เซียวหลินเทียนกับลู่หนานถูกหลิงซินตะคอกใส่เช่นนี้ ต่างก็มองไปทางหลิงอวี๋โดยไม่รู้ตัวแล้วก็เห็นรอยเลือดซึมออกมาตรงเสื้อผ้าตรงหลังของหลิงอวี๋จริง ๆเซียวหลินเทียนใจสั่น หลิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใดกัน?ไฉนเขาจึงมิรู้?หรือว่าวันนั้นที่ช่วยครอบครัวของท่านกวนเอ้อร์ ถึงได้รับบาดเจ็บ?จูเผิงก็เห็นเลือดซึมเสื้อผ้าของหลิงอวี๋ในหลายจุดเช่นกัน เขาพูดไม่ออกไปทันที“หลิงซิน ไยเจ้าต้องพูดเรื่องพวกนี้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “องครักษ์จ้าว ค่าตรวจกับค่ายารวมทั้งหมดห้าสิบตำลึง ค่าผ่าตัดสองร้อยตำลึง เจ้าให้หลิงซวนเอากลับมาแล้วกัน!”“หากเจ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเก็บเงินของข้า หลิงซวนจักอธิบายให้เจ้าฟังเอง!”พูดจบ หลิงอวี๋ก็ลากหลิงซินหันหลังจากไปใบหน้าของจ้าวซวนกระตุก ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ยาพวกเขา มิเคยเอ่ยถึงเงิน!ครั้งนี้ทำให้หลิงอวี๋โกรธจริง ๆ เข้าแล้ว นี่เป็นขีดเส้นกำหนดขอบเขตกับพวกเขาอย่างชัดเจนแล้ว!แต่จ้าวซวนก็ไม่มีหน้าไปโต้เถียงกับหลิงอวี๋ เพราะถึงอย่างไรหลิงอวี๋ก็ช่วยชีวิตหลู่ชิ่งไว้เขาหยิบตั๋วเงินสองร้อยห้าสิบตำลึงส่งให้หลิงซวนอย่างว่าง่ายหลิงซวนรับตั๋วเงินไป พลา
“ชิวเฮ่า วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”หลังจากที่เซียวหลินเทียนทำให้จูเผิงสงบลง ก็เอ่ยถามแม้ว่าชิวเฮ่าจะพาตัวหลู่ชิ่งกลับมาอย่างตั้งใจเต็มที่ แต่เซียวหลินเทียนกลับมิสามารถขจัดความสงสัยที่มีต่อสองคนพี่น้องเพราะสิ่งนี้ได้!หากนี่เป็นกลยุทธ์ทุกข์กายเล่า?บัดนี้หลู่ชิ่งดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพูดหรือเขียนได้เลย ทำให้เซียวหลินเทียนต้องคิดไปเช่นนั้น!“ขอตอบท่านอ๋อง กระหม่อมเจอหลู่ชิ่งอยู่บนถนนพ่ะย่ะค่ะ ยามนั้นเขาถูกคนที่ดูลับ ๆ ล่อ ๆ สองคนตามอยู่!”ชิวเฮ่าตอบอย่างเป็นธรรมชาติ “ยามนั้นกระหม่อมอยากรู้มากว่าหลู่ชิ่งไปทำให้ผู้ใดขุ่นเคืองเข้า จึงได้ตามพวกเขาไปอย่างเงียบ ๆ!”“ไหนเลยจะคิดว่าหลู่ชิ่งเห็นพวกมันแล้ว ถึงได้จงใจล่อพวกเขาเข้าไปที่ซอยเล็ก ๆ ไกล ๆ! กระทั่งตอนกระหม่อมตามไปทัน ก็พบว่าพวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมรีบเข้าไปช่วย แต่ฝีมือของคู่ต่อสู้นั้นดีมาก กระหม่อมกับหลู่ชิ่งสู้มิได้ จึงถูกแทงพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว “พวกมันเป็นคนของผู้ใด?”ชิวเฮ่าคิดคำพูดเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว จึงแสร้งทำเป็นเอ่ยไปอย่างโกรธ ๆ“อาจเป็นคนขององค์ชายเว่ยพ่ะย่ะค่ะ...!”“กระหม่อ
