Share

บทที่ 6

ลั่วชิงยวนหยิบไม้ที่อยู่ตรงมุมกำแพงขึ้นมา และหวดไม้ใส่เมิ่งจิ่นอวี่จนหมดสติ

นางหยิบหมั่นโถวชิ้นเล็ก ๆ ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยัดเข้าไปในปากของเมิ่งจิ่นอวี่ ทำให้นางกลืนมันลงไป

ชายบางคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางหน้าต่าง คิดว่าลั่วชิงยวนกำลังจะหนีออกไป

"นี่! คิดจะหนีรึ!" หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้า และกระชากนางลงมาทันที ลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ปล่อยตัวเมิ่งจิ่นอวี่

พวกนั้นคิดว่าเมิ่งจิ่นอวี่ที่สลบไปคือลั่วชิงยวน จึงได้พานางกลับไปที่เตียง

ลั่วชิงยวนพิงผนังและฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่ามันเป็นไปตามแผน นางจึงหันหลังและจากไปอย่างสบายใจ

ในความมืด นางแอบเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง หลังจากค้นหาทั่วครัวก็ไม่มีอะไรเหลือให้กิน! นางจึงหามุมเพื่อเอนตัวลงนอน ก่อนจะผล็อยหลับไป

ณ ห้องตำรา

ฟู่เฉินหวนกำลังจะหยุดพักหลังจากทำงานเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตื่นตระหนกของลั่วเยวี่ยอิง "ท่านอ๋อง ท่านบรรทมอยู่หรือไม่เพคะ?"

เมื่อได้ยินเสียงที่ลุกลน ฟู่เฉินหวนจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู "มีเรื่องอันใดรึ?"

ลั่วเยวี่ยอิงมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว นัยน์ตาที่ชุ่มน้ำของนางดูเหมือนจะเพิ่งผ่านการร้องไห้มา "ท่านอ๋อง หม่อมฉันเพิ่ง... เห็นผู้ชายสองสามคนเข้าไปในห้องของท่านพี่เพคะ ท่านอ๋องช่วยไว้ชีวิตพี่สาวของหม่อมฉันด้วยนะเพคะ"

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสี

มีผู้ชายเข้าไปในห้องของลั่วชิงยวน เขาสั่งซูโหยวไปแล้วว่าไม่ต้อง? "ท่านอ๋อง ข้ามีพี่สาวเพียงคนเดียว ไม่ว่านางจะทำอะไร นางก็ยังเป็นพี่สาวของหม่อมฉันเสมอ... " ลั่วเยวี่ยอิงร้องห่มร้องไห้ พลางคุกเข่าลงกับพื้น

เห็นดังนั้น ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว และรีบพยุงนางขึ้นมา "พาข้าไปดู"

"เพคะ..." ลั่วเยวี่ยอิงก้มหัวลงอย่างละอายใจ

แววตาของฟู่เฉินหวนส่องประกายความอำมหิต ลั่วชิงยวน เจ้าจะก่อเรื่องอะไรอีก ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมแพ้ ยังจงใจทำให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาทำ

เขาจะพาลั่วเยวี่ยอิงไปดูโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่สาวที่นางคิดว่าแสนดีให้ชัด ๆ !

ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงซีดเผือด นางโดนฟู่เฉินหวนจูงออกไป พลางร้องไห้ตลอดทาง "ท่านอ๋อง หม่อมฉันเต็มใจที่จะถูกลงโทษแทนพี่สาวเพคะ หม่อมฉันขอร้อง ได้โปรดทรงไว้ชีวิตพี่สาวหม่อมฉันด้วย..."

