แชร์

เงื่อนไขสามข้อ

ผู้เขียน: zuey
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 06:28:07

เช้าอันแสนสดใสได้มาเยือนอีกครั้งเฉียวลู่ภาวนาเมื่อยามลืมตาตื่นให้เรื่องเมื่อวานที่ตนเองประสบเป็นเพียงความฝัน แต่มันก็ไม่ได้เป็นดั่งใจที่คิดเฉียวลู่ได้แต่ถอนหายใจให้กับโชคชะตาของตน

 

ถึงแม้เมื่อวานเฉียวลู่จะได้รับบาดเจ็บที่ขาแต่วันนี้นางกลับไม่รู้สึกเจ็บที่ขาเลยมันหายดีอย่างไร้ร่องรอยไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นเฉียวลู่มองท่อนขาเล็กที่เรียบเนียนของตน

นี่มันเป็นไปได้ยังไงมันเหมือนกับว่าเมื่อวานนางไม่ได้รับบาดเจ็บเลยร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงกลับมาเป็นเหมือนเช่นยามปกติและดูเหมือนว่านางจะมีกำลังมากยิ่งกว่าเดิมซะอีก น่าแปลกใจยิ่งนักหรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ได้มาหลังจากที่นางมาอยู่ที่นี่

อวี้หลงกับอวี้ชิงยังไม่ตื่นเฉียวลู่ย่องออกจากห้องไปและปิดประตูอย่างเบามือ สิ่งแรกที่เฉียวลู่ทำคือต้องทดลองสั่งของในหนังสือเล่มนั้นดูก่อน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเฉียวลู่ในตอนนี้คืออาหารและที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟแช็ก นางไม่มีทางใช้หินจุดไฟได้เหมือนอย่างเช่นคนโบราณแน่นอน

เฉียวลู่ฝนหมึกและค่อยๆ ใช้พู่กันบรรจงเขียนตัวอักษรลงไปบนหน้ากระดาษ โชคดีที่การเป็นนักแสดงของนางทำให้ต้องเรียนรู้เรื่องต่างๆ มากมายเพื่อให้สมกับบทบาทที่ได้รับ นี่นับว่าเป็นผลพลอยได้ที่ติดตัวมาจากโลกก่อน ในโลกปัจจุบันการเขียนโดยใช้พู่กันไม่ค่อยมีให้เห็นเพราะมีปากกาที่สะดวกและเขียนง่ายกว่าแต่ที่นี่นั้นต่างออกไป

สิ่งที่นางต้องการอย่างแรกคืออาหาร เฉียวลู่คิดในใจว่าจะสั่งอะไรดีที่ทำให้ดูไม่ประหลาดและเด็กทั้งสองคนจะไม่สงสัยและเข้ากับยุคนี้

“ซาลาเปานั่นเป็นความคิดที่ดีทีเดียว”

เฉียวลู่อุทานออกมาเสียงเบา นางเขียนคำว่าซาลาเปาลงไปบนหน้ากระดาษ ผ่านไปไม่นานตัวอักษรได้จางหายไปและสิ่งที่โผล่ขึ้นมาแทนคือซาลาเปาหนึ่งลูก

“ลืมไปเลยเราไม่ได้ใส่จำนวนลงไปนี่นา”

จากนั้นเฉียวลู่จึงเขียนคำว่าซาลาเปาไส้เนื้อหกลูกลงไปบนกระดาษอีกครั้ง เมื่อหมึกจางหายไปในกระดาษซาลาเปาไส้เนื้อหกลูกก็โผล่ขึ้นมาแทน เฉียวลู่หัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

“นี่มันจะสะดวกสบายเกินไปแล้ว สั่งอะไรก็ได้แบบนี้การอยู่ที่นี่ก็ไม่ถือว่าแย่นัก ไม่ต้องทำงานแค่สั่งของอยากได้อะไรก็เขียนสั่งในนี้เอา”

แต่แล้วเฉียวลู่ก็ต้องดีใจเก้อเมื่อข้อความบนกระดาษได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