เซียวหลินเทียนคิด ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาสงสัยชิวเฮ่า ก็เพราะฟังคำพูดของหลิงอวี๋แต่หลิงอวี๋นั้นเต็มไปด้วยคำพูดโกหก เรื่องของหลิงเยวี่ยก็สามารถแต่งเรื่องขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ คำพูดของนางจะเชื่อได้หรือ?แต่แม้ว่าสตรีผู้นี้จะโกหกตนเรื่องหลิงเยวี่ย แต่ในเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ถือว่าแย่จนเกินไปนักอีกอย่างก่อนหน้านี้คนที่จ้าวซวนส่งไปติดตามชิวเหวินซวง ก็ถูกชิวเหวินซวงสลัดทิ้งไป!หากพี่น้องชิวไม่ทำเรื่องที่ให้ใครรู้ไม่ได้ เช่นนั้นเหตุใดต้องสลัดคนที่ติดตามทิ้งไปด้วยเล่า?เซียวหลินเทียนแอบระวังตัว เรื่องนี้มิสามารถมองข้ามได้!หากนี่เป็นกลยุทธ์ทุกข์กายที่ชิวเฮ่าแสดงอยู่ เช่นนั้นเขาจะแสร้งทำเป็นเชื่อชิวเฮ่า และดูว่าพี่น้องชิวจะทำอะไรหรือไม่ก็ใช้แผนซ้อนแผน บังคับพี่น้องชิวให้เปิดเผยตัวเองออกมาก็ได้!......ยามราตรีหลิงอวี๋เพิ่งอาบน้ำเสร็จเตรียมตัวจะเข้านอน ก็มีคนเคาะประตูเสียก่อน“คุณหนู!”มันคือเสียงของเถาจื่อ หลิงอวี๋จึงเดินไปเปิดประตู“คุณหนู มีข่าวจากทางท่านเกิ่ง บอกว่าพบที่อยู่ของหลิงผิงแล้ว ให้คุณหนูรีบไปที่นั่นโดยเร็วเจ้าค่ะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รีบผลัดผ้า แล้วพาหลิงซว
หลิงผิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะเอาตัวรอด“หลิงหลานบอกว่า หวางซือสัญญากับนางว่าขอเพียงคุณหนูตาย ก็จะมอบเงินจำนวนมากให้นาง และจะคืนสัญญาที่ขายตัวของนางให้!”“หลังจากที่ข้ารู้เข้า หลิงหลานบอกข้าว่าอย่าไปบอกผู้ใด บอกว่าหลังจากนั้นนางจะแบ่งเงินให้ข้าครึ่งหนึ่ง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ “ทรัพย์สินของข้าถูกเฝิงโปพรรคพวกของเจ้าโกงไป เรื่องนี้หลิงหลานมิได้มีส่วนร่วมหรือ?”หลิงผิงรีบเอ่ย “จักไม่มีส่วนร่วมได้เยี่ยงไร! กลโกงบางอย่าง หลิงหลานช่วยคิดขึ้นมาด้วยซ้ำ!”“คุณหนู เงินที่ข้าโกงไป มีการแบ่งให้หลิงหลานทุกครั้งเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เอ่ยถาม “เช่นนั้นสินเดิมที่หวางซือให้ข้าในตอนแรก รายการสินเดิมพวกนั้นพวกเจ้าขโมยไปใช่หรือไม่?”หลิงผิงส่ายหัว “ข้ามิเห็นรายการสินสอด คาดว่าหลิงหลานจะขโมยไปแล้ว! หวางซือวางใจนางมากกว่าข้า คิดว่าหวางซือต้องให้นางขโมยไปแน่!”“คุณหนู สิ่งที่ข้าบอกเป็นเรื่องจริงทั้งหมด คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด! ยามนี้ข้าสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว คุณหนูเห็นแก่ที่เป็นนายบ่าวกัน ปล่อยข้าไปเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “หลิงผิง เอาเงินข้าไปมากถึงเพียงนั้น แม้ว่าเจ้าจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพียงใด ก็ยังใช้ไ
หลิงผิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ยามนั้นนางรีบร้อนจะหนี มิได้ดูให้แน่ว่าเฝิงโปตายจริงหรือไม่!เฝิงโปยังมิตายจริงหรือ?“เจ้าคิดที่จะขู่หวางซือเพื่อจะเอาเงินก้อนใหญ่!”หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่เฝิงโปเคยพูดไว้หลิงผิงพูดแล้วว่าหากวันหนึ่งนางต้องการจะไปจากเมืองหลวง จะให้หวางซือให้เงินก้อนกับนางเหตุใดหวางซือจึงจะให้เงินก้อนกับหลิงผิงโดยไม่มีเหตุผลกันเล่า?เว้นเสียแต่ว่าหลิงผิงจะรู้ความลับที่ใหญ่มากพอของหวางซือ และความลับนี้สามารถคุกคามความปลอดภัยของหวางซือได้ หวางซือถึงจะเอาเงินให้“ไม่… ไม่มีความลับใด ๆ หรอก ข้า… ข้าแค่คิดว่าหวางซือให้พวกเราวางยาคุณหนู ก็เลยอยากจะใช้สิ่งนี้ทำให้นางให้เงินข้า!”หลิงผิงพูดตะกุกตะกัก“เถาจื่อ ข้าคิดว่านางไม่น่าจะรู้อะไรแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บนางไว้ ฆ่านางเสีย!”หลิงอวี๋เห็นว่าจนถึงตอนนี้หลิงผิงก็ยังคงดื้อรั้นอยู่ จึงเอ่ยอย่างเย็นชาเถาจื่อเอ่ยอย่างเฉียบขาด “เจ้าค่ะ คุณหนู!”นางวางมีดไปที่คอของหลิงผิง หลิงผิงตกใจเสียจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด“คุณหนู อย่าฆ่าข้าเลย… ข้าจะบอกทั้งหมดแล้ว!”“ข้า… ข้ารู้ว่าแม่ของคุณหนูตายเยี่ยงไร! นางถูกหวางซื
“แม่นมเหมาบอกข้าว่า นั่นหวางซือเป็นคนทำ… นางอยากให้ท่านเอ้อร์หย่ากับฮูหยินหลาน แต่ไม่มีหลักฐานท่านอดีตเสนาบดีก็ไม่ตกลง!”“ดังนั้นหวางซือจึงฉวยโอกาสตอนที่ฮูหยินหลานไปถวายเครื่องหอมที่วัด ไปหาคนสองสามคนมาทำให้ฮูหยินหลานมีมลทิน!”“ฮูหยินหลานจึงตั้งท้องเพราะเหตุนั้นเจ้าค่ะ!”หลิงผิงยิ้มอย่างดูถูก “หลังจากเกิดเรื่องฮูหยินหลานจึงคิดแขวนคอตาย แต่พอนางเห็นคุณหนูกับคุณชายก็ทำใจมิได้ที่จะต้องตายไป!”“นางไปซื้อยาให้แท้งมาให้ตัวเอง เพราะอยากจะเลี่ยงการตั้งครรภ์! แต่หวางซือให้แม่นมเหมาเปลี่ยนยาของนางเป็นยาบำรุงครรภ์!”“เช่นนี้ เด็กโตได้สามเดือนแล้ว ฮูหยินหลานถึงเพิ่งจะรู้!”หลิงอวี๋นึกได้ว่าตนเองไม่มีน้อง จึงถามอย่างสงสัย “แล้วเด็กเล่า?”หลิงผิงหลุบตาลง พลางเอ่ยอย่างยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น“พอหวางซือรู้ว่าฮูหยินหลานกำลังท้องก็เริ่มโวยวายขึ้นมา… ตอนนั้นย่าของคุณหนูยังมีชีวิตอยู่ นางโกรธมากจนให้ยาทำแท้งกับหลานฮุ่ยจวน เพื่อบังคับให้เด็กหลุดออกมา!”“แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ครั้งนี้ฮูหยินหลานจะตั้งท้องลูกสองคน จึงหลุดออกมามิได้ ความเจ็บปวดทำให้ฮูหยินหลานต้องทนทุกข์ทรมานทั้งคืน และมีเลือ
