แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนหยิบไม้ที่อยู่ตรงมุมกำแพงขึ้นมา และหวดไม้ใส่เมิ่งจิ่นอวี่จนหมดสติ

นางหยิบหมั่นโถวชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดเข้าไปในปากของเมิ่งจิ่นอวี่ ทำให้นางกลืนมันลงไป

ชายบางคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางหน้าต่าง คิดว่าลั่วชิงยวนกำลังจะหนีออกไป

"นี่! คิดจะหนีรึ!" หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้า และกระชากนางลงมาทันที ลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ปล่อยตัวเมิ่งจิ่นอวี่

พวกนั้นคิดว่าเมิ่งจิ่นอวี่ที่สลบไปคือลั่วชิงยวน จึงได้พานางกลับไปที่เตียง

ลั่วชิงยวนพิงผนังและฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่ามันเป็นไปตามแผน นางจึงหันหลังและจากไปอย่างสบายใจ

ในความมืด นางแอบเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง หลังจากค้นหาทั่วครัวก็ไม่มีอะไรเหลือให้กิน! นางจึงหามุมเพื่อเอนตัวลงนอน ก่อนจะผล็อยหลับไป

ณ ห้องตำรา

ฟู่เฉินหวนกำลังจะหยุดพักหลังจากทำงานเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตื่นตระหนกของลั่วเยวี่ยอิง "ท่านอ๋อง ท่านบรรทมอยู่หรือไม่เพคะ?"

เมื่อได้ยินเสียงที่ลุกลน ฟู่เฉินหวนจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู "มีเรื่องอันใดรึ?"

ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาที่ชุ่มน้ำของนางดูเหมือนจะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา "ท่านอ๋อง หม่อมฉันเพิ่ง... เห็นผู้ชายสองสามคนเข้าไปในห้องของท่านพี่เพคะ ท่านอ๋องช่วยไว้ชีวิตพี่สาวของหม่อมฉันด้วยนะเพคะ"

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสี

มีผู้ชายเข้าไปในห้องของลั่วชิงยวน เขาสั่งซูโหยวไปแล้วว่าไม่ต้อง? "ท่านอ๋อง ข้ามีพี่สาวเพียงคนเดียว ไม่ว่านางจะทำอะไร นางก็ยังเป็นพี่สาวของหม่อมฉันเสมอ... " ลั่วเยวี่ยอิงร้องห่มร้องไห้ พลางคุกเข่าลงกับพื้น

เห็นดังนั้น ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว และรีบพยุงนางขึ้นมา "พาข้าไปดู"

"เพคะ..." ลั่วเยวี่ยอิงก้มหัวลงอย่างละอายใจ

แววตาของฟู่เฉินหวนส่องประกายความอำมหิต ลั่วชิงยวน เจ้าจะก่อเรื่องอะไรอีก ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมแพ้ ยังจงใจทำให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาทำ

เขาจะพาลั่วเยวี่ยอิงไปดูโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่สาวที่นางคิดว่าแสนดีให้ชัด ๆ !

ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงซีดเผือด นางโดนฟู่เฉินหวนจูงออกไป พลางร้องไห้ตลอดทาง "ท่านอ๋อง หม่อมฉันเต็มใจที่จะถูกลงโทษแทนพี่สาวเพคะ หม่อมฉันขอร้อง ได้โปรดทรงไว้ชีวิตพี่สาวหม่อมฉันด้วย..."

