LOGIN“องค์หญิงเจ้าขา ทำไมให้คนพวกนั้นกลับไปก่อนเล่าเจ้าค่ะทำไมไม่ช่วยทำนายอนาคตพวกนางให้เสร็จสิ้นไปเสียเราจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยนะเจ้าคะ”มีมี่ส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้ ไม่ได้เจ้าคิดว่าการที่ข้าทำแบบนี้ไม่ต้องมีต้นทุนหรือไร รู้หรือไม่กว่าจะช่วยได้แต่ละคนต้องใช้เวทย์หยั่งรู้ไปมากแค่ไหน ข้าต้องทนเจ็บปวดไปทั่วสรรพร่างกายข้าตอนนี้จึงต้องการพัก เอาไว้พวกนางพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”จะบอกว่ามีมี่กั๊กไว้เพื่อความขลังยิ่งได้มายากยิ่งขลังยิ่งมีน้อยยิ่งมีคุณค่า และทำแค่เท่าที่อยากทำนี่แหละคืออิสระ“มานับทองกันดีกว่าพรุ่งนี้เราไม่ว่างช่วงเช้าบ่ายจึงให้พวกนางมา” ซูเอ่อยิ้มนั่งลงช่วยกันนับทองในหีบ“ข้าอยากจะไปข้างนอกไปที่ตลาดหาซื้อเสื้อผ้าและของกินที่อร่อยๆ”“ให้ข้าไปส่ง ข้าจะดูแลเจ้าเองดีไหม” ร่างสูงขยับหน้ากากแล้วเดินเข้ามา“อย่าเข้ามา ลูกบวชยัง” เอะอะจนอ๋องหรงต้องชะงักฝีเท้า“ลูกบวช”“ใช่ โกรธจนลูกบวช”มีมี่หันหลังให้อ๋องหรง ซูเอ่ออมยิ้มเดินหลบออกมา“ข้าตั้งใจมา ตั้งใจ…...มา” ลู่เหวินรีบพูดเสียก่อน“ตั้งใจมาข่มขู่” มีมี่เม้มปาก “ลู่เหวิน ซู่เอ่อพวกเจ้าออกไปด้านนอกก่อนข้ากำลังมีเรื่องจะตกลงกับ องค์หญิงเก้าข
ตำหนักเหมยฮวา“ขนเข้ามาขนเข้ามาให้หมด “ซูเอ่อออกคำสั่งกับนางกำนัลของอวี่หนิงที่ขนข้าวของมีค่าทั้งเงินทองและเครื่องประดับมีค่าควรเมืองทั้งหลาย มีมี่นั่งยิ้มมองข้าวของเหล่านั้นด้วยสายตาเป็นประกาย พรุ่งนี้ต้องไปช็อปปิ้งเสียหน่อย กลับไม่ได้ไม่เป็นไรขอมีชีวิตสบายก็พอ นี่สิสิ่งที่ฝันมานานนอนบนกองเงินกองทอง มีมี่ทิ้งตัวลงนอนกอดหีบทองไว้ในอ้อมแขนดวงตาสดใสแวววาว“อาจารย์ ข้ามาขอบคุณท่านด้วยตัวเอง”อวี่หนิงเดินเข้ามาในห้องท่าทีผ่อนคลายต่างกับตอนแรกที่พบกัน“อาจารย์…ใครคืออาจารย์เจ้า …ข้าไปรับเจ้าเป็นศิษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “อาจารย์ข้านับถือท่านเรื่องที่ท่านแนะนำข้าได้ผลจริงๆ ท่านอาไม่ปฏิเสธข้า ทำให้ข้ามีกำลังใจที่จะฟันฝ่าไปจนถึงจุดหมาย…..” “ก็ดีแล้วนี่ เขาชอบเจ้าเหมือนกันข้ารู้” มีมี่พูดได้แค่นั้นเมื่อคิดถึงท่านอาของอวี่หนิงที่จูบหวานคนนั้นกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ “ซือฝุท่านจะต้องคอยแนะนำข้าแบบนี้ตลอดไปดีไหม แล้วท่านอยากได้อะไรข้ายินดีหามาให้ท่าน จริงสิข้าลืมบอกท่านไปพวกพี่สะใภ้ข้ากับ นางกำนัลหลายคนอยากจะให้ท่านช่วยทำนายอนาคตและแนะนำแนวทางให้กับพวกนาง ข้าเลยบอกไปว่าซือฝุไม่รับเงินรั
