หน้าหลัก / โรแมนติก / ยิ้งตี้ตระกูลโจว / บทที่ 6 เจ็บแค่นี้คุ้มค่า

แชร์

บทที่ 6 เจ็บแค่นี้คุ้มค่า

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-20 11:28:19

บทที่ 6 เจ็บแค่นี้คุ้มค่า

เพียงสิ้นคำแม่นางน้อยใหญ่อายุเกินสิบห้าปีดวงหน้าซีดเผือดหวีดร้อง บ้างเป็นลม บ้างวิ่งหนีจนคนสำนักคุ้มภัยต้องวิ่งไล่จับ

เหลือแต่ไป๋หลินเอ๋อร์ที่ยังคุกเข่า ไม่แตกตื่นเช่นคนอื่น มองตรงไปทางนายท่านซึ่งลุกยืนหันหลังเดินจากไปทันที

ทำอย่างไรดี

ไป๋หลินเอ๋อร์ลอบสบตาตื่นตระหนกของจางอวี้ได้ไม่นานพลันถูกคนต้อนให้ออกนอกโถง แยกกันไปคนละทาง

พวกนางถูกกลุ่มคนต้อนออกมายืนกลางลานหน้าหอสูง ไม่ต้องรอให้พวกนางกลับไปเก็บของ เพราะห่อผ้าทั้งหมดถูกโยนมากลางลาน

“ของใครให้หาเอาเอง จากนั้นเข้าแถวเรียงสองคน เดินไปทางประตูใหญ่”

แต่ละนางก้มเก็บข้าวของของตนเองใบหน้านองน้ำตา ร้องไห้กระซิกสะอื้น ถูกนำมาเป็นยิ่งตี้สินสอดเจ้าบ่าวย่อมต้องเป็นคนของจวนนี้ เขาจะทำเช่นไรกับพวกนางย่อมได้

ไป๋หลินเอ๋อร์หยิบห่อผ้าเล็กของตนเองขึ้นมา มีเสื้อผ้าไม่มากนัก นางเป็นเพียงลูกชาวนาแต่งกายธรรมดา หน้าตาแม้ดีกว่าคนทั่วไป แต่ให้เทียบกับแม่นางน้อยห้องหออยู่เพียงในจวนคงไม่ได้  ซ้ำมือแตกหยาบกร้าน

นางถูกเลี้ยงมาให้ต่อสู้อดทน ทำงานหนักได้ทุกอย่างดั่งบุรุษ นางไม่มีทางยอมแพ้  จงไห่ยังถูกจองจำอยู่ที่นี่  เป็นตายมิอาจรู้  หากนางยอมถอยโดยง่าย แล้วใครกันจะช่วยจงไห่

ฟวับ ....  ไป๋หลินเอ๋อร์สะดุ้งสุดตัวเมื่อแส้ม้ากระทบพื้นด้านหน้า

“ไป เดิน อย่ามัวเหม่อลอย”

“พูดดี ๆ ย่อมได้ เหตุใดต้องใช้แส้!!”

ชายหนุ่มหน้าตาเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มแล้วฟาดลงอีกครั้ง

ฟวับ ....

“แส้อยู่ในมือข้า เป็นสิทธิ์ของข้า จะฟาดที่ใด เมื่อไร ย่อมได้ เดิน!!!”

ไป๋หลินเอ๋อร์ตั้งท่าโต้เถียงแต่มีมือเล็กดึงชายเสื้อไว้เสียก่อน

“ท่าน อย่าได้หาเรื่องอีกเลย รีบไปกันเถอะ”

นางมองหญิงสาวตัวเล็กกว่าดวงตารื้นน้ำหวาดกลัว แล้วเหลียวมองคนอื่นที่มองนางด้วยสายตากล่าวหาระคนยอมแพ้แก่โชคชะตา จึงได้ยอมหยุดปาก เดินตามเรียงแถวออกไป