หลังจากตกค่ำ ภายในตำหนักก็เงียบสงัด เสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิงจึงดังเป็นพิเศษ และนั่นก็ดึงดูดความสนใจจากคนรับใช้เป็นจำนวนมาก

“คุณหนูรองนี่ช่างจิตใจดีจริง ๆ คุณหนูใหญ่กระทำกับนางเยี่ยงนั้น แถมยังแย่งการแต่งงานของนางอีก แต่คุณหนูก็ยังอ้อนวอนขอร้องแทนนาง”

“ก็นั่นน่ะสิ คุณหนูรองเป็นพระโพธิสัตว์จริง ๆ”

นางรับใช้กับคนรับใช้กำลังหารือกัน หลังจากได้ยินเสียง พวกนางก็ติดตามไปอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น

ลานขนาดใหญ่ไม่ได้จุดไฟ ทำให้มันมืดสนิทไปหมด

ในความเงียบ มีเสียงที่ทำให้คนต้องหน้าแดงดังมาจากในห้อง ผสมกับคำหยาบคายและลามกของผู้ชาย "พระชายา ท่านช่างงดงามเหลือเกิน!"

ในขณะนั้น ความโกรธพุ่งตรงไปที่หัวของฟู่เฉินหวน

ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดนาง แต่ตอนนี้นางมีตำแหน่งเป็นพระชายา นางบังอาจทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงกับทาสภายใต้จมูกของเขาได้อย่างไร...?!

ลั่วเยวี่ยอิงกลัวมากจนใบหน้าเล็ก ๆ ของนางซีดลง นางคุกเข่าลง และคว้าแขนเสื้อของฟู่เฉินหวน "ท่านอ๋อง ได้โปรดไว้ชีวิตพี่สาวของหม่อมฉันด้วยเพคะ!"

การกระทำของลั่วเยวี่ยอิงเป็นการเติมเชื้อไฟอย่างไม่ต้องสงสัย ฟู่เฉินหวนโกรธจัด นางคิดว่านั่นเป็นคำสั่งของเขาอย่างนั้นหรือ!

เขาดึงลั่วเยวี่ยอิงขึ้นมา "ข้ามิได้เป็นคนสั่ง!"

เขาโกรธมากจนเตะประตูให้เปิดออก และตะโกนด้วยเสียงอาฆาต "ลั่วชิงยวน!"

ทุกคนในห้องตกใจจนขวัญกระเจิง ผู้ชายบนเตียงพวกนั้นต่างพากันรีบสวมเสื้อผ้า และรีบทุลักทุเลออกจากห้องไป

คนรับใช้ต่างส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นฉากนี้

"สวรรค์ พระชายาช่างไร้ยางอายจริง นางกล้าหลับนอนกับคนรับใช้ได้อย่างไรกัน..."

"นี่คือลูกสาวที่ถูกสอนมาจากจวนอัครเสนาบดีจริงหรือ?"

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนสี เมื่อได้ยินการสนทนานี้ เรื่องอื้อฉาวเช่นนี้เกิดขึ้นในตำหนักอ๋อง รุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ เขาจะกลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงนี้ทันที

"ใครก็ได้ พระชายาได้ทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ จงนำตัวไปประหารชีวิตซะ!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงที่กำก้มศีรษะอยู่ ก็อดไม่ได้ที่ยกยิ้มขึ้นที่ริมฝีปาก

หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุดนางก็ทำลายชื่อเสียงของลั่วชิงยวนได้สำเร็จ จากนี้ไป ตระกูลลั่วจะมีเพียงนาง ลั่วเยวี่ยอิง คนเดียวเท่านั้น !

นางแสร้งทำเป็นตกตะลึงอยู่ข้าง ๆ ท่าทางหวาดกลัวและสูญเสีย

คนรับใช้หลายคนเข้ามาในห้อง เพื่อจับตัวลั่งชิงเยวียนไปประหารชิวิต

แต่เมื่อจับตัวออกมา ผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยก็พุ่งตัวเข้าไปหาฟู่เฉินหวนอย่างบ้าคลั่ง "ท่านอ๋อง หม่อมฉันใจจดใจจ่อมานานหลายปี และในที่สุดหม่อมฉันก็ได้เป็นชายาของท่าน… ท่านอ๋อง..."