“เป็นอย่างไรเล่า เหมือนที่บอกหรือไม่” อ๋องหรงเป่ยหลางเอามือไพล่หลังพยักหน้าขึ้นลง มีมี่ยิ้ม“เจ้า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าอวี่หนิง จะทำแบบนั้นนาง…..จะหอมแก้มข้า” อ๋องหรงเป่ยหลางแม้จะไม่ได้คาดคั้นแค่คำพูดที่พูดมาเหมือนกำลังหยั่งเชิงมีมี่“ก็ข้าบอกแล้วว่ามีเวทย์หยั่งรู้” ยกมือขึ้นกอดอกท่าทีภูมิใจ“ไม่จริงหากเจ้าหยั่งรู้จริง…ทำไมถึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสลัดฝ่าบาทไม่ให้มากวนใจเจ้าได้” สายตาคาดคั้นมาแล้วใบหน้าคมจ้องมองมีมี่ผ่านหน้ากากยื่นหน้าเข้ามาจนใกล้ไม่ให้หลบตา ตัวละครซวีหลินไม่ได้มีในนิยายนี่จะรู้ได้อย่างไรว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับมีมี่“ข้าเดาเอาก็ได้….. แบบว่าข้าสังเกตแววตาองค์หญิงสาม รู้ว่ารักท่านอ๋องล้นใจ ส่วนท่านอ๋องเองยามที่จ้องมององค์หญิงสามก็ซ่อนความรู้สึกไม่มิดคนตาบอดยังรู้ว่าความรักของพวกท่านทั้งสองกำลังสุกงอมและนางเองก็ไม่ใช่คนถือตัว” อ๋องหรงสบตาโน้มตัวเข้าใกล้มีมี่เบี่ยงตัวหลบแต่อีกคนใช้แขนแข็งแนบลำตัวอย่างไม่ทันตั้งตัวริมฝีปากอุ่นประกบเข้ากับปากบางเบาๆ อ่อนหวานอ่อนโยน มันหวานจนมีมี่อ่อนระทวย อ๋องหรงเองกระหยิ่มในใจกับอวี่หนิงเหตุใดจึงรู้สึกฝืนใจ“อือ อะไรทำอะไร” มีมี่ท
ซูเอ่อพูดแทงใจดำ ไม่ใช่แค่หวางเฟยแต่อวี่หนิงนั่งบัลลังก์ฮองเฮากันเลยทีเดียวเรื่องมันยาวแต่ตอนจบก็แฮปปี้ดีนี่ ช่างเถอะถึงเวลานั้นมีมี่ก็กลับออกจากซีรีส์ไปอย่างไรเล่า ไม่มีบทของมีมี่แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไรมีมี่จะรู้ได้อย่างไรตอนนี้ก็แค่พยายามเกาะพระเอกนางเอกให้อยู่รอดไปวันๆ ก็พอ“ข้าไม่รู้อนาคตของตัวข้าเองหรอกนะ แล้วเจ้าบอกท่านอ๋องมีใจกับข้าเจ้าอย่าเข้าใจผิดข้าคอนเฟริ์มเลยว่าท่านอ๋องกับองค์หญิงสามจะเป็นคู่กันใช้ชีวิตด้วยกันจนแก่เฒ่า ส่วนข้าเจ้าอย่าสนใจเลยตำหนักชิงหนิงกง“ท่านอา เราสองคนเดินชมสวนปล่อยให้เสด็จพ่อกับเสด็จแม่คุยกันก่อนดีไหมแล้วข้ากับท่านอาจึงเข้าไปพบเสด็จแม่ เสด็จพ่อไม่มาที่นี่นับเดือนแล้วเสด็จแม่จะต้องดีใจมีเรื่องคุยกับเสด็จพ่อมากหน่อย”“แล้วแต่เจ้า” แววตาอ่อนโยนขยับตัว นิดหน่อยใจเริ่มสั่นอวี่หนิงยิ้มเดินนำชมทุ่งดอกไม้ตรงด้านข้างตำหนักชิงหนิงกง อวี่หนิงนับหนึ่งสองสามแล้วหยุด อ๋องหรงเดินชนเข้ากับร่างเล็กที่หันมากะทันหันที่เซถลาอ๋องหรงรวบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนอวี่หนิงสบตาอ๋องหรงนิ่ง หลายอย่างในดวงตาที่อ่อนโยนและประหลาดใจ อวี่หนิงค่อยๆ เอื้อมมือช้าๆ …….จับหน้ากากสีดำที่ผูกติด