สำนักคุ้มภัยอยู่ห่างจากเมืองไม่มากนัก แต่ทางเดินล้วนเต็มไปด้วยหินกรวดและป่าไผ่ คล้ายต้องการหลีกเร้นโลกภายนอก

ขบวนสาวงามเดินเลาะออกจากรั้ว  ไป๋หลินเอ๋อร์เหลียวมองกลับไปด้านหลัง  หอสูงเก้าชั้นเสียดฟ้างดงามค่อยลับหายจากสายตาเมื่อนางเดินห่างออกมาเรื่อย ๆ

ขามาพวกนางมาแต่เช้ามืดแดดยังไม่ทันส่อง จึงทำให้ไม่ร้อน  แต่ในยามนี้พวกนางกลับต้องเดินกลางแดดเปรี้ยง เหงื่อไหลลงต้นขา เสื้อผ้า แต่ละนางผมเผ้ายุ่งเหยิง

เดินมาได้เกือบครึ่งทางพลันได้ยินเสียงม้าจำนวนมากใกล้เข้ามา

“หลบ ๆ นายท่านต้องรีบไป”

ไป๋หลินเอ๋อร์ถูกคนดันมาด้านหลัง เพื่อหลีกทางถนนเส้นเล็กให้แก่ขบวนม้าห้อเหยียดขนาบข้างรถม้าคันใหญ่สีดำแกะสลักลายมังกรเสือเช่นกัน และอักษรคำว่าเสวี่ยจง

นางเพ่งมองเพียงชั่วครู่ก่อนตัดสินใจหุนหันพลันแล่นกระโดดออกไปขวางทางรถม้า

“เฮ้ย ๆ ๆ ใครกันบังอาจ”

ตุบ ตับ กึก กึก โครม!! โอ้ยยยยยย

นางมิรู้ว่าตนเองทำเกินไปหรือไม่ แต่ยามนี้ตัวนางกลิ้งหลุน ๆ ลงข้างทางมิทันได้โดนตัวม้าด้วยซ้ำ คนสำนักคุ้มภัยเก่งกาจยิ่งเพียงแวบเดียวที่นางกระโดดออกไป พลันใช้ไม้ยาวฟาดลงกลางแผ่นหลัง

“โอ๊ยยยย”

ไป๋หลินเอ๋อร์ร้องครางนอนนิ่ง ดวงตาปิด คิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดแผ่นหลัง ขบวนม้าควบเลยผ่านไปจนนางสิ้นหวัง ปล่อยให้ตัวเองนอนนิ่งมือกำหญ้าใต้ฝ่ามือแน่นด้วยความเจ็บใจ

แต่แล้วดั่งโชคชะตาเข้าข้าง ขบวนม้าทั้งหมดหยุดลง นางเหลือบตามองเห็นคนควบม้าไปใกล้หน้าต่างรถ ก้มลงรับคำสั่ง

“ให้นางกลับหอ!! พาไปหานายน้อยหญิง”

ดวงหน้าเผยรอยยิ้มมุมปาก อ่า ในที่สุด นางก็ได้กลับเข้าไปยังสำนักคุ้มภัย เจ็บแค่นี้คุ้มค่ายิ่งนัก

แขนทั้งสองข้างถูกหิ้วปีกด้วยชายฉกรรจ์สองคน ดวงตานางพร่าเลือนมองเห็นเพียงดินกรวดใต้ฝ่าเท้ายามถูกลากไปตามทาง แล้วสติก็ดับมืดลง

โจวหมิงเจ๋อรอกระทั่งเฉียนฟานควบม้ากลับมาจึงได้ใช้ด้ามกระบี่ในมือเปิดชายผ้าม่าน

“เรียบร้อยแล้วขอรับ”

“ส่งคนจับตาดูนางให้ดี แล้วนักโทษ...”