น้ำเสียงนั้นหอบกระเส่านั้น ทำให้ผู้ฟังรู้สึกขนหัวลุกไปหมด

แขนที่เปลือยเปล่าเอื้อมขึ้นไปคล้องคอฟู่เฉินหวน แทบจะโน้มตัวทับลงไป

ในขณะนั้น ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น ปฏิกิริยาแรกของเขาคือ นี่ไม่ใช่เสียงของลั่วชิงยวน! มือหนาดึงแขนที่คล้องคอของเขาออก และโยนมันทิ้งไปด้วยความรังเกียจ

“อ๊ะ!” ผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยล้มลงไปบนพื้นหิน

สาวใช้เปิดโคมไฟดูอยู่ข้าง ๆ

ภายใต้แสงจ้า เมื่อใบหน้านั้นเงยหน้าขึ้นมา ทุกคนในลานต่างก็ตกตะลึง

เห็นได้ชัดว่าหญิงคนนั้นคือ… เมิ่งจิ่นอวี่!

เมื่อเห็นฉากนี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็แทบสำลักลมหายใจ นางกำแขนเสื้อแน่น ไม่ใช่ลั่วชิงยวน? เป็นไปได้อย่างไร! แล้วลั่วชิงยวนเล่า? ทำไมถึงได้กลายเป็นเมิ่งจิ่นอวี่ไปได้ มันเกิดอะไรขึ้น?!

จิตใจของนางสับสนอลหม่านไปชั่วขณะ

ฟู่เฉินหวนดวงตาคมลึก ความโกรธในใจของเขาลดลงเล็กน้อย หากลั่วชิงยวนทำสิ่งนี้จริง เขาจะไม่ไว้ชีวิตนางแน่

"ใครก็ได้ ไปตามหาพระชายามา" ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งเสียงเรียบ

……

ทันใดนั้น ทั้งตำหนักอ๋องก็เกิดความวุ่นวายขึ้น คนรับใช้ต่างก็ออกค้นหากันทั่วลาน ทั้งภายในและภายนอก

ลั่วชิงยวนที่หลับสนิทไปแล้ว เสียงอุทานของสาวใช้ดังขึ้นข้างหูนาง "พระชายา ตื่นเถิด ตื่นเถิดเจ้าค่ะ!" ลั่วชิงยวนตื่นขึ้นด้วยความงุนงง นางขยี้ตาเบา ๆ "เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?"

“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในตำหนัก แต่ท่านกลับมานอนหลับที่นี่หรือเพคะ!!” นางรับใช้บ่นเล็กน้อย เนื่องกว่าจะหาตัวนางเจอ

นางรับใช้หลายคนดึงลั่วชิงยวนขึ้นมา และลากนางกลับไปที่ลานกว้างในตำหนัก

ลานกว้างในตำหนักสว่างไสว ชายผู้เต็มไปด้วยจิตสังหารยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ใต้ชายคา และด้านข้างเขาคือ ลั่วเยวี่ยอิง สาวน้อยบอบบางที่กำลังมีสีหน้าซีดเซียว

และมีเมิ่งจิ่นอวี่ที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยนอนอยู่บนพื้น นางเพิ่งถูกนางรับใช้สาดน้ำใส่เมื่อสักครู่ แต่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา ยังคงนอนดิ้นอยู่บนพื้น พูดจาพึมพำ ทุกคนมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น และมันน่าละอายเกินกว่าจะมองดู

แม่นมหลินไปหยิบผ้านวมออกจากห้อง แล้วห่มร่างเมิ่งจิ่นอวี่ไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสายตา

“คืนนี้เจ้าไปทำอะไร? ที่ไหน? บอกข้ามาให้หมด!” ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวน จี้ถามนางด้วยสายตาเย็นชา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1540