หลังจากตกค่ำ ภายในตำหนักก็เงียบสงัด เสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิงจึงดังเป็นพิเศษ และนั่นก็ดึงดูดความสนใจจากคนรับใช้เป็นจำนวนมาก

“คุณหนูรองนี่ช่างจิตใจดีจริง ๆ คุณหนูใหญ่กระทำกับนางเยี่ยงนั้น แถมยังแย่งการแต่งงานของนางอีก แต่คุณหนูก็ยังอ้อนวอนขอร้องแทนนาง”

“ก็นั่นน่ะสิ คุณหนูรองเป็นพระโพธิสัตว์จริง ๆ”

นางรับใช้กับคนรับใช้กำลังหารือกัน หลังจากได้ยินเสียง พวกนางก็ติดตามไปอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น

ลานขนาดใหญ่ไม่ได้จุดไฟ ทำให้มันมืดสนิทไปหมด

ในความเงียบ มีเสียงที่ทำให้คนต้องหน้าแดงดังมาจากในห้อง ผสมกับคำหยาบคายและลามกของผู้ชาย "พระชายา ท่านช่างงดงามเหลือเกิน!"

ในขณะนั้น ความโกรธพุ่งตรงไปที่หัวของฟู่เฉินหวน

ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดนาง แต่ตอนนี้นางมีตำแหน่งเป็นพระชายา นางบังอาจทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงกับทาสภายใต้จมูกของเขาได้อย่างไร...?!

ลั่วเยวี่ยอิงกลัวมากจนใบหน้าเล็ก ๆ ของนางซีดลง นางคุกเข่าลง และคว้าแขนเสื้อของฟู่เฉินหวน "ท่านอ๋อง ได้โปรดไว้ชีวิตพี่สาวของหม่อมฉันด้วยเพคะ!"

การกระทำของลั่วเยวี่ยอิงเป็นการเติมเชื้อไฟอย่างไม่ต้องสงสัย ฟู่เฉินหวนโกรธจัด นางคิดว่านั่นเป็นคำสั่งของเขาอย่างนั้นหรือ!

เขาดึงลั่วเยวี่ยอิงขึ้นมา "ข้ามิได้เป็นคนสั่ง!"

เขาโกรธมากจนเตะประตูให้เปิดออก และตะโกนด้วยเสียงอาฆาต "ลั่วชิงยวน!"

ทุกคนในห้องตกใจจนขวัญกระเจิง ผู้ชายบนเตียงพวกนั้นต่างพากันรีบสวมเสื้อผ้า และรีบทุลักทุเลออกจากห้องไป

คนรับใช้ต่างส่งเสียงฮือฮาเมื่อเห็นฉากนี้

"สวรรค์ พระชายาช่างไร้ยางอายจริง นางกล้าหลับนอนกับคนรับใช้ได้อย่างไรกัน..."

"นี่คือลูกสาวที่ถูกสอนมาจากจวนอัครเสนาบดีจริงหรือ?"

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนสี เมื่อได้ยินการสนทนานี้ เรื่องอื้อฉาวเช่นนี้เกิดขึ้นในตำหนักอ๋อง รุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ เขาจะกลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงนี้ทันที

"ใครก็ได้ พระชายาได้ทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ จงนำตัวไปประหารชีวิตซะ!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงที่กำก้มศีรษะอยู่ ก็อดไม่ได้ที่ยกยิ้มขึ้นที่ริมฝีปาก

หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุดนางก็ทำลายชื่อเสียงของลั่วชิงยวนได้สำเร็จ จากนี้ไป ตระกูลลั่วจะมีเพียงนาง ลั่วเยวี่ยอิง คนเดียวเท่านั้น !

นางแสร้งทำเป็นตกตะลึงอยู่ข้าง ๆ ท่าทางหวาดกลัวและสูญเสีย

คนรับใช้หลายคนเข้ามาในห้อง เพื่อจับตัวลั่งชิงเยวียนไปประหารชิวิต

แต่เมื่อจับตัวออกมา ผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยก็พุ่งตัวเข้าไปหาฟู่เฉินหวนอย่างบ้าคลั่ง "ท่านอ๋อง หม่อมฉันใจจดใจจ่อมานานหลายปี และในที่สุดหม่อมฉันก็ได้เป็นชายาของท่าน… ท่านอ๋อง..."