“มันเปิดปากแล้วนายท่าน ชื่อจงไห่ เป็นโจรภูเขาจริงซ่องสุมกำลังบนยอดเขาเหนียนซาน แต่ยังไม่ยอมปริปากเรื่องพรรคพวกที่เหลือ”

“ส่งหมอรักษาแผล อย่าเพิ่งให้มันตาย รอข้ากลับมาก่อน ออกเดินทางได้”

“ขอรับ เดินทาง!!!”

โจวหมิงเจ๋อลดม่านลงเอนกายพิงพนักรถม้าหรูหรา ที่จัดเตรียมอย่างดีสำหรับจ้าหญิงแคว้นฉี พากลับมายังแคว้นฉินเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์ชายสาม แต่แท้จริงคือตัวประกันดี ๆ นี่เอง

เขาหยิบลูกอมทำการน้ำตาลกวนแกะห่อเอาเข้าปาก ค่อยอมแล้วเคี้ยวทีละน้อย ให้ความหวานของน้ำตาลซึมผนังโพรงปากลดอาการตื่นเต้นเพียงได้เห็นสตรีนางนั้นล้มลงฟาดพื้น

โจวหมิงเจ๋อปิดเปลือกตาลง ภาพฝ่ามือครูดพื้นจนเกิดรอยขีด และหัวเข่าเปื้อนเลือดโผล่ออกมาให้เห็น

หน้าตาเป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นดั่งสาวชาววังหรือนางในห้องหอ ผิวพรรณไม่ได้ขาวหยวกดั่งหยก ทั้งรูปร่างสูงระหงทว่าอวบอิ่มไปทั้งตัวผิดไปจากค่านิยมร่างเล็กบอบบาง ริ้วรอยบนดวงหน้าทำให้ทราบว่านางคงราวยี่สิบปี เกินวัยออกเรือน แต่บางอย่างสะกดเขาไว้

“ฮึ ใจกล้ากระโดดให้รถม้าเหยียบเช่นนั้นหรือ” โจวหมิ่งเจ๋อแค่นเสียง อีกสามเดือนเขาจะกลับมาสอบสวนด้วยตนเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 29 บทพิเศษ จบบริบูรณ์

    บทที่ 29 บทพิเศษยามเหม่าในทุกวัน โจวหมิงเจ๋อมักลุกขึ้นเพื่อลงไปฝึกยุทธิ์กับคนของสำนักคุ้มภัยด้วยตนเองไป๋หลินเอ๋อร์พลิกกายโอบลำแขนอ่อนนุ่มรัดเขาไว้เอ่ยเสียงเบา“ท่านพี่ ยามเหม่าแล้ว”โจวหมิงเจ๋อตวัดรัดท่อนแขนให้ร่างเล็กบอบบางเกยขึ้นมานอนบนแผ่นอก ลูบฝ่ามือร้อนลงแผ่นหลังเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์“เนื้อเจ้านุ่มมือ” ฝ่ามือใหญ่กางออกลูบแผ่นหลังรั้งนางให้ถดขึ้นกระทั่งริมฝีปากจดกันขยับแผ่วเบา“ป่านนี้เด็ก ๆ คงตื่นกันหมดแล้ว”“แล้วอย่างไร ตื่นแล้วก็ให้ยืนรอหน้าห้องไปก่อน”“ท่านพี่”“ยามเช้าเช่นนี้ ควรอยู่กันแต่ในผ้าห่มดีหรือไม่ กกกอดก่ายรัดร่าง”“ฮะ ฮ่า ท่านพี่ หลินเอ๋อร์ลูกสามแล้วเจ้าค่ะ ไม่อยากท้องอีก”“ถ้าเช่นนั้น พี่จะไม่หลั่งน้ำพิสุทธิ์ข้างในเจ้า เช่นนี้หลินเอ๋อร์ยินยอมหรือไม่”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปากดันร่างตนเองออกแต่ถูกรั้งลงใต้ร่างทันควัน จับนางพลิกคว่ำ จูบขบลงฟันบนแผลเป็นรูปเสือ“คำกล่าวนี้ ท่านพี่บอกข้าเป็นพันครั้ง จนข้าขี้เกียจจดจำจะใส่ใจ”“ฮึ ในเมื่อหลินเอ๋อร์ไม่ใส่ใจ เช่นนั้นพี่จะถือว่าเจ้าอนุญาต” โจวหมิงเจ๋ออมยิ้มขณะพรมจูบไต่ลงแผ่นหลังนวลเนียน มือก่อกวนวนเวียนไม่ห่างทั้งลูบคลำ ทั้งล้