    “เจ้าอยู่ในตระกูลฉีนานเท่าใดแล้ว คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลฉีหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามจูลั่วตอบว่า “คุ้นเคย”จากนั้นจูลั่วก็วาดแผนที่เมืองอวิ๋นโจวแบบง่าย ๆ และแผนที่ของจวนตระกูลฉีแบบละเอียด แล้วมอบให้ลั่วชิงยวนหลังจากลั่วชิงยวนจดจำแผนที่ได้แล้วก็มอบแผนที่ให้โฉวสือชี“วันพรุ่งเมื่อเข้าไปในเมืองอวิ๋นโจวแล้ว จงติดต่อคนของเราให้พร้อมก่อน สือโท่วเป็นคนในเมืองอวิ๋นโจว เขาย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ ถึงเวลานั้นก็ให้เขาพลิกแพลงตามสถานการณ์”“ต้องช่วยฉีอวี้ออกมาให้ได้”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็รอจนฟ้าสาง แล้วจึงตามขบวนคาราวานของเถ้าแก่จี้เข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวคืนนั้นอวิ๋นเฟิงก็มิกลับมา การที่ฉีอวี้ถูกจับตัวไปย่อมเป็นฝีมือเขาแน่นอนคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวได้อย่างราบรื่นบนถนนคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงฆ้องกลองดังขึ้นและมีขบวนเจ้าสาวกำลังเดินสวนมาท่าทางโอ่อ่าสง่างาม ผู้คนตามท้องถนนต่างหลีกทางไปสองข้างกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ขบวนทั้งหมดมีคนนับร้อยเกี้ยวเจ้าสาวหรูหราอลังการ ผ้าคลุมหน้าประดับลูกปัดระยิบระยับแกว่งไกวส่งเสียงกังวานเพียงแต่มองเห็นเงาร่างในเกี้ยวได้มิชัดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1539

    โฉวสือชีพลันตื่นตระหนกขึ้นมา “นางมิได้อยู่กับเจ้าหรอกหรือ?”“นางมาช่วยดับไฟ!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วหลายคนรีบออกค้นหาคนในขบวนคาราวานปลอดภัยแล้ว สินค้าก็มิเสียหาย เถ้าแก่จี้จึงให้ทุกคนล้มเลิกการดับไฟ แล้วถอยห่างจากเปลวเพลิงลั่วชิงยวนถามเถ้าแก่จี้ “ท่านเห็นเด็กสาวอีกคนในคณะของเราหรือไม่?”เถ้าแก่จี้ส่ายหน้า “มิเห็นเลยขอรับ”จากนั้นลั่วชิงยวนและโฉวสือชีก็แยกกันค้นหา แทบจะพลิกค้นไปทั่วทั้งลานบ้านมิพบฉีอวี้!เพียงชั่วพริบตาเดียว ฉีอวี้ก็หายตัวไปแล้ว!โฉวสือชีกระวนกระวายใจยิ่งนัก “นางคงมิได้กระโจนเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยข้ากระมัง?”เมื่อกล่าวจบ โฉวสือชีก็แบกผ้าห่มที่เปียกชุ่มผืนหนึ่ง แล้วกระโดดเข้าไปในกองไฟทันทีเขามิได้ลังเลเลยแม้แต่น้อยคนที่อยู่ภายนอกยังคงสาดน้ำช่วยดับไฟลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด “ไม่สิ หากฉีอวี้หาคนมิเจอ นางคงมิอยู่ข้างในนานถึงเพียงนั้น”เมื่อนึกถึงสตรีในกำแพงที่เคยตรึงนางไว้ในคืนนี้ ลั่วชิงยวนก็ใจหายวาบมิได้มาเพราะนางแต่มาเพราะฉีอวี้!เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสำนักเทียนฉยงก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย“ออกไปค้นหา!”ลั่วชิงยวนและจูลั่วรีบวิ่งออกจากเรือน ไล่ตาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1538

    ลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่น เมื่อพลิกกายลุกขึ้นก็เห็นฉีอวี้กลิ้งตกจากเตียงนางรีบก้าวเข้าไปถาม “เจ้าเป็นกระไรไป?”ใครเล่าจะรู้ว่าฉีอวี้กลับแสดงท่าทีตอบโต้รุนแรง “อย่าแตะต้องข้า! อย่าแตะต้องข้า!”ฉีอวี้คว้าเก้าอี้แล้วลุกขึ้นเตรียมจะทุ่มใส่ลั่วชิงยวนแต่เมื่อเห็นใบหน้าของลั่วชิงยวน ฉีอวี้ก็หยุดมือใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวพร้อมหายใจถี่ และมองซ้ายมองขวาท่าทางหวาดระแวงอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นว่าฉีอวี้หวาดกลัวมาก แสดงว่าคงถูกอะไรบางอย่างทำให้ตกใจทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ถึงพลังหยินแต่มิได้ปรากฏอยู่ในห้องแล้วลั่วชิงยวนก้าวไปเปิดประตูหมายจะออกไป แต่ฉีอวี้ก็รีบคว้ามือของนางไว้ด้วยความหวาดกลัวลั่วชิงยวนหยิบยันต์แผ่นหนึ่งแปะลงบนตัวฉีอวี้ “เจ้าจงอยู่ในห้องนี้”“ข้าจะไปดูว่าเกิดกระไรขึ้น”ฉีอวี้พยักหน้า แล้วกำชับว่า “เช่นนั้นท่านระวังตัวด้วย”ลั่วชิงยวนเดินออกจากห้อง แล้วปิดประตูอย่างระมัดระวังในลานบ้านยังคงเงียบสงัด มิรู้ว่าคนอื่น ๆ เหนื่อยเกินไปจนมิตื่นเพราะเสียงร้องของฉีอวี้ หรือว่าถูกอะไรบางอย่างทำให้หมดสติไปแล้วลั่วชิงยวนเดินออกจากห้อง แล้วหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1537

    แต่หากพวกเขาต้องการที่จะพบเจอของดีในตลาดมืด ส่วนใหญ่ก็ต้องอาศัยการแย่งชิงและโชคชะตาไม่มีผู้ประกอบการคนใดมิปรารถนาที่จะร่วมมือกับตลาดมืดเมื่อเถ้าแก่จี้ได้ยินดังนั้นก็ยินดียิ่งนัก รีบตอบรับ “คุณหนูใหญ่กล่าวมาถึงเพียงนี้ หากข้ามิรับปาก ก็จะเป็นผู้มิรู้จักความดีงามแล้ว!”“มิขอปิดบัง คราวนี้พวกเรามาตลาดมืดเพื่อตามหาสมบัติโบราณบางอย่าง แต่… สุดท้ายก็มิได้สิ่งใดกลับมาเลย”“คนในตลาดมืดชอบทำการค้ากับคนรู้จัก เพราะคนรู้จักเชื่อถือได้มากกว่า พวกเราเพิ่งเคยมาตลาดมืดเป็นครั้งแรก การซื้อของจึงไม่มีข้อได้เปรียบมากนัก”“ข้าเดินทางไปมาระหว่างแคว้นเทียนเชวียและแคว้นหลี คราวนี้ก็ตั้งใจจะขยายกิจการให้กว้างไกลกว่าเดิม หากคุณหนูใหญ่ยินดีร่วมมือกับขบวนคาราวานของพวกเรา ข้ารับรองว่าจะมิทำให้คุณหนูใหญ่ผิดหวัง!”“จะมิทำให้พวกท่านขาดทุนแน่นอน!”เถ้าแก่จี้ก็แสดงท่าทีและความตั้งใจของตนเองออกมาอย่างชัดเจนเรื่องนี้ทำให้ลั่วชิงยวนวางใจยิ่งขึ้น เถ้าแก่จี้ผู้นี้ดูแล้วเป็นคนไว้ใจได้“ดี เช่นนั้นก็ตกลงกันตามนี้เถิด”“คนของข้าจะติดตามขบวนคาราวานไปยังเมืองอวิ๋นโจวในอีกสองสามวันนี้”เถ้าแก่จี้เห็นว่าพวกนางรีบร้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1536