ที่ตำหนักเหมยฮวา“ท่านอา ดีจังได้พบท่านอาอีกแล้ว”มีมี่ยิ้มบางๆ อวี่หนิงที่วิ่งมากอดแขน อ๋องหรงด้วยท่าทีสนิทสนมไม่ได้ถือตัวแม้แต่น้อย“มาแล้วหรือ ข้ารอเสียนาน” ฉีก้านดวงตาเป็นประกายด้วยความดีใจ เมื่อเห็นมีมี่เดินมา“นี่นะหรือ องค์หญิงเก้า อืมมมงดงามเพียงนี้ไม่แปลกใจเลยที่เสด็จพ่อจะแต่งตั้งนาง”อวี่หนิงเอ่ยปากทักมีมี่แม้สายตาจะเคลือบแคลงแต่ก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังในตอนแรกที่พบกัน ก็นางเป็นนางเอกนี่จะต้องน่ารักเหมือนนางเอกสินะ“เจ้าก็มา”สายตาอ่อนโยนยามที่อ๋องหรงมองอวี่หนิงมันซ่อนไม่มิด“ขอบใจมากอ๋องหรง ที่ช่วยพูดกับนองค์หญิงเก้าให้นางกลับมาที่ตำหนักเหมยฮวา” ฉีก้านพูดอย่างเสียไม่ได้“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงเก้าอยากจะกลับมาด้วยตัวเองอยู่แล้ว ข้าก็แค่เดินมาส่ง” ฉีก้านยิ้มน้อยๆ“ข้าอยากจะบอกกับเจ้าว่าต่อไปนี้ข้าจำต้องให้ท่านหมอจากสำนักต่างๆ เข้ามาที่นี่เพื่อถอนเวทย์หยั่งรู้ให้เจ้า เพื่อเรา…ไม่สิข้าจะได้เข้าใกล้เจ้าได้แตะเนื้อต้องตัวเจ้าได้เสียที แล้วทุกครั้งที่หมอจากที่ต่างๆ มาถอนเวทย์หยั่งรู้เจ้า ข้าก็จำต้องอยู่ด้วย อยากให้เจ้าเข้าใจว่าข้าไม่วางใจบุรุษใดให้เข้าใกล้ตัวเจ้าทั้งสิ้น” ปรายตามอง
“ม่ายยยไม่มีใครถ่วงเวลาแค่ยังหาทางเอาตัวรอดจาก….เสือหิว…อย่าง..อย่างฝ่าบาทไม่ได้ก็เท่านั้น ท่านอ๋องท่านไม่มีทางช่วยข้าบ้างหรือ ขอคำปรึกษาหน่อย”สายตาอ้อนวอนลืมตัวไปเสียสนิทอ๋องหรงเผลอยิ้ม ชี้มือที่แก้มเนียนขาวของตัวเองข้างที่ไม่มีหน้ากาก คิ้วเรียวบางของมีมี่ขมวดเข้าหากัน ใจเต้นไม่เบา อีกคนยังชี้มือที่แก้มซ้ำๆ มีมี่ก้มหน้าจะเขินไปไหนก็เผลอมองสบตากับใบหน้าเนียนขาว (ขาวกว่ามีมี่อีก) หล่อทะลุหน้ากากแต่ว่าเอะ มุกนี้คุ้นๆ อ่อไม่ได้แดกมีมี่หรอกฮ่าาาา มีมี่ยิ้มพยักหน้าขึ้นลง“มุกข้าวติดแก้ม”รีบยกมือเช็ดแก้มของตัวเองเห็นไหมว่านี่มันคือนิยาย หรือซีรีส์และมีมี่กำลังอยู่ในนั้น เช่นนั้นทุกอย่างล้วนแค่ถูกเสกสรรจขึ้นโดยนักเขียนไม่ใช่เรื่องจริง“ข้าหมายถึง หากอยากให้ข้าช่วยจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”ดวงตากลมโตเลิกสูงยิ่งทำให้ดวงตากลมโตยิ่งโตจนน่ามอง“เอาจริงดิ”“อืมมมมม ก็แล้วแต่ว่าจะอยากได้ความช่วยเหลือหรือไม่ ข้าอยู่ในห้องตำราแต่ก็ไม่ได้อ่านนิยายหรือตำรา ซู่หนี่จิง ต้งเสียนจื่อ (สองตำรากามสูตร) และเก่งแต่เรื่องอย่างว่า อย่างเดียวหรอกนะ”มีมี่หน้าแดง“ก็ได้”อ๋องหรงก้มหน้าซ่อนยิ้มแค่ตั้งใจหยอกเย้าแต่อ