ถึงขีดจำกัดของการสั่งสินค้าสำหรับวันนี้แล้ว

เฉียวลู่มองหนังสือเล่มนั้นด้วยสีหน้างงงัน

“นี่มันอะไรกันเพิ่งจะสั่งไปสองครั้งเองไม่เห็นมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขการใช้งานหนังสือเล่มนี้เลย”

เฉียวลู่พลิกหน้ากระดาษไปมาข้อความบนหน้ากระดาษก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

เงื่อนไขการสั่งสินค้า

ในหนึ่งวันคุณสามารถเขียนคำสั่งได้สองครั้ง หากคุณต้องการปลดล็อกคุณจะต้องทำให้บุตรชายทั้งสองคนของคุณรักคุณ ปลดล็อกเงื่อนไขข้อที่หนึ่ง

เฉียวลู่เข้าใจได้ทันทีว่าเงื่อนไขข้อที่หนึ่งปลดล็อกได้เพราะว่าเด็กชายทั้งสองคนรักแม่ของเขาจากใจจริง

เงื่อนไขข้อที่สอง คุณจะต้องมีความรัก

ยังไม่ปลดล็อก

เงื่อนไขข้อที่สาม คุณจะต้องแต่งงานกับคนที่คุณรักเท่านั้น

ยังไม่ปลดล็อก

เฉียวลู่รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ไม่นึกว่าสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกให้นางได้ใช้ชีวิตลุขสบายในตอนนี้กลับกลายเป็นตัวที่ทำให้นางปวดหัวซะอย่างนั้น

“ให้ของวิเศษมาแต่กลับตั้งเงื่อนไขบ้าบอเช่นนี้แล้วจะให้มาทำไม”

เฉียวลู่โวยวายด้วยความโมโหอยู่คนเดียวโดยที่นางไม่รู้ว่าด้านหลังของนางมีเด็กสองคนกำลังยืนอยู่ ความรู้สึกที่เฉียบคมของเฉียวลู่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ทะลุมิติมาอยู่ที่นี่ได้ทำงานทันที นางหันกลับไปมองเด็กทั้งสองคนเฉียวลู่ตกใจเล็กน้อยแต่ก็ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว การแสดงของเรายังคงดีอยู่เฉียวลู่คิดในใจ

“เด็กๆ ตื่นแล้วหรือจ๊ะ ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย”

อวี้หลงกับอวี้ชิงเอียงคอมองเฉียวลู่ด้วยท่าทางน่ารัก นางเห็นดังนั้นก็อดที่จะเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มเด็กทั้งสองคนไม่ได้ อวี้หลงกับอวี้ชิงมุดหน้าเข้าไปที่หน้าอกของเฉียวลู่ด้วยความเขินอาย

“ตื่นแล้วก็ไม่เป็นไร มานี่สิแม่มีอะไรจะให้ดู”

เฉียวลู่ขยับออกจากเด็กทั้งสองและเผยให้เห็นซาลาเปาเจ็ดลูกที่ทั้งขาวทั้งอวบ เด็กสองคนเห็นดังนั้นก็กลืนน้ำลายเสียงดังเพียงแค่เห็นซาลาเปาท้องของเขาทั้งสองก็ร้องประท้วงขึ้นมาพร้อมกัน เฉียวลู่หัวเราะท่าทางของเด็กชายทั้งสองด้วยความเอ็นดู ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานหรือมีลูกกลับเปลี่ยนไปเพราะได้ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กสองคนนี้เพียงแค่ไม่กี่วัน

“เอาล่ะไปล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วเราค่อยไปกินซาลาเปากันดีหรือไม่”

อวี้หลงกับอวี้ชิงพยักหน้าพร้อมกัน หลังจากนั้นทั้งสามคนก็จัดการซาลาเปาทั้งเจ็ดลูกไม่เหลือ เฉียวลู่ยังรู้สึกว่าที่นางและเด็กๆ ทานเข้าไปยังน้อยอยู่เลยแต่จะให้ทำอย่างไรได้ตอนนี้ถึงลิมิตคำสั่งของแล้ว เอาเถอะพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่เฉียวลู่คิดว่าหากต้องพึ่งพาเจ้าหนังสือวิเศษเล่มนั้นวันนี้คงจะต้องหิ้วท้องหิวอีกรอบ มีทางเดียวที่พวกเขาจะอยู่รอดได้คือต้องพึ่งพาตนเอง