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 28 ความลับ

    บทที่ 28 ความลับไป๋หลินเอ๋อร์ดีดตัวออกจากโจวจางหมิ่นทันทีแล้วโผเข้าหาบุรุษตรงหน้า ให้เขาโอบรัดนางไว้ด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ซบดวงหน้าเปื้อนหยาดน้ำลงอกกระเพื่อมไหวจากแรงสูดลมหายใจไร้เสียงร้องใด ๆ จากโจวจางหมิ่น คมลูกธนูปักลงหัวไหล่ขวาที่รัดลำคอนางไว้ สีหน้าโจวจางหมิ่นปวดร้าว มองโจวหมิงเจ๋อด้วยดวงตากล่าวหา มาดร้าย และคล้ายไม่ต้องการเชื่อในที่โจวหมิ่งเจ๋อทำลงไปนางโอบร่างแกร่งไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเข้าไปใกล้โจวจางหมิ่น“จางหมิ่น...” น้ำเสียงระห้อยโหยแรงเอ่ยชื่อในลำคอ ดวงตาแสบร้อนแดงก่ำ แต่ไร้น้ำตา เขามองร่างสูงเกร็งคล้ายเขาถอยหลังไปอีกสองก้าวในยามนี้โจวจางหมิ่นสีหน้าสงบลงแล้วราวกับว่ายอมรับบางอย่าง ริมฝีปากบิดโค้งคล้ายรอยยิ้มก่อนจะทิ้งร่างลงเหวลึกด้วยป่ารกทึบด้านล่าง“จางหมิ่น จางหมิ่น!!! จางหมิ่นนน”บุรุษแกร่งเช่นโจวหมิงเจ๋อ ชั่วชีวิตกระทำการทารุณคน สังหาร มองเลือดและความตายด้วยความเยือกเย็นไร้ความรู้สึก แต่มาบัดนี้โจวจางหมิ่นที่เขาอุ้มชูเลี้ยงมากับมือทิ้งร่างอัตวิบากกรรมต่อหน้าเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงคุกเข่าเท้าฝ่ามือลงพื้นท่ามกลางใบไม้ร่วงหล่นสีส้มแดงในต้นฤดูหนาว“

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 27 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 27 โจวจางหมิ่น“เข้าใจผิด!! ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไรบาดหมางกับเจ้า ยิ่งตี้หรือฮูหยินท่านเจ้าสำนัก” โจวจางหมิ่นเดินเข้าใกล้โน้มหน้าลงต่ำ กระชากผมจนดวงหน้าของนางแหงนขึ้น“เจ้าไม่มีสิ่งใดผิด ผิดแค่ว่าเจ้ามาอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่านพ่อต่างหากที่ข้าต้องการให้เขาทุกข์ทรมาน และข้ารู้ว่าท่านพ่อรักเจ้า”“โจวหมิงเจ๋อไม่ได้รักข้า ท่านเข้าใจผิด”“เจ้าไม่รู้จักนิสัยของพ่อข้าดี ท่านพ่อเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ อวี้เจียวจงรักภักดีรับใช้มาเนิ่นนาน เขายังยกให้เฉียนฟานโดยง่ายดาย แต่กับเจ้า..”มือนุ่มดั่งหญิงสาวเชยปลายคางนางขึ้นแล้วบีบ“พบเพียงไม่กี่หนกับยกย่องร่วมชีวิต สัญญาผูกพันนิจนิรันดร์ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้ามีดีอะไร หน้าตาไม่ได้สะสวย ทั้งรูปร่างไม่ได้เสี้ยวหญิงงามเมือง แต่เอาเถิด อย่างไรเสียเจ้าต้องตาย”โจวจางหมิ่นกดริมฝีปากนางล้วงนิ้วเข้า แล้วเผยอปากตัวเองคล้ายแสยะยิ้ม “ให้เขาได้ทุกข์ทนเช่นแม่ข้า ลุกขึ้น บอกลาชีวิตของเจ้าได้แล้ว”แรงบุรุษกระชากดึงนางขึ้นจากพื้น สาบเสื้อหลุดรุ่ยจนพ้นเนินทรวงหนึ่งข้าง โจวจางหมิ่นหลุบตามองก่อนใช้มือบีบขยำลงแรง“ทว่า เจ้าเองก็น่าลิ้มลอง บางคราวข้าก็เคยคิดว่าถ้าได้ร่วมเ

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 26 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 26 โจวจางหมิ่นยามเว่ยในช่วงต้นฤดูหนาวชานเมืองหลวงของสำนักคุ้มกันภัยเสวี่ยจง ที่โอบล้อมด้วยป่าไผ่ ยิ่งพาให้อากาศเย็นขึ้นอีกหลายเท่าตัวไป๋หลินเอ๋อร์กระชับเสื้อคลุมตัวยาวที่ชางซิงเยียนกำชับเป็นหนักหนาให้นางสวมมาด้วย แม้ว่านางบอกแล้วว่ามาแค่เรือนหลักเท่านั้นนางเดินผ่านสวนกลางเรื่อยจนมาถึงเรือนหลัก ไม่ทันได้เอ่ยแจ้งเด็กในเรือนพลันเห็นโจวจางหมิ่นยืนนิ่งตรงโค้งประตูวงเดือนทางออกสวนด้านหลังทุกคราที่นางพบหน้าโจวจางหมิ่น ขนแขนนางมักลุกชันอย่างน่าประหลาด และยามนี้ก็เช่นกัน นางมองสีหน้ากระหยิ่มและมุมปากโค้งขึ้นละม้ายโจวหมิงเจ๋อ แต่ก็แค่ละม้าย เพราะส่วนใหญ่บนใบหน้าของชายร่างเกร็งคนนี้ไม่เหมือนโจวหมิงเจ๋อแม้แต่น้อยนางขยับเข้าไปใกล้วางสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นรัวดั่งกลองศึก ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเห็นความแตกต่าง โจวหมิงเจ๋อแม้ว่าการกระทำเย็นชารุนแรง ทว่ากลับมีความเมตตาต่อผู้อื่น ผิดไปจากบุตรชายที่แผ่กลิ่นอายโฉดชั่วทวีคูณ ยิ่งเห็นรอยแผลบนร่างฮุ่ยหรู ยิ่งรับรู้ว่าชายผู้นี้กระทำต่อสตรีเพศราวกับเป็นสัตว์สิ่งของ“ท่านแม่”นางมองร่างสูงของโจวจางหมิ่นโค้งลงคำนับนางราวกับว่าเป็นบุตรชายแท้จริงของนาง ทว