    เฉินชีเหาะวูบเดียวก็ลงสู่พื้นอย่างมั่นคงลั่วชิงยวนจึงควบม้าเร่งความเร็ว มินานก็ไล่ตามฉีอวี้และโฉวสือชีทันฉีอวี้แทบจะต้องเช็ดน้ำตาขณะควบม้าวิ่งไปข้างหน้าไปด้วย มิอยากหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว นางร้อนใจยิ่งนักพวกเขารีบเดินทางทั้งวันทั้งคืน เปลี่ยนม้าสี่ครั้งกลางทาง ใช้เวลาหกวัน จึงมาถึงนอกเมืองอวิ๋นโจวแต่ที่ด่านตรวจป้องกันเมืองนั้นเข้มงวดเป็นพิเศษ ทุกคนต้องได้รับการตรวจค้น สินค้าก็ต้องได้รับการตรวจค้น มิให้เข้าเมืองโดยง่ายลั่วชิงยวนและพรรคพวกยิ่งมิอาจเข้าเมืองได้จากนั้นลั่วชิงยวนจึงพาทุกคนไปหลบในป่าก่อนนางสั่งการว่า “ไปซื้ออาภรณ์ชาวบ้านมาเปลี่ยน แล้วแบ่งกลุ่มติดตามผู้อื่นเข้าเมือง”“เมื่อเข้าเมืองแล้วค่อยรวมตัวกัน!”จากนั้นโฉวสือชีก็รีบพาคนไปหาอาภรณ์จำนวนมากมาพวกเขาสวมทับอาภรณ์เดิมเพื่อปลอมตัวเมื่อเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนและโฉวสือชีก็พาฉีอวี้และจูลั่วปะปนอยู่ในขบวนคาราวานเข้าเมืองไปได้อย่างราบรื่นลั่วชิงยวนพบว่าทหารที่ด่านตรวจเกือบทั้งหมดมุ่งเน้นการตรวจค้นรถม้าและเกี้ยว ดูเหมือนจะเน้นตรวจค้นครอบครัวของเศรษฐีเมื่อเข้าเมืองได้อย่างปลอดภัย จูลั่วนำกระดาษแผ่นห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1535

    ขณะนี้ฉีอวี้ยังคงห่วงใยลั่วชิงยวน“เจ้าควรกลับไปอวิ๋นโจว”“หา? เหตุใดหรือเจ้าคะ?”เมื่อสิ้นคำนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่!”มองไปตามเสียงจึงเห็นชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามา แต่ถูกผู้คุ้มกันคนหนึ่งขวางไว้ มิให้เข้าใกล้ลั่วชิงยวนเมื่อฉีอวี้เห็นผู้มาเยือนก็ตกใจ “สือโท่ว เจ้ามาได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนสั่งว่า “ให้เขาเข้ามาเถิด”จากนั้นชายที่ชื่อสือโท่วก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา“คุณหนูใหญ่ เกิดเรื่องแล้วขอรับ!”ฉีอวี้พลันเกิดความรู้สึกมิดี “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”สือโท่วมีสีหน้าเศร้าโศก น้ำเสียงแฝงด้วยการร่ำไห้ “คุณหนูใหญ่ บ้านเราสิ้นแล้ว…”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉีอวี้ก็ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง“ว่ากระไรนะ? เจ้าพูดอะไร?!” ฉีอวี้มองเขาด้วยความเหลือเชื่อสือโท่วปาดน้ำตา “ท่านเจ้าเมืองกับฮูหยิน…”“จวนเจ้าเมืองถูกสังหารสิ้นในชั่วข้ามคืน…”ฉีอวี้ได้ยินดังนั้นก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด ทรุดตัวถอยหลังไปสองก้าวเมื่อโฉวสือชีได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเช่นกันกระไรนะ? จวนเจ้าเมืองหรือ?เพียงแต่เขายังมิทันได้ถามมาก ก็รีบประคองฉีอวี้โดยสัญชาตญาณลั่วชิงยวนใจหายวาบ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เกิดเรื

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status