น้ำเสียงนั้นหอบกระเส่านั้น ทำให้ผู้ฟังรู้สึกขนหัวลุกไปหมด

แขนที่เปลือยเปล่าเอื้อมขึ้นไปคล้องคอฟู่เฉินหวน แทบจะโน้มตัวทับลงไป

ในขณะนั้น ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น ปฏิกิริยาแรกของเขาคือ นี่ไม่ใช่เสียงของลั่วชิงยวน! มือหนาดึงแขนที่คล้องคอของเขาออก และโยนมันทิ้งไปด้วยความรังเกียจ

“อ๊ะ!” ผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยล้มลงไปบนพื้นหิน

สาวใช้เปิดโคมไฟดูอยู่ข้าง ๆ

ภายใต้แสงจ้า เมื่อใบหน้านั้นเงยหน้าขึ้นมา ทุกคนในลานต่างก็ตกตะลึง

เห็นได้ชัดว่าหญิงคนนั้นคือ… เมิ่งจิ่นอวี่!

เมื่อเห็นฉากนี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็แทบสำลักลมหายใจ นางกำแขนเสื้อแน่น ไม่ใช่ลั่วชิงยวน? เป็นไปได้อย่างไร! แล้วลั่วชิงยวนเล่า? ทำไมถึงได้กลายเป็นเมิ่งจิ่นอวี่ไปได้ มันเกิดอะไรขึ้น?!

จิตใจของนางสับสนอลหม่านไปชั่วขณะ

ฟู่เฉินหวนดวงตาคมลึก ความโกรธในใจของเขาลดลงเล็กน้อย หากลั่วชิงยวนทำสิ่งนี้จริง เขาจะไม่ไว้ชีวิตนางแน่

"ใครก็ได้ ไปตามหาพระชายามา" ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งเสียงเรียบ

……

ทันใดนั้น ทั้งตำหนักอ๋องก็เกิดความวุ่นวายขึ้น คนรับใช้ต่างก็ออกค้นหากันทั่วลาน ทั้งภายในและภายนอก

ลั่วชิงยวนที่หลับสนิทไปแล้ว เสียงอุทานของสาวใช้ดังขึ้นข้างหูนาง "พระชายา ตื่นเถิด ตื่นเถิดเจ้าค่ะ!" ลั่วชิงยวนตื่นขึ้นด้วยความงุนงง นางขยี้ตาเบา ๆ "เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?"

“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในตำหนัก แต่ท่านกลับมานอนหลับที่นี่หรือเพคะ!!” นางรับใช้บ่นเล็กน้อย เนื่องกว่าจะหาตัวนางเจอ

นางรับใช้หลายคนดึงลั่วชิงยวนขึ้นมา และลากนางกลับไปที่ลานกว้างในตำหนัก

ลานกว้างในตำหนักสว่างไสว ชายผู้เต็มไปด้วยจิตสังหารยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ใต้ชายคา และด้านข้างเขาคือ ลั่วเยวี่ยอิง สาวน้อยบอบบางที่กำลังมีสีหน้าซีดเซียว

และมีเมิ่งจิ่นอวี่ที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยนอนอยู่บนพื้น นางเพิ่งถูกนางรับใช้สาดน้ำใส่เมื่อสักครู่ แต่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา ยังคงนอนดิ้นอยู่บนพื้น พูดจาพึมพำ ทุกคนมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น และมันน่าละอายเกินกว่าจะมองดู

แม่นมหลินไปหยิบผ้านวมออกจากห้อง แล้วห่มร่างเมิ่งจิ่นอวี่ไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสายตา

“คืนนี้เจ้าไปทำอะไร? ที่ไหน? บอกข้ามาให้หมด!” ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวน จี้ถามนางด้วยสายตาเย็นชา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status