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 25 ฮุ่ยหรู

    บทที่ 25 ฮุ่ยหรูเพียะ เพียะ!!ฮุ่ยหรูล้มคว่ำลงทันทีเมื่อฝ่ามือของโจวจางหมิ่นกระทบใบหน้าเป็นครั้งที่สอง ร่างอ่อนแออย่างหญิงตั้งครรภ์สามเดือนกองบนพื้นน้ำตานองหน้า“ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นไรฮุ่ยหรู”“ฮื้ออ ขะ ข้า ข้ายัง พบ นางไม่ได้”เพล้ง!!โจวจางหมิ่นปัดกระถางกำยานล้มคว่ำเฉียดใบหน้าฮุ่ยหรูจนนางผงะออก ดวงตาหวาดกลัวไหวระริก เหลือบมองสามีที่นางแต่งเข้ามายังตระกูลโจวอันร่ำรวยและมากยศฐา“ยามนี้นางอยู่แต่บนหอ ท่านพ่อไม่ยอมให้นางลงมา อร้าย!! อย่า ข้ากลัวแล้ว”ฮุ่ยหรูยกมือไหว้ประลก ๆ น้ำตาไหลนองจนมองไม่เห็นสีหน้าสามี แต่นางรู้ว่าใบหน้าหล่อราวหยกกำลังบิดเบี้ยวจากแรงโกรธ เขากระชากผมนางดึงขึ้นมาจากพื้นเพียะ!!ใช้หลังฝ่ามือฟาดลงใบหน้าอีกครั้งแล้วผลักนางให้ล้มลงกับพื้น ยกเท้าเหยียบนางไว้“เวลาข้าสั่ง ไม่มีข้ออ้างฝ่าฝืน เข้าใจหรือไม่ภรรยารัก”นางพยักหน้ารับ ดวงหน้าแนบพื้นเย็นเยียบ สะอื้นขึ้นแรงก่อนที่โจวจางหมิ่นจะประคองนางขึ้นมาโอบกอดแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนผิดไปจากคราแรก“วันพรุ่ง เจ้าจงไปหานาง คุยกับนางให้นางคลายใจ ชักชวนนางดั่งที่ข้าบอกไว้ เข้าใจหรือไม่ฮุ่ยหรู”มือร้อนลูบผมนางประคองนางไปนั่งที่เตียง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 24 nc

    บทที่ 24 nc“แผลหายสนิทแล้ว”“หายแค่ภายนอก แต่จิตใจข้าไม่”นางกระชากเสียงใส่ ดึงดันจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่รวบนางไว้ให้นั่งลงซ้อนด้านหน้า“ไหน จิตใจเจ้าที่ตรงใดกัน ข้าจะทำความสะอาดให้หมดจด ขจัดความขุ่นมัวออกไปให้เอง”ไม่เพียงเอ่ยด้วยเสียงกระเส่า มือรั้งร่างเล็กพร้อมผ้าในมือ เช็ดถูแผ่นหน้าท้อง ซบหน้าลงหัวไหล่ เลื่อนผ้านุ่มขึ้นหาทรวงอก นางสะดุ้งทันที“ข้ามือหนักไปหรือ?”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปาก มือจับขอบอ่างไว้ไม่กล้าขยับตัว ผ้านุ่มค่อยถูทำความสะอาดเนื้อนุ่มอวบอิ่มแผ่วเบา ในยามนี้นางรู้ตัวแล้วว่าคงหนีไม่พ้นบุรุษด้านหลังเป็นแน่ หากยังขืนตัวไม่อ่อนลงคงเป็นนางเองที่เจ็บตัว“ท่าน จะเบามือกับข้าสักหน่อยได้หรือไม่”โจวหมิงเจ๋อชะงักไปครู่ เอียงหน้าไปมองดวงหน้างาม ปากกระจับเม้มแน่น พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ นางเอี้ยวกลับมาจ้องตอบ“เหตุใดไม่ตอบข้า”“ไม่ได้”ไป๋หลินเอ๋อร์สะอึกแล้วนิ่งงัน ก่อนจะเอ่ยถามอีก “ถ้าเช่นนั้น สอนข้าให้ ... ให้ข้าเจ็บน้อยที่สุด”โจวหมิงเจ๋อปล่อยผ้าออกจากมือ แล้วแทนที่ด้วยฝ่ามือร้อนจัดกอบกุมเนินทรวง “เจ้าอาจเริ่มจากผ่อนคลาย และสนุกกับสิ่งที่ข้าทำ”“สนุกงั้นหรือ”“ใช่แล้ว ถ้าข้าทำเช่นนี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status