ที่นี่มีทรัพยากรมากมายถ้าหากนางไม่ใจกล้าคงไม่สามารถได้ในสิ่งที่นางต้องการ เฉียวลู่คว้าตะกร้าขึ้นสะพายไหล่และหยิบเอามีดตัดฟืนอันใหญ่ไปด้วย เด็กสองคนมองท่านแม่ของเขาตาเป็นประกาย

“ลูกทั้งสองคนรอแม่อยู่ที่บ้านนะจ๊ะ แม่จะขึ้นเขาไปดูสักหน่อยว่ามีอะไรพอให้เราใช้กินได้ในตอนเที่ยงและตอนเย็นบ้าง”

เฉียวลู่คิดว่าพวกเขาทั้งสองคนจะต้องพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแต่ผิดคาด เด็กทั้งสองคนส่ายหน้าไปมาเป็นกลองป๋องแป๋งและเดินมาดึงแขนเสื้อของนางทั้งทั้งสองข้าง

“บนนั้นมันอันตรายนะเด็กๆ เชื่อฟังและเป็นเด็กดีรอแม่อยู่ที่นี่”

แต่ท่าทางของพวกเขาเหมือนอยากจะตามนางไปให้ได้ เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจเด็กสองคนนี้ตอนปกติก็ดูว่าง่ายอยู่หรอกแต่พอดื้อขึ้นมาก็ดูเหมือนว่าใครก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาได้

“เอาเถอะเช่นนั้นเราก็ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ แต่ว่าลูกสองคนจะต้องอยู่ใกล้แม่เอาไว้นะเพราะบนภูเขานั้นอาจจะมีสัตว์ร้าย มันอันตรายลูกเข้าใจหรือไม่”

เด็กชายทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกันเฉียวลู่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมพูดนะท่าทางก็ดูน่าจะสามขวบกว่าได้แล้ว เอาเถอะเดี๋ยวค่อยๆ สอนพวกเขาไปก็แล้วกันบางทีพวกเขาอาจจะมีปมบางอย่างอยู่ในใจทำให้ไม่ยอมพูดก็ได้

เพราะกระท่อมของเฉียวลู่ตั้งอยู่เชิงเขาห่างออกมา ทำให้ทั้งสามคนเดินขึ้นเขาโดยไม่ผ่านหมู่บ้าน เฉียวลู่เดินช้าๆ รออวี้หลงกับอวี้ชิงที่กำลังใช้ขาสั้นๆ ของพวกเขาพยายามเดินตามนางมา เด็กสองคนนี้เดินตามหลังนางมาโดยไม่บนว่าเหนื่อยไม่งอแงให้อุ้มถ้าหากเป็นเด็กคนอื่นป่านนี้คงนั่งลงเอาเท้ายันดินแล้วร้องไห้ไปแล้ว เฉียวลู่หยุดเดินแล้วหันไปมองลูกๆ ของนาง

“พักตรงนี้สักหน่อย ตอนนี้ยังเช้าอยู่ไม่ต้องรีบมานั่งข้างแม่มา”

เฉียวลู่กวักมือเรียกอวี้หลงกับอวี้ชิงให้มานั่งข้างตนใต้ร่มไม้ใหญ่ เด็กชายทั้งสองเดินตามมานั่งลงด้านข้างของนางอย่างว่าง่าย เฉียวลู่เช็ดเหงื่อบนใบหน้าที่ซูบตอบของเด็กทั้งสองอย่างเบามือ ท่าทางของนางดูทะนุถนอมเหมือนกำลังเช็ดสิ่งของล้ำค่าราคาแพง แต่เด็กทั้งสองคนของเฉียวลู่นั้นล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ เป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินราคาได้

“เหนื่อยหรือไม่ แม่บอกแล้วว่าอย่าตามมา”

เด็กชายสองคนส่ายหน้าพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็ใช้ใบหน้าเล็กถูไถไปบนแขนของเฉียวลู่อย่างออดอ้อนท่าทางของพวกเขาเหมือนกระต่ายน้อยที่พยายามอ้อนเจ้าของ เฉียวลู่หัวเราะออกมาอีกครั้งเจ้ากระต่ายน้อยทั้งสองของนางช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก

หลังจากที่นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วเฉียวลู่และบุตรชายทั้งสองของนางก็เดินขึ้นเขาไปอีกครั้ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บทส่งท้าย กลับไปเริ่มต้นใหม่

    ฉีหมิงเยี่ยนกลับมาพร้อมชัยชนะหลังจากนั้นหนึ่งเดือน คนตระกูลเสิ่นและผู้ที่เข้าร่วมก่อการกบฏต่างก็ถูกตัดหัวแขวนประจานเอาไว้ทุกหัวเมืองที่ถูกยึดคืนกลับมาได้ แต่ชัยชนะครั้งนี้กลับไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเพราะฉีอ๋องต้องสูญเสียพระชายาอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน เขาขังตัวเองเอาไว้ในห้องที่มีโลงใส่ศพของนาง อาจารย์ของเฉียวลู่เองก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้องสูญเสียลูกศิษย์ของตนไปถึงสองคนพร้อมกัน เขาได้ใช้น้ำแข็งพันปีมรดกตกทอดของเจ้าสำนักเซียนแพทย์แช่ร่างของเฉียวลู่เอาไว้รอสามีของนางกลับมา“อาลู่เจ้าลืมตาขึ้นมาเถิด เจ้าอย่าได้ล้อข้าเล่นเช่นนี้เลย สามีของเจ้าตกใจรู้หรือไม่”ฉีหมิงเยี่ยนร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ปากก็พร่ำเพ้อหานางไม่หยุด ร่างบางที่เหมือนนอนหลับอยู่ภายในโลกไม้ที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีตไม่ขยับไหวติงแม้เพียงนิดเขาทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน เขาอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงอนาคตทุกอย่างแล้ว คนตระกูลเสิ่นที่เป็นสาเหตุการตายของนางเขาก็สังหารจนสิ้น แต่แล้วเหตุใดนางถึงยังจากเขาไปอีกเล่า สวรรค์ท่านช่างใจร้ายกับข้านัก ท่านคิดที่จะทำลายหัวใจของข้าอีกกี่ครั้งกันท่านถึงจะพอใจเสียงร้องโหยหวนดั่งสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แก้แค้นแทนพี่สาว

    ไม่นานหลังจากนั้น ทหารจากค่ายวิหคทมิฬพบสองพี่น้องที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งโดยบังเอิญ พวกเขาตามรอยของกั๋วจื่อชางเข้าไปในป่า แต่ต้องคลาดกันเพราะมีน้ำป่าไหลทะลักบนภูเขา จึงต้องย้อนกลับมาที่หมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากร่องรอยสุดท้ายที่หาเจอ เพราะเหตุนั้นจึงได้พบนายน้อยของตำหนักชินอ๋องทั้งสองคนเกือบครึ่งเดือนที่พวกเขาถูกจับตัวไป เพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารสองพี่น้องจึงดูซูบผอมไปเล็กน้อย เฉียวลู่ที่ได้ข่าวจากคนของค่ายวิหคทมิฬนางเร่งเดินทางมาที่หมู่บ้านโดยเร็ว“ลูกแม่!!”นางกอดร่างเล็กทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขน พลางลูบหลังพวกเขาอย่างปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่เคยฝึกอยู่ในค่ายวิหคทมิฬอย่างหนักไม่เคยแม่แต่จะหลั่งน้ำตาสักหยด แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของมารดา เสียงร้องไห้เล็กๆ สองเสียงก็ดังประสานขึ้นก้องกังวานทั่วหมู่บ้านเหล่าทหารจากค่ายวิหคทมิฬที่รู้จักเด็กชายทั้งสองมองพวกเขาด้วยความแปลกใจ นึกว่าบุตรชายของมัจจุราชฉีจะกลายเป็นเหล็กกล้าเหมือนดั่งบิดาเสียอีก ไม่นึกว่าจะยังมีมุมน่ารักดั่งเด็กน้อยเมื่อยามที่อยู่กับมารดาเฉียวลู่ที่ถูกพรากบุตรชายจากอกไปหลายวัน นางเองก็ขวัญเสียไม่แพ้กัน สองแม่ลูกก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขอบคุณนะ

    “อยู่ให้ห่างจากน้องชายของข้านะ”อวี้หลงวิ่งเข้าไปคิดที่จะทำร้ายนาง แต่หญิงใบ้กลับหลบได้อย่างง่ายดาย เขาวิ่งมาขวางนางอีกครั้งแต่ถูกหญิงใบ้จับโยนจนร่างเล็กลอยละลิ่วไปไกล นางใช้มือคลำไปที่ใบหน้าและลำคอของอวี้ชิงเบาๆ จากนั้นจึงหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา นางบีบจมูกของอวี้ชิงเพื่อให้เขากลืนยาลูกกลอนลงไป อวี้หลงคิดว่านางวางพิษน้องชายตนเอง เขากรีดร้องออกมาทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก!!!ข้าจะสู้ตายกับเจ้า”เด็กชายที่สูงเพียงอกของนางพยายามต่อสู้กับหญิงใบ้สุดกำลัง ดวงตาเฉยเมยมองเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเข้าหานาง เขาแกว่งหมัดไปที่หลายทีแต่นางก็ไม่ได้สู้กลับ นางทำเพียงพลิกเท้าหลบไปมาเหมือนกำลังเย้าแหย่สัตว์ตัวเล็กๆเด็กตัวเล็กที่พยายามต่อสู้กับผู้ใหญ่ผ่านไปนานสุดท้ายก็ยังไร้ผล อวี้หลงหอบหายใจแรงเพราะเรี่ยวแรงของเขาหมดไปจากการที่เขาแบกน้องชายเดินเป็นเวลานาน“พะ...พี่ชาย”เสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจของเขา อวี้หลงเลิกสนใจหญิงใบ้รีบวิ่งไปดูน้องชายของตนทันที“ชิงเอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อวี้หลงแตะไปที่หน้าผากของเขา ตัวที่ร้อนดังไฟตอนนี้ได้เย็นลงเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หนี

    อวี้หลงและอวี้ชิงฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ถูกลักพาตัวโดยชายชุดดำหลายสิบคน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาถูกจับตัวมา ท่านแม่และท่านพ่อจะต้องเป็นห่วงพวกเขามากแน่ๆตลอดทางที่รถม้าวิ่งพวกเขาถูกจับกรอกยาบางอย่างทำให้ไร้เรี่ยวแรงและหลับไป ทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันรถม้ากลับขึ้นมาดูพวกเขาเป็นระยะ สองพี่น้องฝาแฝดแสร้งหลับเพื่อไม่ให้ถูกกรอกยาอีกอวี้หลงใช้เท้าสะกิดน้องชายเบาๆ อวี้ชิงหรี่ตามองพี่ชายเล็กน้อย ทั้งสองพยักหน้าให้กันเป็นการสื่อสารที่เหมือนจะมีแค่พวกเขาที่เข้าใจ“เป็นอย่างไรบ้างพวกเขาตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่”เสียงหวานที่คุ้นหูทำให้นึกถึงสตรีผู้หนึ่งที่ท่านแม่แนะนำว่านางคือสหาย นางกล้าหักหลังท่านแม่แล้วจับตัวพวกเขามาหรือ ช่างน่าตายนัก“หลายวันมานี้พวกเขาฟื้นขึ้นมาไม่กี่ครั้งขอรับ ตอนนี้ยังคงหลับอยู่เพราะข้ากรอกยาสลายพลังไปแล้ว”ซูหลีพยักหน้า จากนั้นจึงเดินกลับขึ้นรถม้าคันที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับกั๋วจื่อชาง ไม่มีใครเอะใจเรื่องนี้เลยว่าพวกเขาจะแสร้งหลับเพราะคิดว่าเป็นเพียงเด็กหกขวบที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเท่านั้น หลังจากที่ดื่มยาสลายพลังไปสองสามครั้งดูเหมือนฤทธิ์ยาจะค่อยๆ ไร้ผลและไม่สามารถทำอันใด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ลักพาตัว

    หลังงานเลี้ยงที่วังหลวง เหล่าราชทูตที่มาร่วมงานต่างทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน องค์หญิงเซียวหมิ่นเองก็เช่นเดียวกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปเล็กน้อยคือ นางกลับไปที่แคว้นเซียวในครั้งนี้มีเว่ย หลี่หมิงตามนางกลับไปด้วย ส่วนทางด้านเว่ยอ๋องก็ต้องกลับไปเตรียม ของหมั้นและสินสอดเพื่อแต่งสะใภ้เข้าจวน“ข้าขอให้พวกท่านเดินทางปลอดภัย หากมีโอกาสข้าจะไปร่วมงานแต่งของท่านทั้งสอง”“ข้าไปก่อนนะพี่อาลู่ท่านอย่าลืมแวะมาหาข้าเล่า”เฉียวลู่ออกมาส่งขบวนราชทูตจากแคว้นเซียวและแคว้นเว่ยที่นอกเมือง องค์หญิงเซียวหมิ่นยังมีท่าทางอาลัยอาวรณ์ต่อนาง และไม่อยากกลับแคว้นเซียว“รีบออกเดินทางเถอะสายมากแล้ว”ทหารอารักขาให้สัญญาณ ขบวนรถม้าจากแคว้นเซียวจึงเริ่มเคลื่อนตัว“ข้าขอขอบคุณเว่ยอ๋องที่ช่วยเหลือและดูแลข้ามาถึงหนึ่งปี ในอนาคตหากท่านมีเรื่องเดือดร้อนใด ทั้งข้าและสำนักเซียนแพทย์จะเข้าช่วยเหลือท่านอย่างเต็มกำลัง”นางหันมาขอบคุณเว่ยอ๋องที่กำลังออกเดินทางเช่นเดียวกัน“ไม่เป็นไรมิได้ ที่ข้าช่วยพระชายาก็ถือว่าเราทั้งสองแคว้นมีวาสนาต่อกัน ในอนาคตหากข้ามีเรื่องเดือดร้อนข้าจะมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าแน่นอน”เว่ยอ๋องเอ่ยลาจากนั

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กรรมตามสนอง

    นางกำนัลที่พาเฉียวลู่มาที่ห้องรับรองครั้งแรกย่องกลับมาดูสถานการณ์ เมื่อได้ยินเสียงน่าบัดสีดังขึ้นข้างในนางจึงรีบกลับไปที่งานเลี้ยงทันที ผ่านไปไม่นานนางกำนัลกลับมาพร้อมราชทูตและขุนนางมากมาย รวมทั้งชินอ๋องผู้ที่จะมาเป็นพยานสำคัญในเรื่องนี้เสียงครางกระเส่าของบุรุษยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่เสียงของสตรีนั้นร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกขัดกันยิ่งนัก“นี่มันเรื่องอันใดกัน ในงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาท ใครช่างใจกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”ผู้ที่เอ่ยขึ้นคือราชครูเสิ่นบิดาของเสิ่นชิงหยุน ทุกคนที่ตามมาดูเรื่องสนุกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นคือ....”นางกำนัลมองไปที่ฉีหมิงเยี่ยนก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความหวานกลัว“ผู้ใดกันเหตุใดถึงไม่ยอมพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หากกระทำผิดย่อมต้องได้รับโทษเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนาง”ราชครูเสิ่นจ้องไปที่นางกำนัลอย่างไม่วางตา เพื่อกดดันให้นางเอ่ยชื่อผู้ที่กำลังแสดงฉากร่วมรักอยู่ภายในห้องออกมา“พระชายาชินอ๋องเจ้าค่ะ บ่าวทำหน้าที่นำทางพระชายาชินอ๋องให้มารอที่ห้องนี้ แต่ไม่คิดว่านางจะ...”ทุกคนต่างหันกลับมามองฉี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status