หลิงอวี๋คิด แล้วก็นึกประเด็นสำคัญหนึ่งได้ “แม่นมเหมาบอกเรื่องพวกนี้กับเจ้า มีหลักฐานที่ชัดเจนหรือไม่?”หากไม่มีหลักฐานชัดเจน แม้ว่าหลิงอวี๋จะจับตัวหลิงผิงกับเผชิญหน้ากับหวางซือ หวางซือก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปได้!“คุณหนู ข้าบอกคุณหนูไปหมดแล้ว คุณหนูปล่อยข้าไปเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงผิงเอ่ยอย่างร้อนใจ “แม่นมเหมาตายไปแล้ว! ข้าจมีหลักฐานได้เยี่ยงไรกัน! ทั้งหมดนี้นางเป็นคนบอกข้า! ข้าบอกไปหมดแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เห็นท่าทางกังวลของหลิงผิง ก็ยิ้มเย็นชา“หลิงผิง เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? เจ้ากล้าเอาแค่คำพูดของคนตายเช่นนี้ไปข่มขู่ให้หวางซือให้เงินเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“เจ้าไม่มีหลักฐาน หวางซือจักยอมให้เงินเจ้ารึ?”“อย่ามาแกล้งเฉไฉอีก มิเช่นนั้นข้าจักมิเกรงใจแล้ว!”หลิงผิงทั้งโกรธทั้งเกลียด นางคิดว่าจะเหลือหนทางไว้สักหน่อย ขอเพียงหลิงอวี๋ปล่อยตนเองไป ก็จะเอาหลักฐานไปข่มขู่เอาเงินจากหวางซือ!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋จะรู้ทัน!“คุณหนู ข้าจักรู้ได้เยี่ยงไรว่าหากข้าให้หลักฐานคุณหนู แล้วคุณหนูจักปล่อยข้าไป!”หลิงผิงเอ่ยอย่างใจร้าย “ข้าเก็บหลักฐานไว้ในที่ที่ปลอดภัยมาก เว้นแต่คุณหนูจักรับปากว่าจะจ่ายเง
หลิงอวี๋กลับไปนอนได้สองสามชั่วโมง ฟ้าก็สว่างแล้วนางลุกขึ้นอาบน้ำ ขณะที่กำลังผลัดผ้าอยู่นั้น จู่ ๆ เถาจื่อก็วิ่งเข้ามา“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเกิ่งส่งคนมารายงานว่าหลิงผิงหนีไปแล้ว! ทั้งยังปลิดชีพคนของเขาสองคนด้วย!”หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที พลางเอ่ยอย่างกังวล “หลิงผิงจะสู้กับคนของเสี่ยวหาวได้เยี่ยงไรกันเล่า! นางจักฆ่าคนได้เยี่ยงไรกัน?”“ท่านเกิ่งส่งคนไปตามหาหลิงผิงจนทั่วแล้วเจ้าค่ะ! เขาก็สงสัยเช่นกันว่าหลิงผิงมิใช่คนฆ่า หลิงผิงจักต้องมีผู้ช่วยแน่ ๆ!”“ไปดูกัน!”หลิงอวี๋รีบผลัดผ้า แล้วรีบพาหลิงซวนกับเถาจื่อออกไปเกิ่งเสี่ยวหาวยืนอยู่ในเรือนอย่างโกรธเกรี้ยว โดยมีศพสองศพนอนอยู่ที่พื้น“ท่านพี่ ท่านพี่มาแล้ว ดูนี่สิ!”เกิ่งเสี่ยวหาวหยิบเข็มเงินส่งให้หลิงอวี๋“ยาพิษ! พิษจากต้นยางน่อง!”เกิ่งเสี่ยวหาวเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “นี่มิใช่การฆ่าแบบธรรมดา หลิงผิงจักต้องรู้จักพวกยอดฝีมือพเนจรเป็นแน่!”หลิงอวี๋รับเข็มเงินมาอย่างระมัดระวัง ตรงปลายเข็มมีจุดสีดำนิด น่าจะอาบยาพิษมา!นางเก็บเข็มเงินไปอย่างระมัดระวัง เดี๋ยวกลับไปจะตรวจดูว่ามันเป็นพิษชนิดใด!ตนมีคู่ต่อสู้เช่นนี้ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนเข้าไว้จะ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี