรบางอย่างทำให้หมดสติไปแล้วลั่วชิงยวนเดินออกจากห้อง แล้วหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1537

    แต่หากพวกเขาต้องการที่จะพบเจอของดีในตลาดมืด ส่วนใหญ่ก็ต้องอาศัยการแย่งชิงและโชคชะตาไม่มีผู้ประกอบการคนใดมิปรารถนาที่จะร่วมมือกับตลาดมืดเมื่อเถ้าแก่จี้ได้ยินดังนั้นก็ยินดียิ่งนัก รีบตอบรับ “คุณหนูใหญ่กล่าวมาถึงเพียงนี้ หากข้ามิรับปาก ก็จะเป็นผู้มิรู้จักความดีงามแล้ว!”“มิขอปิดบัง คราวนี้พวกเรามาตลาดมืดเพื่อตามหาสมบัติโบราณบางอย่าง แต่… สุดท้ายก็มิได้สิ่งใดกลับมาเลย”“คนในตลาดมืดชอบทำการค้ากับคนรู้จัก เพราะคนรู้จักเชื่อถือได้มากกว่า พวกเราเพิ่งเคยมาตลาดมืดเป็นครั้งแรก การซื้อของจึงไม่มีข้อได้เปรียบมากนัก”“ข้าเดินทางไปมาระหว่างแคว้นเทียนเชวียและแคว้นหลี คราวนี้ก็ตั้งใจจะขยายกิจการให้กว้างไกลกว่าเดิม หากคุณหนูใหญ่ยินดีร่วมมือกับขบวนคาราวานของพวกเรา ข้ารับรองว่าจะมิทำให้คุณหนูใหญ่ผิดหวัง!”“จะมิทำให้พวกท่านขาดทุนแน่นอน!”เถ้าแก่จี้ก็แสดงท่าทีและความตั้งใจของตนเองออกมาอย่างชัดเจนเรื่องนี้ทำให้ลั่วชิงยวนวางใจยิ่งขึ้น เถ้าแก่จี้ผู้นี้ดูแล้วเป็นคนไว้ใจได้“ดี เช่นนั้นก็ตกลงกันตามนี้เถิด”“คนของข้าจะติดตามขบวนคาราวานไปยังเมืองอวิ๋นโจวในอีกสองสามวันนี้”เถ้าแก่จี้เห็นว่าพวกนางรีบร้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1536

    เฉินชีเหาะวูบเดียวก็ลงสู่พื้นอย่างมั่นคงลั่วชิงยวนจึงควบม้าเร่งความเร็ว มินานก็ไล่ตามฉีอวี้และโฉวสือชีทันฉีอวี้แทบจะต้องเช็ดน้ำตาขณะควบม้าวิ่งไปข้างหน้าไปด้วย มิอยากหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว นางร้อนใจยิ่งนักพวกเขารีบเดินทางทั้งวันทั้งคืน เปลี่ยนม้าสี่ครั้งกลางทาง ใช้เวลาหกวัน จึงมาถึงนอกเมืองอวิ๋นโจวแต่ที่ด่านตรวจป้องกันเมืองนั้นเข้มงวดเป็นพิเศษ ทุกคนต้องได้รับการตรวจค้น สินค้าก็ต้องได้รับการตรวจค้น มิให้เข้าเมืองโดยง่ายลั่วชิงยวนและพรรคพวกยิ่งมิอาจเข้าเมืองได้จากนั้นลั่วชิงยวนจึงพาทุกคนไปหลบในป่าก่อนนางสั่งการว่า “ไปซื้ออาภรณ์ชาวบ้านมาเปลี่ยน แล้วแบ่งกลุ่มติดตามผู้อื่นเข้าเมือง”“เมื่อเข้าเมืองแล้วค่อยรวมตัวกัน!”จากนั้นโฉวสือชีก็รีบพาคนไปหาอาภรณ์จำนวนมากมาพวกเขาสวมทับอาภรณ์เดิมเพื่อปลอมตัวเมื่อเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนและโฉวสือชีก็พาฉีอวี้และจูลั่วปะปนอยู่ในขบวนคาราวานเข้าเมืองไปได้อย่างราบรื่นลั่วชิงยวนพบว่าทหารที่ด่านตรวจเกือบทั้งหมดมุ่งเน้นการตรวจค้นรถม้าและเกี้ยว ดูเหมือนจะเน้นตรวจค้นครอบครัวของเศรษฐีเมื่อเข้าเมืองได้อย่างปลอดภัย จูลั่วนำกระดาษแผ่นห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1535

    ขณะนี้ฉีอวี้ยังคงห่วงใยลั่วชิงยวน“เจ้าควรกลับไปอวิ๋นโจว”“หา? เหตุใดหรือเจ้าคะ?”เมื่อสิ้นคำนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่!”มองไปตามเสียงจึงเห็นชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามา แต่ถูกผู้คุ้มกันคนหนึ่งขวางไว้ มิให้เข้าใกล้ลั่วชิงยวนเมื่อฉีอวี้เห็นผู้มาเยือนก็ตกใจ “สือโท่ว เจ้ามาได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนสั่งว่า “ให้เขาเข้ามาเถิด”จากนั้นชายที่ชื่อสือโท่วก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา“คุณหนูใหญ่ เกิดเรื่องแล้วขอรับ!”ฉีอวี้พลันเกิดความรู้สึกมิดี “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”สือโท่วมีสีหน้าเศร้าโศก น้ำเสียงแฝงด้วยการร่ำไห้ “คุณหนูใหญ่ บ้านเราสิ้นแล้ว…”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉีอวี้ก็ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง“ว่ากระไรนะ? เจ้าพูดอะไร?!” ฉีอวี้มองเขาด้วยความเหลือเชื่อสือโท่วปาดน้ำตา “ท่านเจ้าเมืองกับฮูหยิน…”“จวนเจ้าเมืองถูกสังหารสิ้นในชั่วข้ามคืน…”ฉีอวี้ได้ยินดังนั้นก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด ทรุดตัวถอยหลังไปสองก้าวเมื่อโฉวสือชีได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเช่นกันกระไรนะ? จวนเจ้าเมืองหรือ?เพียงแต่เขายังมิทันได้ถามมาก ก็รีบประคองฉีอวี้โดยสัญชาตญาณลั่วชิงยวนใจหายวาบ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เกิดเรื

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status